217 ดาวเด่นของงานในที่สุดก็ปรากฏตัว

『จอมจับฝ่าไปแล้ว!』

『แล้วการสนับสนุนทางอากาศระยะใกล้ล่ะ!?』

『พวกเขายังไม่ว่าง!』

ซุโดะโดะโดะโดะ! พื้นสั่นอย่างดังและสัตว์ประหลาดพร้อมความสูง 5 เมตร เด้งออกมาจากส่วนลึกของควันฝุ่น

มันมีแขนท่อนล่างปกคลุมไปด้วยเกราะเปลือกแข็งเป็นหิน, ขามากมายอันดูเหมือนเหยียบย่ำคนสู่พื้นได้, หน้าไร้ดวงตา, และปากน้ำลายไหลเรียงด้วยฟันเหมือนมนุษย์ ภาพลักษณ์มันชวนให้รู้สึกถึงความขยะแขยง

“ฮิโระ เราจะรับมือตัวนั้น”

“เราจะสู้ไอ้นั่นด้วยดาบเหรอ? บ้าไปแล้วเหรอไง?”

“สิ่งมีชีวิตใดๆ ไม่สำคัญว่ามันสัตว์ประหลาดมากแค่ไหน มันจะตายลงเมื่อหัวมันถูกตัด ฉันจะดึงความสนใจดังนั้นให้แน่ใจว่าตามหลังฉันมา”

“เดี๋ย……!”

นาวาอวกาศโทเซเรน่ากำดาบยาวด้วยสองมือและพุ่งมุดตรงสู้สิ่งมีชีวิตยักษ์ดุร้าย (ชื่อชั่วคราว: จอมจับ) ผมวิ่งหลังเธออย่างลนลานทันที เพราะทั้งหมดเป็นไปไม่ได้ที่ผมจะปล่อยมันไว้ให้เธอ

『กกกกกกกกกี๊!』

ผมไม่รู้ว่าเกราะต่อสู้สีขาวของนาวาอวกาศโทเซเรน่าเพียงแค่เด่นเกินไปไหม แต่จอมจับมันพุ่งสุดตัวใส่เธอทันทีหลังจากปล่อยเสียงอันน่ากลัวและงัดแขนท่อนล่างมีเกราะออกมา บัดซบ! มันไม่มีดวงตาดังนั้นมันเห็นเธอง่ายๆได้อย่างไรกัน? มันดูเหมือนมันค่อนข้างกระตือรือร้นที่จะเปลี่ยนนาวาอวกาศโทเซเรน่าเป็นเนื้อสับด้วยการเหวี่ยงเดียว

ในที่สุดแขนเกราะหินก็กระแทกกับพื้นและทำให้เศษดิน, ฝุ่น, และหินกระจายไปทั่ว ร่างนาวาอวกาศโทเซเรน่าหายไปภายในฝุ่นควัน มันจะไม่ตลกถ้าเธอจบด้วยการเหวี่ยงเดียว แต่ผ่านจอเหนือจอหน้ากากอเนกประสงค์ของผม ผมสามารถเห็นนาวาอวกาศโทเซเรน่าหลบการกระแทกแขนสัตว์ประหลาดสำเร็จและกำลังวิ่งไปรอบๆ

อย่างคาดกับอุปกรณ์ล้ำหน้า มันดูเหมือนจำนวนของควันและฝุ่นนั้นไม่ต้องกังวลเลย

“ฮิย่าาา!”

ดาบแวบแสงและฟันแขนสิ่งมีชีวิตที่ยังฝังอยู่ใต้พื้น มันดูเหมือนใบมีดหน้าฟันเปิดเกราะพลังงานจักรกลได้อย่างง่ายๆ เลือดเนื้อล้วนจะไม่มีค่าพอต้องเอามาพูดเลย

『กิ่ย๊าาาาาา!?』

จอมจับเริ่มดิ้นไปทั่วขณะเลือดสีดำพุ่งออกมาจากตอแขนของมัน และจากนั้น มันนำแขนที่เหลือลงมา – แขนขวา – ตรงมาที่ผม

“–กึ่!”

