บทที่ 195 เก็บความแค้น

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

นักศึกษาในห้องเรียนรออย่างอดทนเพื่อรอดูฉากซือคุนระเบิดอารมณ์ใส่ซูอัน และถ้าเป็นเช่นนั้น ฉู่ชูเหยียนจะต้องก้าวออกมาเพื่อปกป้องซูอันแน่นอน ซึ่งฉากความโกลาหลแบบนั้น… มันก็คงเพียงพอที่จะทำให้ผู้คนระดับสูงของสถาบันเคลื่อนไหวแน่ๆ

พระเจ้า! เหตุการณ์แบบนั้นน่าสนใจกว่าฉากที่หยางเว่ยวิ่งหนีออกจากสถาบันอย่างเทียบไม่ติดเลย!

ฉู่ชูเหยียนจับตาดูสถานการณ์อย่างไม่กะพริบตา ถ้าซือคุนเคลื่อนไหวเมื่อไหร่ ซูอันจะตกอยู่ในอันตรายร้ายแรง ซึ่งนางพร้อมที่จะก้าวออกไปปกป้องซูอันหากจำเป็น

แต่โดยไม่คาดคิด ซือคุนกลับสูดหายใจเข้าลึกก่อนที่จะยิ้มอย่างเป็นมิตร “ได้! ก่อนหน้านี้ข้าหุนหันเกินไปจนทำตัวหยาบคายกับท่านอย่างไม่รู้ตัว ดังนั้นมันถูกต้องแล้วที่ข้าจะถูกลงโทษเช่นนี้ และอีกอย่างข้าจำเป็นต้องเคารพกฎระเบียบของสถาบันเอาไว้เพื่อเป็นแบบอย่างให้กับผู้อื่นในอนาคต!”

หลังจากพูดจบ ซือคุนคว้าป้ายไม้และเดินออกจากห้องเรียนอย่างใจเย็น การเคลื่อนไหวของเขาดูสง่างามมาก จนมันเกือบจะดูเหมือนว่าเขากลายเป็นปราชญ์ที่เพิ่งรู้แจ้งในเต๋าแห่งความถูกต้อง

สิ่งนี้ทำให้ดวงตาของนักศึกษาหญิงสองสามคนในชั้นเรียนกะพริบถี่ด้วยความประทับใจ

“ว้าว ช่างสง่างามอะไรเช่นนี้!”

“ดูเหมือนว่านายน้อยซือจะโตเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเดิมแล้ว! เขาทำตัวเหมือนสุภาพบุรุษที่แท้จริงที่ควรทำ!”

“เมื่ออีกฝ่ายกลายเป็นอาจารย์ เขาคงเสียสูญไปไม่น้อยเพราะเจอคู่แข่งทางความรักก็เท่านั้น!”

“ข้าไม่เคยรู้ว่าเขามีอารมณ์อ่อนไหวขนาดนี้ ข้าเริ่มชอบเขามากขึ้นเรื่อยๆ ซะแล้วสิ!”

ซูอันรู้สึกประหลาดใจ ก่อนหน้านี้เขาคาดเอาไว้ว่าซือคุนน่าจะตอบโต้อย่างรุนแรง ซึ่งตัวเขาก็ได้เตรียมมาตรการมารับมือเอาไว้ด้วยเช่นกัน แต่กลับกันอีกฝ่ายกลับยอมถอยไปง่ายๆ ซะงั้น

เขายอมถอยไปเพื่อปกป้องภาพลักษณ์ของตัวเองรึเปล่าหว่า? ไม่น่าใช่เหตุผลง่ายๆ แบบนี้แน่จริงไหม?

ในวลาเดียวกัน เมื่อซือคุนเดินพ้นจากห้องเรียนไปแล้ว รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็หายไปอย่างฉับพลันและแทนที่ด้วยสีหน้าที่เคียดแค้นสุดลึกล้ำ

ฮึ่ม! ข้าประมาทไปก่อนหน้านี้ ข้าไม่ควรพูดคำเหล่านั้นออกมาดังๆ เลยบ้าจริง! นับจากนี้ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับไอ้เวรนั่นผู้คนจะต้องพากันสงสัยข้ากันหมดแน่นอน ดังนั้นไม่ว่าตอนนี้ข้าจะโกรธแค่ไหน ข้าก็ต้องรักษาท่าทีให้สงบเสงี่ยมเอาไว้ก่อน ด้วยวิธีนี้ อย่างน้อยข้าก็สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบใดๆ ได้หากมีผู้อื่นถามข้าในอนาคต

จิตใจของเขาตั้งมั่น เขาจะต้องทำให้ไอ้คนน่าขยะแขยงผู้นี้หายไปจากโลกให้ได้!

