ตอนที่ 218 เผชิญหน้า

เสน่ห์รักคุณหนูต่างสกุล

ชิง​กู​ไป​ต้อนรับ​เฉินลั​่ว​ด้วย​หัวใจ​ที่​บีบรัด​จน​แน่น

เฉินลั​่ว​คล้าย​มี​อะไร​ใน​ใจ​จึง​ไม่ได้​สนใจ​นาง​เท่าไร​นัก​ ​หันมา​พยักหน้า​ให้​นางน้อย​ๆ​ ​เหมือน​ที่ผ่านมา​แล้วก็​เดิน​เข้าไป​ข้างใน

ชิง​กู​ก้มหน้า​ลง​ ​เข้าไป​ใน​ห้อง​ชั้นใน​ของ​จ่าง​กง​จู่​พร้อมกับ​เฉินลั​่ว​ด้วย​ความระมัดระวัง

จ่าง​กง​จู่​ถอด​เครื่องประดับ​ออก​เรียบร้อย​แล้ว​ ​กำลัง​นั่ง​อยู่​หน้า​กระจก​ ​ปล่อย​ให้​สาวใช้​เด็ก​หวี​ผม​ให้​นาง​อย่างที่​ทำ​ทุก​เช้า​และ​เย็น

นาง​ดู​อารมณ์ดี​เป็น​อย่างยิ่ง​ ​สีหน้า​แดง​ปลั่ง​ ​แววตา​กระจ่าง​ใส​ ​เมื่อ​เห็น​บุตรชาย​ก็​ยิ่ง​แย้มยิ้ม​ออกมา​ ​ชี้​เก้าอี้​กระเบื้องเคลือบ​ตัว​กลม​ด้าน​ข้าง​ให้​เขา​นั่งลง​ ​พร้อมกับ​กล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​ดึก​ป่านนี้​แล้ว​ ​เจ้า​มา​ได้​อย่างไร​ ​มาหา​ข้ามี​เรื่องด่วน​อะไร​หรือเปล่า​”

เฉินลั​่ว​มอง​ใบหน้า​ของ​มารดา​ที่​ยังคง​เต็มไปด้วย​ชีวิตชีวา​ดุจ​เดิม​แล้ว​เงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ถึง​ได้​กล่าว​ขึ้น​อย่าง​ไม่​เป็นตัว​เอง​เล็กน้อย​ว่า​ ​“​คุณชาย​ใหญ่​ของ​ตระกูล​หวัง​มาถึง​จิง​เฉิง​แล้ว​ ​ข้า​กำลัง​คิด​ว่า​พวกเรา​ควร​เชิญ​เขา​กินข้าว​สัก​มื้อ​ดี​หรือไม่​ ​แล้วก็​ควร​เชิญ​คนกลาง​มาสั​กคน​ดี​หรือไม่​…​”

จ่าง​กง​จู่​โพล่ง​เสียงหัวเราะ​ออกมา​เสียง​หนึ่ง​อย่าง​ห้าม​ไม่อยู่

นาง​คิด​ว่า​มีเรื่อง​อะไร​เสียอีก

ที่แท้​ก็​อยาก​ประจบ​เอาใจ​ว่าที่​พี่​ภรรยา​นี่เอง​!

เมื่อก่อน​ไม่มีทาง​ที่​บุตรชาย​ของ​นาง​จะ​มานั​่ง​รอนา​งก​ลับ​บ้าน​จนถึง​กลางดึก​ก็​ยัง​ไม่​หลับ​ไม่​นอน​เช่นนี้

หาก​ดึกดื่น​ป่านนี้​แล้วยัง​รอนา​งอยู​่​ ​นั่น​ต้อง​เป็น​เพราะ​นาง​เข้า​วัง​แล้ว​มีเรื่อง​เกิดขึ้น​ใน​วัง​จึง​ต้องการ​มา​ขอ​ข้อมูล​จาก​นาง

เมื่อ​คิด​เช่นนี้​แล้ว​ ​นาง​พลัน​มี​ความคิด​อยาก​ถากถาง​บุตรชาย​ขึ้น​มา​เล็กน้อย

นาง​จงใจ​ขมวดคิ้ว​มุ่น​ ​กล่าวว่า​ ​“​นี่​ยัง​ไม่ได้​แลก​เทียบ​อักษร​แปด​ชะตา​กัน​เลย​ ​รีบ​เอาใจ​ก่อน​เช่นนี้​ไม่​ค่อย​ดี​กระมัง​”

