ตอนที่ 510 หาผู้ชายให้หลิวหรูหยาน ?
แปล Tarhai
หลินเสวี่ยกลายเป็นอ้ำอึ้งๆทันทีที่เธอเห็นว่าหลิวหรูหยานไม่เชื่อคำพูดของเธอ
เธอเพิ่งรู้ตัวว่าเธอพลาดอีกแล้ว เธอไม่ควรจะพาหลิวหรูหยานเดินชมรอบๆวิลล่าเลย ใครจะไปคิดว่าเธอจะทำถึงขนาดถือวิสาสะเข้าไปในห้องนอนของฉิงเฟิงระหว่างการเดินชมรอบบ้าน ?
ถึงแม้ว่าหลินเสวี่ยจะเคยเป็น OCD มาก่อน แต่หลังจากที่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับฉิงเฟิงอยู่เป็นประจำ อาการของเธอก็หายขาดแล้ว ตอนนี้เธอตกหลุมรักฉิงเฟิง ถ้าไม่ใช่เพราะเธอได้รับบาดเจ็บ เธอคงยอมเป็นของเขาไปนานแล้ว
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม หลินเสวี่ยก็ยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ มันเป็นความจริงที่เธอยังไม่เคยมีอะไรกับฉิงเฟิง
หลินเสวี่ยมีความภาคภูมิใจ เธอไม่ต้องการให้หลิวหรูหยานรู้ถึงความบกพร่องในหน้าที่ของภรรยาของเธอ
“มิสหลิว อาหารเกือบจะเสร็จแล้วละ กลับกันเถอะ” หลินเสวี่ยกล่าวขณะที่เธอขมวดคิ้ว เธอไม่ต้องการให้หลิวหรูหยานอยู่ที่นี่นานกว่านี้ มิฉะนั้นเธออาจจะพบเจออะไรมากขึ้น
หลิวหรูหยานมองไปที่หลินเสวี่ยอย่างมีเลศนัย เธอรู้ว่าหลินเสวี่ยกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ในเมื่อเจ้าบ้านเอ่ยปากแล้ว เธอทำได้เพียงพยักหน้าตกลงและเดินกลับไปที่ห้องนั่งเล่นพร้อมกับเธอ
ทั้งสองคนมาถึงห้องนั่งเล่นและนั่งลงบนเก้าอี้ หลินเสวี่ยยังรู้สึกหงุดหงิดอยู่เล็กน้อย ในขณะที่หลิวหรูหยานรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ค้นพบความลับระหว่างฉิงเฟิงและหลินเสวี่ย
จากมุมมองของเธอ มันเป็นเรื่องปกติที่ผู้ชายและผู้หญิงจะมีอะไรกัน มันจะต้องมีบางอย่างผิดปกติถ้าพวกเขายังไม่ได้มีอะไรกันทั้งๆที่แต่งงานกันแล้ว
“มาๆ อาหารพร้อมแล้ว มาลองชิมหอยเชลล์ปลาหมึกผัดมะเขือเทศฝีมือของฉันดู”
ฉิงเฟิงกล่าวขณะที่เขาวางจานกับข้าวบนโต๊ะอาหารอย่างยิ้มแย้ม
แต่เมื่อเขามาถึงห้องนั่งเล่น เขาก็พบว่าหญิงคนหนึ่งหน้าบูดบึ้ง ในขณะที่อีกคนหนึ่งยิ้มแย้มแจ่มใส
หืม ? พวกเธอตีกันอีกแล้วหรือ ?
