ตอนที่ 507 พิชิตเสือดำ
แปล Tarhai
“นายท่าน ระวัง!” เหมียวซิยี้กล่าวเสียงดังเมื่อเห็นเสือดำกำลังโจมตีเข้าหาฉิงเฟิง
ในขณะนี้หัวใจเธอเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด ถ้าหากฉิงเฟิงได้รับบาดเจ็บเพราะความประมาทของเธอ เธอจะรู้สึกผิดอย่างมาก
เหมียวซิยี้รู้สึกเสียใจอย่างยิ่งกับการตัดสินใจของเธอ เธอควรจะใช้พลังทั้งหมดของเธอและเอาชนะเสือดำตั้งแต่เนิ่นๆ ถ้าเธอทำเช่นนั้นตั้งแต่แรกก็คงไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เจ้าเสือดำนี่สมควรตาย เขากล้าลอบโจมตีนายท่านได้อย่างไร?
ฉิงเฟิงยิ้มเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำเตือนของเหมียวซิยี้ เขายืนอยู่ที่จุดเดิมและไม่ได้ขยับไปไหน
การโจมตีของเสือดำอ่อนแอเกินไปสำหรับเขา ไม่จำเป็นต้องให้เขาหลบการโจมตี
ฉิงเฟิงไม่ได้ขยับตัวเป็นเพราะเขามั่นใจ คนรอบข้างไม่รู้ถึงพลังของเขาจึงคิดว่าฉิงเฟิงเป็นคนโง่
“นี่ท่านปู่หลี่ตกใจกลัวจนเสียสติไปแล้วหรือ ?” เหล่าอันธพาลรอบๆต่างก็ประหลาดใจเมื่อเห็นว่าฉิงเฟิงไม่ยอมหลบ
ดวงตาของเสือดำเต็มไปด้วยความสุขและรู้สึกตื่นเต้น เขามั่นใจว่าเขาสามารถคร่ากุมฉิงเฟิงได้แน่นอน หลังจากนั้นเขาก็จะใช้ฉิงเฟิงข่มขู่ให้เหมียวซิยี้ยอมจำนน เขาวางแผนที่จะลงโทษผู้หญิงคนนี้อย่างหนักตั้งแต่ที่เธอเฆี่ยนตีเขา
ปัง !
กรงเล็บของเสือดำทะลวงผ่านอากาศและกระแทกลงบนหน้าอกของฉิงเฟิงตามมาด้วยเสียงดัง
อย่างไรก็ตาม ในวินาทีต่อมาการแสดงออกของเสือดำก็เปลี่ยนไป เขารู้สึกราวกับว่ากรงเล็บของเขาไม่ได้กระทบร่างกายแต่เป็นชุดเกราะ ร่างกายของฉิงเฟิงแข็งเหมือนเหล็กกล้ามันทำให้มือของเขาเจ็บและเล็บหักทันที
“โง่เง่า, นายไม่สามารถแม้แต่จะทำลายพลังป้องกันบนร่างกายของฉันได้ แต่นายจะจับตัวฉันยังงั้นหรือ ?” ฉิงเฟิงกล่าวอย่างดูหมิ่น
ชายหนุ่มคนนี้เป็นยอดฝีมือ !?
การแสดงออกของเสือดำเปลี่ยนไป เขารู้สึกได้ว่ามีบางอย่างที่ไม่ถูกต้องจากสายตาที่เยาะเย้ยของฉิงเฟิง ดังนั้นเขาจึงคิดจะหลบหนีทันที
“นายคิดจะหนี ? คิดว่าหนีพ้นหรือไง ?” ฉิงเฟิงเหยียดมือขวาออกไปและคว้าคอของเสือดำในพริบตา
ฉิงเฟิงยกมือขึ้นและยกตัวเสือดำขึ้นด้วยมือเดียว
อย่างแรกต้องรู้ว่าร่างกายของเสือดำแข็งแกร่งและเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ เขามีน้ำหนักมากกว่า 100 กก. แต่ฉิงเฟิงสามารถยกตัวเขาลอยขึ้นไปในอากาศได้อย่างง่ายดายราวกับขนนก
“ท่านปู่หลี่สุดยอดมาก !” อันธพาลรอบๆต่างก็ร้องตะโกนด้วยความชื่นชม
พวกเขาทั้งหมดต่างก็ได้เห็นพลังของเสือดำมาแล้ว เขาทำร้ายคิงคองจนบาดเจ็บหนักด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว แต่ตอนนี้เขาพ่ายแพ้ท่านปู่หลี่อย่างง่ายดาย
ไม่มีใครรู้ว่าใครแข็งแกร่งกว่ากันจนกว่าทั้งสองคนจะได้ประมือกัน เห็นได้ชัดว่าเสือดำอ่อนแอกว่าท่านปู่หลี่มากมายนัก
ใบหน้าของเสือดำแดงขึ้น ฉิงเฟิงคว้าคอเขาไว้แน่นจนเขาหายใจไม่ออก
ฉิงเฟิงยิ้มอย่างเย็นชาพร้อมกับเจตนาฆ่ารุนแรงที่ปล่อยออกมา เขากล่าวว่า “เสือนภาถูกฉันหักคอตายแบบนี้ละ ตอนนี้นายมีสองทางเลือก ข้อแรกเข้าร่วมและเป็นผู้ติดตามฉัน ข้อสองลงนรกตามเสือนภาไปซะ”
อะไรนะ ?เขาเป็นคนฆ่าเสือนภา ?
เสือดำรู้สึกอึ้ง เสือนภายังแข็งแกร่งกว่าเขาด้วยซ้ำ
เสือดำตัดสินใจที่จะขยายอาณาเขตหลังจากที่เขาได้ยินเรื่องการตายของเสือนภา เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะได้เจอกับตัวตนที่แข็งแกร่งอย่างฉิงเฟิง
“ยอมจำนนต่อฉันหรือจะตาย ?” ฉิงเฟิงกล่าวกับเสือดำ และมองเขาราวกับว่าเขาเป็นมดไร้ค่าตัวหนึ่ง
เจตนาฆ่าของฉิงเฟิงแผ่กระจายออกจากร่างกายของเขา เจตนาฆ่านี้รุนแรงและมืดมนมาก หากเสือดำกล้าที่จะตอบว่า ‘ไม่’ ฉิงเฟิงจะต้องลงมือในทันทีอย่างแน่นอน
ถ้าเป็นเมื่อก่อน ฉิงเฟิงคงจะไม่เสียเวลาพูดมากมายขนาดนี้ เขาจะต้องฆ่าเสือดำทันที อย่างไรก็ตามนักบวชชรากล่าวกับเขาว่าเขาไม่ควรฆ่าคนมากเกินไป มิฉะนั้นปราณสังหารของเขาจะเพิ่มพูนมากขึ้นจนควบคุมไม่อยู่
“บ้าเอ้ย… ทำไมปราณสังหารน่าหวาดหวั่นอะไรขนาดนี้” เสือดำรู้สึกกลัวมาก เขาสามารถมองเห็นปราณสังหารที่แผ่กระจายออกจากร่างกายของฉิงเฟิง
เสือดำเคยประมือกับนักฆ่ามาก่อนในอดีต แต่ก็ไม่มีใครมีเจตนาฆ่าหรือปราณสังหารรุนแรงเท่าฉิงเฟิง
“อย่าเพิ่งฆ่าผม ! ผมเลือกที่จะเป็นลูกน้องของคุณ” เสือดำกล่าวอย่างหวาดกลัว
แม้ว่าเขาจะเป็นหนึ่งในสี่ทรราชย์แห่งภาคตะวันออก แต่เขาก็มีเพียงชีวิตเดียวเท่านั้น เขาเลือกที่จะยอมรับข้อเสนอของฉิงเฟิงดีกว่าตาย
