ซือถูจั๋ว
“ปรมาจารย์ต้วน”
แม้ต้วนหลิงเทียนจะแลดูเยาว์วัย หากแต่ทันทีที่ซือถูฮ่าวผู้นำตระกูลซือถูพบหน้าต้วนหลิงเทียน มันก็ไม่กล้าละเลยอะไร ในน้ำเสียงยังเต็มไปด้วยความชื่นชม
ส่วนด้านต้วนหลิงเทียน แว่บแรกที่เห็นซือถูฮ่าว เขาก็รู้ทันทีว่าอีกฝ่ายเป็นตัวตนในขอบเขตเซียน
“ผู้นำตระกูลซือถู”
ต้วนหลิงเทียนพยักหน้าให้ซือถูฮ่าวเป็นการทักทาย
ถึงแม้ซือถูฮ่าวจะเป็นตัวตนในขอบเขตเซียน ทว่ายามเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายต้วนหลิงเทียนก็ไม่ได้รู้สึกกดดันอะไรเลย
ถึงแม้พลังฝึกปรือเขาจะอยู่ที่ขอบเขตสู่เซียน ทว่าเขาก็เคยสังหารตัวตนในขอบเขตเซียนที่พลังเหนือกว่ามาแล้ว! เช่นนั้นเขาย่อมไม่เสียอาการ หรือโดนข่มขวัญอันใดต่อหน้ายอดฝีมือขอบเขตเซียน!!
เมื่อเห็นต้วนหลิงเทียนไม่อ่อนน้อมไม่ถือดีจนเกินงาม ซือถูฮ่าวก็ยิ่งประเมินต้วนหลิงเทียนสูงขึ้นกว่าเดิม
ก่อนหน้านี้ตอนมันได้ยินซือถูโฮ่วกล่าวถึงอีกฝ่ายไว้อย่างดี มันยังหลงนึกว่าใช่ซือถูโฮ่วกล่าวเกินจริงไปหรือไม่ ทว่ามาตอนนี้มันรู้แล้วว่าไม่มีเท็จแม้ครึ่งคำ!
ชายหนุ่มนาม ต้วนหลิงเทียน ผู้นี้…พิเศษจริงๆ!
“ปรมาจารย์ต้วน ข้าได้ยินอาวุโสโฮ่วกล่าวบอกว่า หากท่านคิดกำจัดอาคมมารของบุตรชายข้าท่านจำต้องใช้วัตถุดิบจำนวนมาก…ข้ามิทราบว่าท่านต้องการวัตถุดิบอันใดบ้างหรือ?”
ซือถูโฮ่วกล่าวถามออกมาเสียงดังฟังชัด หากแต่ในน้ำเสียงกลับเจือไปด้วยความกังวลระคนตื่นเต้นไว้ไม่น้อย
เดิมทีซือถูฮ่าวก็สิ้นหวังด้วยคิดว่าอาการป่วยของบุตรชายมันไร้หนทางรักษาแล้ว! หากทว่าในยามที่สิ้นหวังถึงขีดสุด…อรุณรุ่งแห่งความหวังพลันมาเยือนอย่างไม่ทันให้ตั้งตัว ย่อมทำให้มันรู้สึกท่วมท้นไปด้วยมวลอารมณ์ยากอธิบาย!
“ข้าวาดรูปวัตถุดิบ พร้อมทั้งเขียนคำอธิบายประกอบไว้ด้านข้างแล้ว”
ต้วนหลิงเทียนส่งมอบม้วนกระดาษม้วนหนึ่งไปให้ซือถูฮ่าว ตอนที่เขานอนเล่นอยู่ในห้องก่อนหน้า เขาก็เจียดเวลาลุกขึ้นมาวาดรูปวัตถุดิบต่างๆเตรียมเอาไว้แล้ว ยังมีคำอธิบายบอกไว้อย่างละเอียด
“ปรมาจารย์ต้วน หากข้ารวบรวมวัตถุดิบพวกนี้มาได้ครบแล้ว…ต้องใช้เวลานานเท่าใดท่านถึงจะรักษาหังเอ้อให้หายดีหรือ?”
ซือถูฮ่าวรับม้วนกระดาษจากต้วนหลิงเทียนมาคลี่กางชมดูพักหนึ่ง ค่อยม้วนมันแล้วเก็บไว้อย่างดีราวกับสมบัติล้ำค่า หลังจากนั้นมันก็เงยหน้าขึ้นมามองถามต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาเปี่ยมความหวัง
“หนึ่งเดือน”
ต้วนหลิงเทียนตอบคำด้วยความมั่นใจ “ไม่เกินหนึ่งเดือนข้าจะมอบคุณชายใหญ่ตระกูลซือถูที่แข็งแรงสมบูรณ์ให้ท่านผู้นำตระกูล”
ไม่เกินหนึ่งเดือน!