เฉินลั​่ว​ไม่​แสดงออก​ทาง​สีหน้า​ ​ทว่า​ใน​ใจ​รู้สึก​ร้อนรน​เล็กน้อย

เขา​รู้​ว่า​แม่​สามี​กับ​สะใภ้​ไม่มีทาง​สนิท​ชิดเชื้อ​เสมือน​เป็น​แม่​ลูก​จริงๆ​ ​มาตั​้ง​แต่​อดีตกาล​แล้ว​ ​และ​หาก​บุตรชาย​ยัง​แสดงออก​ว่า​ให้ความสำคัญ​กับ​สะใภ้​แต่ละ​เลย​แม่​สามี​ล่ะ​ก็​ ​สะใภ้​ผู้​นั้น​ก็​ยิ่ง​ทำตัว​ลำบาก​มากขึ้น​ ​เรื่อง​ของ​เขา​กับ​หวัง​ซียัง​จำเป็นต้อง​ให้​มารดา​ของ​เขา​ช่วย​ออกหน้า​ให้​อยู่​ ​หาก​เวลานี้​เขา​ทำให้​มารดา​มีอคติ​ต่อ​หวัง​ซี​ ​เช่นนั้น​เขา​คง​ไม่มี​ที่​ให้​ไปร​้​อง​ไห้​ด้วย​จริงๆ​ ​แล้ว

เฉินลั​่​วรีบ​ตอบ​ทันที​ว่า​ ​“​ในเมื่อ​เป็นเรื่อง​ที่​ตัดสินใจ​กัน​เรียบร้อย​แล้ว​ ​ก็​อย่า​กล่าว​ให้​มาก​พิธี​กัน​ไป​เลย​ ​อย่างไร​ก็​ต้อง​มี​ฝ่าย​หนึ่ง​กระตือรือร้น​กว่า​อีก​ฝ่าย​เล็กน้อย​ ​พวกเรา​ใจกว้าง​สักหน่อย​ก็แล้วกัน​ ​หาก​คน​ของ​ตระกูล​หวัง​เข้าหา​ยาก​ ​ถึง​เวลา​ค่อย​ว่า​กัน​อีกที​”

จ่าง​กง​จู่​เข้าใจ​บุตรชาย​ของ​ตัวเอง​เป็น​ที่สุด

หาก​เป็นการ​ตัดสินใจ​ทำ​จาก​การ​ดูท่า​ที​ของ​อีก​ฝ่าย​ก่อน​จริงๆ​ ​คง​ไม่กระตือรือร้น​ขนาด​นี้

เห็นได้ชัด​ว่า​บุตรชาย​ตัดสินใจ​เป็น​ที่​เรียบร้อย​แล้ว​ ​ไม่ว่า​ตระกูล​หวัง​จะ​มีท​่า​ที​อย่างไร​ ​ก็​จะ​ทำตัว​เป็น​คน​หน้าหนา​เอาใจ​อย่างกระตือรือร้น​อยู่ดี

บุตรชาย​ของ​ตัวเอง​นาง​ย่อม​รู้ดี​ ​หาก​บอกว่า​ให้ความสำคัญ​กับ​ความรู้สึก​เกินไป​ก็​เห็นจะ​เป็น​เช่นนั้น​จริงๆ​ ​แต่​คนที​่​ทำให้​เขา​ให้ความสำคัญ​ได้​จะ​ต้อง​เป็น​คนที​่​ยินดี​ยื่นมือ​ออกมา​ให้​ความช่วยเหลือ​เขา​ก่อน​ ​นี่​งานแต่ง​ระหว่าง​เขา​กับ​คุณหนู​หวัง​ยัง​ไม่มี​วี่แวว​เลย​ ​เขา​ก็​มีท​่า​ที​ยอม​ลง​ให้​ขนาด​นี้​แล้ว​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​ให้ความสำคัญ​กับ​คุณหนู​หวัง​ผู้​นั้น​มาก​จริงๆ

นี่​หาก​คุณหนู​หวัง​แต่ง​เข้ามา​ ​ไม่รู้​ว่า​เจ้า​ลูกชาย​โง่เง่า​ของ​นาง​ผู้​นี้​จะ​ทำ​อะไร​ออกมา​ได้​อีก​บ้าง

นาง​ไม่​อยาก​ให้​บุตรชาย​ของ​ตัวเอง​ก้มหัว​เสมือน​เป็น​คนรับใช้​ ​ปล่อย​ให้​คุณหนู​หวัง​ขี่​อยู่​บน​ศีรษะ​ออกคำสั่ง​เขา

