บทที่ 64 ส่งสร้อยคอของเฉินฮวนฮวนมา

อ้อนรัก คุณภรรยาคนสวย

“ขอโทษนะเยว่เอ่อร์ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังเธอ ฉันคิดว่าฉันจะออกจากบ้านตระกูลเฟิงในไม่ช้านี้”

“แต่ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้ว และมีแผนที่จะอยู่ที่บ้านตระกูลเฟิงต่อ ดังนั้นตอนนี้สิ่งที่ฉันจะพูดก็คือ…”

เมื่อเห็นท่าทางตกใจของหลิ่วเยว่เอ่อร์และสีหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นตระหนกที่ไม่อาจปฏิเสธได้ เฉินฮวนฮวนจึงคิดว่าเป็นเพราะเธอปิดบังหลิ่วเยว่เอ่อร์ ดังนั้นอีกฝ่ายจึงได้รู้สึกโกรธมากขนาดนี้

แต่เมื่อเธออธิบายไปแล้วการแสดงออกของหลิ่วเยว่เอ่อร์ก็ไม่ได้ดูดีขึ้นเลย

“เธอ……เฉินฮวนฮวน! เธอ……” พอหลิ่วเยว่เอ่อร์ได้สติ ตอนนี้เธอก็แทบจะคลั่งเพราะความโกรธ

เธอปิดบังเฉินฮวนฮวนหลายเรื่อง แต่เฉินฮวนฮวนกลับได้เข้าไปอยู่ที่บ้านตระกูลเฟิงก่อนเรียบร้อยแล้ว แต่ตัวเธอเองกลับ…

อย่างไรก็ตามเฉินฮวนฮวนไม่ได้พูดอะไรเลยก่อนหน้านี้ เธอปกปิดเรื่องนี้ไว้เป็นอย่างดี ปฏิบัติกับเธอเหมือนเป็นลิงโง่ๆอย่างนั้นน่ะเหรอ?

ดังนั้นเหตุผลที่เฟิงหานชวนไม่ต้องการเธอก็เป็นเพราะว่าพวกเขารู้อยู่แล้วว่าเธอเป็นตัวปลอมใช่ไหม?

“เยว่เอ่อร์ อย่าโกรธเลยโอเคไหม?” เมื่อเห็นหลิ่วเยว่เอ่อร์ดูโกรธมาก เฉินฮวนฮวนก็รู้สึกกังวลขึ้นมาทันที

เธอกับหลิ่วเยว่เอ่อร์เป็นเพื่อนที่ดีมาเป็นเวลานาน เธอไม่อยากเลิกเป็นเพื่อนกับเธอเพราะเหตุการณ์นี้

“เฉินฮวนฮวน เธอ…เธอแต่งงานแล้วหรือยัง? “หลิ่วเยว่เอ่อร์ระงับความโกรธของเธอและชี้ไปที่เฉินฮวนฮวนแล้วถามด้วยใบหน้าที่บูดบึ้ง

“อืม”เฉินฮวนฮวนทำได้เพียงแค่พยักหน้าแล้วอธิบายว่า: “มันก็ไม่เชิงว่าแต่งงาน ฉันถูกขายให้พวกเขา”

“ขาย?”ประโยคนี้ทำให้หลิ่วเยว่เอ่อร์รู้สึกสับสน

เป็นไปได้ไหมว่าเฉินฮวนฮวนเข้าไปอยู่ที่บ้านตระกูลเฟิงเหตุผลไม่ใช่เพราะคืนนั้น?

“เยว่เอ่อร์ ตระกูลเฟิงมายื่นข้อเสนอแต่งงาน เพราะเรื่องของเฟิงเฉินเหยี่ยนและเฉินซินโหรวเองก็มีเยี่ยจิ่งเฉินอยู่แล้ว เธอเลยไม่เต็มใจที่จะแต่งงานกับเฟิงเฉินเหยี่ยน พ่อที่น่ารังเกียจของฉันก็เลยข่มขู่ฉันด้วยคฤหาสน์ของแม่ ดังนั้นฉันจึงต้องยอมตกลงที่จะแต่งงาน … ”

“ฉันคิดว่าฉันสามารถออกจากบ้านตระกูลเฟิงไปได้หลังจากที่นายท่านกลับมา แต่ฉันคาดไม่ถึงว่านายท่านเฟิงจะเจรจาข้อตกลงกับฉันอีกครั้ง ดังนั้นฉันจึงวางแผนที่จะอยู่ที่บ้านตระกูลเฟิงไปสักพักก่อน”

