มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง บทที่ 196 ประมือ

เมื่อไวเปอร์ปรากฏตัวบนสังเวียน เสียงของผู้ชมทั่วทั้งสนาม ก็เดือดพล่านถึงขีดสุด

งูไวเปอร์!

นี่คือราชามวย แห่งสังเวียนมวยใต้ดิน!

กว่าร้อยเกม เขาไม่เคยแพ้แม้แต่นัดเดียว แม้แต่เตาจั๋วที่โกรธเกรี้ยวเหมือนพยัคฆ์เมื่อวาน ก็ถูกจู่โจมจนพ่ายแพ้ ท่ามกลางการเดิมพันแพ้ชนะ บนสังเวียน แต่งูไวเปอร์ไม่เคยแพ้มาก่อน การเดิมพันของเขา คือการทำให้คู่ต่อสู้แพ้ภายในไม่กี่นาที

การที่งูไวเปอร์จะแพ้ได้ ในสายตาของพวกเขา แทบจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย

“ในที่สุดงูไวเปอร์ก็ปรากฏตัวขึ้น!”

“พระเจ้าช่วย เห็นเขาติดต่อกันสองวัน ฉันโชคดีเกินไปแล้ว?”

“งูไวเปอร์ปรากฏตัวขึ้นมาแล้ว ไอ้หนุ่มคนนี้จองหองเกินไป พวกนายว่า เขาจะทนงูไวเปอร์ได้สักกี่หมัดกันเชียว?หรือเขาจะถูกหามลงจากสังเวียนรึเปล่า?”

“ยังไม่แน่หรอกว่ากี่หมัด เพราะไอ้หนุ่มนี่มันยังพอมีความสามารถอยู่ แต่ว่านะ วันนี้จุดจบของเขา จะต้องอนาถมากแน่ๆ”

“คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะได้เห็นอะไรสนุกๆแบบนี้ คุ้มจริง ฉันจะรวยแล้วเว้ย!”

ผู้ชมที่อยู่ในสนามมวยเต็มไปด้วยความตื่นเต้นเร้าใจ มีคนไม่น้อยพากันวางเดิมพัน กับเกมในนัดนี้

เวลาเดิมพันแบ่งเป็นหนึ่งนาที สามนาที และห้านาที เพื่อเป็นการวางเดิมพันว่าเวลาในการจัดการคู่ต่อสู้ของงูไวเปอร์ และแต่ละเวลาก็มี อัตราส่วนในการวางเดิมพันที่ต่างกันไป

ผู้ชมจำนวนนับไม่ถ้วน ต่างพากันวางเดิมพันหนึ่งนาทีและสามนาทีขึ้นไป

“ท่านหลง จะเล่นดูสักตาไหมครับ?”

เจ้ามือเห็นท่านหลงเดินมา จึงพูดเชื้อเชิญอย่างนอบน้อม

ถึงแม้ว่า ที่นี่จะเป็นถิ่นของไป๋เมี่ยนเซียวแต่ตำแหน่งของจางเสวียนหลง ก็ควรค่าแก่การเรียกว่าท่านหลง

“หนึ่งนาที”จางเสวียนหลงโยนแผ่นป้ายตัวเลือกลงไป“หนึ่งร้อยล้าน”

“นี่……”

เจ้ามือตกตะลึง ต้องรู้ว่า นักมวยรายนี้เป็นผู้นี้ท่านหลงหามา แต่เขาวางเดิมพันขนาดนี้ หรือจางเสวียนหลงจะรู้เหมือนกันว่า มู่เซิ่งไม่ใช่คู่ต่อสู้ของงูไวเปอร์ด้วยซ้ำ?

“หนึ่งร้อยล้าน ฉันขอเดิมพันว่างูไวเปอร์ จะถูกโยนลงจากสังเวียนภายในหนึ่งนาที”ท่านหลงกล่าวอย่างเรียบเฉย แล้วหันหลังเดินจากไป

ตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่มีการลังเลแม้แต่น้อย นี่มันเป็นความเชื่อมั่นของเขาที่มีต่อมู่เซิ่ง!

“ดะ……เดิมพันว่างูไวเปอร์จะแพ้?”

เมื่อได้ยินประโยคนี้ ทุกคนที่อยู่รอบ ๆ รวมถึงเจ้ามือก็ตกตะลึงทันที

นี่เป็นครั้งแรก ที่มีคนวางเดิมพันว่างูไวเปอร์จะแพ้!

