ตอนที่ 220 เดือดดาล

เสน่ห์รักคุณหนูต่างสกุล

ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ทน​ฟัง​ถ้อยคำ​นี้​ได้ที่​ไหน​กัน​!

สีหน้า​นาง​เปลี่ยนเป็น​เขียว​ครึ้ม

ไม่นาน​ ​โหวฮู​หยิน​ก็​มาถึง​ ​พอ​มาถึง​นาง​ก็​กล่าว​ออกมา​อย่าง​เป็นทุกข์​ทันที​ว่า​ ​“​ท่าน​แม่​ ​เรื่อง​ที่​คุณชาย​ใหญ่​สกุล​หวัง​เดินทาง​มา​จิง​เฉิง​นั้น​ ​อย่า​ว่าแต่​ข้า​เลย​ ​แม้แต่​ท่าน​โหว​ของ​พวกเรา​ก็​ไม่ทราบ​เรื่อง​เช่นกัน​ ​ส่วน​เรื่อง​ไป​เจอ​ครอบครัว​ว่าที่​ภรรยา​อะไร​ที่​ท่าน​กล่าว​มานั​้น​ ​ข้า​ยิ่ง​ไม่เคย​ได้ยิน​มาก​่อน​เลย​เจ้าค่ะ​”

เห็น​สีหน้า​ของฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ดู​ไม่ดี​มาก​จริงๆ​ ​นาง​ยัง​กล่าว​ปลอบโยน​อีกว่า​ ​“​ท่าน​อย่า​เพิ่ง​ร้อนใจ​ไป​เลย​ ​บางที​อาจมี​เรื่อง​เข้าใจผิด​อะไร​กัน​ก็ได้​ ​ข้า​จะ​ให้​คน​ไป​สอบถาม​เดี๋ยวนี้​เจ้าค่ะ​”

ซึ่ง​เกิด​ความเข้าใจผิด​จริงๆ

เดิม​หวัง​เฉิน​ตั้งใจ​ว่า​รอ​ให้​จัดการ​เรื่อง​ตรวจ​สมุดบัญชี​ใกล้​เสร็จ​แล้ว​ค่อย​เตรียม​ของขวัญ​ชิ้น​ใหญ่​มา​เยี่ยมเยียน​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​ ​แต่​การเปลี่ยนแปลง​มา​เร็ว​กว่า​แผนการ​ที่​วาง​เอาไว้​ ​จ่าง​กง​จู่​ส่ง​เทียบ​มา​เชิญ​เขา​ไปรับ​ประทาน​อาหาร​ที่​หอ​สายลม​วสันต์​ด้วยตัวเอง​ ​เขา​จะ​ไม่​ไป​ได้​อย่างไร

ถัดจาก​นั้น​เจียง​ชวน​ป๋อฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ก็​มา​เยี่ยม​ถึง​บ้าน​ ​ยัง​มีบร​รดา​นายหน้า​ใน​จิง​เฉิง​ที่​ข่าวสาร​ไว​เหล่านั้น​อีก​ ​หลังจาก​ทราบ​ข่าว​แล้วก็​ชวน​พวก​หลง​จู๊​ใหญ่​และ​เจ้าของกิจการ​ต่างๆ​ ​ที่ทำการ​ค้าขาย​กับ​ตระกูล​หวัง​มา​เยี่ยมเยียน​เขา​ ​พอ​มี​เวลาว่าง​เขา​ก็​ต้องหา​ทาง​ส่ง​คน​ไป​จัดเตรียม​สิน​เจ้าสาว​ให้​หวัง​ซี​อีก​ ​ไป​ๆ​ ​มา​ๆ​ ​เรื่อง​ไป​เยี่ยม​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​จึง​ล่าช้า​ออก​ไป

