บทที่ 198 ที่รัก ชุดแต่งงานของคุณกำลังรอคุณกลับบ้านอยู่นะ

ปลอบใจฉัน ด้วยรักเธอ

Jarvisตอบว่า “ผมขี้เหร่เกินไป เก็บไว้เป็นความลับดีกว่า! คุณไม่เคยเห็นเหรอว่าผมไม่เคยปรากฏตัวต่อหน้าสื่อที่ไหนเลย?”

เมื่อหลานเสี่ยวถางได้ยินแบบนี้ เธอก็ตระหนักได้ว่าสิ่งที่เธอขอนั้นค่อนข้างเป็นเรื่องยาก ดังนั้นเธอจึงตอบเขาว่า “งั้นก็ทำตัวลึกลับต่อไปเถอะค่ะ!”

ในเวลานี้พ่อของเธอเรียกเธอให้ทำบางอย่าง เธอจึงรีบบอกJarvisว่า “ฉันจะออกไปข้างนอก กลับมาคุยกันนะ!”

Jarvisตอบว่า “โอเค แต่จำที่ผมพูดไว้นะว่ามูเฉินไม่ได้นอกใจคุณจริงๆ เสี่ยวถาง คุณต้องเชื่อเขา”

หลานเสี่ยวถางตอบ”โอเคค่ะ ฉันจะลองคิดดู”

อย่างไรก็ตามสิ่งที่หลานเสี่ยวถางไม่คาดคิดก็คือJarvisดูเหมือนจะไม่ยุ่งมากในช่วงสองวันที่ผ่านมา เขาจะคุยกับเธอวันละสองสามประโยคทุกวันและบางครั้งเขาก็ขอให้เธอรูปถ่ายส่งให้เขาดู

จากการพูดคุยเธอพบว่าJarvisค่อนข้างคุยเก่งและเป็นคนสนุก ไม่ใช่ภาพลักษณ์ของคนบ้างานที่สามารถทำงานได้ทั้งวัน

ในวันนี้ทันทีที่เธอเขียนโปรแกรมเสร็จ โทรศัพท์ของเธอสั่นเธอจึงหยิบมันขึ้นมาก็เห็นว่าเป็นข้อความMMS

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีคนส่งข้อความMMSน้อยมาก เธอคลิกเพื่อดาวน์โหลดและเปิดภาพก็เห็นว่าเป็นใบการตรวจครรภ์

ในใบการตรวจครรภ์นั้นเขียนเป็นชื่อของหลานเล่อซิน!

หลานเสี่ยวถางแทบจะถือโทรศัพท์ไว้ไม่ไหว ร่างกายของเธอสั่น เธอรู้สึกว่าการหายใจของเธอผิดปกติ

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเป็นหลานเล่อซินที่โทรเข้ามา แม้ว่าหลานเสี่ยวถางจะไม่กล้าคิดเรื่องนี้ แต่เธอก็ยังกดรับสายเพราะความอยากรู้

“เสี่ยวถาง แกเห็นข้อความMMSที่ฉันส่งให้แกหรือยัง?” น้ำเสียงของหลานเล่อซินค่อนข้างซับซ้อน แต่ไม่สามารถซ่อนความสุขภายในใจไว้ได้“ฉันท้อง”

หลานเสี่ยวถางบีบโทรศัพท์แน่น “พี่อยากจะพูดอะไร?”

หลานเล่อซินพูดว่า “หลังจากวันนั้นฉันก็ตั้งท้องลูกของมูเฉิน!”

หลานเสี่ยวถางพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อควบคุมอารมณ์ของเธอ ไม่ต้องการเปิดเผยความอึดอัดใจ เธอถามว่า “จะพิสูจน์ได้อย่างไรว่าเป็นลูกของเขา?”

หลานเล่อซินตะลึง”เพราะฉันมีความสัมพันธ์กับเขาในวันนั้น! หลังจากวันนั้นฉันก็ไม่มีอะไรกับใครเลย ดูในใบตรวจครรภ์ฉันตั้งครรภ์ได้หนึ่งสัปดาห์แล้ว!”

อันที่จริงในคืนนั้นเธอตื่นขึ้นมาเพราะความหนาวเย็นก็พบว่าตัวเองนอนอยู่ในสวนหย่อมที่ลับตาคน

เธอถูกห่มด้วยผ้าห่ม เมื่อเธอลุกขึ้นก็มีน้ำกามของผู้ชายไหลออกมาจากส่วนนั้นของเธอ

ในเวลานั้นเธอคิดว่าต้องเป็นสือมูเฉินเป็นคนนอนกับเธออย่างแน่นอน แต่เขาคงทำใจยอมรับไม่ได้หลังจากนอนกับเธอ ดังนั้นจึงโยนเธอออกไปข้างนอก

อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่สุดท้ายเธอก็มีความสัมพันธ์แบบสามีภรรยากับสือมูเฉิน ยิ่งไปกว่านั้นเธอก็พบว่าเธอตั้งครรภ์เมื่อเธอไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกายในวันนี้!

