บทที่ 280 มหาเศรษฐี

สุดยอดชาวประมง

บทที่ 280 มหาเศรษฐี

บทที่ 280 มหาเศรษฐี

ยาที่เหลือขวดสุดท้ายถูกขายในราคา 680,000 เหรียญดาว ขวดหนึ่งก็เกือบ 1 ล้านเหรียญดาวเข้าไปแล้ว ทำให้ยาทั้ง 8 ขวดรวมกันแล้วมีมูลค่ามากกว่า 6 ล้านเหรียญดาว

เดิมทีฉู่เหินคิดว่าการขายยาเหล่านี้ได้ราคา 6 ล้านก็สูงมากเกินไปแล้ว แต่พอยาศพปีศาจทั้ง 3 เม็ดถูกนำออกมาก็มีการกู่ร้องอย่างดุเดือด

ไม่ใช่อะไรอื่นเลยพวกเขาโห่ร้องเพราะว่าประสิทธิภาพของยามันมีผลลัพท์ที่ยอดเยี่ยมมาก ถ้าหากว่าเกิดสงครามอยู่ล่ะก็ การเขวี้ยงยาพวกนี้ออกไปจะเป็นตัวกำหนดได้เลยว่าจะแพ้หรือชนะ

ยาศพปีศาจทั้งสามนั้นทุกคนในห้องโถงรู้ว่าพวกเขาไม่สามารถครอบครองมันได้และได้แต่ชายตามอง ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่สามารถจ่ายได้ แต่พวกเขาไม่กล้าจ่ายต่างหาก หากว่าพวกเขาอยากได้ก็ต้องเสี่ยงแลกกับชีวิตเพื่อให้ได้ซึ่งยานี้มา เพราะว่ายาขวดนี้ไม่ใช่แค่มีค่าเฉพาะในอาณาจักรต้าเซียเท่านั้น แม้แต่อาณาจักรอื่น ๆ เองก็ถือว่าล้ำค่ามาก ๆ

ยานี้ยังไม่มีราคาตั้งต้น แต่เมื่อนางฟ้าโบตั๋นตะโกนบอกทุกคนก็เงียบลง นางฟ้าโบตั๋นไม่คิดว่ายานี้จะทำให้ที่แห่งนี้เงียบเชียบได้ถึงขนาดนี้ เป็นไปได้ไหมว่ายาศพปีศาจมีค่ามากเกินไปจนไม่มีใครกล้าประมูล ทุกคนต่างก็คิดแบบนี้ในใจ

ไม่เพียงแค่พวกเขาเท่านั้น แม้แต่ฉู่เหินเองก็เห็นด้วย เขาคิดว่ายา 3 เม็ดนี้มันล้ำค่ากว่ายาก่อนหน้านี้มาก แต่เขาก็ไม่คิดว่าจะทำให้ทุกคนเงียบเชียบรวากับทุ่งน้ำแข็งแบบนี้! ตอนแรกเขากะว่าจะเป็นคนประมูลยา 3 เม็ดนี้เองเพื่อปั่นราคา แต่หลังจากคิดแล้วคิดอีกก็ล้มเลิกความคิดนี้ทิ้งไปดีกว่า!

“พวกคุณไม่ต้องการยาทั้ง 3 เม็ดนี้งั้นเหรอ? ถ้างั้นก็ไม่เป็นไร พวกเราเองก็เป็นของชาวต้าเซีย ถ้าพวกคุณไม่สนใจที่จะซื้อมัน ถ้างั้นโรงประมูลของเราก็จะทุ่มเงินเพื่อซื้อมันเอง จากนั้นพวกเราจะมอบมันให้กับอาณาจักรต้าเซีย! นี่นับเป็นการที่พวกเราทำงานเพื่อประชาชนได้ไปในตัว”

นางฟ้าโบตั๋นได้แต่ยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้ เธอพูดย้ำซ้ำอีกครั้งว่า

“นี่คือยาศพปีศาจเม็ดแรก พวกเรายอมจ่ายเงิน 1 ล้านเพื่อซื้อมัน ถ้าพวกคุณไม่มีข้อโต้แย้งล่ะก็ ถ้างั้นฉันจะปิดการประมูลของชิ้นนี้แล้วล่ะนะ”

หลังจากคำพูดนั้น นางฟ้าโบตั๋นก็ไม่ลังเลและค้อนกลองก็ถูกยกขึ้นและทุบลงไป แต่ทันใดนั้นเองก็มีเสียงคำรามดังขึ้นออกมาจากห้องพิเศษด้านบน

“ช้าก่อนนางฟ้าโบตั๋น ยาศพปีศาจพวกนี้พวกเราจากอาณาจักรเว่ยจะขอซื้อพวกมันในราคา 2 ล้านเหรียญดาวเอง”