จ่าง​กง​จู่​ขมวดคิ้ว​มุ่น​อีกครั้ง​ ​รู้สึก​ไม่​ค่อย​ชอบใจ​ขึ้น​มา​จริงๆ​ ​แล้ว​ ​นาง​ถาม​ ​“​เช่นนั้น​เจ้า​คิด​จะ​ทำ​อย่างไร​”

เฉินลั​่ว​สัมผัส​ได้​ว่า​มารดา​ไม่​ค่อย​พอใจ​ ​แต่​หวัง​เฉิน​เดินทาง​มา​อย่างกะทันหัน​เกินไป​ ​ต่อให้​เดิมที​เขา​มีแผน​การ​แต่​เวลานี้​ก็​ใช้ไม่ได้​แล้ว​ ​ได้​แต่​ต้อง​ทำใจ​ดี​เข้า​สู้​เพื่อ​หว่านล้อม​มารดา​เขา​เท่านั้น​แล้ว

“​คง​หา​คนกลาง​มาสั​กค​นก​่อ​นก​ระ​มัง​?​”​ ​เขา​พยายาม​ทำให้​ท่าทาง​ของ​ตัวเอง​ดู​สงบ​และ​เป็นปกติ​ที่สุด​ ​“​อย่างไร​เสีย​ต่อไป​ก็​ต้อง​เชิญ​ใคร​สัก​คน​ช่วย​ออกหน้า​มา​เจรจา​เรื่อง​นี้​ให้​อยู่ดี​ ​จากนั้น​ค่อย​จัด​เลี้ยงรับรอง​คุณชาย​ใหญ่​ตระกูล​หวัง​ที่​หอ​สายลม​วสันต์​สักครั้ง​หนึ่ง​ ​เขา​เป็น​พี่ชาย​คนโต​ของ​คุณหนู​หวัง​ ​ค่อนข้าง​มีฝีมือ​และ​ความสามารถ​ ​คน​เช่นนี้​คบค้า​กัน​เอาไว้​มี​แต่​ข้อดี​ไม่มี​ข้อเสีย​ขอรับ​”

​สองคร​อบ​ครัว​เกี่ยวดอง​กัน​ย่อม​เกี่ยวพัน​ถึง​สตรี​ใน​เรือน​ชั้นใน​ ​และ​พ่อสื่อ​แม่สื่อ​ก็​ต้อง​เป็น​คน​มีคุณ​ธรรม​ ​งานแต่ง​ถึง​จะ​มีเกียรติ​ ​ฉะนั้น​ก่อนที่จะ​เชิญ​พ่อสื่อ​แม่สื่อ​อย่างเป็นทางการ​ ​ก็​มักจะ​เชิญ​ผู้​มีคุณ​ธรรม​สูงส่ง​ที่​ทั้งสอง​ครอบครัว​ต่าง​ไว้วางใจ​แล้วก็​เป็นที่รู้จัก​โดย​ทั่วกัน​มาช​่วย​เจรจา​ให้​ทั้งสองฝ่าย​ก่อน​ ​ซึ่ง​เรื่อง​ที่จะ​เจรจา​มัก​ประกอบไปด้วย​เรื่อง​สินสอด​จำนวน​เท่าไร​ ​สิน​เจ้าสาว​จำนวน​เท่าใด​ ​และ​กำหนด​วัน​มงคลสมรส​เป็น​วันที่​อะไร​เป็นต้น