เมื่อเห็นว่าหลานเสี่ยวถางไม่มีปฏิกริยาอะไร หลานเล่อซินจึงพูดอีกครั้ง” เสี่ยวถาง ฉันโทรหาแกก็เพื่อจะบอกเรื่องนี้ ฉันจะพูดอีกครั้งนะฉันมีลูกกับมูเฉิน ฉันอยากแต่งงานกับเขาตลอด ไม่ว่าเขาจะต้องการเด็กคนนี้หรือไม่ ฉันก็ต้องให้กำเนิดลูกของเขาออกมา เสี่ยวถาง ขอโทษด้วยนะ……”

หลานเสี่ยวถางรู้ดีว่าแม้ว่าหลานเล่อซินจะแสดงละครได้ดีมาก แต่เธอก็เพิ่งได้ยินเสียงที่แน่วแน่ของหลานเล่อซินจากโทรศัพท์เมื่อสักครู่นี้

เธอบอกว่าเธอมีความสัมพันธ์กับสือมูเฉินและเธอก็มีลูกแล้ว!

หลานเสี่ยวถางรู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัว เธอรู้สึกเหมือนว่าตัวเองอยู่ในขั้วโลกใต้ เธอตัวสั่นพยายามจะพูดอะไรเพื่อหักล้างหลานเล่อซิน แต่เธอก็พูดไม่ออก ลำคอเหมือนมีอะไรมาติดอยู่

ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจกดวางสายอย่างกะทันหัน แล้วนั่งเหม่ออยู่ที่หน้าต่าง

Jarvisเคยบอกว่าสือมูเฉินจะไม่นอกใจเธอ

หลานเล่อซินบอกว่าเธอกำลังตั้งท้องลูกของสือมูเฉิน

ยิ่งไปกว่านั้นตัวเธอเองก็เห็นว่าพวกเขาไม่ได้ใส่เสื้อผ้านอนอยู่บนเตียง!

หลานเสี่ยวถางไม่รู้ว่าจะเชื่อใจใคร เธอรู้สึกกว่ามีหินตกมาทับที่หน้าอก แม้แต่หายใจยังเป็นเรื่องยาก

เวลาผ่านไปทีละนิด จนกระทั่ง

โทรศัพท์ของเธอสั่น

เธอหยิบมันขึ้นมาดูก็เห็นว่าเป็นสือมูเฉินส่งข้อความมา

รูปถ่ายที่ส่งมาทำให้เธอหายใจโล่งในทันที

เป็นชุดแต่งงานที่เธอและสือมูเฉินเคยสั่งตัดไว้ ส่วนบนถูกตัดอย่างเรียบง่ายเป็นผ้าซาตินที่เรียบหรูทำให้มีความรู้สึกเหมือนมีเมฆและน้ำไหลผ่าน

ส่วนล่างออกแบบเน้นให้ดูมีสะโพกผอมเพรียว กระโปรงด้านหน้าสั้นและกระโปรงหลังยาว บนกระโปรงมีเพชรเม็ดเล็กๆ หลายพันเม็ดประดับอยู่ เมื่ออยู่ภายใต้แสงไฟจะทำให้ดูแวววาวและสง่างาม

ในเวลานี้สือมูเฉินได้ส่งข้อความมาอีกครั้ง “ที่รัก ชุดแต่งงานกำลังรอเจ้าของของมันกลับบ้านอยู่นะครับ”

หลานเสี่ยวถางน้ำตาไหลลงมาอาบสองแก้ม กำลังลังเลว่าจะตอบดีไหม เฉียวโยวโยวก็โทรเข้ามาพอดี “เสี่ยวถาง ดูข่าวช่องเศรษฐกิจเร็ว พี่สือกำลังให้สัมภาษณ์!”

หัวใจของหลานเสี่ยวถางเต้นแรง เดินไปที่ห้องนั่งเล่นแล้วเปิดทีวี กดรีโมตไปที่ช่องเศรษฐกิจ

ในเวลานี้พิธีกรได้สัมภาษณ์สือมูเฉินเกี่ยวกับปัญหาทางธุรกิจเสร็จแล้ว ดังนั้นพิธีกรจึงเปลี่ยนไปสัมภาษณ์ชีวิตส่วนตัว

ข่าวเมื่อไม่กี่วันก่อนถึงแม้จะเป็นประเด็นดัง แต่สุดท้ายก็หายไปอย่างรวดเร็ว หลายคนจึงไม่มีเวลาให้ความสนใจ