ผมกลั้นหายใจทันทีและโลกรอบผมช้าลงถึงระดับคืบคลาน มันเหมือนดั่งเวลากำลังถูกยืดออก ผมเคลื่อนที่ไปและยักไหล่ใส่อากาศผสมทรายโลหะที่เกาะติดอยู่กับตัวผมและเลี่ยงเส้นทางของแขนของสิ่งมีชีวิต จากนั้นผมกะจังหวะการเหวี่ยงดาบเพื่อให้ผมใช้ประโยชน์จากแรงส่งของแขนสิ่งมีชีวิตเพื่อให้แน่ใจว่าผมฟันมันหลุดได้เกลี้ยง

ผมต้องเทียบการเคลื่อนไหวแขนและฟันมันในแบบเฉพาะเพื่อที่ใบมีดผมจะได้ไม่หัก

เลือดเหลือเฟือฟุ่งออกมาจากแขนอีกครั้งหนึ่งและจอมจับกรีดร้องในความเจ็บปวด

『นายทำได้ยอดเยี่ยมเลยนี่ นั่นแต้มสมบูรณ์แบบเต็มเลยนะ』

ผมได้ยินคำชื่นชมของนาวาอวกาศโทเซเรน่าผ่านระบบสื่อสารของหน้ากากอเนกประสงค์ ผมมองไปรอบเพื่อเห็นว่าจริงๆแล้วเธออยู่ที่ไหนและเห็นเธออยู่บนไหล่จอมจับ เธอน่าจะวิ่งขึ้นร่างของจอมจับก่อนหน้า

『ฮ่าาาา!』

เธอปล่อยการฟันดุดัน ระหว่างกำลังยืนอยู่บนไหล่จอมจับ นาวาอวกาศโทเซเรน่าใช้ดาบโมเลกุลเดี่ยวเพื่อฟันหัวมันหลุดในการเหวี่ยงครั้งเดียว ร่างจอมจับเกร็งและจากนั้นเริ่มล้มสู่พื้นทันที

จริงๆแล้ว มันกำลังจะล้มมาทับผม

“อ๊ะ เวรเอ๊ย!”

ผมวิ่งหนีอย่างสุดพยายามและสามารเลี่ยงหลบร่างหล่นของจอมจับได้

นาวาอวกาศโทเซเรน่าทำการลงพื้นอย่างสุดสง่าข้างผมเลย เวร คนนี้มากเกินไปจริงๆ

“เธอยังเข้มข้นอยู่แม้ว่ามันท้ายของการต่อสู้แล้วหือ”

“ยั่งไงซะ เพราะทั้งหมดเธอเทียบทหารรับจ้างชนชั้นกลางไม่มีอะไรเหมือนฉันกับตัวเองผู้เป็นลูกสาวขุนนางผู้ดีไม่ได้จริงๆ”

“ฉันไม่ได้พูดนั่นเพื่อลดค่าของนาย นายดูไม่ผิดว่าเป็นนักรบมีคุณสมบัติผู้เอาชนะความกลัวเพื่อไปสู้กับศัตรูผู้องอาจได้ มันคุ้มค่าแก่การเคารพ”

หลังจากพูดอย่างนั้น นาวาอวกาศโทเซเรน่าแวบรอยยิ้มอ่อนโยนมาให้ผม

ผมรู้สึกเหมือนว่าผมถูกดึงมาด้วย แต่อืม แม้แต่ผมยังจะรู้สึกเขินนิดหน่อยเมื่อะได้รับการมอบคำชมเหมือนนั่น

“อ๊ะ ใช่ ถ้าอย่างนั้นสถานการณ์การต่อสู้ปัจจุบันคืออะไร?”