แต่แล้ว เมื่อเป็นคำพูดที่ออกมาจากท่านหลง แน่นอนว่าเจ้ามือไม่กล้าพูดอะไร รีบวางเดิมพันให้ทันที แต่ภายในใจมีความวิตกกังวลเล็กน้อย นี่มันหนึ่งร้อยล้านเชียวนะ อีกทั้งอัตราการเดิมพันเช่นนี้ ถ้าเกิดว่าแพ้ขึ้นมา กำไรของพวกเขาทั้งปีต้องจ่ายไปหมดแน่

แต่วิธีคิดแบบนี้ ก็หายวับไปทันตา เพราะในสายตาของของเจ้ามือ งูไวเปอร์ไม่มีทางแพ้

บนสังเวียน งูไวเปอร์ได้ทุ่มกรรมการลงพื้น แล้วพูดกับมู่เซิ่งว่า“คุณเป็นคู่ท้าชิงของผมใช่ไหม?ถ้ามึงแพ้แล้ว ตะโกนเสียงดังหน่อยนะ กูชอบเห็นเศษสวะอย่างพวกมุงดิ้นทุรนทุรายก่อนตาย”

“วางใจเถอะ กูไม่ยอมแพ้หรอกเว้ย เมื่อวานมึงทำร้ายลูกน้องกู วันนี้กูจะให้มึงชดใช้”มู่เซิ่งพูดอย่างเรียบเฉย

“ฮ่าๆ ไอ้เศษสวะเมื่อวานเป็นลูกน้องแกงั้นหรอ?น่าเสียดาย มันสู้ฉันไม่ได้ สุดท้ายก็ถูกฉันเด็ดแขนเด็ดขาออกทีละข้าง เจ็บปวดแบบตายทั้งเป็น!”งูไวเปอร์แลบลิ้นสีแดงฉาน เลียริมฝีปาก

มู่เซิ่งหรี่ตาลงเล็กน้อย สายตาอาฆาตอำมหิต แพร่ส่านออกมาจากร่างกาย

“เริ่มได้รึยัง?”มู่เซิ่งหันกลับมา ถามอย่างเย็นชา

“ระ……รอเดี๋ยวก่อน”กรรมการรีบวิ่งลงจากสังเวียน หลังจากเดิมลงสังเวียน แล้วถึงเริ่มตะโกน“เริ่มได้!”

เมื่อสิ้นเสียง

งูไวเปอร์พุ่งเข้าหามู่เซิ่งอย่างฉับพลัน ด้วยร่างที่สูงเกือบสองเมตร ราวกับเนินเขา เหยียบไปที่สังเวียน จนพื้นสั่นไหว

ผู้ชมบนที่นั่งต่างพากันกลั้นหายใจ

จางเสวียนหลงกับเตาจั๋วรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เพราะพวกเขาดูออก งูไวเปอร์อยู่ในสภาพ หลังจากที่ได้ฉีดยาเพิ่มพละกำลังก่อนขึ้นสังเวียน!เขาคิดจะบดขยี้มู่เซิ่งภายในครั้งเดียว ไม่ให้โอกาสเขาได้ต่อต้านแม้แต่น้อย

“เจ้านาย สู้เขา!”เตาจั๋วกำหมัดแน่น และเขาไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่เกิดจากแรงนั้น

ปึ้ง!

สองหมัดนั้น ปะทะกันกลางอากาศ

มือขวาของมู่เซิ่งสั่นสะท้าน และเมื่อพลังอันน่าสะพรึงกลัวปะทะเข้ามา ใบหน้าของเขาดูประหลาดใจเขาก้าวถอยหลังไปหลายก้าว แล้วก้าวลงที่พื้นอย่างกะทันหัน จากนั้นเรี่ยวแรงของกำปั้นก็ค่อยๆหมดลง

สีหน้าของงูไวเปอร์ประหลาดใจเล็กน้อย ไม่มีใครที่สามารถสู้กับเขาได้ หลังจากที่เขาฉีดยา ลำพังแค่หมัดเดียว ก็เพียงพอจะโค่นต้นไม้ที่ทั้งหนาและใหญ่ได้แล้ว!

ด้านล่างสังเวียน มีนักมวยจำนวนไม่น้อยเดินตามงูไวเปอร์ออกมา และนั่งลงเพื่อรอชมความสนุก หลังจากที่ที่เห็นฉากนี้ ทุกคนก็ถึงกับเบิกตากว้าง

พวกเขาเคยประมือกับงูไวเปอร์มาก่อน ถึงรู้ว่างูไวเปอร์น่ากลัวขนาดไหน

“ไอ้หมอนี่ มันเป็นคู่ต่อสู้ของงูไวเปอร์ได้หรอเนี่ย?”

“อีกทั้ง ยังเป็นงูไวเปอร์ในสภาพที่พลังจู่โจมร้ายแรง เขาไม่ใช่คน!”

“พลังนี้ มันน่ากลัวเกินไปแล้ว?”