ส่วน​หย่ง​เฉิง​โหว​ ​ก่อนหน้านี้​เขา​ไม่รู้​จริงๆ​ ​ว่า​หวัง​เฉิน​มาถึง​จิง​เฉิง​แล้ว​ ​ภายหลัง​จ่าง​กง​จู่​ทั้ง​ไป​คำนวณ​อักษร​แปด​ชะตา​ที่​วัด​ต้า​เจ​วี​๋ย​ ​ทั้ง​ไป​ถาม​เรื่อง​มงคล​ที่​สำนัก​โหราศาสตร์​ ​และ​ไม่ว่า​จะ​เป็น​จ่าง​กง​จู่​หรือ​ตระกูล​หวัง​ล้วน​ไม่​ปิดบัง​เรื่อง​นี้​จาก​ผู้คน​ ​ข่าว​ที่​ตระ​หวัง​กำลังจะ​เกี่ยวดอง​กับ​เฉินลั​่​วจึง​แพร่กระจาย​ออกมา​ ​หย่ง​เฉิง​โหว​จึง​ได้​รู้เรื่อง​นี้​ไป​โดยปริยาย​อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เพียงแต่ว่า​จาก​ที่​เขา​เป็น​คน​ทะเยอทะยาน​ ​จึง​คิด​ว่าการ​ที่หวัง​ซี​ได้​แต่งงาน​กับ​เฉินลั​่​วนั​้น​ ​ไม่รู้​ว่า​ชาติก่อน​หวัง​ซีทำ​ความดี​มากมาย​เพียงใด​ถึง​ปีน​ได้​สูง​ขนาด​นี้​ ​ไม่มีเหตุผล​ที่​ตระกูล​หวัง​จะ​ไม่​รีบ​คว้า​โอกาส​เอาไว้​ ​ย่อม​ต้อง​เค้น​สมอง​ไป​ประจบประแจง​จ่าง​กง​จู่​อยู่​แล้ว​ ​ที่​ไม่มีเวลา​มาหา​เขา​ก็​เป็นเรื่อง​ที่​เข้าใจ​ได้

รอ​ให้​คุย​เรื่อง​สมรส​ของ​หวัง​ซีกับ​เฉินลั​่ว​ใกล้​แล้วเสร็จ​ ​หวัง​เฉิน​ย่อม​มาแจ้ง​ให้​เขา​ทราบ​สัก​คำ​หนึ่ง​อย่างแน่นอน

เขา​จึง​ไม่ได้​พูด​อะไร​มาก

ด้าน​โหวฮู​หยิน​ก็ได้​ยิน​มา​แต่​เนิ่นๆ​ ​แล้ว​เช่นกัน​ ​แต่​เนื่องจาก​ตระกูล​หวัง​กับ​ตระกูล​ฉัง​หา​ใช่​ญาติ​ที่​สนิทสนม​กัน​ประเภท​นั้น​ ​จนถึง​บัดนี้​ตระกูล​ฉัง​ยัง​ไม่ยอมรับ​ว่า​มารดา​ของ​หวัง​ซีคื​อบุ​ตร​สาว​ที่​หายตัว​ไป​ใน​ปีนั​้น​เลย​ ​แล้ว​จะ​ให้​คน​ตระกูล​หวัง​รู้สึก​สนิทสนม​กับ​ตระกูล​ฉัง​ได้​อย่างไร

ตระกูล​หวัง​ย่อม​ไม่มีทาง​วิ่ง​แจ้น​มาบ​อก​เรื่อง​นี้​ในขณะที่​ทั้งสอง​ครอบครัว​ยัง​ไม่มี​การ​หมั้น​หมาย​กัน​อย่างแน่นอน

รอ​จน​ตระกูล​หวัง​กับ​ตระกูล​เฉิน​ตกลง​เรื่อง​งานแต่ง​เรียบร้อย​แล้ว​ ​ย่อม​มาแจ้ง​ให้​พวกเขา​ทราบ​สัก​คำ​หนึ่ง

นาง​ก็​เลย​ไม่ได้​เก็บ​มา​ใส่ใจ​เช่นกัน

ผู้ใด​จะ​รู้​ว่า​กลับ​ทำให้ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​เดือดดาล​ขึ้น​มา

โหวฮู​หยิน​ทราบ​ความเป็นไป​ของ​เรื่องราว​มาตั​้ง​แต่​ระหว่าง​เดินทาง​มา​แล้ว​ ​นาง​อด​มองฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​จวน​เซียง​หยาง​โหว​ครั้งหนึ่ง​ไม่ได้

ทุกครั้งที่​เจอฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ท่าน​นี้​ ​ครอบครัว​พวก​นาง​ต้อง​มีเรื่อง​วุ่นวาย​เกิดขึ้น​เสมอ

ถึง​เวลา​ทำให้ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ท่าน​นี้​อยู่​ให้​ห่าง​จาก​ครอบครัว​ของ​พวก​นาง​แล้ว