นอกจากนี้สื่อเจ้าดังก็ออกมาชี้แจงก่อนหน้านี้ ทุกคนจึงคิดว่ามันเป็นแค่เรื่องตลก และไม่ซีเรียสจนเกินไป

ในเวลานี้พิธีกรรีบวิ่งไปที่สือมูเฉินพร้อมไมโครโฟนแล้วพูดว่า”คุณสือ พวกเราได้ยินมาว่าTimes Groupจะร่วมมือกับNinghai Group และทุกคนรู้ว่าธุรกิจของNinghai Groupมีคุณหลัวสาวสวยเป็นผู้ดูแลอยู่ ไม่รู้ว่าความร่วมมือระหว่างคุณสือและคุณหลัวจะมีโอกาสพัฒนาไปอีกขั้นไหมคะ?”

หลานเสี่ยวถางมองไปที่หน้าจอก็รู้สึกว่าแค่ไม่ได้เจอเขามาสองสามวันสือมูเฉินดูเหมือนจะผอมลงมากและใบหน้าของเขาไม่ดูดีเหมือนเมื่อก่อน

เธอรู้สึกเจ็บปวด เมื่อกำลังคิดว่าเขาเป็นอะไรไปเธอก็ได้ยินสือมูเฉินพูดว่า”คุณหลัวเป็นผู้หญิงที่ผมชื่นชมมาโดยตลอด เธอฉลาด และมีวิสัยทัศน์ แต่ผมแต่งงานแล้ว ดังนั้นผมจึงร่วมมือกับNinghai Groupแค่เรื่องธุรกิจเท่านั้น”

พิธีกรตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด”คุณสือ คุณแต่งงานแล้วเหรอ?”

ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้คงมีคนเคยได้ยินมาบ้างแล้ว แต่ก็ไม่เคยมีใครเห็นพิธีงานแต่งงาน ดังนั้นทั้งหมดจึงถือเป็นข้อมูลที่ต่างเดากันไปเอง นี่เป็นครั้งแรกที่สือมูเฉินเปิดเผยเกี่ยวกับสถานภาพการสมรสของเขาต่อหน้าสื่อขนาดใหญ่

สือมูเฉินพยักหน้าพร้อมกับเผยรอยยิ้มเล็กน้อย”ใช่ครับ ผมแต่งงานกับภรรยาของผมเมื่อครึ่งปีที่แล้ว เรามีความสัมพันธ์ที่ดี เธอเป็นคนค่อนข้างเก็บตัวไม่ชอบให้ปรากฏต่อหน้าสื่อ ดังนั้นจึงไม่ได้เปิดเผยอย่างเป็นทางการ”

“อย่างไรก็ตามหากมีข่าวแบบนี้ออกมาเรื่อยๆ มันจะเป็นการทำร้ายเธอ ดังนั้นผมจึงอยากพูดว่าผมไม่โสดแล้ว ผมและภรรยาไม่มีทางแยกจากกัน ดังนั้นผมหวังว่าจะไม่เห็นข่าวใส่สีตีไข่อีกต่อไป”

เมื่อพิธีกรได้ยินคำพูดเหล่านี้ ดวงตาก็เป็นประกาย และมีน้ำเสียงที่ตื่นเต้น“คุณสือ ถ้าอย่างนั้นคุณต้องรักภรรยาของคุณมากแน่ๆ ใช่ไหม? ในความคิดของคุณเธอเป็นคนแบบไหนคะ? เราทุกคนต้องการรู้ว่าผู้หญิงแบบไหนที่ได้หัวใจคุณไปครอบครอง”

สือมูเฉินคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบว่า “เธอเป็นผู้หญิงที่ใจดี แม้ว่าเธอจะไม่ได้สวยที่สุด แต่เธอก็ดูสบายตามาก ตอนอยู่กับเธอผมรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขมาก และยิ่งไปกว่านั้นเธอเป็นผู้หญิงที่ฉลาดมาก แม้แต่ผมเองยังเคยถูกเธอเล่นงานมาแล้วเมื่อสองสามปีก่อน”

เมื่อหลานเสี่ยวถางได้ยินสิ่งนี้เธอก็คิดว่าสิ่งที่สือมูเฉินพูดถึง หรือจะเป็นตอนที่เธอออกแบบโปรแกรมเพื่อขโมยWiFi และโจมตีคอมพิวเตอร์ของสือมูเฉิน?

