บทที่ 197 ทำไมถึงหลอกง่ายจัง
เจียงหยุนเอ๋ออึ้งไปชั่วขณะ ทั้งๆที่ตัวเองได้กำชับถวนจื่อแล้วไม่ให้วิ่งไปเรื่อย
อีกอย่างถวนจื่อเป็นเด็กที่เชื่อฟังขนาดนี้ ทำไมจึงได้วิ่งออกไปละ?
ช่างเถอะ ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาถามหาเรื่องพวกนี้ สิ่งสำคัญตอนนี้คือถวนจื่อหายไปไหน
เจียงหยุนเอ๋อถามด้วยความร้อนใจ: “คุณรู้หรือเปล่าว่าเขาเดินไปทางไหน?”
บริกรหญิงทำท่าครุ่นคิด จึงได้พูดขึ้น: “เหมือนจะไปทางนั้นนะ”
เจียงหยุนเอ๋อมองไปทางที่บริกรหญิงชี้ยิ่งร้อนใจ หรือว่าถวนจื่อก็ไปเข้าห้องน้ำเหมือนกัน?
“ขอบคุณนะคะ” เจียงหยุนเอ๋อกล่าวขอบคุณ ก็รีบเดินวิ่งไปทิศทางที่บริกรชี้ให้
เจียงหยุนเอ๋อเดินตามทางที่บริกรบอก ตรงนี้เป็นระเบียงทางเดิน เจียงหยุนเอ๋อก็ไม่รู้ว่ากำลังเดินไปที่ไหน
“ไม่ทราบว่าเห็นเด็กคนหนึ่งมั้ยคะ?” เจียงหยุนเอ๋อได้ถามบริกรคนหนึ่งที่เดินมาจากตรงข้าม
บริกรส่ายหัว
“ขอโทษด้วยค่ะ รบกวนแล้ว ขอบคุณนะ”เจียงหยุนเอ๋อยิ่งร้อนใจมากขึ้นกว่าเดิม
“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าเห็นเด็กคนหนึ่งมั้ยคะ?” เจียงหยุนเอ๋อเห็นผู้หญิงที่เดินมาจากด้านหน้าก็ได้ถามขึ้น “สูงประมาณนี้”
หญิงสาวได้ชี้ไปด้านหลัง: “เด็กคนนั้นเหมือนจะเดินไปทางนี้”
เจียงหยุนเอ๋อโค้งคำนับให้กับหญิงสาว: “ขอบคุณนะ”
หญิงสาวยิ้มที่มุมปาก: “ไม่เป็นไร”
ก่อนที่เจียงหยุนเอ๋อจะเดินไป หญิงสาวคนนี้ก็ได้พูดขึ้นมาอีกหนึ่งประโยค: “ใช่แล้ว เขาเหมือนจะขึ้นไปกับลิฟต์แล้ว”
“ค่ะ ขอบคุณค่ะ” แม้ว่าในปากของเจียงหยุนเอ๋อจะพูดว่าขอบคุณ แต่ในใจกำลังบ่นพึมพำ
ถวนจื่อเป็นอะไรกันแน่? เขาไม่มีธุระอะไรทำไมต้องวิ่งขึ้นไปบนนั้นด้วย?
หรือว่าลี่จุนถิงเป็นคนพาเขาไป?
แต่ว่าหากเป็นลี่จุนถิงเขาต้องบอกตัวเองก่อนอย่างแน่นอน คงไม่ทำให้ตัวเองเป็นห่วงอยู่ตรงนี้หรอก
แต่แล้วด้านหน้าก็ได้มีผู้ชายเดินมาอีกคน เพิ่งลงมาจากลิฟต์ เจียงหยุนเอ๋อยังคงไม่วางใจ ก็ได้ถามเขาอีกครั้ง
ผู้ชายคนนี้พยักหน้า: “อืม เห็นอยู่นะ เด็กคนนั้นเหมือนจะขึ้นไปบนลิฟต์แล้ว ผมเพิ่งจะลงมาจากด้านบน เป็นเด็กที่แต่งตัวหล่อๆหน่อยใช่มั้ย?”
