ตอนที่ 77: ไอ้คนโง่

ระหว่างทางกลับไปยังคอนโดของหลินจื้อชื่อ เธอซึ่งเงียบมาตลอดทางก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้น“พ่อคะ… พ่อเป็นคนหนึ่งยืนกรานให้หนูแต่งงานกับเสี่ยวเฉิงตั้งแต่แรก แต่ทําไมสุดท้ายพ่อถึงอ ยากให้หนูหย่ากับเขาแล้วกลับไปอยู่ที่อังกฤษด้วยล่ะคะ?”

หลินกู้ยเหรินพลันถอนหายใจ “ลูกไม่รู้หรือยังไงว่าเสี่ยวเฉิงในตอนนี้ต้องการอะไรมากที่สุด?”

“หนูรู้คะ” หลินจื้อคือพลั่นตอบกลับ

“เขาปฏิเสธที่จะเดินตามเส้นทางที่พ่อวางไว้ให้ นั่นหมายความว่าความเกลียดชังของเสี่ยวเฉิงที่มีต่อแม่ได้ทวีความรุนแรงมากขึ้นหลังจากที่พ่อของเขาเสียไป อีกอย่าง พ่อเองก็คงจะประเมินความมุ่งมั่นของเขาต่ําเกินไป พ่อไม่คิดเลยว่าหลังจากกลับมาที่นี่เสี่ยวเฉิงจะเปลี่ยนไป มากขนาดนี้ อันที่จริง ความมุ่งมั่นอันแรงกล้าของเสี่ยวเฉิงทําให้พ่อกังวลเกี่ยวกับเส้นทางชีวิตที่เขาจะต้องเลือกนั้นแหละ”

หลังจากที่พูดจบ หลินกู้ยเหรินก็พลันหันไปทางลูกสาว “เสี่ยวเฉิงเองก็โตขนาดนี้แล้ว พ่อก็คงจะไปบังคับให้เขาเลือกทางเดินชีวิตไม่ได้หรอก แต่สําหรับลูก ลูกเป็นลูกสาวสุดรักสุดหวงเพียงคนเดียวของพ่อพ่อคงจะยอมให้ลูกเข้าไปพัวพันกับปัญหาที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวของแม่เสี่ยวเฉิงไม่ได้แน่ อันที่จริง ในประเทศนี้นะ คนในตระกูลเย่เองก็มีทั้งอิทธิพลและอํานาจมากเลยนะนอกจาก นี้ ยังมีอีกหลายเรื่องเลยด้วยที่พ่อไม่ได้บอกเขา… พ่อแค่กลัวว่าถ้าบอกไปแล้วมันจะทําให้เขาเปลี่ยนไปเป็นคนละคนนะ เขาอาจจะกลายเป็นคนที่แย่กว่าเดิม แต่ยังไงก็เถอะมันก็ยังมีเรื่องดีอยู่บ้างแหละนะ เสี่ยวเฉิงในตอนนี้ก็สามารถจัดการกับปมด้อยของตัวเองได้หมดแล้วถ้าพ่อ เผลอชี้ขั้วหลุดพูดอะไรออกไปเขาก็อาจจะกลับมารู้สึกแย่ได้ แต่เดิมที หลังจากที่เสี่ยวเฉิงกลับมาที่นี่พ่อต้องการให้ลูกกลับมากับเขาด้วยก็เพราะพวกลูกทั้งสองจะได้ช่วยดูแลกันและกันแต่ใครจะไปคิดล่ะว่าลูกทั้งสองจะไม่คุยและไม่ยุ่งกันเลย…”

หลินจื้อซื้อรู้สึกลังเลอยู่ครู่หนึ่งไม่นานนัก เธอก็พลันถามขึ้น “แล้วเราจะทํายังไงต่อล่ะคะ? เขาก็เหมือนลูกพ่อคนหนึ่งเลยนะ หนูว่าพ่อก็ควรจะช่วยอะไรเขาหน่อย…”

