บทที่ 197 เบื้องหลังของไป๋เมี่ยนเซียว

มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง

มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง บทที่ 197 เบื้องหลังของไป๋เมี่ยนเซียว

แต่แล้ววินาทีต่อมา

สีหน้าของงูไวเปอร์ ก็เปลี่ยนไป

ในการชกเมื่อกี้ เขาทุ่มเทแรงทั้งหมดที่มีลงไป อยากจะจบการแข่งขันด้วยการชกเพียงครั้งเดียว!แต่เมื่อพลังของหมัดนั้นมาถึง เขาก็ตระหนักได้ทันทีว่าร่างกายของเขาดูเหมือนจะอ่อนปวกเปียก และเป็นการยากที่จะออกแรงใดๆ

งูไวเปอร์รู้อยู่ในใจว่านี่ เป็นผลข้างเคียงหลังจากฉีดยา!

แต่ตอนนี้ เกมเริ่มยังไม่ถึงหนึ่งนาทีเลย ฤทธิ์ของยา อยู่ได้ตั้งสิบนาทีนี่นา!

“แกคิดว่า ก่อนหน้านี้ฉันทำได้แค่ป้องกันอย่างงั้นหรอ?”

มู่เซิ่งยิ้มอย่างไม่แยแส แล้วเคลื่อนไหวร่างกายดุจวิญญาณ ปรากฏอยู่ด้านหน้าของงูไวเปอร์

งูไวเปอร์รู้สึกกระวนกระวายใจ

เมื่อสักครู่เขาเอาแต่มุ่งความสนใจไปที่การต่อยมู่เซิ่งเท่านั้น จะไปมีเวลาสนใจการออกหมัดของมู่เซิ่งได้ยังไง?ถึงอย่างไรเขาก็ไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด ถึงจะโดนชกเต็มๆ ก็แค่รู้สึกคันเล็กน้อย

เขาคิดไม่ถึงเลยว่า ที่แท้หมัดของมู่เซิ่ง ชกไปที่จุดตันเถียนของเขา

เดิมทีจุดตันเถียนเป็นจุดที่รวมพลังลมปราณทั้งหมดเอาไว้ ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากที่เขากลืนเม็ดยาลงไป เลือดลมก็ไหลเวียนพลุ่งพล่าน รวมอยู่ในจุดตำแหน่งของตันเถียน ตอนนี้ตันเถียนของเขา ราวกับลูกบอลลูกหนึ่ง ขอแค่มีเพียงพละกำลังภายนอก เลือดลมทั้งหมดก็จะถูกปล่อยออกมาทันที

“ฉันเคยบอกแล้วว่า แกกล้าทำร้ายลูกน้องฉัน ฉันก็จะเอาชีวิตแก แกจำได้รึเปล่า?”มู่เซิ่งเหวี่ยงหมัดออกไปยังร่างของงูไวเปอร์เต็มแรง

ปึ้ง!

งูไวเปอร์ถูกต่อยจนกระเด็นออกไป ร่างสูงสองเมตรของเขาลอยอยู่กลางอากาศ แล้วตกลงบนสังเวียนอย่างแรง

ทั่วทั้งสนาม เงียบสงัด

ผู้ชมที่นั่งอยู่ในสนาม ที่ได้เห็นฉากนี้ ต่างพากันเบิกตากว้าง ราวกับเห็นผียังไงอย่างงั้น

งูไวเปอร์ถูกต่อยกระเด็น?

นี่เป็นเป็นไปได้ยังไง!

ในฐานะราชามวยในสนาม อย่าว่าแต่ต่อยกระเด็นเลย ไม่เคยมีใครทำอะไรงูไวเปอร์ได้ แล้วทำให้เขากระเด็นออกไปแบบนี้?นี่มันเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมาก

งูไวเปอร์ตกลงที่พื้น ทั่วทั้งสังเวียนสั่นไหว

เขาดิ้นรนอยากจะตะเกียกตะกายลุกขึ้นมา มู่เซิ่งเดินมาที่ต่อหน้าของเขา แล้วต่อยไปที่หัวของเขาอย่างแรง

ปึ้ง!

หมัดตกลงไปที่สังเวียนจนสนั่นสั่นไหว

ทุกคนที่ได้เห็นตกตะลึง งูไวเปอร์ผู้นี้ ทำไมจู่ๆถึงได้เหมือนกับสูญเสียพลังต่อสู้

คนที่อยู่ในเหตุการณ์ ไม่มีใครสามารถรับรู้ได้ถึงสถานการณ์ของเขาในตอนนี้ หลังจากหมดเรี่ยวแรงทั้งหมดของเขาแล้ว อย่าว่าแต่ออกหมัดสู้ต่อไปเลย แม้แต่จะยืนยังยากเลย เมื่อกำปั้นของมู่เซิ่งกระแทกไปที่เขา สมองของเขาเสียงดังวิ้ง เจ็บจนกัดฟันกรอด

“ฉันยอมแพ้ ยอมแพ้……”งูไวเปอร์ตะโกนร้องเสียงดัง

แต่แล้ว มู่เซิ่งกลับทำเหมือนไม่ได้ยิน ยกเท้าขึ้นมาหนึ่งข้าง เหยียบไปที่แขนของงูไวเปอร์

กร๊อบแกร๊บ!