ได้ยินวาจานี้ของต้วนหลิงเทียน ไม่เพียงซือถูฮ่าว ซือถูโฮ่วเองก็สองตาลุกวาวขึ้นมาทันที!
หลังจากนั้นซือถูฮ่าวก็อำลาต้วนหลิงเทียน และรีบร้อนออกไปทันที เห็นชัดว่ามันคิดไปรวบรวมวัตถุดิบมาให้เร็วที่สุด!
ก่อนจากไปมันยังกล่าวคำสัญญากับต้วนหลิงเทียนว่าจะมอบยันต์เต๋าระดับ 4 ดาวให้ทันทีที่ซือถูหังหายขาด
เรื่องนี้ต้วนหลิงเทียนไม่ได้รีบร้อนอะไร
ตระกูลซือถูได้ลั่นวาจาทั้งสาธารณชนก็รับทราบดีอยู่แล้ว คงไม่มีทางทำลายชื่อเสียงตัวเองด้วยการบิดพริ้วคำสัญญาเด็ดขาด
ยิ่งไปกว่านั้นก่อนที่จะมายังตระกูลซือถู ต้วนหลิงเทียนก็ได้ยินเรื่องราวมาไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นซือถูหังหรือผู้นำตระกูลซือถู ล้วนเป็นคนดีและผู้คนก็ชื่นชมสรรเสริญกันถ้วนหน้า
สิ่งที่ทำให้ต้วนหลิงเทียนแปลกใจอยู่บ้างก็คือ แม้ซือถูฮ่าวจะจากไปแล้วแต่ชายชราอย่างซือถูโฮ่วกลับไม่ได้ไปไหน
ทั้งมีห้องว่างหลายห้องในเรือนหลังนี้ ทว่าซือถูโฮ่วกลับเลือกที่จะอยู่ห้องตรงข้ามของต้วนหลิงเทียน คล้ายจะมาอยู่เป็นเพื่อนบ้านเขาเสียอย่างนั้น
“ดูเหมือนว่าอาวุโฮ่วจะกลัวว่าข้าจะหนีไปสินะ…”
ต้วนหลิงเทียนส่ายหัวไปมาพร้อมยิ้ม
ไม่กี่วันหลังจากนั้นซือถูโฮ่วก็ยังคงอยู่ในเรือนที่พักของซือถูหัง กลับกันอีกด้านหนึ่งในเขตตระกูลซือถูกลับมีบรรยากาศอึมครึมขึ้นมา
“ปรมาจารย์ต้วนที่ว่ามันอยู่ในเรือนที่พักของซือถูหังมาสองสามวันแล้วงั้นเหรอ? แถมไอเฒ่าซือถูโฮ่วนั่นก็อาศัยอยู่ห้องตรงข้ามอีก?”
ชายหนุ่มที่มีสีหน้าอึมครึมคนหนึ่งเดินวนไปวนมาขณะพึมพำกับตัวเองเบาๆ ในแววตาเผยประกายเย็นชาออกมาไม่ขาด
“หรือ…ปรมาจารย์ต้วนอะไรนั่น มันจักล้างอาคมมารของซือถูหังได้จริงๆ?”
คิดถึงจุดนี้สีหน้าชายหนุ่มที่แลดูอึมครึมก็กลายเป็นเคร่งเครียดขึ้นมาทันที มันเดินไปยังโถงรับแขกที่อยู่ในบ้านของมันทันทีเพื่อพบกับแขกของมันที่พักอยู่ที่นั่น
แขกที่ว่าเป็นชายในชุดคลุมลมดำ ใบหน้ายังมีหน้ากากประหลาดแลดูน่ากลัวปานภูตผีสวมใส่ปิดบังหน้าตาเอาไว้
“คุณชายจั๋ว…ท่านรีบร้อนมาหาข้าเช่นนี้มีอันใดหรือ?”
ชายในหน้ากากกล่าวถามเสียงเรียบ
จากคำของชายสวมหน้ากาก เห็นชัดว่าชายหนุ่มที่พึ่งเดินเข้ามาที่แท้คือคุณชายรองตระกูลซือถู ซือถูจั๋ว!
“เจ้ามั่นใจแน่หรือ…ว่าอาคมมารของเจ้าจักมิมีผู้ใดทำลายมันได้?”
ซือถูจั๋วกล่าวถามเสียงเข้ม
“ย่อมแน่!”
ชายสวมหน้ากากผีกล่าวออกด้วยน้ำเสียงมั่นใจเต็มสิบส่วน “ถึงแม้อาคมมารของข้าจักมิใช่อาคมระดับสูงอันใด แต่ข้ามั่นใจนักว่าในพื้นที่อิทธิพลของคฤหาสน์หลิ่งหนานหยวน มีผู้ที่สามารถทำลายอาคมมารของข้านับได้ด้วยมือข้างเดียว!”
“แล้วเจ้ารู้หรือไม่ว่าไม่กี่วันมานี้ มีคนผู้หนึ่งไปดูอาการซือถูหัง และตอนนี้มันก็พักอยู่ที่เรือนนั่น…แถมไอ้เฒ่าซือถูโฮ่ว ก็เฝ้าอยู่ที่นั่นด้วย!”
ซือถูจั๋วกล่าวออกเสียงเครียด “ข้ากลัวว่าปรมาจารย์ต้วนอะไรนั่น มันจักรู้วิธีทำลายอาคมมาร!”
“เป็นไปมิได้!”
ชายในหน้ากากผีกล่าวยืนยันออกมา
“แล้วเจ้าจักอธิบายสถานการณ์ตอนนี้ว่าอย่างไร? หากมันทำอะไรไม่ได้ ใยป่านนี้ยังไม่ออกจากตระกูลซือถูไปอีก?”
ซือถูจั๋วกล่าวถาม
ชายในหน้ากากผีได้ฟังคำถามนี้ก็นิ่งเงียบไปพักหนึ่ง “เช่นนั้นท่านหาโอกาสไปดูซือถูหังนั่น แล้วข้าจักตามไปด้วย…หากข้าเห็นอาการของซือถูหัง ข้าสามารถบอกได้ทันทีว่ามันมีสามารถทำลายอาคมมารของข้าได้หรือไม่”
“ตอนนี้ก็ทำได้แค่เท่านี้วิธีเดียวแล้ว…หากเจ้านั่นมันสามารถทำลายอาคมมารของเจ้าได้จริงๆ ความพยายามของพวกเราครั้งนี้ก็ต้องกลายเป็นไร้ค่า!”
สีหน้าซือถูจั๋วยิ่งมายิ่งมืดมน
หลังจากนั้น 2 วันซือถูจั๋วก็ไม่อาจสงบใจทนรอได้อีก เมื่อพบว่า ‘แขก’ ยังอยู่ในเรือนของซือถูหัง มันจึงพาชายหน้ากากผีไปเยี่ยมซือถูหังด้วยข้ออ้างคิดไปเยี่ยมเยียน “พี่ใหญ่” ทันที
หลังจากเห็นซือถูหัง สีหน้าภายใต้หน้ากากผีก็แปรเปลี่ยนไปทันใด
นั่นเพราะมันพบว่าอาการของซือถูหังกลับดีขึ้นแล้วจริงๆ!
อีกทั้งพลังของอาคมมารก็จางหายไปมาก!
“ที่แท้ปรมาจารย์ต้วนนั่นมันเป็นใครกันแน่ มันกลับทำลายอาคมมารของข้าได้จริงๆ..!!”
ชายหน้ากากผีเร่งส่งเสียงผ่านปราณแท้ไปยังซือถูจั๋วทันที เรื่องนี้ทำให้มันตกใจนัก ในแววตายังเผยความเหลือเชื่อออกมาไม่น้อย
หากแต่อาการท่าทีภายนอกของมันยังคงสงบอยู่
“พี่ใหญ่ดูเหมือนท่านจะดีขึ้นมากแล้ว…ท่านปรมาจารย์ต้วนช่างเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ยอดเยี่ยมนัก กระทั่งปรมาจารย์เซียนจารึก 4 ดาวยังมิอาจมีปัญญาทำอันใดได้ ทว่าปรมาจารย์ต้วนกลับสามารถรักษาท่านได้!”
ซือถูจั๋วกล่าวกับซือถูหังด้วยรอยยิ้ม ค่อยกล่าวสืบต่อ “พี่ใหญ่หัง ข้าหวังว่าท่านจักรีบหายดีในเร็ววัน เพราะข้ายังมีเรื่องมากมายรอให้ท่านชี้แนะเกี่ยวกับวรยุทธ์เซียนที่ข้าฝึกปรือ”
“อืม”
ซือถูหังพยักหน้ารับด้วยความเฉยเมย ค่อยกล่าว “เจ้ามีอันใดอีกหรือไม่ หากไม่มีแล้วข้าอยากพักผ่อน”
พอตระหนักได้ว่าที่มันต้องเป็นแบบนี้ ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะซือถูจั๋ว! ซือถูหังก็ไม่อาจปั้นหน้าแย้มยิ้มอะไรได้อีก แม้จะไม่เผยท่าทีเป็นอริอะไรกัน แต่อารมณ์ของมันก็ไม่ใช่ว่าจะสู้ดีนัก!