เจียงหยุนเอ๋อได้ยินที่ผู้ชายคนนี้พูด ก็รีบพยักหน้าทันที ในใจถือว่าเบาลงไปครึ่งหนึ่ง: “ใช่ค่ะ ใช่ค่ะ”
“งั้นก็ขึ้นไปตามลิฟต์ตัวนี้เลย น่าจะหาเขาเจอนะ แต่ว่าจะไปถึงชั้นที่เท่าไหร่น่ะผมก็ไม่รู้” ผู้ชายยิ้มอย่างมีเมตตา
“ขอบคุณค่ะ” เจียงหยุนเอ๋อขอบคุณแล้วก็เข้าไปในลิฟต์
ได้ยินชายคนนี้พูดแบบนี้ เจียงหยุนเอ๋อก็ถือว่าโล่งอกไปที หากถวนจื่อหายตัวไป เจียงหยุนเอ๋อต้องด่าตัวเองให้ตายอย่างแน่นอน
ถวนจื่อคือชีวิตของเธอเลยนะ
เจียงหยุนเอ๋อขึ้นลิฟต์แล้ว ขึ้นไปดูทีละชั้นทีละชั้น ไม่ว่ายังไงต้องหาดูทุกชั้น
เพียงประตูลิฟต์ปิด ตรงชั้นหนึ่งส้งหวั่นหวั่นกับลี่จีถองก็ปรากฏตัวออกมาทันที
“ฮ่าๆๆๆ ยัยผู้หญิงโง่คนนี้ ทำไมถึงหลอกง่ายจังนะ” ลี่จีถองถูมือไปมา เดิมทียังเป็นห่วงว่าเธอจะไม่หลงกล คิดไม่ถึงว่าจะหลงกลเร็วขนาดนี้
ความสุขช่างมาได้กะทันหันจริงๆ
“ไม่ใช่เธอโง่ แต่เป็นเพราะเธอเป็นห่วงลูกชายเธอมาก” ส้งหวั่นหวั่นยิ้มที่มุมปาก ดีใจที่แผนการของตัวเองสำเร็จ
เจียงหยุนเอ๋อก็มีจุดอ่อนเหมือนกัน นั่นก็คือลูกชายของเธอ หากควบคุมตัวลูกชายเธอไว้ เธอจะไม่ยอมเชื่อฟังพวกเราอย่างง่ายๆเลยเหรอ?
ความรักของแม่นี้ช่างยิ่งใหญ่จริงๆ
“พูดแบบนี้ฉันคงต้องขอบคุณถวนจื่อหน่อยละมั้ง?” ลี่จีถองที่สองมือเท้าเอวหัวเราะเสียงดังแล้วกล่าว
ครั้งที่แล้วที่ตัวเองหลอกถวนจื่อนั้น ก็หลอกง่ายแบบนี้ คิดไม่ถึงครั้งนี้ถวนจื่อก็ยังไม่รู้จะจำ กลับเชื่อคำพูดคนอื่นอีกแล้ว แบบนี้ก็โทษเธอไม่ได้อีกแล้ว
ใครใช้ให้เด็กคนนี้กตัญญูมากขนาดนี้ และเป็นห่วงแม่ของตัวเองมากขนาดนี้ล่ะ
ในที่สุดใบหน้าของส้งหวั่นหวั่นก็มีรอยยิ้ม: “เด็กน้อยตัวแค่นี้จะไปรู้อะไร อย่างไรเสียครั้งนี้เจียงหยุนเอ๋อก็มาติดกับดักที่พวกเราวางเอาไว้อีกแล้ว”
“ตอนนี้ฉันอยากที่จะเห็นสารรูปที่น่าสมเพชของเขาหลังจากที่ถูกเราวางแผน ฉันจะทำให้เธอสูญเสียทุกอย่าง” ลี่จีถองยกคางขึ้น เหมือนกับนกยูงภาคภูมิในหางของมัน
“ต่อจากนี้ก็ส่งต่อให้คุณป้าแล้วนะคะ” เรื่องกล้องวงจรปิดฉันได้จัดการเรียบร้อยแล้ว จะไม่มีทางเก็บภาพทั้งหมดนี้ได้ ส้งหวั่นหวั่นตบที่เสื้อของลี่จีถองเบาๆ
ลี่จีถองพยักหน้าอย่างพอใจ
“คุณป้า สู้ๆนะคะ” ส้งหวั่นหวั่นได้กระซิบไปที่ข้างหูของลี่จีถอง สายตาแฝงด้วยความชั่วร้าย “ครั้งนี้จะไม่มีทางให้เธอหนีรอดไปได้ ไม่อย่างนั้นเราก็จะไม่มีโอกาสที่ดีแบบนี้อีก”