หลังจากได้ยินสิ่งนี้ นางฟ้าโบตั๋นก็ยิ้มอย่างพอใจ เธอรู้อยู่แล้วว่าเหล่าแขก VIP วางแผนจะทำอะไร! เมื่อคนเหล่านี้ต้องการยาทั้งสาม พวกเขาจะไม่ยอมเสียมันไปง่าย ๆ แน่นอน ถ้าเธอออกตัวว่าจะซื้อมันเองด้วยอำนาจของพวกเขา ทำให้พวกเขาสามารถลงมาช่วงชิงมันได้ ดีกว่าแข่งกับแขก VIP คนอื่น ๆ แบบซึ่ง ๆ หน้า

มันไม่สำคัญหรอกว่ายาพวกนี้จะขายได้หรือไม่ได้ แค่ทำลายมันก็พอ! ตราบใดที่ไม่มีประเทศใดมียาเช่นนี้อยู่ก็ไม่มีภัยคุกคามในสนามรบแล้ว

พวกเขาไม่คิดว่านางฟ้าโบตั๋นเปิดราคาสู้ขนาดนี้ ถ้าโรงประมูลได้ยาศพปีศาจไปจริง ๆ แล้วส่งไปยัอาณาจักรต้าเซีย นั่นจะเป็นหายนะที่ร้ายแรงกับอาณาจักรข้างเคียง ดังนั้นคนเหล่านี้จึงไม่ลังเลที่จะทุ่มเงินก้อนใหญ่ลงไป

อาณาจักรเว่ยเสนอราคา 2 ล้านเหรียญดวงดาว ทำให้หลายอาณาจักรไม่สามารถนิ่งเฉยได้

“ฉันจากอาณาจักรต้าเซียของฉันขอเสนอราคา 3 ล้าน”

“ฉันจากอาณาจักรจันทราโบราณเสนอราคา 4 ล้าน”

ฉู่เหินมองสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความตกใจ ยาพวกนี้แปบๆราคา 9 ล้านแทบจะในทันที จนกระทั่งสุดท้ายมันตกอยู่ในมือของอาณาจักรต้าเซียในราคา 15 ล้าน

อย่างไรก็ตามเมื่อการประมูลยาเม็ดที่ 2 ก็เริ่มขึ้น คนของอาณาจักรต้าเซีย ไม่ได้ร่วมประมูลอีกแล้ว และสุดท้ายมันถูกซื้อโดยคนในอาณาจักรเว่ยเป็นจำนวน 20 ล้าน และเม็ดสุดท้ายเป็นของอาณาจักรจันทราโบราณ แต่ราคาที่อาณาจักรจันทราโบราณต้องจ่ายนั้นสูงถึง 23 ล้าน!

จนถึงเวลานี้เหรียญดาวของฉู่เหินมากถึง 69 ล้านแล้ว ทำให้ฉู่เหินได้แต่ถอนหายใจอย่างรวดเร็ว เมื่อกี้เขายังเป็นยาจกอยู่เลย ตอนนี้เขากลายเป็นมหาเศรษฐีไปแล้ว

โรงประมูลจันทราจะได้ส่วนต่าง 1% กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือในการประมูลครั้งนี้โรงประมูลจันทราเองก็ได้รับเงินทั้งสิ้น 690,000 เหรียญดาว แบบนี้ทำให้ทุกคนต่างก็มีความสุขกันสุด ๆ

หลังจากจัดแจงทุกอย่างเสร็จสิ้น เหรียญดาวในมือของฉู่เหินก็ยังคงมากกว่า 68 ล้าน เขาเดินออกจากงานประมูลอย่างสนุกสนานแล้วเดินเรื่อยเปื่อยไปตามถนน ในการประมูลครั้งนี้เขาซื้อของไปตั้งหลายอย่างในเมื่อเขามาถึงต่างโลกทั้งทีเขาก็อยากจะซื้อของไปฝากเพื่อน ๆ อยู่แล้ว เขาเลือกของแปลก ๆ ไปฝากเพื่อนของเขา

และอาณาจักรต้าเซียก็มีชื่อเสียงมากในเรื่องของเสื้อผ้า เสื้อผ้าที่นี่ทันสมัยและสวยงาม ทำให้ฉู่เหินคิดจะมอบให้กับคนที่เขารู้จักคนล่ะหนึ่งถึงสองตัว หลังจากซื้อเสร็จเขาก็ค่อย ๆ เดินหายไปในฝูงชน

หลังจากกลับไปที่ห้องพัก ฉู๋เหินก็หยิบหนังสือทั้งหมดเกี่ยวกับเสื้อผ้าที่ซื้อมาในวันนี้ออกมาอ่านอย่างละเอียดทีละบรรทัด จนเขานั่งขัดสมาธิด้วยความอึดอัด แต่ถ้าเขาสามารถจุดไอเดียได้ล่ะก็นะ แต่ใครก็ทำได้อย่างที่คิด เขารู้สึกว่าเขาสามารถใช้ความรู้ในหนังสือเล่มนี้ได้ในทันที นี่คือการทำความเข้าใจและใช้งานมันในเวลาเดียวกัน!