“แต่เห็นท่าทางเขาเอาแต่ถอยหลังนี่นา ต้องสู้งูไวเปอร์ไม่ได้แน่ ถึงจะสามารถรับหมัดได้ไม่กี่หมัดก็เถอะ สุดท้าย ก็ต้องแพ้อยู่ดี”

แต่ว่า สามารถทำถึงขั้นนี้ได้ ความสามารถของมู่เซิ่ง ได้รับการยอมรับจากนักมวยทุกคนแล้ว

บนสังเวียน งูไวเปอร์เลียริมฝีปากของเบาๆ ดวงตาแดงก่ำจดจ่อไปที่บนตัวของมู่เซิ่ง กระโดดถอยหลังไปหนึ่งก้าว ต่อมา หมัดของเขาก็รุนแรงดั่งพายุ ที่โหมกระหน่ำดุห่าฝน ก็ตกอยู่บนร่างของมู่เซิ่ง

ทุกครั้งที่มู่เซิ่งหาโอกาสได้ งูไวเปอร์ก็เหมือนกับไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดยังไงอย่างงั้น ปล่อยให้มู่เซิ่งรัวหมัดใส่ร่างของตัวเอง และเขาก็ทำได้แค่เหวียงหมัดใส่มู่เซิ่ง ด้วยความเร็วที่เหนือกว่า

หมัดที่ดุดันเช่นนี้ มู่เซิ่งไม่กล้าเผชิญหน้า ทำได้แค่ถอยหลังออกไป เพื่อต่อต้านอย่างสุดชีวิต

ขณะที่ประมือกันอยู่นั้น มู่เซิ่งตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก

“แม่ง พลังของงูไวเปอร์น่ากลัวเกินไปแล้ว!”จางเสวียนหลงรู้สึกอกสั่นขวัญแขวน

“นอกจากพละกำลังแล้ว ผลลัพธ์ของยาชนิดนี้ ยังทำให้ลืมความเจ็บปวดด้วย!ดังนั้นงูไวเปอร์ถึงได้จู่โจมตามอำเภอใจอย่างไร้ความเกรงกลัวใดๆทั้งสิ้น จู่โจมอย่างเดียวไม่ป้องกัน”เตาจั๋วกล่าว

เขาในตอนนั้น เป็นได้แค่ฝ่ายป้องกัน สุดท้ายพละกำลังก็ค่อยๆหมดลง พ่ายแพ้ในที่สุด

“ถ้าไม่ไหวจริงๆ เราออกโรงขวางไว้ดีกว่า ถึงจะต้องผิดใจกับไป๋เมี่ยนเซียวก็ไม่เป็นไร เราจะปล่อยให้มู่เซิ่งบาดเจ็บไม่ได้!”จางเสวียนหลงกล่าว กระทั่งให้ลูกน้องเตรียมตัวรอที่หน้าประตู เพื่อรุดเข้ามาในนี้

“อย่าใจร้อนไป ผมว่าพี่มู่ไม่แพ้หรอกครับ”เตาจั๋วพูดแล้วส่ายหัวไปมา

คนนอกดูวิธีการต่อสู้ คนในดูเพื่อความสนุก ในบรรดานักสู้ทั้งหมดในสนาม มีเพียงเตาจั๋วเท่านั้นที่เห็นทุกอย่างชัดเจนที่สุด สถานการณ์ของมู่เซิ่งในตอนนี้ ถึงแม้จะตกเป็นเบี้ยล่าง แต่การประมือกับคู่ต่อสู้ ล้วนไปตามจังหวะของมู่เซิ่ง

ดังนั้น ถ้าพูดถึงแพ้ชนะ ยังคงไม่แน่นอน!

“ถูกฉันต่อยไปเยอะขนาดนั้น ยังสามารถยืนอยู่ได้ ไม่เลวเลยหนิ”งูไวเปอร์มองไปที่มู่เซิ่งด้วยใบหน้ายิ้มอย่างน่ากลัว ภายใต้การโจมตีแบบนี้ ถ้าเป็นคนปกติทั่วไป เกรงว่าคงจะล้มบนสังเวียนแล้ว แต่มู่เซิ่งไม่เป็นแบบนั้น ยังคงหลบไปมาเคลื่อนไหวตัวอยู่ในสังเวียน ราวกับกระดูกชิ้นหนึ่งที่ยากที่จะเคี้ยวให้แหลก

“แต่ว่า ฉันจะรอดูต่อไป กระดูกอย่างแก จะแข็งสักแค่ไหนเชียว!”

งูไวเปอร์หัวเราะอย่างเย็นชา แล้วเหวี่ยงหมัดไปที่มู่เซิ่ง

“ฉันจะล้มได้ยังไง ในเมื่อแกยังไม่ตาย?”

มู่เซิ่งหัวเราะอย่างเย้ยหยัน แล้วกระโดดขึ้นบนสังเวียน กำหมัดขวาไว้แน่น เพื่อจะต่อสู้แบบประจัญหน้ากัน

“แกกำลังรนหาที่ตาย!”งูไวเปอร์เหวี่ยงหมัดออกไป อย่างดูถูก

แต่แล้ววินาทีต่อมา

สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป