หวัง​ซี​เบิกตา​กว้าง​จ้อง​พี่ชาย​ ​ไม่รู้​ว่า​หวัง​เฉิน​หมายความว่า​อย่างไร

หวัง​เฉิน​กลับ​มอง​น้องสาว​แล้ว​ได้​แต่​ถอนหายใจ​ ​จากนั้น​ลูบ​ศีรษะ​น้องสาว​อย่าง​อ่อนโยน​ ​กล่าว​เสียง​เบา​ว่า​ ​“​เจ้า​ดูตัว​เจ้า​ ​ข้า​บอกว่า​ถูกใจ​คน​ผู้​หนึ่ง​อยาก​ให้​เจ้า​ไปดู​ตัว​สักหน่อย​ ​เจ้า​ยัง​ลังเล​กว่า​ครึ่ง​ค่อนวัน​ ​หาก​เป็น​เมื่อก่อน​ ​เจ้า​ก็​คงจะ​กระโดดโลดเต้น​ตอบ​ตกลง​ไป​แล้ว​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​เจ้า​ยัง​ลังเล​เรื่อง​ของ​เฉินลั​่​วอ​ยู่​ ​ข้า​ไม่​อยาก​ให้​เจ้า​ต้อง​รู้สึก​เสียใจ​ภายหลัง​ไป​ตลอดชีวิต​ ​ประจวบเหมาะ​กับ​ที่​ข้ามี​ความสามารถ​เลือก​แทน​เจ้า​ได้​ ​เช่นนั้น​เจ้า​ก็​ทำตาม​ที่​หัวใจ​เจ้า​ปรารถนา​เถอะ​…

…​เรื่อง​ที่​บ้าน​ ​เจ้า​ไม่ต้อง​กังวล​ ​ต่อให้​ครอบครัว​ของ​พวกเรา​ดอง​กับ​จวน​จ่าง​กง​จู่​ ​แต่​สุดท้าย​แล้ว​จ่าง​กง​จู่​ก็​มิใช่​คนใน​ราชสำนัก​ ​ครอบครัว​ของ​พวกเรา​ก็​ไม่ได้​คิด​จะ​มาทำ​การค้า​ถึง​ภาคเหนือ​อย่างจริงจัง​ ​ใต้​หล้า​กว้างใหญ่​ไพศาล​ขนาด​นี้​ ​หาก​ครอบครัว​พวกเรา​กินรวบ​หมด​ ​แล้ว​ผู้อื่น​จะ​ทำ​อย่างไร​…

…​เจ้า​บอก​ข้ามา​ตามจริง​เถอะ​!​…

…​หาก​ไม่ต้อง​พิจารณา​เรื่อง​ภูมิหลัง​ครอบครัว​ของ​เฉินลั​่ว​ ​เจ้า​ยินดี​กับ​การทาบทาม​ครั้งนี้​หรือไม่​”

ทันทีที่​ถ้อยคำ​ของ​พี่ชาย​จบ​ลง​ ​ใน​หัว​ของ​หวัง​ซี​มี​ภาพ​นาง​กับ​เฉินลั​่ว​เดิน​เคียง​ไหล่​กัน​อยู่​ใน​สวนดอกไม้​ลอย​ออกมา

นาง​อด​เม้มปาก​ยิ้ม​ไม่ได้​ ​ผ่าน​ไป​ครู่ใหญ่​ถึง​ก้มหน้า​ลง​ ​พึมพำ​กล่าวว่า​ ​“​หาก​ไม่มี​เรื่อง​อื่น​ ​แต่งงาน​กัน​ก็ดี​เจ้าค่ะ​ ​แต่​การ​แต่งงาน​นั้น​มิใช่​ว่า​เป็นการ​ดอง​เพื่อประโยชน์ของ​ทั้งสอง​ครอบครัว​หรอก​หรือ​ ​จะ​ไม่​พิจารณา​เรื่อง​ของ​ทั้งสอง​ครอบครัว​ได้​อย่างไร​…​”