“มันดูเหมือนพวกเขาสรุปมันบนฝั่งพวกเขาแล้วด้วยเหมือนกัน”

ที่ปรากฏมามีแค่สิ่งมีชีวิตยักษ์จอมจับเท่านั้นที่เรากำจัดได้ และศัตรูอื่นๆ นั้นประกอบไปด้วยทวิสต์เป็นโหลๆ มันดูเหมือนนาวิกโยธินจัดการมันสิ้นโดยไม่มีปัญหาอะไร

“การยิงชุดสนับสนุนเกือบถึงแล้วนั่น อะไรที่พวกเธอทำกันเนี่ย?”

『ขอโทษ นั่นฉันยิงผิด』

เสียงขอโทษของเอลม่ามาผ่านระบบสื่อสาร อืม มันไม่เหมือนว่าผมโกรธจริงจังอยู่ดี เพราะทั้งหมดค่อนข้างมีจำนวนศัตรูอยู่เยอะ ดังนั้นผมเดาว่าผมยกโทษให้เธอที่ปล่อยตัวหนึ่งผ่านมาได้

หรือ มันไม่ใช่แค่กฤษณะที่กำลังถูกขับโดยเอลม่าที่มอบการสนับสนุนทางอากาศระยะใกล้ มันก็มียนขนทหารกองทัพจักรวรรดิและยานต่อสู้เล็กด้วยเหมือนกัน นอกจากผม นาวาอวกาศโทเซเรน่าก็กำลังสั่งการกองกำลังของเธอเพื่อทำให้มั่นใจว่าสิ่งมีชีวิตตัวใหญ่มากนั่นไม่ผ่านเข้ามา

“มันเสียของนิดหน่อย แต่แค่ใช้ปืนใหญ่ยิงกระสุน มันจะดีกว่าปล่อยตัวพวกนั้นผ่านมาอีกครั้ง”

“โอ้ อย่างได้กังวลเกี่ยวกับนั่น เราจะครอบคลุมเรื่องกระสุนที่นายจะใช้ในปฏิบัติการนี้ด้วย”

“เธอได้ยินแล้วนะ อย่างยั้งมือแล้วยิงเลย”

『โรเจอร์ ฉันจะลุยนะถ้าอย่างนั้น』

เอลม่าตัดสาย

“ได้เลยถ้าอย่างนั้น มันดูเหมือนเราต้องทนสถานการณ์นี้อีกสักพักหือ……”

“ใช่ สำหรับเวลานี้”

หน้าเรามีบางอย่างที่ตั้งอยู่คล้ายกับภูเขา – แม้มันประดิษฐ์ชัดเจน – ที่คลุมเคลือโดยพายุฝุ่นโลหะ

หลังจากสืบสวนยานระงับสำเร็จเราออกตามอีกครั้งเพื่อล่าของเราต่อ และเราสามารถเจอที่นี่ในท้ายยที่สุด เรารับมือกับทวิสต์มากมายตามทางซึ่งผสมกับจอมจับจำนวนหนึ่งเหมือนตัวที่เราเพิ่งจบมันไปไม่นานนี้ หลังจากเดินผ่านคลื่นของศัตรู ในที่สุดเราก็สามารถเจอสิ่งก่อสร้างทำจากมนุษย์ที่นี่ได้

“ฉันสงสัยว่านั่นอะไรกัน? รังมดหรือ?”