โหวฮู​หยิน​คิด​คำนวณ​อยู่​ใน​ใจ​ ​ทว่า​ไม่​แสดงออก​ทาง​สีหน้า​ ​ยังคง​แย้มยิ้ม​ดังเดิม​พลาง​กล่าว​ขึ้น​ว่า​ ​“​งานแต่ง​ของ​บุตรชาย​หญิง​นี้​ ​หาก​ยัง​ไม่ได้​หมั้น​หมาย​ ​ผู้ใด​จะ​กล้า​เอา​มา​พูด​ให้​มากความ​?​ ​หาก​ไม่​ประสบผลสำเร็จ​ดังที่​คาด​จะ​ทำ​เช่นไร​ ​ให้​ผู้อื่น​เห็น​เป็นเรื่อง​ขบขัน​ถือเป็น​เรื่องเล็ก​ ​แต่​ถ้า​ชื่อเสียง​เสียหาย​ ​หาคู่​ครอง​ดี​ๆ​ ​ไม่ได้​อีก​จะ​ทำ​อย่างไร​”

กล่าวถึง​ตรงนี้​ ​นาง​ก็​ยัง​ไม่พอใจ​ ​เหน็บแนมฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​จวน​เซียง​หยาง​โหวต​่​ออีก​สอง​สาม​ประโยค​ว่า​ ​“​เหมือน​อย่าง​คราวก่อน​ ​พวก​ผู้อาวุโส​คุย​กัน​เอาไว้​เสียดิ​บดี​ ​แต่​พอ​ไป​ถึง​คุณชาย​เจ็ด​ป๋อ​กลับ​ผิดคำพูด​ ​ผู้ใด​จะ​คาดคิด​ว่า​ตระกูล​ป๋อ​จะ​ตามใจ​บุตรชาย​ขนาด​นั้น​ ​ทั้งที่​พวก​ผู้ใหญ่​ดูตัว​กัน​เรียบร้อย​แล้ว​ ​แต่​พอ​เขา​บอกว่า​ไม่ได้​ก็​คือ​ไม่ได้​ ​ข้า​ยังคง​เป็นห่วง​คุณหนู​ต่าง​สกุล​ของ​พวก​ข้า​อยู่​ตลอด​ ​บัดนี้​มีโอกาส​ได้​เจรจา​เรื่อง​มงคล​กับ​ตระกูล​เฉิน​ ​นี่​ถือเป็น​เรื่อง​น่ายินดี​มาก​เรื่อง​หนึ่ง​ ​จะ​ไม่​ระมัดระวัง​ให้​มาก​สักหน่อย​ได้​อย่างไร​ ​นี่​หาก​มีเรื่อง​อะไร​แพร่​ออก​ไป​อีก​ ​มิ​เท่ากับ​เป็นการ​บีบบังคับ​ให้​คุณหนู​สกุล​หวัง​ไป​กระโดด​น้ำ​หรอก​หรือ​”

ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ฟัง​แล้ว​รู้สึก​ว่า​มีเหตุผล​ยิ่ง​ ​ความ​เดือดดาล​ที่​มี​จึง​คลาย​ลง​หลาย​ส่วน​ ​ทว่าฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​จวน​เซียง​หยาง​โหวก​ลับ​โกรธ​จน​เหลือ​จะ​กล่าว​ ​คิด​ว่า​ข้า​ทำ​พลาด​ที่​เป็น​แม่สื่อ​ให้​พวก​เจ้า​ ​นี่​กำลัง​ตีวัวกระทบคราด​อยู่​ใช่​หรือไม่

นาง​เป็น​คน​หัวแหลม​ผู้​หนึ่ง​มาโดยตลอด​ ​เรื่อง​ไร้เหตุผล​นาง​ยัง​พูด​ให้​มีเหตุผล​หลาย​ส่วน​ขึ้น​มา​ได้​ ​นับประสา​อะไร​กับ​การถูก​โหวฮู​หยิน​ต่อว่า​อย่าง​กำกวม​หลาย​ประโยค​เช่นนี้

สีหน้า​ของฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​จวน​เซียง​หยาง​โหว​พลัน​ดำทะมึน​เหมือน​ก้น​หม้อ​ ​กล่าวว่า​ ​“​คำพูด​นี้​ของ​โหวฮู​หยิน​ไม่​ค่อย​มีเหตุผล​นัก​ ​ยิ่ง​เพราะ​งานแต่ง​ของ​บุตรชาย​หญิง​มีโอกาส​เปลี่ยนแปลง​สูง​ ​พวก​ข้า​ที่​เป็น​ผู้อาวุโส​เหล่านี้​ถึง​ต้อง​เบิกตา​ให้​กว้าง​ช่วย​มอง​อย่างละเอียด​ ​หาก​เกิดเรื่อง​อะไร​ขึ้น​มา​ ​ก็​ยัง​มี​ผู้ใหญ่​อย่าง​พวก​ข้า​เหล่านี้​ช่วย​ดู​ให้​”