หวัง​เฉิน​โบกมือ​ ​กล่าว​ตัดบท​คำพูด​ของ​หวัง​ซียิ​้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​การดอง​เพื่อประโยชน์ของ​ทั้งสอง​ครอบครัว​นั้น​เป็นเรื่อง​ของ​ข้า​กับ​พี่​รอง​ของ​เจ้า​ ​เจ้า​นี้​หนา​ ​ใช้ชีวิต​ตามที่​ใจ​เจ้า​ปรารถนา​เถอะ​!​ ​ข้า​เชื่อ​ว่า​ต่อให้​ท่าน​ปู่​กับ​ท่าน​ย่า​รู้เรื่อง​แล้ว​ ​ก็​ไม่มีทาง​ว่า​อะไร​อย่างแน่นอน​”

หวัง​ซี​รู้​ว่า​พี่ชาย​ใหญ่​คอย​ปกป้อง​นาง​อยู่​ตลอด

ขอบตา​ของ​นาง​รื้น​ชื้น​ขึ้น​มา

หวัง​เฉิน​กลับ​กล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​เอาละ​!​ ​อย่า​มัว​แต่​หลั่ง​น้ำ​ถั่ว​ทองอยู่​ที่นี่​เลย​ ​ฟัง​จาก​น้ำเสียง​ของ​เฉินลั​่ว​ผู้​นั้นแล​้ว​ ​อีก​สอง​วัน​จ่าง​กง​จู่​น่าจะ​เชิญ​พี่ชาย​ของ​เจ้า​ไปร​่ว​มงาน​เลี้ยง​ ​ข้า​รีบเร่ง​เดินทาง​ ​แม้แต่​ชุด​สำหรับ​เปลี่ยน​อาบน้ำ​ยัง​ไม่ได้​เอา​มาด​้วย​ ​เจ้า​คง​ไม่​อาจ​ปล่อย​ให้​พี่ชาย​ของ​เจ้า​สวม​ชุด​นี้​ไปร​่ว​มงาน​เลี้ยง​ของ​จ่าง​กง​จู่​หรอก​กระมัง​ ​หาก​เจ้า​มี​เวลา​ซาบซึ้งใจ​ ​ไม่​สู้​ใช้​สมอง​ไปหา​วิธี​ตัด​ชุด​ให้​พี่ชาย​สัก​ตัวดี​กว่า​…

…​อีก​อย่าง​ ​หาก​เจ้า​ได้​แต่ง​มา​อยู่​จิง​เฉิง​จริงๆ​ ​อย่างไร​ก็​ต้อง​ซื้อ​ร้าน​ติด​ถนน​และ​ที่นา​ที่​จิง​เฉิง​ให้​เจ้า​สัก​สอง​สาม​ที่​สำหรับ​เป็น​สิน​เจ้าสาว​ ​ร้านค้า​กับ​ที่นา​ของ​จิง​เฉิง​หา​ซือ​ไม่​ง่าย​มาโดยตลอด​ ​เกรง​ว่า​คง​ต้อง​เริ่ม​หาดู​ตั้งแต่​ตอนนี้​แล้ว​ ​เจ้า​เอง​มา​อยู่​จิง​เฉิง​ได้​ระยะ​หนึ่ง​แล้ว​ ​ทาง​หลง​จู๊​ใหญ่​ก็​ยุ่ง​มาก​ ​เรื่อง​นี้​ข้าว​่า​เจ้า​คง​ต้อง​จัดการ​ด้วยตัวเอง​แล้ว​ ​ลอง​ไปดู​ว่า​จิง​เฉิง​มีส​ถาน​ที่ไหน​เหมาะสม​บ้าง​…

…​โดยเฉพาะ​ที่อยู่อาศัย​ ​ต้อง​รีบ​จัดการ​ให้​เรียบร้อย​ตั้งแต่​เนิ่นๆ​ ​ถึง​จะ​ใช้การได้​ ​ต่อให้​แพง​สักหน่อย​ก็​ไม่เป็นไร​…

…​คง​ไม่​อาจ​ปล่อย​ให้​เจ้า​อยู่​ที่​จวน​หย่ง​เฉิง​ไป​ตลอด​หรอก​กระมัง​…

…​เรื่อง​ของ​เจ้า​ใน​จวน​ข้า​ก็​พอ​จะ​ได้ยิน​มาบ​้าง​ ​จวน​พวกเขา​หา​ได้​มี​กฎระเบียบ​อะไร​มากมาย​ ​ปกครอง​เรือน​ก็​ไม่​เข้มงวด​ ​คง​ต้อง​ส่ง​ข้า​รับใช้​จาก​สู่​จง​มา​ให้​เจ้า​ส่วนหนึ่ง​ ​แล้วก็​หวัง​สี่​อีก​คน​ ​เกรง​ว่า​คง​ไม่​อาจ​ยก​ให้​หลง​จู๊​ใหญ่​แล้ว​…​”

