“หลิวตงรุ่ยเอาสร้อยคอของฉันไปเส้นหนึ่ง ฉันไม่อยากจะเจอหน้าของเขา ฉันหวังว่าคุณจะช่วยฉันเอามันกลับมา”
ตอนที่พูดประโยคนี้ออกมา นัยต์ตาของเฉินฮวนฮวนดูมืดมนมาก หล่อนไม่อยากจะพูดถึงผู้ชายคนนั้น ผู้ชายที่ชื่อว่าหลิวตงรุ่ย
แต่ว่า เธอจำเป็นต้องพูดถึงเขาจริงๆ
ของสิ่งนั้นเป็นของที่ระลึกจากคุณแม่ เป็นของเพียงสิ่งเดียวที่คุณแม่เหลือไว้ให้กับเธอ เธอจำเป็นต้องเอามันกลับมาให้ได้
“เอาสร้อยคอของเธอไปเนี่ยนะ”เมื่อเฟิงหานชวนได้ยินคำพูดของ
เฉินฮวนฮวน ขมวดคิ้วอย่างอารมณ์ไม่ดี ระหว่างคิ้วเผยให้เห็นถึงความสงสัย
“ใช่ๆ ฉันไม่มีคำขอร้องอะไรอีกแล้ว นอกจากหวังว่าคุณจะช่วยเอาสร้อยคอของฉันกลับมาคืนให้ฉัน”เฉินฮวนฮวนยกสายตาขึ้นมาจ้อง
เฟิงหานชวน แล้วพูดอย่างเอาจริงเอาจัง
นัยต์ตาที่สดใสคู่นั้น บอกกับความชุ่มชื่น และเบ้าตาที่แดงก่ำเล็กน้อย
ดูเธอแล้วเหมือนกับกำลังลำบากใจ และน่าสงสารมากด้วย แต่ว่าแฝงด้วยความมุ่งมั่นที่แรงกล้า
ในหัวของเฟิงหานชวนกลับเหมือนบ่อน้ำที่ขุ่นมัว มองอะไรไม่เห็น และรู้สึกว่าเกิดความสงสัยมากขึ้นเรื่อยๆเกี่ยวกับเรื่องของเฉินฮวนฮวนกับหลิวตงรุ่ย
“ทำไมเธอไม่ไปถามเขาด้วยตัวเองล่ะ”เฟิงหานชวนไต่ถามต่อ
เขาต้องการทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องของเธอ ต้องการรู้เรื่องทุกอย่างเกี่ยนกับเธอ
“ฉันไม่อยากจะเจอเขา เพราะว่ามันไม่ได้เป็นความยินยอมของฉัน และที่เขาเอาสร้อยคอของฉันไว้ก็เพื่อจะบีบคั้นฉันให้ไปหาเขา ฉันถึงได้ต้องการคนช่วยไง” เฉินฮวนฮวนพยายามกั้นน้ำตาไว้ เสียงก็เริ่มหวั่นไหว ทั้งตัวก็ค่อยๆสั่นไปด้วย
ความรู้สึกที่กำลังตกใจกลัวของเธอนั้นไม่ได้เป็นการแกล้ง แต่เป็นความกลัวที่ธรรมชาติจริงๆ
ในใจลึกๆของเฟิงหานชวนได้รับการสัมผัสอย่างไม่รู้สึกตัว เขาเหมือนกับว่า ตอนนี้ถึงได้รู้ว่าเขาเข้าใจเฉินฮวนฮวนผิด
หล่อนไม่ได้เป็นผู้หญิงที่เที่ยวเตร่ไปมั่วซั่ว แต่ว่าถูกหลิวตงรุ่ยบีบคั้น ฉะนั้นเรื่องต่างๆที่ผ่านมา รวมทั้งที่หล่อนเคยบอกว่าเคยแค่ครั้งเดียว ก็เพราะถูกหลิวตงรุ่ยทำร้ายนี่เอง
เขาเริ่มรู้สึกเห็นใจขึ้นมาบ้างแล้ว
“ได้ พรุ่งนี้ฉันจะไปเอาสร้อยคอกลับมา” เฟิงหานชวนรับปากทันที ด้วยน้ำเสียงจริงจัง
เฉินฮวนฮวนเงยหน้าขึ้นมาด้วยความตกตะลึง บนใบหน้าเผยให้เห็นถึงความดีใจ ด้วยความดีใจสุดขีดเธอจับแขนของเขาอย่างรวดเร็ว แล้วพูดด้วยความดีใจว่า “จริงๆนะ”
“ฉันเคยโกหกไหมล่ะ รับมือกับหลิวตงรุ่ย เป็นเรื่องจิ๊บจ๊อย”เฟิงหานชวนกัดริมฝีปาก สายตาทั้งสองข้างก็จ้องไปยังผู้หญิงข้างหน้า
เฉินฮวนฮวนรู้สึกว่าหัวใจเต็นเร็วมาก จริงๆเมื่อก่อนเธอรู้สึกรำคาญเฟิงหานชวนไม่น้อยเลย ต่อมารู้ว่าเขาคอยดูแลตัวเอง ทำให้ท่าทีที่มีต่อเขาได้เปลี่ยนไป