แน่นอนว่าเขาจะไม่ยอมทำตามคำสั่งของซูอันอย่างโง่เขลาโดยแขวนป้ายไม้รอบคอแน่ ระหว่างทางไปสนาม ซือคุนโบกมือเหนือแผ่นไม้ลบคำที่เขียนอยู่บนมันออกจนหมด จากนั้นเขาซุกแผ่นไม้ไว้ใต้วงแขนอย่างสบายๆ ซึ่งเจ้าตัวก็รู้สึกว่ามันช่วยเพิ่มความสง่างามให้กับตนเองอีกต่างหาก

แต่แล้วจู่ๆ ร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นข้างกายของซือคุน ร่างที่ปรากฏขึ้นเป็นชายชราที่ติดตามเขามาโดยตลอด “นายน้อย เย็นนี้ข้าควรจะตามไปเด็ดหัวไอ้เด็กเปรตนั่นเลยดีไหม?”

ซือคุนโบกมือขัดทันที “ยังไม่ต้องรีบ ถ้าเขาตายวันนี้เราจะเป็นผู้ต้องสงสัยหลักทันที เราไม่ควรประมาทความแข็งแกร่งของตระกูลฉู่ หากการกระทำของเราส่งผลให้พวกเขาไปเข้าฝ่ายกับราชันฉี มันจะกลายเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่”

“แต่ข้ารู้สึกโมโหจริงๆ ที่ไอ้สารเลวนั่นกล้าที่จะปฏิบัติต่อนายน้อยแบบนี้!” ชายชราคำราม เขาได้เห็นและได้ยินทุกอย่างที่เกิดขึ้นในห้องเรียนอย่างชัดเจน

“อย่ากังวลไป หลังจากนี้จะมีคนอื่นจัดการกับเขาแน่นอน งานประลองระหว่างตระกูลฉู่และหยวนกำลังจะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ คืนนี้ข้าจะเรียกให้ หยวนเหวินตง… ไม่สิ ข้าไม่ควรทำอะไรด้วยตัวเอง ข้าจะให้เจ้าไปติดต่อกับหยวนเหวินตง บอกให้เขาแกล้งทำเป็นเกิดอุบัติเหตุและฆ่าซูอันในการประลองตัวต่อตัวในวันพรุ่งนี้ หรืออย่างน้อยที่สุด หยวนเหวินตงก็ควรทำให้ไอ้เวรนั่นพิการไปตลอดชีวิต!” ซือคุนเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ไม่มีสักคนเดียวที่ทำให้เขาขุ่นเคืองใจแล้วรอดตัวไปได้!

หลังจากนั้นไม่นาน บรรดานักศึกษาต่างก็เริ่มสังเกตเห็นซือคุนยืนอยู่กลางสนาม และด้วยความอยากรู้อยากเห็น พวกเขาจึงรวมตัวกันรอบๆ สงสัยว่าทำไมอีกฝ่ายถึงยืนอยู่ที่นั่น

ข่าวซุบซิบแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว และไม่นานนักนักศึกษาทุกคนก็รู้ว่าซือคุนกำลังถูกลงโทษจากการพูดจาหยาบคายกับอาจารย์ผู้สอนของเขาในห้องเรียน

อย่างไรก็ตามบรรดาหญิงสาวที่เชิดชูซือคุนหลายคนต่างหน้าแดงด้วยความเดือดดาลทันที

“ซูอันนั้นไร้ยางอายเกินไป! เขากล้าลงโทษนายน้อยซือแบบนี้ได้ยังไง?”

“ใช่! ในฐานะอาจารย์ เขาลำเอียงให้กับภรรยาตัวเองอย่างชัดเจน เขาให้ฉู่ชูเหยียนคำถามง่ายๆ แต่กลับให้คำถามยากๆ กับนายน้อยซือ ข้าจะรายงานเขาเรื่องนี้!”

“ใช่ เราควรรายงานเขาด้วยกัน!”

ตรงกันข้ามกับความขุ่นเคืองของนักศึกษาหญิง บรรดานักศึกษาชายต่างรู้สึกเบิกบานกับข่าวนี้ นับตั้งแต่ซือคุนมาถึง พวกผู้หญิงส่วนใหญ่ต่างก็หันความสนใจไปหาจนหมด ดังนั้นพวกเขาจึงดีใจมากกว่าที่เห็นซือคุนถูกทำให้อับอาย

แน่นอนว่ามีบางคนที่อยากจะใช้โอกาสนี้เพื่อเยาะเย้ยซือคุน แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้เข้าใกล้ พวกเขาก็ถูกบังคับให้ถอยหนีด้วยคลื่นพลังอันมหาศาล

“ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้!” ชายชราข้างซือคุนตวาดลั่นอย่างเย็นชา