จ่าง​กง​จู่​ได้ยิน​แล้ว​รู้สึก​ว่า​ดีร้าย​บุตรชาย​ของ​ตัวเอง​ก็​ยัง​ไม่​เสียสติ​ถึงขั้น​จะ​ให้​นาง​ที่​เป็นมา​รดา​ผู้​นี้​ไป​ประจบ​เอาใจ​ตระกูล​หวัง​ ​จึง​พยักหน้า​น้อย​ๆ​ ​อารมณ์​ก็​แจ่มใส​ตาม​ขึ้น​มา​ ​กล่าวว่า​ ​“ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​จวน​เจียง​ชวน​ป๋อ​น่าจะ​ดีที​่​สุด​ ​แต่​นาง​เป็น​สตรี​หม้าย​ ​ให้​ทำ​เรื่อง​เช่นนี้​คง​ไม่​เหมาะ​ ​โหวฮู​หยิน​จวน​เซียง​หยาง​โหว​เหมาะสม​มาก​ ​บิดา​มารดา​ยังอยู่​ครบ​ ​เบื้องบน​มีพี​่​น้องชาย​หญิง​ ​เบื้องล่าง​มี​หลานชาย​หลานสาว​ ​แต่ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ของ​พวกเขา​ชวน​ให้​คน​รังเกียจ​เกินไป​ ​เมื่อใด​ที่​เกี่ยวพัน​ไป​ถึง​ครอบครัว​พวกเขา​ ​เกรง​ว่า​เรื่อง​มงคล​ของ​ทั้งสอง​ครอบครัว​คง​ถูก​โพนทะนา​ให้​ทุกคน​ได้​ทราบ​กัน​ถ้วน​ทั่ว​แน่​ ​อีก​คนที​่​เหมาะสม​ก็​เป็น​นาย​หญิง​เจ็ด​ของ​จวน​ชิง​ผิง​โหว​ ​ข้า​เห็น​ว่า​ไม่เลว​เลย​ทีเดียว​ ​เพียงแต่ว่า​ไม่เคย​เห็น​นาง​เป็น​แม่สื่อ​ให้​ผู้ใด​มาก​่อ​นก​็​เท่านั้น​ ​ไม่รู้​ว่า​จะ​ทำได้​หรือไม่​…​”

จ่าง​กง​จู่​คิด​คำนวณ​ไปมา​อยู่​ตรงนั้น​ ​ก็​ไม่เห็น​ว่า​มี​ใคร​เหมาะสม​สัก​คน

ความจริง​เฉินลั​่ว​มีตัว​เลือก​อยู่​ใน​ใจ​แต่​เนิ่นๆ​ ​แล้ว​ ​ทว่า​ไม่​อาจ​เสนอ​ออกมา​ตรงๆ​ ​ได้​ ​ด้วย​กลัว​มารดา​ของ​เขา​จะ​ล่วงรู้​แผนการ​ร้าย​เล็ก​ๆ​ ​ที่ซ่อน​อยู่​ใน​ใจ​เขา​ ​จึง​ปล่อย​ให้​จ่าง​กง​จู่​คาดเดา​ไปมา​ก่อน​ ​จนกระทั่ง​จ่าง​กง​จู่​หา​คนที​่​เหมาะสม​ไม่ได้​แล้ว​จริงๆ​ ​เขา​ถึง​ได้​กล่าว​ขึ้น​ว่า​ ​“​ข้าว​่า​เจียง​ชวน​ป๋อฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ดีมาก​แล้ว​ขอรับ​ ​นี่​เป็นการ​เชิญ​คน​มาช​่วย​เจรจา​ ​ขอ​เพียง​เจรจา​เก่ง​ก็​เป็นอัน​ใช้ได้​แล้ว​ ​หา​ใช่​เชิญ​ผู้​เปี่ยม​ไป​ด้วย​พร​ทุก​ประการ​เสียหน่อย​!​”

ผู้​เปี่ยม​ไป​ด้วย​พร​ทุก​ประการ​ต่างหาก​ถึง​จะ​ต้อง​พิถีพิถัน​เรื่อง​มีบิ​ดามา​รดา​อยู่​ครบ​และ​มีบุ​ตร​ชาย​หญิง​พร้อมหน้า

ไม่รู้​ว่า​เพราะเหตุใด​ ​จ่าง​กง​จู่​ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​ถึง​ได้​พยักหน้า​รับ

เฉินลั​่​วจึง​พูดถึง​เรื่อง​งานเลี้ยง​ขึ้น​มา​ ​“​ท่าน​ว่า​เวลา​ใด​ถึง​จะ​เหมาะสม​ขอรับ​”

ความจริง​ควร​เชิญ​มาที​่​บ้าน​ถึง​จะ​เป็นการ​แสดง​ความเคารพ​และ​ให้เกียรติ​ ​แต่​เรื่อง​มงคล​ระหว่าง​หวัง​ซีกับ​เฉินลั​่ว​ยัง​ไม่ได้​มี​การปรึกษาหารือ​กัน​อย่างเป็นทางการ​ ​เชิญ​มาที​่​บ้าน​จึง​ดู​ไม่​ค่อย​ดี​เท่าไร​นัก

จ่าง​กง​จู่​เอง​ก็​ไม่​คิด​จะ​ฉุด​แขนขา​ของ​บุตรชาย​ ​กล่าวว่า​ ​“​ทำตาม​แผนการ​ของ​เจ้า​ก็แล้วกัน​”