และในตอนนี้ น้ำเสียงที่จริงจังของผู้ชายทำให้ ในใจของเธอเกิดความรู้สึกปลอดภัย
เห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความสุขของผู้หญิง ทำให้เฟิงหานชวนอดไม่ได้ที่จะมีความคิดที่ชั่วร้าย น้ำเสียงที่เจือนๆของเขามีความคิดแง่ลบซ่อนอยู่ “ยังมีเวลาอีกประมาณครึ่งชั่วโมง เธอลองคิดดูดีๆนะว่า จะขอบคุณฉันยังไง”
จะขอบคุณเขายังไงหรอ ยังมีเวลาอีกครึ่งชั่วโมงหรอ
ถ้ารถไม่ติดแล้วก็ขับรถได้เร็ว ทางจากที่นี้ถึงบ้านตระกูลเฟิงก็ประมาณครึ่งชั่วโมง
ความหมายของเฟิงหานชวนคือว่า……
เฉินฮวนฮวนรู้สึกอุดอู้ขึ้นมาทันที ตอบเบาๆคำหนึ่งว่า ” อืม”
ได้ยินเสียงพูดที่เบาเหมือนกับเสียงยุงบินของผู้หญิง เฟิงหานชวนรู้สึกอารมณ์ดีมาก รีบสตาร์ทรถแล้วก็ขับออกไปอย่างรวดเร็ว
รอพวกเขาขับรถออกไปแล้ว มีรถสปอร์ตสีแดงคันหนึ่งขับออกมาจากมุมมุมหนึ่ง
เยี่ยจิ่งเฉินคอยจับตามองไปตามทางที่พวกเขาไป มองเป็นเวลานานมากและบนใบหน้าก็เต็มไปด้วยความตกตะลึง
เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วเปิดดูรูปภาพที่เพิ่งถ่ายได้เมื่อกี้
ในภาพเป็นภาพของเฟิงหานชวนกับเฉินฮวนฮวนที่อยู่ข้างในรถ มีความใกล้ชิดสนิทสนม การจูบกันด้วยความเร่าร้อนเป็นเวลานาน ท่าทางที่น่าสงสารของเฉินฮวนฮวน กับความเสน่ห์หาที่หาที่เปรียบไม่ได้ของเธอ
แต่แววตาของเฟิงหานชวนที่มองเฉินฮวนฮวน เป็นความหึงหวงที่รุนแรงมากสายหนึ่ง เหมือนกับว่าอยากจะกลืนกินเฉินฮวนฮวน
เยี่ยจิ่งเฉินตกใจจนกระทั่งมือที่ถือโทรศัพท์ก็สั่นเล็กน้อย
หลังจากที่เขาออกมาจากร้านชานมก็รู้สึกว่ามีเรื่องอะไรไม่ปกติ เฟิงหานชวนเป็นถึงลุงของเฟิงเฉินเหยี่ยน ทำไมถึงมารับเฉินฮวนฮวนด้วยตัวคนเดียวล่ะ
เยี่ยจิ่งเฉินเลยขับรถไปจอดไว้ในมุมมุมหนึ่งที่ลับตา แต่ว่าเส้นสายตาสามารถมองเห็นทางด้านร้านชานม เขารอเป็นเวลานานมาก แต่เฟิงหานชวนก็ไม่ยอมออกมา
เขายังเห็นว่าเฟิงหานชวนนั่งอยู่ข้างๆหน้าต่าง และก็ไม่ได้สั่งชานม เหมือนกับว่ากำลังรอคน เหมือนกับว่ากำลังรอเฉินฮวนฮวน
ตามที่คาดการณ์ไว้ เขานั่งรอในรถด้วยความอดทน จนกระทั่งเห็นพวกเขาออกมาด้วยกัน แล้วก็ขึ้นรถยนต์สีดำที่จอดไว้ข้างหน้าไปด้วยกัน
ตอนนั้น เขาคิดว่าเฟิงหานชวนน่าจะมารับเฉินฮวนฮวนกลับไปเฉยๆ แต่คิดไม่ถึงว่าเรื่องที่เกิดขึ้นต่อจากนั้น จะทำให้เขาตกตะลึงโดยทันที
เฟิงหานชวนไม่ได้เป็นอาสามของเฟิงเฉินเหยี่ยนหรอ และเฉินฮวนฮวนไม่ได้เป็นภรรยาของเฟิงเฉินเหยี่ยนหรอ
ถ้าอย่างนั้น พวกเขาสองคนก็ต้องเป็นการแอบรักกันละสิ
และยังเป็นการแอบรักที่มันชุลมุนวุ่นวายด้วย
สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือว่า เฟิงหานชวนรอเฉินฮวนฮวนจนดึกถึง