นักศึกษาพบว่าตัวเองสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้เมื่อต้องเผชิญหน้ากับชายชรา คลื่นพลังที่คุกคามของเขาเตือนพวกเขาว่าซือคุนเป็นคนที่พวกเขาไม่สามารถรุกรานได้และพวกเขาก็ต้องถอยกลับออกไปอย่างรวดเร็ว

ในตึกสำนักงาน ลู่เต๋อจ้องมองลงไปที่สนาม ดวงตาของเขาหรี่ลงเล็กน้อย

‘ข้าไม่สามารถวัดระดับความแข็งแกร่งของชายชราคนนั้นได้ แม้แต่คนรับใช้ของตระกูลซือก็แข็งแกร่งขนาดนี้เลยงั้นเหรอ? ดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้ข้าจะประเมินความแข็งแกร่งของตระกูลซือต่ำไปสักหน่อย มันคงเป็นการดีที่สุดที่นับจากนี้ข้าจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับตระกูลที่ใหญ่โตทั้งหลายหากไม่จำเป็น ฮึ่ม! รู้สึกเหมือนมีปัญหาเข้ามาเรื่อยๆ ตั้งแต่ไอ้เด็กเวรซูอันนั่นเข้ามาที่นี่!

ในขณะเดียวกัน ซูอันรู้สึกประหลาดใจกับคะแนนความโกรธแค้นที่หลั่งไหลเข้ามาอีกระลอก ไม่น่าแปลกใจเลยที่โลกก่อนหน้านี้ของเขามีบอยแบนด์อยู่เต็มไปหมด พวกผู้หญิงนี่ช่างยึดติดกับไอดอลของตัวเองซะเหลือเกินจริงๆ!

“พี่เขย พี่เขย! พี่สาวของข้ามีปฏิกิริยายังไงบ้างระหว่างคาบเรียนของท่าน รีบเล่ามาให้ข้าฟังเร็ว!” จู่ๆ ฉู่ฮวนเจาก็พลันพุ่งเข้ามา ในสายตาของซูอัน สีหน้าของนางเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ก่อนหน้านี้นางถึงขนาดตั้งใจจะโดดเรียนเพื่อมาดูฉากอันน่าตื่นเต้นนี้ด้วยตาตัวเอง แต่น่าเสียดายที่นางดันบังเอิญไปเจอกับลู่เต๋อซะก่อนในช่วงเวลาที่นางกำลังแอบเดินออกจากห้องเรียน ดังนั้นด้วยความกลัวนางจึงสาวเท้ากลับเข้าไปนั่งเรียนเหมือนเดิม และรอคอยอย่างใจจดใจจ่อจนจบคาบเรียน

อย่างไรก็ตาม ความอยากรู้ของนางได้กระตุ้นประสาทของนางตลอดเวลา และนางก็รีบออกจากห้องเรียนทันทีที่คาบเรียนจบลง

“เจ้าสมรู้ร่วมคิดกับผู้ชายคนนี้เพื่อหลอกข้าได้ยังไง!” สีหน้าที่คาดหวังบนใบหน้าของฉู่ฮวนเจาทำให้ฉู่ชูเหยียนรู้สึกโมโหจนควันแทบออกหู พร้อมกันนั้นนางเอื้อมมือพยายามไปจับหูน้องสาวตัวน้อยของนาง

“ฮี่ฮี่ ดูเหมือนว่าพี่สาวของข้าคงอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึงแน่นอนล่ะสิ? จริงไหม!” ฉู่ฮวนเจารีบวิ่งไปหลบภัยหลังซูอันพร้อมกับเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าหยอกล้อ

ฉู่ชูเหยียนจ้องมองที่น้องสาวของตัวเองด้วยความรำคาญอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะค่อยๆ หันกลับมามองซูอันอย่างช้าๆ ด้วยความสนใจ “เจ้ากลายเป็นอาจารย์สอนคณิตศาสตร์ได้อย่างไร?”

นางไม่สามารถเข้าใจได้ว่าเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร

“ข้ายังมีเรื่องให้เจ้าประหลาดใจอีกเยอะ!” ซูอันหัวเราะ

ฉู่ชูเหยียนหัวเราะเบาๆ “ใช่ วันนี้เจ้าทำให้ข้าประหลาดใจ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เจ้าน่าจะได้ไปอยู่ในบัญชีดำของซือคุนเรียบร้อยแล้ว ในอนาคตเจ้าคงไปไหนต่อไหนไม่สะดวกแน่ๆ”

“โธ่ แล้วเจ้าจะให้ข้าทำยังไงในเมื่อไอ้ซือคุนอะไรนั่นจ้องจะแย่งภรรยาแสนสวยของข้า? ถ้าข้าไม่สอนบทเรียนให้เขา เขาคงจะปีนข้ามหัวข้าไปแล้ว!” ซูอันตอบกลับเสียงดัง