หลินกู้ยเหรินพลันเผยยิ้มอย่างขมขึ้น “พ่อคงช่วยอะไรไม่ได้มากหรอก… ในเมืองฮั่วเซีย ตระกูลเยมีทั้งอํานาจและอิทธิพลใหญ่โต ถ้าเมื่อก่อนพี่เฉิงและตัวของพ่อเองมีอํานาจมากมายเฉกเช่นพวกเขา พ่อของเสี่ยวเฉิงก็คงจะไม่ต้องตกที่นั่งลําบากขนาดนั้นหรอก ถ้าพ่อของเสี่ยวเฉิงยังอยู่ ถ้าพี่เฉิงยังอยู่ พ่อเองก็คงจะช่วยเขาจัดการกับตระกูลเยได้แน่ เหตุผลที่พี่เพิ่งไว้ใจให้พ่อดูแลเสียวเฉิงก็เพราะเขาคิดว่าพ่อจะสามารถปกป้องเสียวเฉิงและไม่ทําให้เสียวเฉิงต้องตกเป็นเป้าสายตาของพวกคนในตระกูลเยู่ได้ยังไงล่ะ! นี่ก็ผ่านมาหลายปีแล้ว ตระกูลเยก็คงจะคิดว่าเสี่ยวเฉิงตายไปแล้วมั้ง ตราบใดที่เสี่ยวเฉิงไม่หลุดปากไปว่าเขาเป็นลูกชายของเสี่ยวเทียนหมิงตระกูลเยก็ คงจะไม่ได้สนใจอะไรหรอก เพราะแบบนั้นแหละ ตอนนี้เขายังปลอดภัยดีอยู่ แต่ยังไงก็เถอะ ในอนาคตอีกไม่นาน เสี่ยวเฉิงจะต้องเข้าไปพัวพันและมีปัญหากับตระกูลเย่แน่ และถ้าลูกยังอยู่กับเขาลูกเองก็จะต้องตกที่นั่งลําบากไปด้วย”

“นั่นคือเหตุผลที่พ่ออยากให้หนูหย่ากับเสี่ยวเฉิงใช่ไหม?” หลินจือชื่อพลันถามขึ้นมา ด้วยความหงุดหงิดทันที

ทว่า ทั้งพ่อและแม่ก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับมา ทั้งคู่พลันนั่งเงียบไม่ได้ปฏิเสธอะไร

หลินจือชื่อพลันมองไปยังทิวทัศน์ผ่านหน้าต่างรถ และทันใดนั้น เธอก็เงียบลง

หลังจากนั้นไม่นาน เธอพลั่นยกมือขึ้นมาลูบผมพร้อมกับน้ําตาคลอเล็กน้อย แต่หลินจื้อซื้อเองก็ไม่ต้องการให้ใครรับรู้ด้านที่อ่อนแอของตน เธอจึงเอียงศีรษะไปทางหน้าต่างและพูดกับตัวเองอย่างแผ่วเบา “การแต่งงานคืออะไรกันนะ?”

เธอพลันตอบตัวเองโดยไม่รีรอ “ไม่ว่าสถานการณ์จะดีหรือร้าย รวยหรือจน แข็งแรงหรือเจ็บป่วย สุขหรือทุกข์ คนสองคนก็ต้องเผชิญกับทุกสิ่งและข้ามผ่านทุกอย่างไปด้วยกัน

“พี่หลิน…” หลินเหล่ยพลันกระซิบและตบไหล่หลินจื่อซื้อ

ทันใดนั้น หลินจื่อซื้อก็พลันหันกลับมาและกล่าวคําพูด “พ่อกับแม่คิดว่าหนูไม่รู้เรื่องทุกอย่างที่เสี่ยวเฉิงเคยทําให้ตั้งแต่เด็กเหรอคะ? หนูรู้ทุกอย่างนั้นแหละ นั่นคือเหตุผลที่หนูเต็มใจและเชื่อฟังคําสั่งของพ่อจนยอมแต่งงานกับเสี่ยวเฉิง ถึงแม้ว่าเขาจะปฏิเสธการแต่งงานก็ตามแต่ทําไมกันล่ะ? เสี่ยวเฉิงดูแลหนูมาได้ตั้งยี่สิบกว่าปีแล้วนะ ทําไมหนูถึงอยากจะดูแลเสี่ยวเฉิงแทนในช่วงเวลาที่เขากําลังเผชิญกับความยากลําบากไม่ได้ล่ะ? หนูจะดูแลเขาเองค่ะ! ถ้าเสียวเฉิงหายดีห รือมั่นใจในตัวเองเมื่อไหร่ หรือถ้าเขาชอบหนูจริงๆหนูก็พร้อมที่จะเดินตามเขาไปทุกแห่ง หนูไม่ เคยขออะไรมากมายเลยเสี่ยวเฉิงเองก็เหมือนกัน หนูรอมาสามปี เสี่ยวเฉิงเองก็ไปอยู่ในกองทัพมาตั้งสามปีแล้ว และตอนนี้เขาก็ได้ออกมาโลกข้างนอกแล้ว พอหนูได้ข่าวว่าเขาเข้าร่วมกับหน่วยรบระดับสูงไม่ได้ หนูก็อยากจะทั้งไปเยี่ยมและถามไถ่เขาใจจะขาดอันที่จริง หนูคิดว่าตัวเอง กับเสี่ยวเฉิงจะไปกันได้ดีในอนาคตด้วยซ้ํา เราสองคนต้องมีความสุขกันจริง ๆ แน่ แต่ทําไมกันล่ะ คะ? ทําไมต้องให้หนูหย่ากับเขาด้วย? พ่อกับแม่อยากให้ลูกคนนี้ทั้งผู้ชายคนนี้ไปจริง ๆ งั้นเหรอ?”