ปานนี้ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาสองคนต้องไปทำอะไรที่มันอธิบายไม่ได้ต่อจากนี้แน่ๆ
เยี่ยจิ่งเฉินเองก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน เขาเข้าใจขั้นตอนอะไรพวกนี้ดี
แต่ว่าเขาคิดไม่ถึงว่า ผู้หญิงที่เป็นรักแรกของเขา ผู้หญิงที่เขาเคยชอบ จะกลายเป็นผู้หญิงของคุณชายสามตระกูลเฟิง
และพวกเขาสองคนยังเป็นความสัมพันธ์อะไรที่มันไม่ได้เป็นไปตามจารีตประเพณีด้วย
……
ตลอดทางเฟิงหานชวนขับรถเร็วมาก เหมือนกับว่าจะรีบร้อนเป็นพิเศษ
เฉินฮวนฮวนก้มหน้าอย่างเดียว จากความเร็วของรถเธอก็รู้สึกได้ถึงความรีบร้อนของเฟิงหานชวน
ตลอดทางเธอไม่กล้าปริปากพูดเลยสักคำ
ตอนนี้เธอไม่มีสิทธิ์อะไรจะไปปฏิเสธเฟิงหานชวน ยิ่งกว่านั้นคือว่าเฟิงหานชวนรับปากว่าจะช่วยเธอเอาสร้อยคอกลับมาแล้ว ดังนั้นเฟิงหานชวนอยากให้เธอทำอะไร เธอก็ต้องทำสิ่งนั้น
“เอี๊ยด——”
รถหยุดกะทันหัน
เฉินฮวนฮวนคิดว่าถึงบ้านตระกูลเฟิงแล้ว หันหน้าเพื่อจะดู แต่กลับเห็นว่าที่นี่มันไม่ใช่บ้านตระกูลเฟิง แต่เป็นทางข้างๆร้านแถวหนึ่ง
“ฉันขอไปซื้อของหน่อย”เฟิงหานชวนเปิดประตูลงจากรถไป
แล้วเธอก็เห็นว่าเฟิงหานชวนเดินเข้าไปร้านขายยาด้วยฝีก้าวที่ยาว
เฉินฮวนฮวนรู้สึกงุนงง เฟิงหานชวนเข้าไปซื้อยา เขาป่วยหรอ
แต่ว่า ดูเขาอารมณ์ดีจะตายไป อีกอย่างทั้งหัวก็เต็มไปด้วยเรื่องพวกนั้น ไม่เห็นจะเหมือนคนป่วยเลยสักนิด
รอจนกระทั่งเฟิงหานชวนเดินออกมาจากร้านขายยา มือของเขาหิ้วถุงสีขาวใบหนึ่ง แต่เป็นถุงสีขาวขุ่น ดังนั้นเฉินฮวนฮวนจึงมองไม่เห็นของที่อยู่ข้างใน
เมื่อเฟิงหานชวนเข้ามาในรถ เขาก็โยนถุงลงข้างๆของเฉินฮวนฮวน
เฉินฮวนฮวนเหลือบตาเข้าไปข้างในด้วยความสงสัย ชั่วนาทีนั้นก็อึ้งไปทีหนึ่ง
มันเป็น…..
“ทำไม ตกใจมากหรอ” เห็นท่าทางที่ตกใจแทบฉี่ราดของเฉินฮวนฮวน เฟิงหานชวนรู้สึกว่าเป็นเรื่องน่าขำ
ผู้หญิงคนนี้ ท่าทางซื่อบื้ออย่างนี้ เขาก็ยังรู้สึกว่าน่ารักดี
“ไม่ ไม่หรอก”เฉินฮวนฮวนรีบมัดปากถุงไว้ แล้วก็ก้มหน้าลงไปเหมือนเดิม ไม่กล้าสบตากับผู้ชาย
“กินยาไม่ดีต่อสุขภาพ เธอยังเด็กอยู่ และฉันก็ยังไม่อยากเป็นพ่อคนด้วย”เฟิงหานชวนพูดอย่างมีเหตุผล จากนั้นก็สตาร์ทรถ
กินยา……
เฉินฮวนฮวนร้องตะโกนออกมาคำหนึ่ง ทั้งตัวมึนงงไปหมด
หล่อน หลังจากที่หล่อนถูกหลิวตงรุ่ยขืนใจ แล้วก็ได้ข่าวการจากไปของคุณยาย จึงรีบไปโรงพยาบาล
เพราะว่าช่วงหลายวันนั้นกดดันเธอมาก ทำให้เธอลืมกินยา ถ้าอย่างนั้นเธอจะตั้งท้องหรือเปล่า
“เธออยากอุ้มท้องลูกของฉันหรอ”คิ้วของเฟิงหานชวนกระตุกทีหนึ่ง ทำเอาเฉินฮวนฮวนประหลาดใจอย่างนี้ รู้สึกสับสนเล็กน้อย