นี่เป็นหนึ่งในสิ่งที่ระบบมอบให้มา หากปราศจากความสามารถมันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเอาชนะการแข่งขันครั้งนี้ ตลอดทั้งคืนเขาไม่ได้นอนเลย แต่เขาศึกษามันต่อไป

ด้วยความสามารถของเขาทำให้อ่านหนังสือได้อย่างรวดเร็ว จึงใช้เวลาไม่นานในการอ่านหนังสือ แต่ถึงกระนั้นมันก็เริ่มเช้ามืดเมื่อเขาอ่านหนังสือหลาย 10 เล่ม! หลังจากอ่านหนังสือเหล่านี้จนจำได้ครบถ้วนสมบูรณ์ เขาก็ไม่ได้ยุ่งอยู่กับการทำอะไรอีก แต่หลับตาลงพร้อมกับเริ่มศึกษาและคิดไตร่ตรองอย่างรอบคอบ

ความรู้ในหนังสือเหล่านี้ถูกกลั่นกรองให้เป็นของเขาเอง ในตอนเที่ยงเขาก็ได้เปลี่ยนความรู้จากในหนังสือนับสิบเล่มนี้ให้ตกผลึกเป็นความรู้ที่แท้จริง

ในเวลานี้ฉู่เหินรู้สึกว่าเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเสื้อผ้า ผู้ชำนาญมานับปี ยิ่งกว่านั้นเขามีความรู้และความเข้าใจที่เป็นเอกลักษณ์เกี่ยวกับแนวคิดของเสื้อผ้า นอกจากนี้เขามาจากอีกโลกหนึ่งทำให้มีความคิดเรื่องเสื้อผ้าสมัยใหม่

เหล็กต้องตีขณะร้อน ๆ เขาตัดสินใจออกไปเลือกซื้อผ้าจำนวนมากกลับมา ผ้าเหล่านี้ถูกดัดแปลงตามความคิดของเขาเองทั้งหมด! จากนั้นเขาก็ไม่ลังเลออกแบบชุดแรกตามไอเดียของเขาเอง

ชุดของเขาแตกต่างจากชุดของพวกต้าเซีย ผู้คนที่นี่ค่อนข้างใส่สุดโบราณ ฉู่เหินออกแบบมันด้วยสีสันที่ทันสมัย รวมทั้งเขายังใช้งานฝีมือแบบโบราณได้อย่างคล่องตัว การตกแต่งถูกทำขึ้นเป็นพิเศษบนส่วนลำตัว

หลังจากครุ่นคิดเกี่ยวกับมันแล้ว เขาก็ถอดเสื้อเดิมของโจวรุยแล้ววางไว้ข้างนอกก่อนใส่เสื้อตัวใหม่นี้ อีกไม่นานการแข่งขันจะเริ่มขึ้น ตามปกติแล้วยิ่งเก็บตัวมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี มีเพียงแค่วิธีนี้เท่านั้นที่เขาสามารถเอาชนะได้อย่างผู้แข่งขันม้ามืด ไม่งั้นแล้วถ้าเกิดว่าเขามั่นใจมากเกินไปก็อาจเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นได้

หลังเวลาผ่านไปนาน งานแข่งขันก็เริ่มต้นขึ้น การแข่งขันออกแบบเสื้อผ้าถูกจัด ณ ลานกว้างของอาณาจักรต้าเซีย! โดยมีกรรมการเป็นองค์ชายทั้งสามของเหล่าประเทศใกล้เคียง

พวกเขาเป็นแบ่งเป็น องค์ชายรุยแห่งอาณาจักรต้าเซีย องค์ชายเก้อแห่งอาณาจักรเว่ย และองค์ชายตัวแห่งอาณาจักรจันทราโบราณ ทั้งสามอยู่บนแท่นที่สูงที่สุดเหนือจัตุรัสทั้งหมด ด้วยวิธีนี้ทำให้พวกเขาสามารถมองดูผู้เข้าแข่งขันนับหมื่นคนทั้งหมดได้

หลังจากองค์ชายทั้งสามนั่งกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พิธิกรการแข่งขันก็เริ่มกล่าวเปิดงานหลังจากนั้น และให้องค์ชายทั้งสามพูดบนเวทีนิดหน่อย

หลังจากบทพูดอันแสนน่าเบื่อได้ผ่านไป การแข่งขันก็ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ เมื่อมองดูผู้เข้าแข่งขันนับหมื่นที่ปรากฏตัวในเวลาเดียวกัน ฉู่เหินก็รู้เลยว่ามันไม่ง่ายเลยที่เป็นคนสุดท้ายที่ชนะให้การแข่งขันครั้งนี้!