บทที่ 158 ชีวิตใหม่ของคินลีย์ [2]
เมื่อแองโกร่าพูดถึงการมอบห้องทดลองให้เธอครั้งแรก คินลีย์ก็กังวลว่าห้องทดลองที่เมืองชายแดนเล็ก ๆ จะดูโบราณเกินไป และไม่มีแม้กระทั่งอุปกรณ์พื้นฐานมาให้
เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ มักจะมีราชาที่ขาดความรู้พื้นฐานในด้านการเล่นแร่แปรธาตุ แต่ชอบสรรหานักเล่นแร่แปรธาตุหลายคน แล้วให้เงินพวกเขาเพียง 200-300 ริออน ก่อนจะบอกให้พวกเขาไปหาโกดังว่าง ๆ เพื่อสร้างม้วนคาถาต้องห้าม
นี่ก็เหมือนกับการจ่ายเงินค่าวิจัยให้กับกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยเพียงไม่กี่พันดอลลาร์ และให้พวกเขาสร้างระเบิดนิวเคลียร์ในโกดังสุ่ม ๆ
ถึงอย่างนั้นคินลีย์ก็ต้องตกตะลึงทันทีที่เธอก้าวเข้ามาในห้องทดลอง
อุปกรณ์ตกแต่งภายในไม่ได้ใหญ่หรือหวาอะไรนัก แต่มีอุปกรณ์ทดลองทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นเบ้าหลอม เตาเผา และหม้อขนาดต่าง ๆ ที่สามารถใส่ผู้ใหญ่เข้าไปทั้งตัวได้อย่างง่ายดาย
นอกจากนี้ยังมีหลอดทดลองแก้วใสจํานวนมาก และภาชนะแก้วรูปทรงประหลาดวางอยู่บนโต๊ะ
เมื่อคินลีย์ที่มีทักษะการเล่นแร่แปรธาตุได้เห็นอุปกรณ์แปลก ๆ เหล่านั้นในห้องทํางานเป็นครั้งแรก เธอก็เดาได้ทันทีเลยว่ามันใช้ทําอะไรในพริบตา อันที่จริงเธอเชื่อเลยว่า หากเธอมีอุปกรณ์เหล่านี้ในการเล่นแร่แปรธาตุครั้งก่อน ๆ เธอจะทําผลงานได้ดีขึ้นมาก!
ยิ่งไปกว่านั้น ความแม่นยําของเครื่องมือเหล่านี้ก็สูงมากอย่างไม่น่าเชื่อ เธอแค่ต้องพูดชื่อวัตถุดิบและน้ำหนักที่ต้องการ วัตถุดิบนั้นก็จะปรากฏขึ้นบนถาดตาชั่ง วิธีสั่งการด้วยเสียงแบบเดียวกันนี้ ก็มีให้ในการจดบันทึกรายละเอียดการทดลองด้วยเช่นกัน หมึกบนปากกาขนนกที่ไม่เคยแห้ง กระดาษที่กองรวมกันเป็นตั้ง ๆ และที่คั่นหน้าหลากสีที่สามารถช่วยให้เธอตรวจสอบบันทึกได้อย่างรวดเร็ว
ด้วยการเปรียบเทียบนี้ คินลีย์อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าอาจารย์ของเธอซึ่งเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุที่ดีที่สุดในทวีปนั้น ดูเป็นคนหลังเขาไปเลย
ให้ตายเถอะ ถ้าเธอคุ้นเคยกับอุปกรณ์การเล่นแร่แปรธาตุที่ยอดเยี่ยมแบบนี้ไปแล้ว และไม่สามารถใช้มันได้อีกในอนาคตล่ะ?
บางทีเธอควรพัฒนาความสัมพันธ์กับผู้ศรัทธาของเทพเจ้าแห่งเกม เพื่อที่เธอจะได้ใช้มันต่อไปดีไหมนะ?