เฉินลั​่ว​โล่งอก​ไป​เปลาะ​หนึ่ง

เขา​เคย​ปฏิสัมพันธ์​กับ​หวัง​เฉิน​ผู้​นี้​แล้ว​ ​ค้นพบ​ว่า​ถึงแม้​หวัง​เฉิน​ไม่ใช่​คน​หน้าตา​โดดเด่น​ ​แต่​เป็น​คน​สุภาพอ่อนโยน​ ​อากัปกิริยา​งามสง่า​ ​พูดจา​มี​อารมณ์ขัน​และ​เชาน​์​ปัญญา​ ​ขณะเดียวกัน​ก็​มี​เนื้อหาสาระ​ ​เหตุ​ที่​หน้าตา​เขา​ไม่​โดดเด่น​จึง​ดู​ไร้​พิษสง​ไป​ด้วย​ ​ทำให้​คน​อยู่​ด้วย​แล้ว​รู้สึก​อบอุ่น​ ​จึง​กลายเป็น​จุดแข็ง​ของ​เขา​ใน​การ​รับมือ​กับ​ผู้คน​ ​กอปร​กับ​เขา​เป็น​คน​ทำ​อะไร​ด้วย​ความเอาใจใส่​และ​ระมัดระวัง​ ​ซึ่ง​ตรง​กับ​ลักษณะ​ที่มา​รดา​ของ​เขา​โปรดปราน​พอดี​ ​เมื่อมา​รดา​เขา​ได้​เจอ​หวัง​เฉิน​แล้ว​จะ​ต้อง​เปลี่ยนความคิด​ที่​มีต​่อ​ตระกูล​หวัง​อยู่​บ้าง​ไม่​มาก​ก็​น้อย

งานแต่ง​ของ​เขา​กับ​หวัง​ซีก​็​ถือว่า​สำเร็จ​ไป​ครึ่งหนึ่ง​แล้ว

และ​นี่​ก็​เป็นสาเหตุ​สำคัญ​ที่​เขา​ยืนกราน​จะ​ให้​มารดา​เขา​ออกหน้า​จัด​เลี้ยงรับรอง​หวัง​เฉิน​หลังจากที่​เขา​ได้​เจอ​หวัง​เฉิน​แล้ว

“​เช่นนั้น​ก็​ทำตาม​ที่​คุย​กัน​ก่อนหน้านี้​ ​จัด​เลี้ยง​ที่​หอ​สายลม​วสันต์​ก็แล้วกัน​นะ​ขอรับ​”​ ​เฉินลั​่​วก​ล่าว​ ​“​ข้า​เอง​ก็​จะ​ได้​ไป​เตรียมการ​แต่​เนิ่นๆ​ ​อย่าง​ช้า​ที่สุด​ก็​พรุ่งนี้​หรือไม่ก็​มะรืน​นี้​ก็​น่าจะ​ได้เรื่อง​แน่ชัด​แล้ว​”

นี่​หมายความว่า​ให้​จ่าง​กง​จู่​จัดสรร​เวลา​ให้​ว่าง​เอาไว้

จ่าง​กง​จู่​พยักหน้า​ ​คุย​เรื่อง​สัพเพเหระ​กับ​เฉินลั​่​วอีก​สอง​สาม​ประโยค​ ​ประจวบเหมาะ​กับ​ที่​สาวใช้​หวี​ผม​ให้​นาง​เสร็จ​แล้ว​ ​จึง​ยก​น้ำชา​ขึ้น​ส่ง​แขก​ ​ให้​ชิง​กู​ไป​ส่ง​เขา​ที่​ประตู​เช่น​เดิม

ชุ่ย​กู​ที่​เป็น​ข้า​ราชสำนัก​สตรี​ฝ่ายใน​อีก​ท่าน​หนึ่ง​ของ​นาง​กล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​ทองพันชั่ง​ก็​ยาก​จะ​ซื้อ​ความสุข​ของ​คุณชาย​รอง​ได้​ ​ท่าน​ก็ตาม​ใจ​เขา​เถิด​เจ้าค่ะ​ ​ภายหน้า​เขา​จะ​ต้อง​กตัญญู​ต่อ​ท่าน​มากขึ้น​อย่างแน่นอน​”

จ่างก​จู่​ยิ้ม​กล่าวว่า​ ​“​ข้า​จะ​อยาก​ให้​เขา​กตัญญู​ไป​เพื่อ​อัน​ใด​ ​ข้า​หวัง​เพียง​ว่า​ภายหน้า​เขา​ไม่​เกลียด​ข้า​ก็​พอ​”