นอกจากนี้ นี่คือโลกที่ผู้แข็งแกร่งคือกฎ ผู้แพ้ทำได้เพียงยอมจำนนต่อผู้ชนะเท่านั้น
“นายเลือกได้ดี” ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม จากนั้นเขาก็ปล่อยเสือดำลงบนพื้น
“ครับ นายท่าน” เสือดำกล่าวอย่างสุภาพขณะที่เขาคุกเข่าลงบนพื้น นี่เป็นการแสดงความภักดีต่อเจ้านายของเขา
ฉิงเฟิงโบกมือให้เสือดำและกล่าวว่า “ลุกขึ้น ต่อจากนี้ไปนายจะเป็นหนึ่งในสี่ผู้พิทักษ์ของพันธมิตรฉิงเฟิง”
“ครับ นายท่าน” เสือดำกล่าวด้วยความเคารพ
เสือดำเลือกที่จะยอมจำนนต่อฉิงเฟิงและกลายเป็นหนึ่งในผู้พิทักษ์ของพันธมิตรฉิงเฟิง จากนี้ไปเขาจะกลายเป็นสมาชิกของพันธมิตรฉิงเฟิง
ฉิงเฟิงกำหราบเสือดำอย่างง่ายดายและช่วยให้พันธมิตรฉิงเฟิงได้นักสู้ระดับ S มาเข้ากลุ่ม
เหมียวซิยี้เดินไปหาพวกเขาด้วยแส้ดำในมือ เธอจ้องมองเสือดำอย่างดุร้ายและยังรู้สึกหงุดหงิดอยู่มาก เธอเตรียมที่จะสอนบทเรียนให้กับเขาอีกครั้ง แต่ตอนนี้เธอไม่สามารถทำเช่นนั้นได้อีกต่อไปเพราะเสือดำกลายเป็นลูกน้องของฉิงเฟิงไปแล้ว
“นายท่าน จะให้ชั้นทำอย่างไรต่อไป ? คุณจะเอาชั้นไปไว้ที่ไหน ?” เหมียวซิยี้ถามอย่างเขินอายด้วยเสียงต่ำ
ฉิงเฟิงยิ้มเล็กน้อยและกล่าวว่า “ซิยี้ ตอนนี้เธออยู่ที่นี่ไปก่อน และคอยช่วยคิงคองจัดการดูแลพันธมิตรฉิงเฟิง”
“โอ้…..” เหมียวซิยี้กล่าว เธอรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เธออยากจะอยู่ที่เดียวกันกับฉิงเฟิง แต่เห็นได้ชัดว่าเขาไม่มีแผนที่จะพาเธอกลับไปด้วย
นายท่านแข็งแกร่งยิ่งนัก แม้กระทั่งผู้หญิงคนนี้ก็ยังเป็นลูกน้องของเขา
เสือดำรู้สึกทึ่งเมื่อได้ยินเหมียวซิยี้เรียกขานฉิงเฟิงว่า ‘นายท่าน’
เขาได้ประมือกับเหมียวซิยี้มาแล้ว เขารู้ว่าเธอแข็งแกร่งขนาดไหน จากการประเมินของเขา อย่างน้อยเธอต้องเป็นนักสู้ระดับ SS
ในตอนแรกเสือดำยังรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยที่จะต้องกลายเป็นลูกน้องของฉิงเฟิง แต่ความไม่พอใจของเขาก็หายไปทันทีเมื่อเขาเห็นว่าเหมียวซิยี้ก็เป็นลูกน้องของฉิงเฟิงเช่นกัน สิ่งที่เหลืออยู่ในใจเขาตอนนี้ก็คือความสยดสยองและความหวาดกลัว
พอถึงเวลา 17.30 น. หลังจากฉิงเฟิงจัดการเรื่องราวต่างๆในสมาคมเสร็จแล้ว เขาก็มุ่งหน้ากลับไปยังบริษัท Ice Snow
ยังมีเวลาเหลืออีก 30 นาทีก่อนที่จะถึงเวลาเลิกงาน เขาจึงต้องไปรอรับหลินเสวี่ย
18.00 น. ฉิงเฟิงก็กลับมาถึงบริษัท Ice Snow เขารอหลินเสวี่ยอยู่นอกอาคาร
ไม่นานหลังจากนั้นหลินเสวี่ยก็เดินออกมาจากตึก แววตาของฉิงเฟิงเริ่มร้อนขึ้นเมื่อเขาได้เห็นหลินเสวี่ยในชุดสูทสีขาวและรองเท้าส้นสูงสีดำ ซึ่งมันขับเน้นรูปร่างที่มีเสน่ห์ของเธออย่างยิ่ง