ฉิงเฟิงมองสลับไปมาระหว่างพวกเธอและตระหนักว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง เขานำเอาตะเกียบออกมา 3 คู่และมอบให้พวกเธอ
“กินกันเถอะ” ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
หลินเสวี่ยเหล่มองไปที่หลิวหรูหยานและพูดกับฉิงเฟิงว่า “ข้อศอกของชั้นยังรู้สึกๆเจ็บๆอยู่ ช่วยหน่อยสิ”
ได้ยินดังนั้นฉิงเฟิงก็ไม่ได้คิดอะไรมากนัก เขารู้ว่าหลินเสวี่ยได้รับบาดเจ็บ ในเมื่อเธอขอให้ช่วย เขาจึงตักอาหารบางส่วนใส่จานให้เธอ
“เอ้านี่ ลองกินหอยเชลล์ดู มันมีคุณค่าทางโภชนาการมาก” ฉิงเฟิงกล่าวขณะที่เขาตักอาหารให้เธอ
หลินเสวี่ยรู้สึกดีขึ้นทันทีหลังจากเห็นฉิงเฟิงเอาอกเอาใจด้วยการตักอาหารให้ รอยยิ้มของผู้ชนะปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ
“อืม หอยเชลล์ที่คุณทำนั้นอร่อยมากเลย ” หลินเสวี่ยกล่าวชมเชย แน่นอนว่าเธอไม่ลืมที่จะเหวี่ยงสายตาไปทางหลิวหรูหยานอย่างยุแหย่
เห็นมั้ยนังจิ้งจอกหลิวหรูหยาน ฉิงเฟิงเค้าตักอาหารให้ชั้น ส่วนเธอทำได้เพียงแค่มองตาปริบๆ
หลินเสวี่ยคิดในใจอย่างมีความสุข
ใบหน้าของหลิวหรูหยานเปลี่ยนไปเล็กน้อย ในตอนแรกใบหน้าเธอเต็มไปด้วยความเบิกบานใจ อย่างไรก็ตาม อารมณ์ของเธอเริ่มแย่ลงเมื่อเธอเห็นฉิงเฟิงเอาใจหลินเสวี่ย เธอรู้สึกหงุดหงิดเมื่อเห็นรอยยิ้มที่มีความสุขของหลินเสวี่ย
หลิวหรูหยานไม่ใช่ผู้หญิงที่ยอมรับความพ่ายแพ้โดยไม่ตอบโต้ เป็นธรรมดาที่เธอจะต้องสวนกลับหลินเสวี่ย เธอกล่าวอย่างเย้ายวนว่า “ฉิงเฟิง ช่วงนี้ชั้นรู้สึกปวดหัวเล็กน้อยจนจับตะเกียบไม่ค่อยไหว คุณช่วยชั้นบ้างได้มั้ย ?”
อะไรอีกละเนี่ย ? นี่ก็สุขภาพอ่อนแออีกคนแล้ว ??
ฉิงเฟิงมองไปที่หลิวหรูหยานและพูดไม่ออก เขาพบว่าเธอกำลังมองมาที่เขาด้วยแววตาเว้าวอน ท่าทางของเธอราวกับจะเขมือบเขาทั้งตัวหากเขาปฏิเสธคำขอ
“เอ้านี่ หรูหยาน ลองชิมหอยเชลล์ที่ฉันทำ” ฉิงเฟิงกล่าวขณะที่เขาคีบหอยใส่จานของหลิวหรูหยาน
เขาจะทำอะไรได้ละ ? ทั้งหลินเสวี่ยและหลิวหรูหยาน พวกเธอทั้งสองคนต่างก็เป็นผู้หญิงของเขา เขาต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองคน
เป็นไปตามที่คาดไว้หลิวหรูหยานเบิกบานขึ้นทันที หลังจากที่ฉิงเฟิงตักอาหารให้เธอ
หลินเสวี่ยรู้สึกไม่พอใจที่ได้เห็นใบหน้าที่รื่นรมย์ของหลิวหรูหยาน เธอขมวดคิ้วและกล่าวว่า “ฉิงเฟิง ชั้นต้องการให้คุณป้อนอาหารให้ชั้น”
ว็อท ?? ให้ป้อนอาหารคุณ ? บ้าเอ้ย ! พวกเธอหยุดทรมานฉันสักทีได้ไหม ?