แขนของเขา กลับถูกมู่เซิ่งเหยียบจนหักไปข้างหนึ่ง!

งูไวเปอร์อ้าปาก ร้องด้วยความเจ็บปวด

“ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันยอมแพ้แล้ว”งูไวเปอร์อ้อนวอนขอร้องด้วยน้ำตา

มู่เซิ่งก้มหน้าลง แล้วมองงูไวเปอร์อย่างเย่อหยิ่ง พลางกล่าวว่า“ยอมแพ้?จัดการตัดแขนขาของมันแล้วโยนลงสังเวียนไป นี่เป็นกฎกติกาของแกไม่ใช่หรอ?ตอนนี้ฉันก็ทำตามกติกาของแกอยู่นี่ไง เกมโอเวอร์”

แม่งเอ้ย!

งูไวเปอร์จะร้องไห้ออกมาอยู่แล้ว

ในเวลาปกติเขาลงมืออย่างไม่ปรานีใคร ถึงคู่ต่อสู้จะบอกว่ายอมแพ้ เขาก็ไม่หยุดลงมือ จะต้องทำให้คู่ต่อสู้พิการเขาถึงจะยอมหยุด เพราะเขามีนิสัยชอบทรมานคนอื่น แต่ไม่ใช่การถูกคนอื่นทรมาน

แต่แล้ว เสียงสบถด่าในใจของเขา ไม่สามารถเปล่งออกมาได้

เพราะเมื่อเท้าข้างที่สองของมู่เซิ่งเหยียบลงมา งูไวเปอร์ก็กลอกตาทันที เขารู้สึกเจ็บปวดจนขาดใจตายในทันที

มู่เซิ่งกวาดตามองเขา คิดไม่ถึงว่าไอ้หนุ่มผู้หยิ่งผยองคนนี้ โดนจู่โจมแค่สองทีจะสลบไปแบบนี้ เขาเปล่งเสียงคำว่าเศษสวะออกมา แล้วเตะงูไวเปอร์ลงจากสังเวียนทันที

สีหน้าของกรรมแดงก่ำเหมือนตับหมู หลังจากที่ได้ยินคำว่ายอมแพ้ เขาก็อยากขึ้นสังเวียนไปห้ามปราม แต่ว่ามันไม่ทันแล้ว เขาทำได้แค่มองดูมู่เซิ่งจัดการแขนของงูไวเปอร์ทั้งสองข้าง แล้วเตะงูไวเปอร์ลงจากสังเวียน

“ไป๋เมี่ยนเซียว แกแพ้แล้ว”มู่เซิ่งค่อยๆเดินลงยังที่นั่งของผู้ชม แล้วพูดกับไป๋เมี่ยนเซียว

ไป๋เมี่ยนเซียวหน้าแดงก่ำเหมือนตับหมู เขาคิดไม่ถึงว่าเรื่องนี้จะจบด้วยการที่งูไวเปอร์ถูกจัดการ สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกยากที่จะรับได้

“มึงเล่นสกปรกใช่ไหม!ไม่อย่างงั้น งูไวเปอร์จะหมดเรี่ยวแรงต่อสู้แบบนี้ได้ยังไงกันห้ะ!” ไป๋เมี่ยนเซียวตะโกนด่าหยาบคายออกมา ฉากที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่เขาเห็นอย่างชัดเจน จู่ๆงูไวเปอร์ก็สูญเสียความสามารถในการต่อสู้ไป มู่เซิ่งจะต้องเล่นสกปรกอะไรแน่

“ถ้าก่อนที่เขาขึ้นสังเวียน ไม่กินยานั่นไปก่อน คงไม่มีจุดจบแบบนี้หรอก”มู่เซิ่งกล่าว

ประโยคนี้ทำให้ไป๋เมี่ยนเซียวพูดอะไรไม่ออก

“นักเลงกระจอกๆอย่างแก มีสิทธิ์อะไรมาตั้งคำถามกับฉัน?” ไป๋เมี่ยนเซียวพูดอย่างเย้ยหยัน

จางเสวียนหลงผลักเตาจั๋วออกไป แล้วเดินมาที่ด้านหลังของมู่เซิ่ง พูดด้วยเสียงเย็นยะเยือก“เพราะเขาเป็นเจ้านายของฉันไง แค่นี้พอไหม?”

