บทที่ 211 สองรุมหนึ่ง

หมอเทวดาขอกลับมาเป็นป๊ะป๋า

บทที่ 211 สองรุมหนึ่ง

บทที่ 211 สองรุมหนึ่ง

เมืองจินหลิง

เมืองที่สร้างจากเหล็กและปูน เวลานี้ไฟทางเท้ากำลังส่องแสง บนถนนที่ยาวเหมือนมังกรมีรถเมอร์เซเดสเบนซ์ที่ไม่มีใบอนุญาตคันหนึ่งกำลังขับมาด้วยความเร็วสูง

คนขับคือ เยี่ยลู่เฉิง

เขาเป็นคนขับรถของหวงไห่เทา อายุราว ๆ 26 หรือ 27 ปี อีกทั้งเขายังเป็นผู้ฝึกยุทธ์ แต่ความแข็งแกร่งของเขานั้นยังคงธรรมดามาก

เวลานี้เยี่ยลู่เฉิงคอยฟังคำสั่งจากคนที่นั่งอยู่เบาะหลัง และเขาก็กำลังเปลี่ยนเลนที่ทางแยก

“เลี้ยวซ้ายที่สี่แยกข้างหน้า 300 เมตรแล้วเข้าสู่ถนนฮันหลิน จากนั้นให้สังเกตย่านที่อยู่อาศัยทางด้านทิศเหนือของถนน น่าจะมีทางให้ขับเข้าไปได้” โจวอี้กล่าวอย่างเคร่งขรึมจากตำแหน่งที่นั่งเบาะหลัง

เยี่ยลู่เฉิงทำตามคำสั่ง

แน่นอนว่าหลังจากเลี้ยวซ้ายไปที่ถนนฮันหลินแล้ว รถก็เคลื่อนต่อไปอีกเกือบ 200 เมตร แล้วก็มีทางแยกให้เลี้ยวขวา ในเวลานี้ซอยค่อนข้างมืด ต้องขับลึกเข้าไปจนถึงย่านที่อยู่อาศัยถึงจะมีแสงไฟที่สว่างไสว

“เลี้ยวขวาสุดทางแล้วปิดไฟ”

“ครับ!”

หลังจากขับรถไปทางขวา เยี่ยลู่เฉิงก็ปิดไฟหน้ารถทันทีก่อนจะขับต่อไปอีกหลายสิบเมตรในสภาพมืด ๆ จากนั้นก็หยุดตามสัญญาณของโจวอี้

“รอผมที่นี่ ถ้าผมไม่กลับมาภายในครึ่งชั่วโมง คุณก็ขับรถออกไปได้เลย”

หลังจากพูดจบ โจวอี้ก็ผลักประตูเปิดออกและหายเข้าไปในตรอกสลัวนั้นอย่างรวดเร็ว

ห่างออกไปหนึ่งร้อยเมตร

ภายในลานบ้านที่มีแสงไฟสลัว ๆ สาดส่อง

ชายวัยกลางคนรูปร่างกำยำสองคนกำลังสูบบุหรี่และพูดคุยกันด้วยเสียงต่ำ

ส่วนที่ทางเข้าบ้านหลัก หญิงวัยกลางคนกำลังยืนพิงเสาประตู สายตากวาดมองชายร่างกำยำสองคนนั้นตลอดเวลา

เธอกำลังรอข่าว …รอฟังข่าวจากใครบางคน

ตามที่กั๋วฉินเซิงลุงของเธอบอกมา เธอรู้ว่าหนึ่งในสองคนที่ถูกส่งออกไปตามโจวอี้นั้นถูกฆ่าตายไปแล้ว และขณะนี้เธอกำลังเฝ้ารอข่าวจากอีกคน

ฟิ้ว~

ทันใดนั้น ร่างของใครบางคนก็ที่เคลื่อนอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า ก่อนจะพุ่งลงมาจากกำแพงฝั่งตะวันออก

เธอเฝ้าดูเหตุการณ์โดยไม่อาจทำอะไรได้ ขณะเห็นว่าผู้ฝึกยุทธ์สองคนของลุงเธอที่อยู่ในลานบ้านถูกแทงทะลุคอด้วยมีดก่อนจะถูกเตะเข้าที่หน้าผาก

ในเวลาเพียงสองหรือสามลมหายใจ ผู้ฝึกยุทธ์สองคนก็เสียชีวิตง่าย ๆ ในมือของอีกฝ่าย

เธอเห็นชัดเจนแล้วว่าอีกฝ่ายเป็นใคร

เขาเป็นหนุ่มหล่อ รูปร่างสูง ผิวขาว สวมชุดลำลอง และปลายมีดในมือของเขายังมีเลือดหยดลงมาอยู่

“ลุง เรามีแขก!” กั๋วเสี่ยวลี่ตะโกนเข้าไปในห้อง

ครู่ต่อมา กั๋วฉินเซิงก็เดินออกมาด้วยเสื้อผ้าที่ไม่เป็นระเบียบ สีหน้าชราของเขาเต็มไปด้วยความเศร้าโศก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาเห็นว่าคนสนิทของเขาสองคนถูกฆ่าตาย ใบหน้าของเขาก็ถึงกับมืดครึ้มลง

“เป็นแกเองงั้นเหรอ? แกรู้ได้ยังไงว่าเป็นที่นี่?” กั๋วฉินเซิงถามอย่างเย็นชา

“คุณนี่มันโง่อย่างที่ผมบอกจริง ๆ จำไม่ได้เหรอว่าผมบอกไปทางโทรศัพท์แล้วว่าผมเป็นคนของคณะกรรมการกำกับดูแลเถิงหลง! ดังนั้นการหาที่อยู่ของคุณมันจะไปยากอะไร?” โจวอี้เช็ดเลือดออกจากมีดขณะถามด้วยรอยยิ้มเย้าแหย่

ใบหน้าของกั๋วฉินเซิงถึงกับซีดลง

เขามองไปรอบ ๆ และเมื่อไม่พบใครอื่น หัวใจที่หนักอึ้งของเขาจึงผ่อนคลายลงได้เล็กน้อย

“แกมาที่นี่เพื่อตายสินะ” กั๋วฉินเซิงหัวเราะเยาะ

“ยังกล้าขู่โง่ ๆ แบบนี้อีกเหรอ?” โจวอี้หัวเราะเยาะ

กั๋วฉินเซิงหัวเราะเยาะกลับไป ก่อนจะยกแขนขึ้นแล้วตะโกนว่า “ฆ่าเขาซะ!!”

ฟุบ!

ทันใดนั้นร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าโจวอี้

กั๋วเสี่ยวลี่!

เธอรวดเร็วมาก เกือบจะพริบตาเดียว เธอก็สามารถแทงมีดเข้าใส่โจวอี้ พร้อมกับดีดลูกแก้วใสออกจากนิ้วมืออีกข้างเล็งไปยังท้องของโจวอี้

ความเจ็บปวดนี้ทำให้สีหน้าโจวอี้ถึงกับบิดเบี้ยว

แต่เขาไม่ได้ลุกลี้ลุกลนเลยสักนิด เพราะเข็มเงินได้พุ่งออกจากมือซ้ายของเขาแล้ว และมันแทงเข้าที่ข้อมือข้างที่ถือมีดของกั๋วเสี่ยวลี่อย่างแม่นยำ

ปลายมีดถูกหยุดได้ทันเวลา มันอยู่ห่างจากปลายจมูกของโจวอี้แค่เพียงหนึ่งนิ้ว!

เกิดอะไรขึ้น?

สีหน้าของกั๋วเสี่ยวลี่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน มือของเธอข้างที่ถือมีดกลับไร้เรี่ยวแรงจนทำให้เธอไม่สามารถถือมีดได้อีกต่อไป

เมื่อเป็นเช่นนี้… เธอก็ต้องการถอยหนีทันที

ทว่าโจวอี้รีบกระโจนเข้าไปจัดการกับกั๋วเสี่ยวลี่ ราวกับงูเหลือมที่พยายามรัดเหยื่อ ก่อนที่เขาจะแทงเธอที่ซี่โครงส่วนล่างและเอวด้วยมีด

กั๋วฉินเซิงหรี่ตามองภาพตรงหน้าด้วยความเหลือเชื่อ

กั๋วเสี่ยวลี่คือผู้ฝึกยุทธ์ระดับกึ่งปรมาจารย์ เธอเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่แข็งแกร่งที่ของเขา ต่อให้เขาเป็นผู้ลงมือเอง เขาก็ไม่สามารถทำร้ายกั๋วเสี่ยวลี่ได้ในระยะเวลาอันสั้นแบบนี้

แต่ตอนนี้ไอ้สารเลวแซ่โจวกลับทำได้สำเร็จ

“ตาย!!” กั๋วฉินเซิงชักไม้เท้าออกมาในทันที และด้วยการโคจรของพลังปราณอย่างบ้าคลั่ง ไม้เท้านั้นก็ส่องแสง และชั้นเงาของดาบก็สะบัดกวาดไปทางโจวอี้

“เป็นกึ่งปรมาจารย์อีกคนหนึ่ง?”

โจวอี้ไม่มีความกลัวแม้แต่น้อย เขาแผ่กลิ่นอายสังหารออกมารุนแรงยิ่งกว่าเดิม และเข็มเงินที่เร็วพอ ๆ กับสายฟ้าก็พุ่งไปต้านรับชั้นเงาดาบนั้น

ขณะเดียวกัน มีดสั้นในมือของโจวอี้ก็แหวกฝ่าชั้นเงาของดาบที่กั๋วฉินเซิงปลดปล่อยออกมาจนเกิดเป็นช่องโหว่ และปลายมีดนั้นก็พุ่งไปที่ดวงตาของกั๋วฉินเซิงทันที

หัวใจของกั๋วฉินเซิงเย็นวาบ

เขาเห็นละอองเลือดที่สาดกระจายออกจากบาดแผลที่ไหล่ของโจวอี้ ซึ่งมันเกิดจากชั้นเงาดาบของเขา แต่อีกฝ่ายดูเหมือนจะไม่ใส่ใจและพุ่งเข้ามาหาเขาอย่างบ้าคลั่งราวกับยอมแลกชีวิต

แน่นอนว่าเขาเองก็ไม่ยินยอม

เขาไม่ต้องการแลกชีวิตกับโจวอี้ ร่างกายของเขาเอนหลบทันที แต่ขาท่อนล่างของเขากลับได้รับบาดเจ็บสาหัสจากคมมีดของโจวอี้เสียแล้ว

โจวอี้ใช้ทั้งมือและเท้าในการต่อสู้ มันเหมือนกับการต่อสู้ที่สิ้นหวังของสัตว์ป่า

“เสยนภา!” โจวอี้เตะไปที่ขาของกั๋วฉินเซิง

ทันใดนั้น ร่างกายของเขาก็บิดหันไปอีกทางเพื่อเขวี้ยงมีดใส่กั๋วเสี่ยวลี่ที่กำลังกระโจนเข้ามาหาเขาอีกรอบ จากนั้นขาของเขาก็หมุนคว้างเป็นเกลียวขึ้นไปกลางอากาศ และเมื่อส้นเท้าของเขาอยู่ที่ใต้คางของกั๋วฉินเซิง โจวอี้ก็ใช้มือยันพื้นอย่างแรงเพื่อสปริงตัวถีบเสยคางกั๋วฉินเซิงอย่างแรง

“ระยะเอ๊ย!” กั๋วเสี่ยวลี่กรีดร้องด้วยความโกรธ และใช้มีดของตัวเองปัดมีดที่โจวอี้เขวี้ยงมา ก่อนจะกระโจนเข้าใส่โจวอี้อีกรอบและเตรียมจะแทงเขาที่หลังศีรษะ

“เฮ้…” โจวอี้ดูเหมือนจะมีตาหลัง หรือไม่ก็เขาได้คาดเดาไว้แล้ว

เขาพลิกตัวหลบและใช้หัวกระแทกหน้าอกของกั๋วเสี่ยวลี่ ก่อนจะพลิกตัวลอดใต้แขนของกั๋วเสี่ยวลี่และปรากฏตัวขึ้นข้างหลังเธอ

เข็มเงินแทงทะลุหัวใจจากด้านหลังของกั๋วเสี่ยวลี่!

มือใหญ่ของโจวอี้ที่เหมือนก้ามปูคู่หนึ่งได้คว้าหลังคอของกั๋วเสี่ยวลี่ไว้

ในเวลานี้ แทนที่จะรีบเร่งเพื่อช่วยชีวิตผู้คน กั๋วฉินเซิงกลับเขวี้ยงอาวุธลับมากกว่าหนึ่งโหลออกมาแล้ววิ่งไปที่กำแพงฝั่งตะวันตก

ภายในชั่วพริบตา ชายชราก็ปีนข้ามกำแพงออกไปและหายลับไปในบ้านหลังข้าง ๆ

ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว

ลูกศรดอกบ๊วยถูกปาออกมารัว ๆ จนดูเหมือนตาข่ายทอห่อหุ้มท้องฟ้า

กั๋วเสี่ยวลี่ไม่อยากจะเชื่อกับภาพที่เห็น

เธอเห็นกั๋วฉินเซิงที่กำลังหลบหนี เวลานี้หัวใจของเธอเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

เธอรู้ว่าเธอถูกทิ้ง

ไม่เพียงแต่ถูกทอดทิ้งเท่านั้น แต่ลูกศรดอกบ๊วยยังกลายเป็นเหมือนตปูตอกฝาโลงของเธอเอาไว้ แม้พวกมันไม่อาจฆ่าโจวอี้ได้ แต่แน่นอนว่าพวกมันถ่วงเวลาโจวอี้ได้แน่ ซึ่งมันจะทำให้กั๋วฉินเซิงมีโอกาสหลบหนีได้สำเร็จ

“ไอ้แก่นั่นมันโหดร้ายจริง ๆ!”

โจวอี้ไม่คิดเลยว่ากั๋วฉินเซิงจะโจมตีด้วยอาวุธลับโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของกั๋วเสี่ยวลี่เลยสักนิด

เขาบีบหลังคอของกั๋วเสี่ยวลี่และเตะส่งตัวเธอออกไปเพื่อสกัดกั้นลูกศรดอกบ๊วย

จากนั้นเพื่อให้แน่ใจ เขาก็ตามไปเชือดคอของกั๋วเสี่ยวลี่ ก่อนจะทิ้งร่างของเธอไว้ข้างหลัง และไล่ตามออกไปนอกกำแพงลานฝั่งตะวันตก