กล่าวถึง​ตรงนี้​ ​นาง​หันไป​กล่าว​กับฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​เจ้า​ดู​คนหนุ่มสาว​สมัยนี้​ ​สู้​พวกเรา​ตอนนั้น​ไม่ได้​เลย​ ​ยึดมั่น​ใน​ความคิด​ตัวเอง​เหลือเกิน​ ​คิด​ว่า​จัดการ​ทุกสิ่งทุกอย่าง​ได้​ด้วยตัวเอง​ ​ช่าง​เป็น​ลูก​วัว​เกิด​ใหม่​ที่​ไม่รู้​จัก​กลัว​พยัคฆ์​เสีย​จริงๆ​ ​ยัง​มี​เวลา​ให้​พวกเขา​ต้อง​สูญเสีย​รอ​อยู่​”

“​ถูกต้อง​ที่สุด​!​”​ ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ฟัง​คำ​ถากถาง​ของฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​จวน​เซียง​หยาง​โหว​ไม่​ออก​ ​ยัง​พยักหน้า​อย่างจริงจัง​อยู่​ตรงนั้น​ ​กล่าวว่า​ ​“​ไม่เชื่อฟัง​คำของ​ผู้ใหญ่​ ​ความสูญเสีย​รอ​อยู่​เบื้องหน้า​ ​คน​รุ่น​เด็ก​อย่าง​พวก​เจ้า​นี่​น้า​ ​มีเรื่อง​อะไร​ก็​ต้อง​บอกกล่าว​พวก​ข้า​เอาไว้​ให้​มาก​ ​พวก​ข้า​ไม่มีทาง​ทำร้าย​พวก​เจ้า​อยู่​แล้ว​”

โหวฮู​หยิน​หดหู่ใจ​เหลือ​จะ​กล่าว​ ​แต่​อยู่​ต่อหน้า​แม่​สามี​จึง​ไม่​อาจ​พูด​ให้​ลึก​ลง​ไป​กว่านี​้​ได้​ ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ยัง​เฝ้ารอ​ฟัง​ข่าว​ว่า​ตกลง​เกิดเรื่อง​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่​ ​กำลังจะ​เร่ง​โหวฮู​หยิน​ ​หัน​ซื่อ​ก็​เข้ามา​เสียก่อน

สีหน้า​ของ​นาง​ดู​จืด​เจื่อน​เล็กน้อย​ ​ก้าว​ออกมา​ทำความเคารพฮู​หยิน​ผู้เฒ่า

ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​มอง​แล้ว​ขมวดคิ้ว​มุ่น​ไม่​หยุด​ ​เอ่ย​ถาม​ว่า​ ​“​นี่​เป็น​อะไร​ไป​ ​ได้ยิน​ถ้อยคำ​ไม่น่าฟัง​อะไร​มา​หรือเปล่า​ ​หรือ​ผู้ใด​ชักสีหน้า​ใส่​เจ้า​?​”

“​ล้วน​มิใช่​เจ้าค่ะ​!​”​ ​หัน​ซื่อ​รีบ​กล่าว​ ​ข่ม​กลั้น​อารมณ์​ความรู้สึก​เอาไว้​เปลี่ยนสี​หน้าเป็น​แย้มยิ้ม​ออกมา​ ​กล่าวว่า​ ​“​ดูท่า​นพูด​สิ​เจ้า​คะ​ ​ข้า​ปรนนิบัติ​อยู่​ข้าง​กาย​ท่าน​ ​ผู้ใด​จะ​ไม่รู้​จัก​ข้า​กัน​!​ ​พอ​รู้​ว่า​ข้า​เป็น​ใคร​แล้ว​ ​ผู้ใด​จะ​กล้า​ชักสีหน้า​ใส่​ข้า​อีก​!​”