ชุ่ย​กู​กล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​เช่นนั้น​ท่าน​ก็​ยิ่ง​ไม่​ควร​ขัดขวาง​ ​คำ​โบราณ​กล่าว​ได้ดี​ยิ่ง​ ​ไม่​โง่​ไม่​หูหนวก​บ้าง​ ​เป็น​ผู้อาวุโส​ไม่ได้​ ​ท่าน​ทำเป็น​ไม่เห็น​เสีย​ก็แล้วกัน​เจ้าค่ะ​”

จ่าง​กง​จู่​หัวเราะ​ ​ไม่​พูด​เรื่อง​นี้​ต่อ​ ​แต่​เอ่ยถึง​เรื่อง​แต่งงาน​ของ​เฉินลั​่ว​ขึ้น​มา​แทน​ ​“​ไม่รู้​ว่า​ต้อง​เปิด​จวน​ให้​เขา​ใหม่​หรือไม่​ ​จวน​เจิ​้​นกั​๋​วกง​ทาง​ด้าน​โน้น​ย่อม​ไม่สน​ใจ​เขา​ ​จะ​ให้​อยู่​ที่​จวน​จ่าง​กง​จู่​ ​ข้า​ก็​กลัว​คน​ข้างนอก​จะ​เอา​ไป​พูด​นั่น​พูด​นี่​อีก​”

ชุ่ย​กูยิ​้​มก​ล่า​วว​่า​ ​“​ท่าน​นี่​น้า​!​ ​ต่อหน้า​คุณชาย​รอง​ไม่มี​รอยยิ้ม​เลย​แม้แต่​ครึ่ง​เดียว​ ​แต่​พอคุณ​ชาย​รอง​จากไป​ ​ท่าน​ก็​เริ่ม​กังวลใจ​เรื่อง​เรือนหอ​ของ​เขา​แล้ว​ ​ตาม​ความเห็น​ของ​ข้า​ ​เรื่อง​นี้​ท่าน​ควร​สอบถาม​คุณชาย​รอง​ดูก่อน​ดีกว่า​ ​หาก​เขา​อยาก​อยู่​ที่นี่​กับ​ท่าน​ ​ท่าน​ก็​ช่วย​สร้าง​เรือนหอ​ให้​เขา​สัก​หลัง​ก็ได้​ ​แต่​ถ้า​เขา​ไม่​อยาก​อยู่​ที่นี่​ ​ก็​ซื้อ​บ้าน​ข้างนอก​สัก​หลัง​ที่​ดี​ๆ​ ​สักหน่อย​แล้วก็​อยู่​ไม่​ห่าง​จาก​ที่นี่​ของ​ท่าน​มาก​ก็​ไม่​ต่างกัน​เจ้าค่ะ​”​

จ่าง​กง​จู่​พยักหน้า​ ​คุย​เรื่อง​แต่งงาน​ของ​เฉินลั​่​วกับ​ชุ่ย​กู​อีก​กว่า​ครึ่ง​ค่อนคืน​ ​กระทั่ง​ถึง​ยาม​อิ​๋น​[1]​ ​ที่​ท้องฟ้า​ใกล้​สว่าง​แล้ว​ถึง​ได้​เข้านอน

ด้าน​เฉินลั​่ว​เพียง​ไม่นาน​ก็​จัดการ​เรื่อง​จอง​โต๊ะ​และ​ส่ง​เทียบ​เชิญ​ไป​ให้​หวัง​เฉิน​เสร็จ​เรียบร้อย

ประจวบเหมาะ​กับ​ที่สอง​วันนี้​หวัง​เฉิน​ตรวจ​สมุดบัญชี​เสร็จ​เรียบร้อย​พอดี​ ​พอ​จะ​มี​เวลาว่าง​ไป​แจ้ง​หวัง​ซี​เอาไว้​คำ​หนึ่ง​ ​กระทั่ง​ถึง​วัน​ดังกล่าว​ก็​ไปร​่ว​มงาน​เลี้ยง​ตามเวลา​นัดหมาย

เขา​อยู่​ใน​ชุด​ใหม่​ที่หวัง​ซีช​่วย​จัดเตรียม​ให้​ ​เป็น​ชุด​เต้า​เผา​ธรรมดา​สีน้ำเงิน​ไพลิน​ทอ​ลาย​ค้างคาว​ห้า​ตัว​สีม่วง​ ​บน​ศีรษะ​ปักปิ่น​หยก​มัน​แพะ​สีขาว​เลี่ยมทอง​ ​เท้า​เบื้องล่าง​สวม​รองเท้า​สีดำ​ลายเมฆา​ ​เข็มขัด​สีดำ​ตรง​บริเวณ​เอว​ห้อย​ตราประทับ​ขนาดเล็ก​และ​ทอง​เจ็ด​ประการ​เอาไว้​ ​ดู​มั่งคั่ง​และ​ไม่​ไร้ความสามารถ​ ​ทำให้​จ่าง​กง​จู่​อด​ที่จะ​มอง​เพิ่ม​อีก​สองครั​้ง​ไม่ได้