เรื่องก่อนหน้านี้ ได้ทำให้ลี่จุนถิงหวาดระแวง ยังได้ส่งคนไปปกป้องคุ้มครองเจียงหยุนเอ๋อทั้งในที่แจ้งและที่ลับ
โชคดีที่ครั้งนี้อยู่ที่ถิ่นของตัวเอง ลี่จุนถิงก็เลยชะล่าใจ จึงทำให้พวกเธอมีโอกาสวางกับดักอันนี้
“เธอวางใจเถอะ ฉันจะทำให้มันตายทั้งเป็น” ลี่จีถองกำหมัดแน่ๆ หัวเราะกล่าว: “เจียงหยุนเอ๋อฉันจะดูว่าครั้งนี้เธอจะมีชีวิตอยู่ได้ยังไง”
เจียงหยุนเอ๋อขึ้นไปหลายชั้น ก็ได้ถามไปหลายคน พวกเขาต่างบอกว่าไม่เห็นเด็ก
เจียงหยุนเอ๋อกดลิฟต์ไปชั้นบนสุด
ขึ้นมาหลายชั้นแล้ว ก็ยังไม่พบถวนจื่อ ชั้นนี้ชั้นสุดท้ายแล้วและก็เป็นความหวังสุดท้าย หวังว่าครั้งนี้จะเห็นถวนจื่อ
เจียงหยุนเอ๋อตื่นเต้นจนหัวใจตื่นตึกๆ
“ถวนจื่อ? ถวนจื่อ?” เจียงหยุนเอ๋อพลางเดินไปเรียกไป
ก็ไม่กล้าตะโกนเสียงดังมาก กลัวว่าจะรบกวนการพักผ่อนของคนอื่น
เดินทั่วระเบียงทางเดินแล้วห้องทุกห้องล้วนปิดอยู่ มีเพียงห้องเดียวที่ประตูเปิดไว้
เจียงหยุนเอ๋อก็เดินขึ้นไปดู ไม่แน่ถวนจื่ออาจจะอยู่ด้านในก็ได้?
เจียงหยุนเอ๋อเดินไปแค่ไม่กี่ก้าว ก็ตะโกนเรียก: “ถวนจื่อ?”
เจียงหยุนเอ๋อยื่นหูไปฟัง รู้สึกว่าตัวเองเหมือนจะได้ยินเสียงของถวนจื่อ
เจียงหยุนเอ๋อดีใจ ก็รีบร้อนพุ่งเข้าไป: “ถวนจื่อ ลูกอยู่ข้างในใช่มั้ย”
ไม่คิดว่าเพิ่งจะถึงหน้าประตู ก็มีควันลอยมาตรงหน้า
เจียงหยุนเอ๋อหลับตาโดยสัญชาตญาณ อยากจะถอยหลังหนี
แต่ไม่รู้ว่าขาคู่นั้นเป็นอะไร เหมือนกับว่าจู่ๆก็ไม่มีกระดูก มันอ่อนปวกเปียก ไม่มีแรงเลยแม้แต่นิดเดียว แม้กระทั่งแรงที่ยกขายังไม่มีเลย
แต่ว่าห้องนี้ตอนนี้ทำให้เธอรู้สึกถึงความกลัว ดังนั้นเธอจึงอยากจะวิ่งออกไป
กว่าจะยกขาขึ้นมาได้อย่างยากลำบากข้างหนึ่ง แต่แล้วเจียงหยุนเอ๋อก็ล้มลงบนพื้น
หน้าของเจียงหยุนเอ๋อหนุนอยู่บนแขนของตัวเอง รู้เพียงว่าร่างกายของตัวเองนั้นไม่มีเรี่ยวแรงเลย สมองก็เบลอๆ
ในเวลานี้ เสียงหัวเราะของชายคนหนึ่งก็ดังขึ้น เสียงนั้นโรคจิตมาก: “ฮ่าๆ ไม่คิดว่าจะมีผู้หญิงมาหาถึงที่ห้องเลย ผมยังคิดว่าคนคนนั้นจะหลอกผมเสียอีก คิดไม่ถึงว่าเป็นของเกรดดีสักด้วย”
เจียงหยุนเอ๋อที่หัวหนักและเบลอ แต่เวลานี้ก็รู้ว่าผู้ชายคนนี้ต้องการอะไร อยากที่จะคลานหนี แต่ตอนนี้ร่างทั้งร่างของเธอไม่มีเรี่ยวแรงเลยแม้แต่นิดเดียว