“ไม่ว่ากรณีไหน แน่นอนว่ามันทำหน้าที่เป็นรังของสิ่งมีชีวิต ฉันแน่ใจว่าการโจมตีจะยิ่งเข้มข้นมากขึ้นและมากขึ้นยิ่งเราใกล้สิ่งก่อสร้างนั้นมากเท่าไหร่”

มันคล้ายกับรังมดเพิ่มขนาดสู่ระดับไร้สาระ จากการอ่านจอบนจอเหนือจอหน้ากากอเนกประสงค์ของผม ความสูงของมันประมาณ 300 เมตรหรือประมาณนั้น มันทรงเหมือนภูเขาไม่เท่ากัน มันถูกสร้างโดยใช้ดินหรือ? สีของมันไม่ได้คล้ายกับสีของพื้นรอบมัน ส่วนใหญ่มันสีน้ำตาลออกแดง

“ถ้าอย่างนั้นเราจะทำอะไรเกี่ยวกับนั้น? มันจะง่ายที่จะยิงระเบิดมันเป็นเศษๆ ฉันว่า”

ไม่สำคัญว่ามันใหญ่แค่ไหน มันยังสร้างออกมาจากดินและหิน มันจะทำอะไรไม่ได้หน้าปืนใหญ่เลเซอร์ที่ยิงโล่และเจาะเกราะยานต่อสู้หนา แน่นอน พูดตามความจริงนั้นมันเป็นหอคอยสร้างขึ้นจากทราย

“ฉันว่าเราทำนั่นถ้าเราทำได้ แต่”

“เราต้องยืนกรานจับเจ้านั่นจริงๆเรอะ? ชื่อเขาคืออะไรแล้วนะ? เอ่อ เกริตซ์”

“เป็นอย่างนั้นแหละ ยังไงซะ ฉันไม่ใช่แค่คนเดียวที่ยืนกรานในเรื่องนั้น คำสั่งมาจากต่ำแหน่งสูง”

“แต่จากที่เราอยู่ตรงนี้  ฉันไม่คิดว่าเรามีกองกำลังพอที่จะฝ่าไปเข้ารังโดยไม่ได้รับการสนับสนุนระยะใกล้จากอากาศ จริงๆแล้วมันคือเส้นตรงใต้คำว่าเป็นไปไม่ได้”

ตอนนี้ มันเพียงต้องของคุณการสนับสนุนทางอากาศระยะใกล้จากกฤษณะและยานต่อสู้จักรวรรดิที่เราสามารถต่อต้านการโจมตีของสิ่งมีชีวิตอันตรายผู้กำลังคลานอยู่ทั่วทุกที่กลับไป ถ้าเราเผชิญหน้ากับจอมจับพร้อมด้วยประเภทอื่นโดยไม่มีการสนับสนุนทางอากาศ พื้นฐานแล้วเรานั้นจะจบเห่

แต่ อืม ไม่เหมือนคนโคโลนีติดอาวุธที่มีปืนเลเซอร์กลจู่โจม เรามีนาวิกโยธินชั้นสูงจากจักรวรรดิกรากันอยู่กับเรา พลัง, ทักษะ และความพร้อมต่อสู้โดยรวมของพวกเขาห่างเป็นหลายดาวจากคนโคโลนี ดังนั้นถ้าเราเตรียมเสียผู้เสียชีวิต เราอาจแค่สามารถผ่านมันไปได้แบบเกือบๆ

“มันไม่เป็นไร มีกำลังเสริมกำลังมาไม่เร็วๆนี้กองกำลังล่วงหน้าของเรารับผิดชอบกับการค้นหาฐานศัตรู คนที่มาเป็นกองกำลังโจมตีหลักของเรา”

“เข้าใจแล้ว?”

ผมก็คิดว่านาวิกโยธินผู้มาด้วยกันกับเราก็แข็งแกร่งเพียงพอแล้ว แต่จริงๆแล้วเธอพูดว่ากำลังเสริมจะยิ่งแข็งแกร่งกว่านี้หรือ? ผมเอียงหัวขณะนาวาอวกาศโทเซเรน่ารับการสื่อสาร เธอพูดกับอีกฝ่ายผ่านระบบสือสารของเธอสักพักและจากนั้นมองท้องฟ้า

“กองกำลังหลักมาแล้ว”

“จากท้องฟ้าหรือ?”