เพราะมันไม่อาจฝืนทำเป็นปกติยิ้มแย้มให้กับคนที่สามารถซ่อนดาบในรอยยิ้มคิดฆ่ามันเช่นนี้ได้!
“เช่นนั้นพี่ใหญ่พักผ่อนก่อนเถอะ ข้าไม่รบกวนท่านแล้ว”
คล้ายซือถูจั๋วจะไม่สนใจความเฉยเมยไม่แยแสของซือถูหัง มันยังคงปั้นหน้ายิ้มแย้มกล่าวคำอำลาด้วยท่าทางสุภาพ
ทว่าทันทีที่มันเดินออกจากห้อง ก็ปรากฏร่างหนึ่งยืนรออยู่ในล้านว่าง จึงเร่งทักอีกฝ่ายออกไปทันที “อาวุโสโฮ่ว”
“คนผู้นี้มาติดตามรับใช้เจ้าตั้งแต่เมื่อใดกัน? แล้วมันเป็นใคร?”
ลูกตาซือถูโฮ่วจับจ้องมองเขม็งไปยังชายในหน้ากากผีทันทีอย่างไม่วางตา กล่าวถามออกมาเสียงเย็น
“นี่เป็นสหายของข้าที่บังเอิญรู้จักกันตอนออกไปท่องเที่ยวข้างนอกน่ะ”
ซือถูจั๋วกล่าวตอบด้วยรอยยิ้ม
“หากข้าเข้าใจมิผิด มันเป็นผู้ฝึกมารใช่หรือไม่?”
ซือถูโฮ่วมองซือถูจั๋วด้วยสายตาคมกล้า กล่าวจี้ถามออกไปทันที
“ผู้ฝึกมาร?”
ซือถูจั๋วลอบสะท้านไปเล็กน้อย ค่อยเร่งกล่าวด้วยรอยยิ้ม “อาวุโสโฮ่วท่านล้อข้าเล่นแล้ว…ตระกูลของเรามีกฏห้ามคบค้าสมาคมกับผู้ฝึกมารเด็ดขาด ไหนเลยข้ายังไม่ล่วงรู้ได้ ข้ามิกล้ามีสหายเป็นผู้ฝึกมารหรอก”
“เช่นนั้นก็ดี!”
ซือถูโฮ่วพยักหน้ารับเบาๆ
“จริงสิข้าได้ยินมาว่าที่พี่ใหญ่มีอาการดีวันดีคืนเช่นนี้ ล้วนเป็นเพราะปรมาจารย์ต้วน…อาวุโสโฮ่ว มิทราบปรมาจารย์ต้วนผู้นั้นอยู่ที่ใดเหรอ ข้าคิดไปคารวะขอบคุณเขาในนามของพี่ใหญ่หังสักครา”
ซือถูจั๋วกล่าวถามวือถูโฮ่วออกมาตาใส
ซือถูโฮ่วยังไม่ทันได้ตอบคำอะไร ประตูห้องตรงข้ามห้องมันก็เปิดอ้าออกมาทันที ปรากฏร่างในชุดสีม่วงหนึ่งค่อยๆเดินเข้ามาในลานว่าง เป็นบุรุษหล่อเหลาหน้าตาคมคาย คิ้วเข้มดั่งดาบ ประกายตาสดใสมากไหวพริบ นับว่าหล่อเหลาและเต็มไปด้วยความสง่างามไม่ธรรมดา
เพียงแค่มอง ซือถูจั๋วยังอดรู้สึกด้อยกว่าอย่างช่วยไม่ได้
“ปรมาจารย์ต้วน!”
ซือถูโฮ่วที่เห็นชายหนุ่มชุดม่วงออกมา ก็เร่งกล่าวคำทักทายด้วยรอยยิ้มทันที
“อาวุโสโฮ่ว”
ต้วนหลิงเทียนยิ้มทั้งพยักหน้ารับคำทักของซือถูโฮ่วเบาๆ ก่อนที่จะเดินไปยังโต๊ะหินอ่อนในลาน ค่อยหยิบถ้วยชาออกมาตั้งวางอย่างไม่รีบร้อน ทั้งยกกาน้ำชารินชาหอมจรุงพ่นควันฉุยออกมาละเลียดจิบอย่างสุขอุรา ไม่ได้แยแสหรือให้ความสนใจซือถูจั๋วกับชายชุดคลุมลมดำที่สวมหน้ากากผีที่ยืนอยู่ในลานด้วยแม้แต่น้อย
ชายในหน้ากากผีถึงกับหยีตามองต้วนหลิงเทียนทันที ในแววตายังเต็มไปด้วยประกายเย็นเยียบ
ชายหนุ่มผู้นี้น่ะเหรอ ที่สามารถทำลายอาคมมารของมันได้?