หวัง​เฉิน​เอง​ก็​นับว่า​เห็น​โลก​มามาก​ ​ตอน​มา​จึง​ไม่ได้​รู้สึก​หวาดกลัว​ ​แต่​เมื่อ​เห็น​ใบหน้า​ที่​ยัง​เหมือน​บุปผา​แรก​แย้ม​ของ​จ่าง​กง​จู่​แล้ว​ ​เขา​ยังคง​อด​ที่จะ​เผย​ความประหลาดใจ​ออกมา​ไม่ได้

จ่าง​กง​จู่​เห็น​แล้ว​บังเกิด​ความภาคภูมิใจ​ ​รู้สึก​พึงพอใจ​หวัง​เฉิน​เพิ่มขึ้น​หลาย​ส่วน

ทั้งสอง​คน​ต่าง​สุภาพ​และ​เกรงใจ​กัน​ ​ผลัดกัน​ทักทายปราศรัย​กัน​สอง​สาม​ประโยค​เสร็จ​แล้ว​ถึง​ได้​นั่งลง​ตามลำดับ

เจ้าของ​มารับ​ประทาน​อาหาร​ที่​ร้าน​ ​จ่าง​กง​จู่​ยัง​เป็น​เจ้ามือ​เลี้ยง​อีก​ ​หอ​สายลม​วสันต์​จึง​แสดง​ฝีมือ​อย่างเต็มที่

แม้น​เป็น​ฤดูหนาว​แต่​ยังคง​ทำอาหาร​ขึ้นชื่อ​อย่าง​บึง​บัว​แสงเดือน​มา​ขึ้น​โต๊ะ​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​เม็ด​บัว​ก็​ยัง​มีรส​ชาติ​หวาน​และ​สด​ ​คล้าย​เพิ่ง​เด็ด​ขึ้น​มาจาก​บึง​บัว​ก็​ไม่​ปาน​ ​ลูก​กระจับ​กรอบ​อร่อย​ ​ราก​บัว​แผ่น​สีขาว​สะอาด​ ​วาง​อยู่​ใน​ใบบัว​สีเขียว​มรกต​ ​ทำให้​คน​สงสัย​เล็กน้อย​ว่า​ตอนนี้​เป็น​ฤดูกาล​อะไร​กัน​แน่

หวัง​เฉิน​อธิบาย​ให้​จ่าง​กง​จู่​ฟัง​ว่า​ ​“​ครอบครัว​พวก​ข้า​ขุด​ห้องใต้ดิน​สำหรับ​เก็บ​วัตถุดิบ​เหล่านี้​เป็นพิเศษ​ ​ใช้​น้ำแข็ง​เก็บรักษา​เม็ด​บัว​ไว้​ใน​ห้องใต้ดิน​มาตั​้ง​แต่​ช่วง​ฤดูร้อน​ ​ส่วน​ราก​บัว​ก็​นำมา​เก็บ​ไว้​พร้อม​โคลน​เลย​…​”

จ่าง​กง​จู่​ฟัง​แล้ว​รู้สึก​สนใจ​เป็นอย่างมาก​ ​หวัง​เฉิน​จึง​พานาง​ไปดู​ห้องใต้ดิน​ ​หวัง​เฉิน​ยัง​สัญญา​ว่า​หลัง​ผ่านพ้น​ปีใหม่​แล้ว​จะ​ให้​คน​นำ​ราก​บัว​ไป​ส่ง​ให้​จ่าง​กง​จู่​เอาไว้​ตุ๋น​น้ำแกง​หรือไม่ก็​ผัด​กิน​อีกด้วย​ ​“​…​รสชาติ​ดีกว่า​แตงกวา​มาก​นัก​”