ไม่สิ..เมื่อคิดอย่างรอบคอบแล้ว การแต่งงานกับแองโกร่าจะไม่เป็นทางเลือกที่ดีกว่าเหรอ หากเธอต้องการที่จะเก็บเทคโนโลยีการเล่นแร่แปรธาตุขั้นสูงของศาสนานี้ให้ปลอดภัย
“ข้าก็ไม่ได้อยากทําลายรอยยิ้มโง่ ๆ นั้นบนใบหน้าของท่านหรอกนะ แต่ท่านช่วยตรวจสอบห้องทดลองเร็ว ๆ ได้ไหม ข้าจะได้ไปรายงานท่านแองโกร่าได้”
วีลาที่มาพร้อมกับเธอถามแบบเร่ง ๆ
“อา ข้าต้องขอโทษด้วยจริง ๆ” คินลีย์ยิ้มด้วยกิริยาของเลดี้ที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี อย่างเธอยังคงดูไร้ที่ติจนทําให้วีลาหญิงสาวในหมู่บ้านชนบทรู้สึกอับอายเล็กน้อย
โชคดีที่วีลากําลังอารมณ์ดี เธอเพียงแค่เม้มริมฝีปากก่อนจะฟื้นตัวได้ทันที
“แน่นอนว่าเจ้าทั้งสวยและสูงส่ง แต่เจ้าสามารถล่ามนุษย์เงือกได้หรือไม่? ข้าทําได้! ฆ่า 10 ตัว ในครั้งเดียว!!
“วีลา เจ้าชอบแองโกร่าไหม” ทันใดนั้นคินลีย์ก็ถามลอย ๆ ออกมา
“ต้องชอบอยู่แล้ว” วีลาตอบด้วยสีหน้านิ่งสนิท “ไม่ใช่แค่ข้าเท่านั้น ชาวเมืองหลายคนก็ชอบท่านลอร์ดเช่นกัน เพราะเขานําเราออกจากความสิ้นหวัง”
“นั่นสินะ ถ้าอย่างนั้น ข้าก็ชอบเขาเหมือนกัน” คินลีย์ตอบกลับยิ้ม ๆ
คิ้วของวีลากระตุก
“แล้วเจ้าชอบข้าไหม วีลา” คินลีย์ดูเหมือนว่าจะไม่สังเกตเห็นแววตาอันตรายของวีลาเลย
วีลากําลังจะพูดอะไรบางอย่าง จู่ ๆ ก็มีคน 3 คนพุ่งเข้ามาในร้าน
ให้แม่นยํากว่านั้นก็ 4
คนหนึ่งเป็นชายวัยกลางคนที่มีชื่ออ่านว่า มูฟาซา” ลอยอยู่เหนือหัว ส่วนอีก 2 คนเป็นเด็กชายวิ่งตามหลังเขามาโดยไม่มีชื่อผู้เล่น หมายความว่าพวกเขาไม่ใช่ผู้เล่น ขณะนี้มูฟาซากําลังแบกเด็กหญิงไว้บนหลัง และเธอก็ไม่ใช่ผู้เล่นเช่นกัน
ดวงตาของเธอปิดสนิท ลมหายใจหอบถี่ และใบหน้าแดงก่ำด้วยความเจ็บปวด
“ลูกพี่หญิงวีลา!” มูฟาซาแปลกใจที่เห็นวีลาที่นี่ เขาทักทายเธออย่างรวดเร็วก่อนจะหันไปหาคินลีย์ “ท่านคือเลดี้คินลีย์นักเล่นแร่แปรธาตุคนใหม่”
มุมปากของวีลากระตุก
ทําไมเธอถึงเป็นลูกพี่หญิงและคนลีย์เป็นเลดี้? นี่เจ้าอยากโดนต่อยรึ?”
ขณะเดียวกันคนลีย์ก็ดูเหมือนจะเข้าใจสถานการณ์แล้ว แต่เธอก็ยังถามอย่างสุภาพว่า “ค่ะ มีอะไรรึเปล่าคะ?”