ขณะที่​นาง​กล่าว​ ​น้ำเสียง​หยุด​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​กล่าว​ต่อว่า​ ​“​เมื่อ​ครู่​ข้า​ไป​สืบ​เรื่อง​ของ​คุณหนู​สกุล​หวัง​กับ​ใต้เท้า​เฉิน​มา​ ​ได้ยิน​บ่าวไพร่​ใน​เรือน​พูด​กัน​ว่า​ ​ใต้เท้า​เฉิน​ให้ความสำคัญ​กับ​คุณหนู​สกุล​หวัง​ยิ่งนัก​ ​จ่าง​กง​จู่​ไม่​เพียง​เชิญ​คุณชาย​ใหญ่​สกุล​หวัง​ไปรับ​ประทาน​อาหาร​ที่​หอ​สายลม​วสันต์​และ​นำ​อักษร​แปด​ชะตา​ของ​คุณหนู​หวัง​ไป​ที่​สำนัก​โหราศาสตร์​เท่านั้น​ ​ยัง​เดินทาง​เข้า​วัง​อีกด้วย​ ​ดูเหมือนว่า​ต้องการ​ขอ​สมรส​พระราชทาน​ให้​คุณหนู​สกุล​หวัง​”

ได้รับ​สมรส​พระราชทาน​จาก​ฮ่องเต้​และ​ฮองเฮา​ ​นั่น​ถือเป็น​เกียรติ​สูงสุด​แล้ว

ต่อไป​งานแต่ง​ของ​หวัง​ซีกับ​เฉินลั​่​วก​็​คงจะ​ฉาบ​ด้วย​สีทอง​มีเกียรติ​เพิ่มขึ้น​อีก​หนึ่ง​ชั้น

เพื่อ​เกียรติยศ​ของ​ราชวงศ์​แล้ว​ ​อย่างไร​จวน​เจิ​้​นกั​๋​วก​งก​็​ต้อง​ให้เกียรติ​หวัง​ซี​ ​ไว้หน้า​หวัง​ซีสัก​สอง​สาม​ส่วน

เพียงแต่ว่า​เมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ ​ก็​เท่ากับ​ว่า​จวน​เจิ​้​นกั​๋​วก​งมี​สมรส​พระราชทาน​สอง​หน

สีหน้า​ของ​หย่ง​เฉิง​โหวฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ไม่​ค่อย​น่าดู​เท่าไร​นัก

เดิม​ซือ​จู​เป็น​บุตรสาว​ของ​ขุนนาง​ต้องโทษ​ ​แต่งาน​แต่ง​ของ​นาง​เป็น​สมรส​พระราชทาน​จาก​ฮ่องเต้​และ​ฮองเฮา​ ​ส่วน​หวัง​ซี​แม้น​จะ​เป็น​คนธรรมดา​ไม่มี​ความผิด​ ​ทว่า​ถือกำเนิด​มาจาก​ครอบครัว​พ่อค้า​ ​ระหว่าง​คู่​สะใภ้​จึง​ถือได้ว่า​สูสี​คู่คี่​ ​แต่​บัดนี้​ ​งานแต่ง​ของ​ซือ​จู​และ​ของ​หวัง​ซีล​้​วน​เป็น​สมรส​พระราชทาน​ด้วยกัน​ทั้งคู่​ ​จึง​ทำให้​สถานะ​ของ​หวัง​ซีสู​งก​ว่า​ของ​ซือ​จู​เล็กน้อย

มิ​เท่ากับ​ว่า​ชีวิต​ใน​ภายภาคหน้า​ของ​ซือ​จู​คง​ไม่​ราบรื่น​นัก​หรอก​หรือ​?

หย่ง​เฉิง​โหวฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​คิด​แล้วก็​รู้สึก​ปวดใจ​เล็กน้อย​ ​สีหน้า​จึง​ไม่​ค่อย​ยินดี​เท่าไร​นัก

หัน​ซื่อ​มอง​แล้ว​อยาก​กล่าว​บางอย่าง​แต่​ก็​หยุด​ไป

เซียง​หยาง​โหวฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​เป็น​คนฉลาด​หลักแหลม​ ​หาก​เมื่อ​ครู่​ไม่​ถูก​หักหน้า​ก็​คง​ยินดี​ยืน​ดู​งิ้ว​เฉยๆ​ ​ไป​แล้ว​ ​นาง​เห็น​เช่นนั้น​ก็​เอ่ยปาก​กล่าว​อย่างดูแคลน​เล็กน้อย​ว่า​ ​“​สะใภ้​สาม​มี​อะไร​อยาก​พูด​หรือเปล่า​ ​ปกติ​ข้า​กลัว​เวลา​ที่​พวก​เด็ก​ๆ​ ​พูด​อะไร​เพียง​ครึ่ง​ๆ​ ​กลางๆ​ ​เป็น​ที่สุด​ ​เพราะ​ทำให้​สถานการณ์​เลวร้าย​ได้​ง่าย​ ​กล่าวคือ​หาก​เจ้า​พูด​ออกมา​ ​ตอนนี้​มี​ผู้อาวุโส​อยู่​ด้วย​ ​อย่างน้อย​ปัญหา​สาม​ใน​ห้า​ก็​แก้ไข​ให้​ผ่านพ้น​ไป​ได้​ ​แต่​ถ้า​เจ้า​ไม่​พูด​ ​รอ​ให้​เรื่องราว​บานปลาย​จน​จัดการ​ไม่ไหว​ ​สุดท้าย​ก็​ต้อง​มา​ขอความช่วยเหลือ​จาก​ผู้ใหญ่​ ​ผู้ใหญ่​ต้อง​ช่วย​จัดการ​ความยุ่งเหยิง​ให้​พวก​เจ้า​อยู่ดี​ ​นอกจากนี้​ถึง​ตอนนั้น​อาจ​ต้อง​ใช้​เรี่ยวแรง​สำหรับ​จัดการ​ปัญหา​เพิ่มขึ้น​เป็น​ร้อย​เท่า​พัน​เท่า​จาก​ก่อนหน้านี้​อีก​ก็​เป็นได้​”