“สวัสดีปรมาจารย์ต้วนข้าน้อยเรียกว่าซือถูจั๋ว ข้าต้องขอบคุณท่านแล้วจริงๆ หากมิได้ท่านน่ากลัวอาการของพี่ใหญ่จักเลวร้ายนัก…ขอท่านจงมั่นใจตราบใดที่ท่านสามารถรักษาพี่ใหญ่ข้าจนหายดีได้ ตระกูลซือถูเราจักตอบแทนท่านอย่างงาม”
เมื่อเห็นว่าต้วนหลิงเทียนไม่ได้ชายตาเหลือบมองมันมาเลย ซือถูจั๋วอดไม่ได้ที่จะมีโมโห หากแต่มันพยายามระงับอารมณ์ไว้อย่างดี เร่งปั้นยิ้มกล่าวทักทายต้วนหลิงเทียนทันที
“ซือถูจั๋ว?”
ตอนนี้เองต้วนหลิงเทียนพลันวางจอกชา ค่อยหันไปมองซือถูจั๋วด้วยสายตาเฉยเมย หากแต่พยักหน้าให้เบาๆคราหนึ่ง “ข้าเคยได้ยินนามนี้มาก่อน เจ้าคือคุณชายรองสกุลซือถู?”
คำว่า ‘รอง’ นั้น ต้วนหลิงเทียนยังเน้นเสียงหนักเป็นพิเศษ
ลึกลงไปในแววตาซือถูจั๋วฉายแววเย็นเยือกออกมาทันที วาจาที่ต้วนหลิงเทียนจงใจเน้นหนัก มิต้องสงสัยเลยว่าเป็นการแขวะแผลเก่าของมันอย่างแรง!
อย่างไรก็ตามเมื่อคิดถึงว่าในที่นี้ยังมีซือถูโฮ่วอยู่ด้วย มันก็ไม่กล้าทำอะไรวู่วาม
“ถูกแล้ว ข้าคือคุณชายรองสกุลซือถู”
ซือถูจั๋วฝืนยิ้มตอบคำ
อย่างไรก็ตามในเวลาเดียวกันนี้เองมันก็ลอบส่งเสียงผ่านปราณแท้หาต้วนหลิงเทียน “ข้ามิรู้ว่าเจ้าเป็นผู้ใด…แต่ข้าแนะนำว่าเจ้าอยู่ให้ห่างเรื่องนี้ไว้จักประเสริฐกว่า! เพียงบอกไปว่าเจ้ามิอาจรักษาอาคมมารได้แล้ว และย้ายมาอยู่ฝั่งข้า ข้ายินดีจะมอบยันต์เต๋าระดับ 4 ดาวให้เจ้า 3 แผ่น! นับว่าดีกว่าของรางวัลที่ตระกูลือถูจักให้เจ้าเสียอีก!”
“อยู่ฝ่ายเจ้า?”
ได้ยินเสียงผ่านปราณแท้ของซือถูจั๋ว ต้วนหลิงเทียนชักสีหน้ามึนงง ค่อยกล่าวโพล่งถามออกมาด้วยเสียงจริง “อะไรกัน!? ไม่ใช่ว่าซือถูหังเป็นพี่ใหญ่ของเจ้าหรือไร ไฉนเจ้ายังให้ข้าไปอยู่ฝ่ายเฝิ่ยเจ้าอะไรนั่นเล่า? หรือนี่เจ้าอยากให้พี่ใหญ่ของเจ้าตายกัน?”
“ไม่ต้องมาเส้แสร้งแสดงเป็นตัวโง่งม ในเมื่อเจ้ารู้วิธีทำลายอาคมมาร เช่นนั้นเจ้าย่อมรู้จักอาคมมารดี…หากข้าเดาไม่ผิดตอนนี้ซือถูหังก็สงสัยข้าแล้วใช่หรือไม่?”
ซือถูจั๋วยังคงส่งเสียงผ่านปราณแท้กล่าวเตือนต้วนหลิงเทียนทันที คล้ายตอนนี้เรื่องราวยังคงอยู่ในกำมือของมัน