“นาล่าเด็กคนนี้ดูเหมือนจะปวยมาระยะหนึ่งแล้ว” มูฟาซาตอบอย่างรวดเร็ว “แต่เธอไม่เคยพูดอะไรเลย เราพึ่งสังเกตเห็นอาการของเมื่อเช้านี้ อาการของเธอดูจะร้ายแรงมาก ทักษะรักษาของเครลิคไม่ทํางานเพราะเธอไม่ใช่ผู้เล่น แต่ข้าได้ยินมาว่าท่านสามารถปรุงยารักษาโรคได้….ท่านต้องช่วยเธอ ข้าจะทําทุกอย่างที่ท่านขอ!”
เด็กชายทั้งสองที่อยู่ข้างหลังเขาก็พยักหน้าด้วย “เราก็จะช่วยเหมือนกัน!”
แม้ว่าคินลีย์จะสงสัยกับคําว่า “ผู้เล่น” แต่รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอก็ไม่เปลี่ยนแปลง เธอบอกพวกเขาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนว่า ” เธอจะไม่เป็นไร ให้ข้าจัดการ”
แม้ว่านักเล่นแร่แปรธาตุส่วนใหญ่จะทําตัวมีเกียรติและไม่สนใจความเจ็บปวยของสามัญชนแต่คนลีย์ก็ไม่ได้ตั้งใจจะทําตาม
เหตุผลข้อแรกเลยก็คือ เธอตั้งใจที่จะเสริมสร้างความสัมพันธ์กับศาสนจักรแห่งเกม มันจะสําเร็จได้ยังไงหากเธอทําเมินกับเรื่องนี้?
เหตุผลข้อที่สองก็คือ เธอเชื่อว่าเหตุผลที่นักเล่นแร่แปรธาตุเก่ง ๆ มีเพียงไม่กี่คนในทวีป ก็เพราะทัศนคติที่สูงส่งของนักเล่นแร่แปรธาตุ และความรู้ด้านการเล่นแร่แปรธาตุก็มักจะถูกผูกขาดอยู่เสมอ ทําให้พวกเขาไม่สามารถทํางานร่วมกันได้
“จะไม่เป็นไรจริง ๆ เหรอ? ส่วนผสมปรุงยาดูเหมือนจะไม่พอนะคะ” วีลาถามอย่างเป็นห่วง
“ข้าตรวจดูแล้ว ส่วนผสมในการปรุงยาสําหรับเด็กคนนี้แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว”
คนลีย์ยิ้มน้อย ๆ ก่อนที่เธอจะเริ่มเรียกส่วนผสมแปลก ๆ ลงบนตาชั่ง และใส่มันลงในหม้อต้มเพื่อปรุงยา ในขณะรอให้เดือด เธอก็หยิบภาชนะแก้วออกมาเชื่อมต่อกับหลอดทดลอง หลังจากเตรียมทุกอย่างเสร็จแล้ว เธอก็แล้วเทส่วนผสมที่ปรุงเสร็จลงไปกรอง จากนั้นจึงเริ่มกระบวนการที่สอง
ในเวลาสั้น ๆ เพียง 10 นาที เธอก็ทําทุกขั้นตอนเสร็จสิ้น จนได้โพชั่นสีเขียวมรกตออกมาหนึ่งขวด
คินลีย์ก็พอใจกับผลลัพธ์นี้มากเช่นกัน เธอจะต้องใช้เวลาอีกหลายสิบนาที หากใช้อุปกรณ์ของอาจารย์เธอ และสีของโพชั่นก็จะออกมาไม่ดีเท่านี้
“แบ่งครึ่ง ให้เธอดื่มสองครั้งระยะเวลาห่างกันประมาณ 3 ชั่วโมง เธอน่าจะหายดีในตอนเย็น
หลังจากส่งยาให้ทั้ง 4 คนแล้ว มูฟาซาและเด็กทั้งสองก็ขอบคุณแล้วจากไป
วีลามองคินลีย์ด้วยสีหน้าที่ซับซ้อน
หลังจากนั้นเธอก็พูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “คําถามเมื่อครู่ ตอนนี้ข้ายังไม่ชอบท่าน แต่ข้ายินดีต้อนรับท่านสู่เมืองของเราด้วยความจริงใจ เลดี้ดินลีย์”
Click to Hide Advanced Floating Content