หัน​ซื่อ​ถูก​ต่อว่า​จน​ใบหน้า​ร้อนผ่าว​ ​ขานรับ​เสียง​หนึ่ง​เบา​ๆ​ ​ว่า​ ​“​ท่าน​กล่าว​ได้​มีเหตุผล​”​ ​จากนั้น​กล่าว​กับฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ว่า​ ​“​ข้า​ยัง​ได้ยิน​มา​ว่า​ ​เจิ​้​นกั​๋​วกง​ไม่ทราบ​เกี่ยวกับ​เรื่อง​งานแต่ง​ระหว่าง​ใต้เท้า​เฉิน​กับ​ตระกูล​หวัง​ ​สอง​สามีภรรยา​จึง​มีปากเสียง​กัน​ ​เจิ​้​นกั​๋​วกง​สะบัด​แขน​เสื้อ​เดินหนี​ไป​ ​ยัง​กล่าว​ด้วยว่า​เขา​ไม่ยอมรับ​การ​เกี่ยวดอง​ครั้งนี้​ ​เฉินลั​่ว​เป็น​บุตรหลาน​ของ​ตระกูล​เฉิน​ ​จะ​สู่ขอ​ภรรยา​ย่อม​ต้อง​ให้​เขา​เป็น​คน​จัดการ​ ​เรื่อง​งานแต่ง​ของ​เฉินลั​่ว​หาก​เขา​ไม่​พยักหน้า​อนุญาต​ ​สะใภ้​คน​ใหม่​อย่า​หวัง​จะ​ได้​เข้า​บ้าน​…

…​คน​ข้างนอก​ยัง​พูด​กัน​ด้วยว่า​ ​สาเหตุ​ที่​จ่าง​กง​จู่​ไป​พบ​ตระกูล​หวัง​เร็ว​ขนาด​นี้​เป็น​เพราะ​ไม่พอใจ​ท่าที​ของ​เจิ​้​นกั​๋​วกง​ ​ฉะนั้น​จึง​อยาก​หมั้น​หมาย​คุณหนู​สกุล​หวัง​โดยเร็ว​ ​ท่าน​ว่า​ ​เรื่อง​นี้​ควร​ทำ​อย่างไร​ดีเจ​้า​คะ​”

หย่ง​เฉิง​โหวฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​และ​เซียง​หยาง​โหวฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ต่าง​ตะลึงงัน​ไป​ด้วยกัน​ทั้งคู่

นี่​มิใช่​ถ้อยคำ​ที่​น่ายินดี​เลย

หวัง​ซี​ไป​แต่งงาน​ ​หา​ใช่​ไป​สร้างศัตรู​ ​นี่​คนยัง​ไม่ทัน​ได้​แต่ง​เข้าไป​เลย​ก็​ทำให้​พ่อ​สามี​ขุ่นเคือง​ใจ​แล้ว​ ​แม้น​กล่าวว่า​สตรี​ใน​เรือน​ชั้นใน​ของ​ตระกูล​ใหญ่​นั้น​ไม่จำเป็น​ต้อง​ข้องเกี่ยว​กับ​พ่อ​สามี​มาก​ ​แต่​หาก​ถูก​พ่อ​สามี​รังเกียจ​แล้ว​ ​หมวก​ใบ​ใหญ่​สลักคำ​ว่า​ ​‘​อกตัญญู​’​ ​ก็​จะ​ถูก​ยัด​ใส่​ศีรษะ​ ​และ​ก็​คงมี​ชีวิต​ที่​ไม่​ราบรื่น​นัก