ผมตามสายตาของนาวาอวกาศโทเซเรน่าไปและมองสู่ท้องฟ้า ผมสามารถพอเห็นยานต่อสู้และยานขนทหารจักรวรรดิกำลังลอยอยู่เหนือเราได้ และเลยพวกเขาไปเป็นวัตถุซึ่งดูเหมือนลงมาอย่างรวดเร็ว

“เฮ้ย เฮ้ย อย่าบอกฉันนะว่ามันเป็นการระดมยิงจากวงโคจร”

“ไม่ อย่างที่ฉันพูด มันคือกำลังเสริม”

วัตถุนั้นหุ้มไปด้วยสีแดงเนื่องจากความร้อนจากกลศาสตร์อากาศแล้วหล่นมาใกล้สิ่งก่อสร้างประดิษฐ์หน้าเรา มันขยี้โลกใต้มันอย่างไร้ความปรานีและทำให้เกิดการระเบิดของฝุ่นและหิน

พื้นใต้เท่าเราสั่นจากแรงกระแทก

“นั่นเป็นการเปิดตัวทรงพลังจริงนะ…… ถ้าอย่างนั้นนั่นอะไรอยู่ดีน่ะ?”

“กองกำลังโจมตีพื้นหลักของเรา”

“อา ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว……”

วัตถุที่เมื่อกี้ลงกระแทกพื้นคล้ายกับลิ่มเหล็ก และวัตถุซึ่งออกมาจากลิ่มเหล็กเริ่มเปลี่ยนรูปทรง

ใช่ พวกมันเป็นทหารอันสร้างมาจากโลหะผสมล้ำหน้าแข็งและเย็นและไม่หลั่งเลือดหรือน้ำตาและไม่กลัวการบาดเจ็บหรือความตาย พวกมันเป็นรูปทรงมนุษย์ พร้อมด้วยโครงร่างกระดูกโลหะอันแข็งแกร่งกว่ากระดูกมนุษย์มากมากซึ่งห่อหุ่ม ด้วยชั้นเกราะโลหะผสมหนาเป็นชั้น

พวกมันมีใยกล้ามเนื้อนำจากโลหะผสมล้ำหน้าด้วยเหมือนกันและขยี้มนุษย์ธรรมดาสู่ยาหลอดเนื้อได้ด้วยการเหวี่ยงแขนทีเดียว พวกมันก็ถืออาวุธยุทโธปกรณ์ลำกล้องใหญ่ที่ไม่เคยถูกใช้โดยมนุษย์มีเลือดเนื้อธรรมดา

ความสูงของเครื่องจักรสังหารทรงมนุษย์เหล่านี้มีระยะจากคร่าวๆสูงเท่ามนุษย์ผู้ใหญ่สู่ตัวยืนสูงเป็นหอคอย 5 เมตร

“ถ้าอย่างนั้นมันคือหุ่นยนต์ต่อสู้โปรแกรมล่วงหน้ากองทัพ”

ผมเกือบอยากร้องว่า ไ*ทันฟอล1แต่ผมสามารถยั้งตัวเองไว้ได้ในท้ายที่สุด

“นั่นถูกแล้ว เพราะเรากวาดตัวที่อยู่ข้างนอกแล้ว เราแค่ปล่อยการบุกจู่โจมฐานไว้กับพวกมันแล้วดูจากที่นี่ได้”

นาวิกโยธินติดเกราะเริ่มสร้างแคมป์ฐานชั่วคราวดูทนทานอีกครั้ง ผมตามหลังนาวาอวกาศโทเซเรน่าและมุ่งหน้าสู่แคมป์อันถูกสร้างโดยช่างศึกและหุ่นโปรแกรมล่วงหน้า

แปลโดย: wayuwayu

tipme : tipme.in.th/wayuwayutl

ได้โปรดโดเนทเพื่อสนับสนุนผู้แปล ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ: ​http://linktr.ee/wayuwayu