ฉิงเฟิงเป็นใบ้ทันที ถ้าหากหลิวหรูหยานไม่ได้อยู่ที่นี่เขาก็ยินดีที่จะป้อนอาหารให้หลินเสวี่ยหรือแม้แต่อาบน้ำให้เธอ ปัญหาคือตอนนี้หลิวหรูหยานจ้องมองพวกเขาด้วยแววตาที่เย็นยะเยือก
“อะไร ? คุณไม่อยากป้อนอาหารให้ชั้นเหรอ ?” หลินเสวี่ยกล่าวด้วยเจตนาฆ่าในสายตาของเธอ
ฉิงเฟิงกล่าวอย่างรวดเร็วว่า “ฉันยินดีสิ แน่ว่าฉันจะป้อนอาหารให้คุณ”
ฉิงเฟิงคีบอาหารป้อนใส่ปากของหลินเสวี่ย
แสงแห่งความเย็นยะเยือกปรากฏในดวงตาของหลิวหรูหยาน เธอกล่าวว่า
“ฉิงเฟิง ชั้นปวดหัวจังเลย ชั้นยกตะเกียบไม่ขึ้น ป้อนชั้นด้วยสิ”
ณ จุดนี้หลี่ฉิงเฟิงใกล้จะร้องไห้เสียแล้ว เขาคิดในใจว่า
“พวกคุณฆ่าฉันซะเถอะ”
ถึงแม้ว่าฉิงเฟิงจะพูดไม่ออกแต่เขาก็คีบอาหารป้อนใส่ปากให้หลิวหรูหยานเช่นกัน
มันยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ฉิงเฟิงต้องป้อนหลินเสวี่ยคำหนึ่งจากนั้นก็หันไปป้อนหลิวหรูหยานคำหนึ่งเช่นกัน สุดท้าย… เขาก็ป้อนอาหารทั้งสองสาวจนอิ่ม ส่วนตัวเองไม่ได้กินสักคำ
ฉิงเฟิงรู้สึกขมขื่น มันช่างน่าเศร้านัก เขาไม่ได้ทานอาหารที่เขาทำแม้แต่คำเดียว อาหารหมดเกลี้ยงจากการต่อสู้ของพวกเธอทั้งสอง
หลินเสวี่ยและหลิวหรูหยานกินอิ่มมากจนสะอึก มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้เพราะฉิงเฟิงทำอาหารได้อร่อยมาก นอกจากนี้พวกเธอแข่งกันกินโดยให้เขาป้อนอีกด้วย
“มิสหลิว ชั้นจะอาบน้ำพักผ่อนแล้ว คุณไม่กลับบ้านรึไง ?” หลินเสวี่ยกล่าวด้วยรอยยิ้มขณะที่เธอลูบหน้าท้องของตัวเองด้วยความอิ่ม
การแสดงออกของหลิวหรูหยานเปลี่ยนไป ความจริงเธอยังไม่อยากกลับ เธอต้องการใช้เวลาอยู่กับฉิงเฟิงให้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม เธอเป็นเพียงแค่แขกคนหนึ่งในบ้านของหลินเสวี่ย เธอไม่มีข้ออ้างที่จะรั้งอยู่
“ก็ได้ ขอบคุณมากมิสหลิน โอกาสหน้าถ้าคุณว่าง ขอเชิญไปกินข้าวบ้านชั้น”
หลินหรูหยานกล่าวด้วยรอยยิ้มอย่างมีเสน่ห์
ในเมื่อวันนี้หลินเสวี่ยได้เชิญเธอมาทานอาหารเย็นที่บ้าน มันเป็นเรื่องธรรมดาที่หลิวหรูหยานต้องเชิญหลินเสวี่ยมาทานอาหารบ้านเธอเช่นกัน
หลินเสวี่ยพยักหน้าและกล่าวว่า “ก็ได้ ถ้ามีโอกาสชั้นจะไปที่บ้านของคุณ แต่ชั้นหวังว่าคุณจะเป็นคนเข้าครัวทำอาหารเองนะ ชั้นอยากชิมอาหารฝีมือคุณ”
หลิวหรูหยานยิ้มอย่างมีเสน่ห์โดยไม่ได้ตอบอะไรและเดินออกจากห้องนั่งเล่น ฉิงเฟิงและหลินเสวี่ยเดินตามหลังเธอ
หลินเสวี่ยเดินไปส่งหลิวหรูหยานที่ประตูและกล่าวว่า
“มิสหลิว คุณดูท่าทางจะเหงามากเลยนะที่ไร้คู่อยู่เช่นนี้ ไว้ชั้นจะแนะนำผู้ชายให้ก็แล้วกัน”
หลิวหรูหยานต้องการที่จะปฏิเสธข้อเสนอของหลินเสวี่ย แต่เธอก็ไม่สามารถพูดอะไรได้เพราะข้ออ้างที่เธอใช้เพื่อขอเข้ามาที่บ้านของหลินเสวี่ยก็คือให้หลินเสวี่ยแนะนำผู้ชายดีให้
แน่นอนว่าในใจของหลิวหรูหยาน เธอไม่สนใจใครหน้าไหนทั้งนั้นที่หลินเสวี่ยจะแนะนำให้ เป้าหมายของเธอคือฉิงเฟิง เธอแค่ต้องการใช้เวลากับฉิงเฟิงให้มากขึ้นเท่านั้น