เซียง​หยาง​โหวฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ลอบ​หัวเราะ​อยู่​ใน​ใจ​ ​ก้มหน้า​ลง​ ​ทำตัว​ล่องหน​ด้วย​การ​ไม่​พูด​อะไร​อีก​ราวกับ​ตัวเอง​ไม่ได้​อยู่​ตรงนั้น

หย่ง​เฉิง​โหวฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​กลับ​ร้อนใจ​เหลือคณา​นับ​ ​เดิน​กลับไปกลับมา​อย่าง​ร้อนรน​ ​“​นี่​ผู้ใด​เป็น​คนพูด​?​ ​เจ้า​พวก​กิน​อิ่ม​แล้ว​ไม่มี​การงาน​ทำ​!​ ​หาก​ตระกูล​ถาน​เข้าใจผิด​คิด​ว่า​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​ของ​พวกเรา​มีส่วน​ใน​เรื่อง​นี้​ ​จะ​ไม่​เป็นการ​ทำให้​ตระกูล​ถาน​ขุ่นเคือง​โดย​ไร้เหตุผล​หรอก​หรือ​”

หย่ง​เฉิง​โหวกับฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ล้วน​ไม่​อยาก​ผิดใจ​กับ​ผู้ใด

หย่ง​เฉิง​โหวฮู​หยิน​ฟัง​แล้ว​ดวงตา​กลอก​ไปมา​ไม่​หยุด​อย่าง​ใช้​ความคิด​ ​กล่าวว่า​ ​“​ท่าน​แม่​ ​หาก​เป็น​เช่นนั้น​ ​พวกเรา​ไม่รู้​ก็ดี​เหมือนกัน​ ​อย่างไร​เสีย​คุณชาย​ใหญ่​สกุล​หวัง​ผู้​นั้น​ก็​หา​ได้มา​เยี่ยมเยียน​พวกเรา​”

ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ได้ยิน​แล้ว​ปรบมือ​ไม่​หยุด​ ​รู้สึก​ว่า​เป็นความ​คิด​ที่​ดี

เซียง​หยาง​โหวฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​กลับ​เบ้​ปาก​ ​ไม่​คิด​จะ​ปล่อย​ให้​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​ได้​มี​วัน​เวลา​ที่​ดี

ไม่​กี่​วันหลัง​จากนั้น​ ​เรื่องไม่เป็นเรื่อง​เหล่านี้​ก็​แพร่กระจาย​ออก​ไป​ทั่วทุก​ที่

ปั​๋ว​หมิง​เย​่ว​์​ถึง​ได้​ทราบ​เรื่อง​ดังกล่าว

เวลานี้​เขา​กำลัง​อยู่​ระหว่าง​เดินทาง​กลับ​จิง​เฉิง​ ​เพิ่ง​ลง​จาก​เรือน​ที่​ทง​โจว

ความรู้สึก​เสียใจ​ภายหลัง​ท่วมท้น​หัวใจ​ของ​เขา

เขา​รู้​ว่า​ตัวเอง​ช้า​ไป​เล็กน้อย​ ​แต่​สิ่งที่คิด​ไม่​ถึง​ก็​คือ​เฉินลั​่ว​เอง​ก็​สนใจ​หวัง​ซี

หาก​รู้​เช่นนี้​แต่​เนิ่นๆ​ ​ตอนนั้น​เขา​ควรจะ​เหลือ​ทาง​สำรอง​เอาไว้​สาย​หนึ่ง​ ​ตอนที่​ครอบครัว​พวกเขา​ปฏิเสธ​จวน​เซียง​หยาง​โหว​นั้น​ควรจะ​เปลี่ยน​ให้​คนอื่น​ไป​ทาบทาม​ที่​ตระกูล​หวัง​สัก​คนดี​กว่า​

แถม​เขา​ยัง​พูดว่า​หวัง​ซีช​อบ​เฉินลั​่​วอะ​ไร​นั่น​อีก

บัดนี้​กลายเป็น​คนโง่​อวด​ฉลาด​ไป​เสีย​แล้ว​!

แต่​ตระกูล​หวัง​ตอบรับ​การ​เกี่ยวดอง​ครั้งนี้​ได้​อย่างไร​กัน​นะ​?