หวัง​เฉิน​ค่อยๆ​ ​ไป​พูด​ไป​ที​เรื่อง​ ​รู้สึก​ว่า​ไม่มี​เรื่อง​ไหน​ที่​เขา​ไม่​ห่วง​เลย

หวัง​ซีก​ลับ​กอด​แขน​พี่ชาย​เอาไว้​อย่าง​ซาบซึ้งใจ​ ​ยู่​ปาก​กล่าวว่า​ ​“​พี่ชาย​ไม่ต้อง​ห่วง​เรื่อง​ของ​ข้า​ ​ท่าน​ปู่​กับ​ท่าน​ย่าม​อบ​เงิน​ส่วนตัว​ให้​ข้า​ไว้​เป็น​จำนวนมาก​ ​ยัง​มีท​่า​นพ​่​ออีก​ ​ได้​เตรียม​สิน​เจ้าสาว​ให้​ข้า​ไว้​ตั้งแต่​เนิ่นๆ​ ​แล้ว​ ​บ้าน​พวกเขา​จะ​เอา​หรือไม่ก็​ตามใจ​ ​หาก​ไม่เอา​ก็​ยิ่ง​ดี​ ​ถึง​เวลา​ข้า​จะ​มอบให้​หลานชาย​กับ​หลานสาว​”

ยัง​กลัว​พี่ชาย​กับ​หลานชาย​ไม่​เลี้ยง​นาง​อีก​หรือ

หวัง​เฉิน​หัวเราะ​เสียงดัง​ลั่น

สิ่ง​ที่​เขา​ต้องการ​คือ​หวัง​ซีที​่​มีชีวิตชีวา​แบบนี้​ ​ไม่ว่า​แต่ง​กับ​ใคร​ ​หรือว่า​แต่ง​ไป​อยู่​ตระกูล​เช่นไร​ ​ก็​มี​ความมั่นใจ​เต็มเปี่ยม​ ​อยาก​แต่ง​ก็​แต่ง​ ​อยาก​หย่า​ถึง​หย่า​ ​นี่​ถึง​จะ​เป็น​หัวใจ​หลัก​ของ​การ​คง​สถานะ​แต่งงาน​ให้​มั่นคง​ได้​อย่างแท้จริง

“​ได้​!​”​ ​เขา​กล่าว​เสียงดัง​ ​“​ต่อไป​เจ้า​ต้อง​อยู่​จิง​เฉิง​ถาวร​ ​ซื้อ​ร้าน​สัก​สอง​สาม​ร้าน​มาดู​แล​ถือเป็น​การ​ฆ่าเวลา​ให้​ตัวเอง​ก็ดี​ ​แต่​ถ้า​ไม่​ชอบ​จริงๆ​ ​ก็​ไม่จำเป็น​ต้อง​ฝืนใจ​แต่งงาน​”

ทั้งหมด​ล้วน​เป็น​เห็นแก่​ความสุข​ของ​หวัง​ซี​เป็นหลัก

หวัง​ซีนึก​ถึง​เรื่อง​ที่​ตัวเอง​ตั้งใจ​จะ​ร่วม​ทำการค้า​กับ​คุณหนู​พาน​ขึ้น​มา​ ​รีบ​ขอ​คำ​ชี้แนะ​จาก​พี่ชาย​ว่า​ ​“​ท่าน​ว่า​พวก​ข้า​ทำการค้า​อะไร​ดีเจ​้า​คะ​”

โยน​เรื่อง​ทาบทาม​ของ​เฉินลั​่​วทิ​้ง​ไว้​ข้างหลัง​ทันที

หวัง​เฉิน​ลอบ​พยักหน้า​ ​เขา​ไม่​เข้าไป​แทรกแซง​เรื่อง​ของ​น้องสาว​โดยตรง​ ​แต่​ให้​คำแนะนำ​แทน​ ​กล่าวว่า​ ​“​แล้ว​เดิมที​เจ้า​ตั้งใจ​ว่า​จะ​ทำการค้า​อะไร​ ​เจ้า​เป็นเจ้าของ​หลัก​หรือ​คุณหนู​พาน​เป็นเจ้าของ​หลัก​?​ ​คุณหนู​พาน​มี​ข้อคิดเห็น​อะไร​หรือไม่​ ​เจ้า​คิด​ว่า​เจ้า​เข้าใจ​หรือ​สนใจ​การค้า​ด้าน​ไหน​ที่สุด​?​”

หวัง​ซีก​ล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​ข้า​ยัง​ไม่ทัน​ได้​หารือ​รายละเอียด​กับ​คุณหนู​พาน​เลย​เจ้าค่ะ​ ​นาง​เพิ่งจะ​ออกเรือน​ไป​เอง​มิใช่​หรือ​ ​บาง​เรื่อง​ยัง​ไม่​เข้าที่​เข้า​ทาง​ ​พวก​ข้า​ตั้งใจ​ว่า​รอ​ให้​นาง​ออกเรือน​ไป​สัก​สาม​เดือน​แล้ว​ค่อย​คุย​กัน​อีกที​ ​พี่ชาย​ก็​รู้​นิสัย​ของ​ข้า​ดี​ ​ข้า​ไม่​ชอบ​เฝ้า​อยู่​ใน​ร้าน​ ​แต่​เมื่อก่อน​ท่าน​ก็​เคย​บอก​ข้าว​่า​ ​ทำการค้า​หา​ใช่​เรื่อง​ง่าย​ ​ต้อง​ทุ่มเท​แรงกาย​แรงใจ​ ​ไม่ว่า​หลง​จู๊​จะ​มี​ความสามารถ​เพียงใด​ ​ก็​ต้อง​หมั่น​ทำให้​หลง​จู๊​รู้สึก​ว่า​เจ้า​รู้เรื่อง​ใน​ร้าน​เป็น​อย่างดี​…

…​ข้า​จึง​คิด​ว่า​ให้​คุณหนู​พาน​เป็นเจ้าของ​หลักดี​กว่า​ ​แต่​ไม่รู้​ว่า​คุณหนู​พาน​จะ​ตกลง​หรือไม่​…

…​ข้า​คิด​ว่า​หาก​ข้า​แต่งงาน​ ​เป็น​แม่​คน​แล้ว​ ​ย่อม​ต้อง​อยาก​ใช้เวลา​อยู่​กับ​ลูก​ให้​มาก​ ​คุณหนู​พาน​เอง​ก็​อาจ​ไม่มีเวลา​เหมือนกัน​…

…​ก่อนหน้านี้​ข้า​ตั้งใจ​ว่า​จะ​เปิดร้าน​ขาย​เครื่องประดับ​ศีรษะ​ ​ไม่ต้อง​ใหญ่​แล้วก็​ไม่ต้อง​แพง​มาก​ ​ให้​คน​ทั่วไป​พอ​จะ​ซื้อ​ไหว​ก็​เป็นอัน​ใช้ได้​ ​แต่​เรื่อง​รูปแบบ​ต้อง​เป็น​แบบ​ใหม่​สักหน่อย​…

…​เกรง​ว่า​คง​ต้อง​เชิญ​หลง​จู๊​และ​ช่างฝีมือ​ที่​เชี่ยวชาญ​การ​ทำ​เครื่องประดับ​ศีรษะ​มาสั​กคน​ถึง​จะ​ใช้การได้​”

นาง​พูด​ความในใจ​กับ​พี่ชาย​ด้วย​เสียง​อบอุ่น​อ่อนโยน​ ​สอง​พี่น้อง​คุย​กัน​ไป​เรื่อยๆ​ ​จนถึง​เวลา​จุด​โคม​ยาม​เย็น

หวัง​เฉิน​เดินทาง​ไป​กลับ​อย่าง​รีบเร่ง​ ​ความจริง​เขา​เหนื่อย​มาก​แล้ว​ ​แต่​ที่​ยังอยู่​ได้​เพราะ​เรื่องด่วน​ยัง​ไม่ได้​รับ​การ​แก้ไข​ ​บัดนี้​ตัดสินใจ​ได้​แล้ว​ ​อารมณ์​ก็​ผ่อนคลาย​ลงมา​ ​เขา​จึง​ยิ่ง​รู้สึก​เหนื่อยล้า​มากขึ้น​ ​หวัง​ซี​เห็น​แล้วก็​รีบ​ตัด​จบ​บทสนทนา​ ​ให้​พี่ชาย​รีบ​กลับ​ไป​พักผ่อน​ ​ยัง​กล่าว​ด้วยว่า​ ​“​ด้าน​หย่ง​เฉิง​โหว​ ​ก็​ไม่จำเป็น​ต้อง​รีบ​ในเวลานี้​ ​ท่าน​พี่​พักผ่อน​หาย​เหนื่อย​แล้ว​ค่อย​ว่า​กัน​อีกที​”

“​เจ้า​เอง​ก็​เข้านอน​แต่​หัวค่ำ​”​ ​หวัง​เฉิน​พยักหน้า​พลาง​กำชับ​น้องสาว​อย่าง​ห่วงใย​ ​แต่​เมื่อ​เห็นท่า​ทางใจ​กว้าง​ดุจ​มหาสมุทร​ของ​น้องสาว​แล้ว​ ​เขา​ก็​กลืน​คำ​กำชับ​มากมาย​ที่มา​รอ​อยู่​ที่​ริม​ฝาก​เหล่านั้น​ลง​ไป

นี่​ถึง​จะ​เรียกว่า​เป็นน้ำ​ไร้ค​ลื่น​จิตใจ​สงบ​ราบเรียบ​ที่แท้​จริง​ ​เช่นนี้​ถึง​จะ​ไม่​เสียเปรียบ​!

หวัง​เฉิน​เดิน​จากไป​ด้วย​รอยยิ้ม​แย้ม

หวัง​ซียั​งคิ​ดอะ​ไร​เล็ก​ๆ​ ​น้อย​ๆ​ ​อยู่​ใน​ใจ

นาง​รู้​ว่า​ตัวเอง​จะ​ต้องหา​ใคร​สัก​คนที​่​ตัวเอง​ชอบ​มา​แต่งงาน​ด้วย​ได้​ ​แต่​สิ่งที่คิด​ไม่​ถึง​ก็​คือ​เมื่อถึง​เวลา​ ​นาง​จะ​ได้​แต่ง​กับ​เฉินลั​่ว​ ​นอกจากนี้​เฉินลั​่ว​ยัง​เป็น​บุรุษ​ที่​หน้าตา​ถูกใจ​นาง​ที่สุด​ตั้งแต่​ที่นาง​เคย​เห็น​มา​อีกด้วย

เช่นนี้​แล้ว​ ​อนาคต​เมื่อ​พวกเขา​มีลูก​ ​อย่างน้อย​ก็​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​เรื่อง​หน้าตา​ของ​คนรุ่นหลัง​แล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น​เฉินลั​่ว​ผู้​นี้​ยัง​เป็น​คน​น่าสนใจ​และ​น่าขบขัน​มาก​อีกด้วย

หวัง​ซีนึก​ถึง​ภาพ​ที่​เขา​มา​ขอกิ​นข​้า​วกั​บนาง​ที่นี่​แล้ว​อด​หัวเราะ​เบา​ๆ​ ​ออกมา​ไม่ได้

ไป๋​กั่ว​กับ​ไป๋​จื่อ​มองดู​อยู่​ไกลๆ​ ​กระซิบกระซาบ​กัน​ว่า​ ​“​ดู​ที​เรื่อง​ของ​คุณหนู​ใหญ่​กับ​ใต้เท้า​เฉิน​คง​สำเร็จ​ไป​กว่า​ครึ่ง​แล้ว​”

ไป๋​จื่อ​กล่าว​ ​“​คุณชาย​ใหญ่​ลงมือ​ทั้งที​ ​มีเรื่อง​อะไร​ที่​ทำไม​่​สำเร็จ​บ้าง​”

หวังห​มัว​มัว​ไม่รู้​ว่า​หวัง​เฉิน​คิด​อะไร​ ​แต่​หวัง​เฉิน​เป็น​คนเก่ง​กาจ​มาโดยตลอด​ ​มี​ความคิด​และ​ความสามารถ​มาตั​้ง​แต่​เด็ก​แล้ว​ ​หวังห​มัว​มัว​เชื่อใจ​เขา​ไม่​ต่าง​จาก​ที่​เชื่อใจ​ปู่​ของ​หวัง​ซี​ ​ในเมื่อ​หวัง​เฉิน​ตัดสินใจ​แล้ว​ ​ไม่ว่า​ใน​ใจ​ของ​นาง​จะ​มี​ความคิด​เช่นไร​ ​ก็​พร้อม​ที่จะ​เก็บ​คืน​ไป​ทั้งหมด​ ​และ​ตั้งหน้าตั้งตา​ทำตาม​ที่หวัง​เฉิน​คิด​เอาไว้

พอนาง​ได้ยิน​ว่า​พรุ่งนี้​หวัง​ซีจะ​ออก​ไป​ตัด​ชุด​ให้​หวัง​เฉิน​ ​ก็​รีบ​ไป​ไป​ติดต่อ​รถม้า​ที่​โรงม้า​ของ​จวน

ด้านฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ยิ่ง​คิด​กลับ​ยิ่ง​รู้สึก​ว่า​ไม่เหมาะสม​ ​นาง​กระซิบกระซาบ​กับ​ซือห​มัว​มัว​ว่า​ ​“​เจ้า​ว่า​ ​นี่​หาก​อา​ซี​แต่ง​เข้าไป​ด้วย​อีก​คน​ ​มิ​เท่ากับ​ว่า​พวก​นาง​สอง​พี่น้อง​กลายเป็น​คู่​สะใภ้​กัน​แล้ว​หรอก​หรือ​ ​หาก​เฉิน​อิง​กับ​เฉินลั​่ว​บาดหมาง​กัน​ด้วย​เรื่อง​ช่วงชิง​ตำแหน่ง​ซื่อ​จื่อ​ ​คนที​่​ต้อง​ลำบากใจ​ก็​คง​หนี​ไม่​พ้น​ซือ​จู​กับ​หวัง​ซีส​อง​พี่น้อง​”

มุม​ปากของ​ซือห​มัว​มัว​กระตุก​ไม่​หยุด​ ​รู้สึก​ว่าฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​คิดมาก​ไป​แล้ว

ถ้า​เฉิน​อิง​กับ​เฉินลั​่ว​แย่งชิง​ตำแหน่ง​ซื่อ​จื่อ​กัน​ ​เกรง​ว่า​ซือ​จู​กับ​หวัง​ซี​มี​แต่​จะ​เดียดฉันท์​ที่​ตัวเอง​ไม่​ลงมือ​ให้​รุนแรง​มาก​พอ​มากกว่า​ ​มิใช่​มาสน​ใจ​เรื่อง​ความสัมพันธ์​ระหว่าง​พี่สาว​น้องสาว

ส่วน​เฉินลั​่ว​เมื่อ​ออกจาก​ร้าน​ของ​ตระกูล​หวัง​แล้ว​ ​ก็​เร่ง​ตรง​ไป​ที่​จวน​จ่าง​กง​จู่​ทันที

จ่าง​กง​จู่​ไป​เป็น​แขก​ที่​จวน​เจียง​ชวน​ป๋อ

เฉินลั​่ว​แปลกใจ​ ​ถาม​หัวหน้า​ผู้ดูแล​จวน​จ่าง​กง​จู่​ว่า​ ​“​ดูเหมือนว่า​ช่วงนี้​มารดา​ข้า​จะ​หมั่น​ไป​จวน​เจียง​ชวน​ป๋อ​ยิ่งนัก​”

ผู้ดูแล​จวน​คน​นั้น​กล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​ก็​ไม่​ถือว่า​เป็น​เช่นนั้น​!​ ​ที่ผ่านมา​จ่าง​กง​จู่​ก็​ค่อนข้าง​ชอบ​ไป​เยี่ยมเยียน​จวน​เจียง​ชวน​ป๋อ​บ่อยครั้ง​ ​เพียงแต่ว่า​ก่อนหน้านี้​ท่าน​ไม่ได้​ถาม​ ​จ่าง​กง​จู่​เอง​ก็​ไม่ได้​พูดถึง​เท่านั้น​ขอรับ​”

จ่าง​กง​จู่​เป็น​คน​สบาย​ๆ​ ​เวลา​คบ​สหาย​จะ​เป็น​ใครก็ได้​ขอ​เพียง​เป็น​คนที​่​นาง​ถูกชะตา​ ​คบค้า​กับ​ใคร​ก็​ดู​ความสนใจ​ของ​ตัวเอง​เป็นหลัก​ ​บางครั้ง​วิ่ง​ไป​บ้าน​ผู้อื่น​ทุกวัน​ ​แต่​บางคราว​กลับ​ไม่​ไป​เยือน​บ้าน​ใคร​เป็นเวลา​หนึ่ง​ถึง​สอง​ปี​เลย​ก็​มี

เฉินลั​่ว​เอง​ก็​ไม่ได้​คิด​อะไร​มาก​ ​ฝากฝัง​เอาไว้​คำ​หนึ่ง​ว่า​ ​“​จ่าง​กง​จู่​กลับมา​แล้ว​ให้​บอก​ด้วยว่า​ข้ามา​หานาง​”​ ​แล้วก็​กลับ​ศาลา​กวาง​ร้อง​ไป

คืน​วันนั้น​กว่า​จ่าง​กง​จู่​จะ​กลับมา​ก็​ค่อนข้าง​ดึก​ ​ล่วงเลย​ยาม​จื่อ​[1]​ไป​แล้ว​ ​พอได้​ยิน​คำของ​ผู้ดูแล​จวน​ ​นาง​กล่าว​กับ​ชิง​กู​ที่​ปรนนิบัติ​นาง​ล้างหน้าล้างตา​ว่า​ ​“​มี​อะไร​ค่อย​คุย​พรุ่งนี้​ก็แล้วกัน​”

เมื่อก่อน​ใช่​ว่า​จะ​ไม่เคย​มีเรื่อง​เช่นนี้​มาก​่อน

เฉินลั​่ว​เติบโต​มา​ขนาด​นี้​ ​เวลา​มากกว่า​ครึ่ง​อาศัย​อยู่​ใน​วัง​หลวง​ ​นานๆ​ ​ที​ถึง​จะ​ออกจาก​วัง​ ​บางครั้ง​ยัง​หนี​ไป​อยู่​ที่​ซอย​ลิ่ว​เถี​ยวด​้วย​ ​พวกเขา​สอง​แม่​ลูก​หา​ได้​เจอ​หน้า​กัน​ทุกวัน

ชิง​กู​ขานรับ​คำ​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​นำ​ปิ่น​ที่​จ่าง​กง​จู่​ถอด​ออกมา​ไป​เก็บ​ไว้​ใน​กล่อง​ทีละ​ชิ้นๆ

จ่าง​กง​จู่​มอง​อัญมณี​ที่​ส่อง​ประกาย​ระยิบระยับ​อยู่​บน​ปิ่นปักผม​ภายใต้​แสง​ตะเกียง​แล้ว​พลัน​นึกถึง​หวัง​ซี​ขึ้น​มา​ ​อด​กล่าว​ไม่ได้​ว่า​ ​“​หาก​มอบ​ของขวัญ​พบ​หน้า​ให้​สะใภ้​คน​ใหม่​ ​อย่างไร​ก็​ต้อง​มี​เครื่องประดับ​ศีรษะ​สอง​ชุด​กระมัง​ ​ไป​เชิญ​คน​ให้​เริ่ม​ทำ​ตั้งแต่​ตอนนี้​จะ​ทัน​หรือเปล่า​ ​หรือไม่ก็​ไป​ขอ​จาก​ฮองเฮา​เหนียง​เหนียง​มาสั​กหน​่อย​?​”

แม้น​กล่าวว่า​ของ​จาก​วัง​หลวง​ล้วน​เป็น​ของ​มี​ลำดับขั้น​ ​คน​ทั่วไป​ไม่​อาจ​ใช้ได้​ ​แต่​ถ้า​ฮ่องเต้​พระราชทาน​ให้​ ​ขอ​เพียง​ไม่มี​ตรา​มังกร​ให้​เห็น​เด่นชัด​เกินไป​ก็​ถือว่า​ใช้ได้

ชิง​กู​กล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​นี่​ท่าน​เสียดาย​สิน​เจ้าสาว​ของ​ตัวเอง​กระมัง​ ​ท่าน​เอง​ก็​มี​ของดี​ไม่น้อย​เลย​!​”

ไม่พูดถึง​อย่าง​อื่น​ ​แค่​ทับทิม​รูป​หัวใจ​ที่​ฝัง​อยู่​บน​ปิ่น​ที่​จ่าง​กง​จู่​สวม​เมื่อ​ครู่​ก็​ใหญ่​เท่า​ไข่​นก​พิราบ​แล้ว​ ​ทั้ง​จิง​เฉิง​นี้​มี​ไม่​กี่​ชิ้น​เท่านั้น

นี่​กล่าว​ได้​ตรง​กับ​ที่​จ่าง​กง​จู่​คิด​จริงๆ

มิใช่​ว่านาง​เสียดาย​ที่จะ​ให้​ ​แต่​หาก​ให้​มอบ​ของ​ที่นาง​ชื่นชอบ​เหล่านั้น​ไป​หมด​ ​นาง​ก็​รู้สึก​ปวดใจ​จริงๆ

จ่าง​กง​จู่​อด​กล่าว​ไม่ได้​ว่า​ ​“​ข้า​หา​ได้​มีบุ​ตร​ชาย​คนที​่​สอง​ ​อย่างไร​วันข้างหน้า​ของ​เหล่านี้​ก็​ต้อง​เป็น​ของ​พวกเขา​ทั้งหมด​มิใช่​หรือ​ ​ตอนนี้​ข้า​ก็​แค่​ยืม​ใช้​ไป​ก่อน​ชั่วคราว​เท่านั้น​ ​หรือว่า​แค่นี้​ก็​ไม่ได้​”

ชิง​กู​เม้มปาก​หัวเราะ​ไม่​หยุด​ ​ชวน​ให้​ทุกคน​ที่​ปรนนิบัติ​อยู่​ใน​ห้อง​พากัน​หัวเราะ​ตาม​ไป​ด้วย

ทว่า​มีสาว​ใช้​เด็ก​เดิน​เบามือ​เบา​เท้า​เข้ามา​รายงาน​ว่า​เฉินลั​่ว​มาหา

จ่าง​กง​จู่​ตกใจ​อ้า​ปากกว้าง​จน​ยัด​ไข่ไก่​เข้าไป​ได้​ ​กว่า​ครู่ใหญ่​ถึง​ได้​ให้​สาวใช้​เด็ก​ผู้​นั้น​เชิญ​เฉินลั​่ว​เข้ามา​ ​ยัง​กระซิบ​กล่าว​กับ​ชิง​กู​ว่า​ ​“​ดึก​ขนาด​นี้​แล้ว​ ​เขา​ยัง​ไม่​นอน​อีก​?​ ​รอ​ข้า​กลับมา​ตลอด​เลย​หรือ​”

ชิง​กู​กลับ​กังวลใจ​เล็กน้อย

วันนี้​ฮ่องเต้​กับ​ฮองเฮา​มีปากเสียง​กัน​ครั้ง​ใหญ่

คาด​ว่า​ฮองเฮา​คง​อดทน​ต่อไป​ไม่ไหว​แล้ว​ ​จึง​สอบถาม​ฮ่องเต้​ไป​ตรงๆ​ ​ว่า​ตกลง​คิด​จะ​ทำ​อัน​ใด​กัน​แน่​ ​เหตุใด​ถึง​ประทาน​เงิน​ให้​ญาติ​ผู้​พี่​ของ​หนิง​ผิน​มากมาย​ขนาด​นั้น​ ​ยัง​โยกย้าย​เงิน​ของ​กรม​คลัง​ไป​อีก​ ​แล้ว​องค์​ชาย​สี่​กับ​องค์​ชาย​หก​ไม่ใช่​โอรส​แท้ๆ​ ​ของ​ฮ่องเต้​หรอก​หรือ

ฮ่องเต้​อับอาย​จน​เพลิง​โทสะ​ปะทุ​ ​นอกจาก​เตะ​ฮองเฮา​เหนียง​เหนียง​ไป​ครั้งหนึ่ง​แล้ว​ ​ยัง​ต้องการ​เรียก​สำนัก​บุคคล​ที่อยู่​ปฏิบัติหน้าที่​เข้าไป​ ​ประสงค์​จะ​ปลด​ฮองเฮา​เหนียง​เหนียง​อีกด้วย

โชคดี​ที่​ดึก​มาก​แล้ว​ ​ฮ่องเต้​ประทับ​อยู่​ที่​วัง​ชั้นใน​ ​ประตู​วัง​ลงกลอน​แล้ว​ ​ไม่อย่างนั้น​ก็​ไม่รู้​ว่า​จะ​วุ่นวาย​เพียงใด

คง​มิใช่​ว่า​คุณชาย​รอง​ทราบ​เรื่อง​นี้​แล้ว​ ​ก็​เลย​มาส​อบ​ถาม​จ่าง​กง​จู่​หรอก​กระมัง

……………………………………………………..

[1]​ ยาม​จื่อ ​23.00-01.00​ ​นาฬิกา