จ่าง​กง​จู่​ได้ยิน​แล้ว​ยิ้ม​ไม่​หุบ​ ​ท่าทาง​ดีใจ​เป็นอย่างมาก​ ​ยัง​ถาม​หวัง​เฉิน​ด้วยว่า​ ​“​คนที​่​บ้าน​พวก​เจ้า​ต่าง​รู้จัก​กิน​ของ​อร่อย​ๆ​ ​กัน​ใช่​หรือไม่​ ​ขนม​ที่​น้องสาว​ของ​เจ้า​ทำ​ก็​เป็นที่นิยม​ของ​จิง​เฉิง​ ​ข้า​ไม่​เพียง​เคย​ได้ยิน​มา​เท่านั้น​ ​ยัง​เคย​กิน​มา​แล้ว​หลายครั้ง​ ​อร่อย​กว่า​ของ​ครัว​หลวง​ที่​ทำ​ใน​วัง​หลวง​จริงๆ​”

หวัง​เฉิน​ไม่ใช่​คนที​่​ชอบ​เหยียบย่ำ​น้องสาว​ของ​ตัวเอง​เพื่อ​ยกยอ​ผู้อื่น​อย่าง​ผู้ใหญ่​ทั่วๆ​ ​ไป​ชอบ​กระทำ​ประเภท​นั้น

เขา​กล่าว​อย่าง​ภาคภูมิใจ​ว่า​ ​“​เป็น​นาง​ที่​รู้จัก​กิน​มาก​เป็นพิเศษ​ ​กรรมวิธี​เก็บรักษา​วัตถุดิบ​บึง​บัว​แสงเดือน​จาน​นี้​ก็​เกิดขึ้น​จาก​ที่นาง​ร้อง​อยาก​กิน​ตอน​เป็น​เด็ก​ ​ท่าน​ปู่​ของ​ข้า​ใช้เวลา​ทำการ​ทดลอง​อยู่​หลาย​ปี​ถึง​ได้คิด​ค้น​กรรมวิธี​เก็บรักษา​นี้​ขึ้น​มา​ได้​”

จากนั้น​เขา​ก็​พูดถึง​เรื่อง​ต่างๆ​ ​ที่หวัง​ซี​เคย​ทำ​ตอน​เป็น​เด็ก​เพื่อ​เรื่อง​กิน​ขึ้น​มา

จ่าง​กง​จู่​ยิ้ม​ไม่​หุบ​ ​นึก​ภาพ​ออก​ว่า​ตอน​อยู่​บ้าน​หวัง​ซี​เป็น​ที่รัก​มากมาย​เพียงใด

นี่​จึง​ตรง​กับ​ความคิด​ของ​จ่าง​กง​จู่​พอดี​ ​กล่าวคือ​แม้น​ตัวนาง​เอง​จะ​เป็น​ถึง​องค์​หญิง​ ​แต่​ชีวิต​ใน​วัยเด็ก​กลับ​ไม่ดี​นัก​ ​เสกสม​รส​สองครั​้​งก​็​ล้วน​มิใช่​การ​แต่งงาน​ที่​ดี​อะไร​ ​นาง​จึง​เชื่อ​เรื่อง​ ​‘​วาสนา​ดี​’​ ​มาก​เป็นพิเศษ

นาง​รู้สึก​ว่า​หวัง​ซี​เป็น​คน​มี​วาสนา​ดีมาก

นอกจาก​เป็น​ที่รัก​และ​เอ็นดู​มาตั​้ง​แต่​เด็ก​แล้ว​ ​อยู่​ไกล​ถึง​สู่​จง​ ​แต่​พอ​ถึง​วัย​ออกเรือน​กลับ​ได้​เดินทาง​มา​จิง​เฉิง​ ​และ​ไม่รู้​ว่า​เป็น​ที่​จดจำ​ของ​เฉินลั​่ว​ได้​อย่างไร

สำหรับ​ผู้อื่น​แล้ว​นี่​เป็น​ชะตา​ที่​แม้แต่​คิด​ยัง​ทำไม​่​ได้​เลย​ด้วยซ้ำ

นี่​นับเป็น​เด็กสาว​ที่​มี​วาสนา​ดี​ผู้​หนึ่ง

และ​เฉินลั​่​วก​็​ไม่​ต่าง​ไป​จาก​นาง​ ​ชีวิต​ดูดี​พร้อม​แต่กลับ​เป็น​เด็ก​ที่​ไม่ได้​รับ​ความรัก​ ​หาก​ได้​อยู่​กับ​หวัง​ซี​ ​ไม่แน่​ว่า​อาจ​ทำให้​อนาคต​ของ​เฉินลั​่​วราบ​รื่น​ขึ้น​ก็​เป็นได้

……………………………………………………………….

[1]​ ยาม​อิ​๋น ​03.00-05.00​ ​นาฬิกา