สีหน้า​เขา​ย่ำแย่​ยิ่งนัก​ ​ความเหนื่อย​ล้า​แล่น​เข้าสู่​หัวใจ​อย่าง​ยาก​จะ​ปิดบัง​ ​เนื่องจาก​เร่ง​เดินทาง​ตลอดทั้ง​คืน​ทำให้​เสียง​ที่​ค่อนข้าง​แหบแห้ง​อยู่​แล้ว​ยิ่ง​ทุ้ม​ต่ำ​มากขึ้น​ ​“​พวกเรา​รีบ​กลับ​จิง​เฉิง​กัน​เถอะ​”

คน​ข้าง​กาย​คิด​แค่​ว่า​เขา​ตรวจสอบ​สิ่ง​ที่​ตระกูล​ป๋อ​ต้องการ​ได้​แล้ว​ ​ก็​เลย​ร้อนใจ​อยาก​นำ​สิ่ง​ที่​สืบ​ได้​ไป​ส่งมอบ​ให้​ชิ่ง​อวิ​๋น​ป๋อ​ ​จึง​รับปาก​อย่าง​ขันแข็ง​ ​ประคอง​เขา​ขึ้นรถ​ม้า​ ​เตรียมตัว​เดินทาง​เข้า​เมืองหลวง​ใน​ค่ำคืน​นั้น​เลย​

เฉินลั​่ว​และ​หวัง​ซีก​ลับ​หลบเลี่ยง​ทุกคน​ ​ซ่อนตัว​อยู่​ใน​ห้อง​อุ่น​ของ​ลาน​หลัก​ที่​สวน​ร่ม​หลิว​พลาง​กิน​เกาลัด​คั่ว​ไป​ด้วย​คุย​กัน​ไป​ด้วย

“​พ่อ​เจ้า​คัดค้าน​งานแต่ง​ของ​เจ้า​ด้วย​ความ​เดือดดาล​จริงๆ​ ​หรือ​”​ ​เฉินลั​่ว​เป็น​คน​นำ​เกาลัด​ที่​กินกัน​วันนี้​มา​ให้​ ​หวัง​ซี​รู้สึก​ว่า​รสชาติ​หวาน​มัน​กว่า​ของ​ก่อนหน้านี้​ ​หยิบ​เกาลัด​มากัด​ครึ่งหนึ่ง​พลาง​เอ่ย​ถาม​เฉินลั​่ว​ ​“​จ่าง​กง​จู่​ไม่​คิด​จะ​สนใจ​เจิ​้​นกั​๋​วกง​จริงๆ​?​ ​บัดนี้​ฮ่องเต้​ไม่​ค่อย​โปรดปราน​เจ้า​แล้ว​ ​หาก​รู้​ว่า​เจ้า​คิด​จะ​แต่ง​กับ​ข้า​ ​จะ​ต้อง​ฉวยโอกาส​หาเรื่อง​สร้าง​ความลำบาก​ให้​เจ้า​เป็นแน่​กระมัง​”

เฉินลั​่ว​มอง​หวัง​ซี​โดย​ไม่​เอ่ย​คำ​ใด​ไป​ครู่ใหญ่

หวัง​ซี​เงยหน้า​ขึ้น​อย่างแปลกใจ​ ​ถาม​ว่า​ ​“​ทำไม​หรือ​”

กว่า​ครู่ใหญ่​เฉินลั​่ว​ถึง​กล่าว​ขึ้น​ว่า​ ​“​เจ้า​ไม่​คิด​จะ​พูด​อะไร​กับ​ข้า​เป็นการ​ส่วนตัว​สักหน่อย​หรือ​”

เด็กสาว​ที่​กำลังจะ​หมั้น​หมาย​ ​ล้วน​รู้สึก​เขินอาย​กัน​เป็นอย่างมาก​มิใช่​หรือ

เขา​อุตส่าห์​เป็นห่วง​ความรู้สึก​ของ​หวัง​ซี​ ​กลัว​นาง​ลำบากใจ​ ​จึง​จงใจ​ใช้​เกาลัด​เป็น​ข้ออ้าง​เพื่อมา​เยี่ยม​นาง​ ​นาง​กลับดี​เหลือเกิน​ ​รู้จัก​แต่​กิน​อย่าง​เดียว​!

ห่วง​แต่​เรื่อง​กิน​เพียง​เท่านั้น​!

เกาลัด​กว่า​ครึ่ง​ถุง​ถูก​คั่ว​จน​หอมกรุ่น​ ​ทำให้​เขา​ลืม​ความตั้งใจ​แรก​ไป​ชั่วขณะ​ ​กิน​เกาลัด​ตาม​นาง​ไป​ด้วย​หลาย​ลูก

……………………………………………………………