จากนั้นสือมูเฉินได้พูดอีกครั้งว่า “เธอเป็นผู้หญิงที่ใสซื่อมาก เธอดีกับผมมาก มีครั้งหนึ่งเราไปนอกเมืองแล้วผมถูกงูกัด เธอนั่งลงแล้วช่วยดูดพิษงูออกจากตัวผม ตอนนั้นผมพูดอยู่ในใจว่าจะดูแลเธอตลอดไป”

“ฮือ!” น้ำตาของหลานเสี่ยวถางไหลออกมา เมื่อเธอมองไปที่สือมูเฉินบนหน้าจอทีวีเธอก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป เธอเริ่มร้องไห้หนักขึ้น

แม้ว่าบทสัมภาษณ์นี้จะไม่ใช่รายการสด แต่ก็เพิ่งผ่านมาเมื่อเช้านี้เอง

ดังนั้น……

หลังจากดูบทสัมภาษณ์แล้ว เธอกลับไปที่ห้องเพื่อโทรหาสือมูเฉิน

ในอพาร์ตเมนต์สือมูเฉินกำลังจัดการชุดแต่งงานและชุดสูทที่เขาเพิ่งได้รับ แต่จู่ๆ ก็มีสายโทรเข้าจากDR

“ตรวจสอบได้แล้วเหรอ?” เขาถาม

“ครับลูกพี่” เสียงผู้ชายในโทรศัพท์ลังเลเล็กน้อย แต่เขาก็ยังพูดว่า “เราติดตามจากบัญชีและในที่สุดก็พบที่แหล่งที่มา……”

เมื่อสือมูเฉินได้ฟังเช่นนี้สีหน้าก็เริ่มเศร้ามากยิ่งขึ้น จนกระทั่งเขาวางสายสือมูเฉินก็ยังคงยืนอยู่ท่าเดิม

ภายในห้องเงียบมาก ดังนั้นเขาจึงได้ยินเสียงหายใจของตัวเองได้อย่างชัดเจน

เขายืนนิ่งอยู่อย่างนั้น แต่ความเศร้าโศกในใจลึกๆ ได้แผ่ออกมาจากร่างกายของเขา

ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน เขาค่อยๆ ขยับเท้าอย่างช้าๆ

เขารู้สึกว่าเท้าชา และใช้เวลานานกว่าจะหายดี

รอยยิ้มอันขมขื่นผุดขึ้นจากมุมปาก จากนั้นเดินช้าๆ ด้วยร่างกายที่สั่นอยู่ตลอดเวลาไปที่ห้องสมุด

เขาหยิบอัลบั้มรูปจากชั้นหนังสือออกมาดู อัลบั้มรูปเขียนวันเดือนปีไว้อย่างชัดเจน

เขาเปิดดูมันเป็นรูปของเขาตอนที่เขายังเป็นเด็ก

บางรูปเป็นรูปเขาคนเดียวและบางรูปก็ถ่ายกับครอบครัว

ในท้ายที่สุดสายตาของสือมูเฉินก็หยุดอยู่ที่รูปโจวเหวินซิ่วพาเขาเดินไปที่ประตูโรงเรียน

ความจำของเขานั้นไม่เลวเลย เขายังคงจำได้ว่านั่นเป็นครั้งเดียวที่เขาถูกเชิญผู้ปกครอง

โดยปกติพ่อแม่ของเขานั้นค่อนข้างงานยุ่ง ดังนั้นจึงเป็นพี่เลี้ยงมารับเขากลับบ้านทุกวัน แต่ในวันนั้นเนื่องจากเพื่อนร่วมชั้นบางคนบอกว่าเขาหน้าไม่เหมือนพี่ชายและถูกเก็บมาเลี้ยง เขาจึงโกรธมากเลยทะเลาะกับเพื่อนคนนั้น

วันนั้นโจวเหวินซิ่วไปโรงเรียนเพื่อรับเขา เขาคิดว่าเขาจะถูกด่าอย่างแน่นอน แต่สุดท้าย เธอกลัวว่าเขาจะไม่สบายใจ เธอจึงซื้อไอศกรีมตุ๊กตาหิมะที่ประตูโรงเรียนให้เขา

พอดีวันนั้นพ่อซื้อกล้องมาใหม่ ก็เลยถ่ายรูปคู่กับแม่ให้เขา

ปลายนิ้วของสือมูเฉินสัมผัสเบาๆ ลงบนรูปถ่าย ค่อยๆ กวาดไปมาเหมือนกับว่าไม่สามารถย้อนกลับไปในอดีตได้

ริมฝีปากของเขาสั่นและเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด “แม่ ทำไมแม่ถึงทำอย่างนี้ ? ทำไมแม่ถึงกลายเป็นแบบนี้? แม่รู้ไหมว่าวันนั้นที่แม่บอกว่าจะซื้อสร้อยข้อมือให้เสี่ยวถาง ผมดีใจแค่ไหน? ! แต่ในตอนนั้นผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแม่กำลังเตรียมการใหญ่ ซึ่งมันเป็นการทำร้ายผมอย่างหนัก!”