“จางเสวียนหลง คุณยิ่งอยู่ยิ่งถอยหลังลงคลองไปเรื่อยๆแล้วนะ ถึงได้เอาไอ้เศษสวะนี้เป็นเจ้านาย ฉันสืบมาแล้ว มันเป็นแค่ลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านผู้หญิงไม่ใช่หรอ?”ผลลัพธ์นี้ทำให้ไป๋เมี่ยนเซียวรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก แต่ถ้าจะบอกว่าน่ากลัว คงจะไม่ใช่ ถึงอย่างไรเขาก็เป็นคนใหญ่คนโตที่ผ่านอะไรมาเยอะ สามารถพูดคุยกับท่านหลงได้ ถึงมู่เซิ่งจะมีภูมิหลังไม่ธรรมดา เขาก็ไม่ถึงขั้นน่ากลัว

“ฉันจะให้โอกาสแกหนึ่งครั้ง ไสหัวออกไปตอนนี้ซะ ฉันจะไว้ชีวิตแค่สักครั้ง”มู่เซิ่งพูดอย่างเรียบเฉย

“ฮ่าๆๆๆ!”

ไป๋เมี่ยนเซียวหัวเราะอย่างชั่วร้ายแล้วมองไปที่มู่เซิ่ง“ถึงแกจะเป็นเจ้านายของจางเสวียนหลง แล้วยังไงล่ะ?แกไม่แหกตาดูรึไงว่านี่มันถิ่นใคร?ที่นี่มีแต่คนของกู เชื่อไหมว่าพวกแกออกไปจากที่นี่ไม่ได้?”

“อ่อ งั้นหรอ?”มู่เซิ่งแสยะยิ้ม

เมื่อสิ้นเสียงของเขา

เสียงฝีเท้าที่เร่งรีบ ก็ดังมาจากทุกทิศทุกทาง และคนนับร้อย ก็วิ่งตรงมาจากนอกสนามมวย จนทำให้ทั้งสนามมวยเบียดเสียดกันทันที

ไป๋เมี่ยนเซียวสีหน้าเปลี่ยนไป รปภ.ที่อยู่ด้านนอกล่ะ คนมาเยอะขนาดนี้ ทำไมไม่มีการแจ้งรายงานเลยแม้แต่นิดเดียว?

แต่ว่า ไป๋เมี่ยนเซียวไม่แคร์ ถึงแม้ว่าครั้งนี้จะถูกจางเสวียนหลงจู่โจมจนไม่ทันตั้งตัว แต่แล้วยังไงล่ะ ถ้าจางเสวียนหลงกล้าลงมือกับเขา เขาคงจัดการไปนานแล้ว

สาเหตุที่จางเสวียนหลงสามารถทนไป๋เมี่ยนเซียวได้ นั่นก็เพราะเขามีคนคุ้มกะลาหัวอยู่!

“เหอะๆ คนเยอะแล้วยังไง?มึงกล้าทำอะไรกูหรอ?กูจะบอกอะไรให้ ถ้ามึงกล้าลงมือทำร้ายกูขึ้นมาจริงๆ มึงจบไม่สวยแน่!” ไป๋เมี่ยนเซียวพูดอย่างเย้ยหยัน

จางเสวียนหลงสีหน้าแข็งทื่อ

เขาไม่กล้าทำอะไรไป๋เมี่ยนเซียว หากฝืนลงมือไปล่ะก็ จะเป็นการก่อเรื่องครั้งใหญ่

แต่มาวันนี้ มีคำสั่งของมู่เซิ่ง เขาจะกลัวอะไรอีก?เซิ่งเป็นถึงคนของตระกูลมู่แห่งเยียนจิง บนโลกใบนี้ ยังมีใครที่เขาไม่กล้าลงมือทำอะไรอีก?

จางเสวียนหลงไม่ได้พูดอะไร เขามองไปที่มู่เซิ่ง

สถานการณ์ในตอนนี้ เขาฟังการตัดสินใจของมู่เซิ่งทั้งหมด เขาไม่มีสิทธิ์เขาแทรกแซง

แต่แล้วเมื่อไป๋เมี่ยนเซียวเห็นว่าจางเสวียนหลงไม่พูดอะไร เพราะคิดว่าเขากลัว จึงพูดอย่างได้ใจว่า“จางเสวียนหลง ในเมื่อแกไม่กล้า ก็รีบพาคนของแกไสหัวออกไปซะ ลูกน้องฉันจัดการคนของแก ตอนนี้แกพาคนมาจัดการลูกน้องฉันแล้วไม่ใช่หรอ?ตอนนี้ ก็ถือว่าเสมอกันแล้วหนิ?”

“นี่เป็นเจ้านายของฉัน ไม่ใช่ลูกน้องของฉัน!ถ้าแกยังพูดจาส่งเดชอีก แกเชื่อไหมว่าฉันจะฉีกปากแกให้เป็นชิ้นๆ!”จางเสวียนหลงพูดอย่างเย็นชา

“เหอะๆ เจ้านาย แกไปหาไอ้คนไม่เอาถ่านแบบนี้มาเป็นเจ้านายเนี่ยนะ สมองมีปัญหารึไง”ไป๋เมี่ยนเซียวพูดอย่างดูถูก

ในเวลานี้เอง จู่ๆมู่เซิ่งก็ลุกขึ้นมา แล้วเดินไปหาไป๋เมี่ยนเซียว