เฉินฮวนฮวนอธิบายหลิ่วเยว่เอ่อร์เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ไม่ได้พูดถึงเรื่องของเฟิงหานชวน

เพราะส่วนนั้นมันซับซ้อนเกินไป และตอนนี้ก็ใกล้จะถึงเวลาเรียนแล้วเธอจึงขอไม่พูดถึงเรื่องนั้น

“ตอนนี้เธอแต่งงานกับเฟิงเฉินเหยี่ยน และกลายเป็นนายหญิงของตระกูลเฟิงแล้วอย่างนั้นเหรอ?”หินก้อนใหญ่ในหัวใจของหลิ่วเยว่เอ่อร์ดูเหมือนจะตกลงไปที่พื้นในทันที

“อืม อย่างนั้นแหละ”เฉินฮวนฮวนไม่รู้ว่าในอนาคตเธอจะสามารถออกจากที่นั่นได้ไหม ดังนั้นเธอจึงตอบได้เพียงแค่เท่านี้

“เป็นอย่างนี้นี่เอง เธอเองก็ตกเป็นเหยื่อ ฉันคิดว่าเธอจงใจปกปิดฉันเพราะกลัวว่าฉันจะอิจฉาเธอ! โอเคๆ ไปเรียนกันเถอะ! “เมื่อพูดจบหลิ่วเยว่เอ่อร์ก็จับมือเฉินฮวนฮวนและลากเธอไปทันที

เมื่อรู้ว่าเฉินฮวนฮวนและเฟิงหานชวนไม่มีความเกี่ยวข้องกัน หลิ่วเยว่เอ่อร์ก็รู้สึกโล่งใจ แต่จริงๆในใจของเธอก็ยังคงรู้สึกอารมณ์เสียอยู่มาก

ฝูงมดขี้อิจฉายังคงไต่เข้าไปในอกของเธอ

เธอยังไม่ได้เฟิงหานชวน แต่เฉินฮวนฮวนกลับได้เป็นนายหญิงของตระกูลเฟิงแล้ว?

แม้ว่าเฟิงเฉินเหยี่ยนจะไม่ได้ดีพอแต่เฟิงเฉินเหยี่ยนนั้นก็หล่อเหลาอยู่พอควร และแม้ว่าเขาจะเป็นเป็นหนุ่มโสดที่รักสนุกไปวันๆ แต่ตำแหน่งนายหญิงของตระกูลเฟิงนั้นก็ไม่มีใครเทียบได้อยู่ดี!

อย่างไรก็ตามเฟิงเฉินเหยี่ยนเป็นหลานชายคนโตของตระกูลเฟิงรุ่นที่สามและปัจจุบันเขาก็เป็นหลานชายรุ่นที่สามเพียงคนเดียวอีกด้วย

……

ณ หลิวซื่อกรุ๊ป สำนักงานผู้จัดการ

หลิวตงรุ่ยคุกเข่าลงบนพื้น ใบหน้าของเขาบวมช้ำจนเป็นสีเขียว เขาจ้องไปยังชายร่างสูงที่อยู่ข้างหน้าเขา

“คุณชายสาม ผมไม่ได้ขู่บังคับผู้หญิงคนไหนเลย แม้ว่าผมจะหลายใจและใช้ชีวิตสนุกไปวันๆแต่ผู้หญิงเหล่านั้นก็เต็มใจเสมอ!”หลิวตงรุ่ยร้องไห้ไม่หยุด

เขากำลังทำงานอยู่ในบริษัทของเขาอย่างมีความสุขและกำลังคุยกับผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ แต่จู่ๆคุณชายสามแห่งตระกูลเฟิงก็ได้นำคนเข้ามารุมกระทืบเขา

ใบหน้าของเฟิงหานชวนนั้นเต็มไปด้วยความเย็นชา เขายกเท้าขึ้นและใช้รองเท้าหนังของเขาเหยียบไปที่มือของผู้ชายตรงหน้า และจากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงโหยหวนของหลิวตงรุ่ย

“ฉันจะพูดอีกแค่ครั้งเดียว ส่งสร้อยคอของเฉินฮวนฮวนมา”น้ำเสียงเยือกเย็นและใบหน้าที่มืดมนของเขาราวกับผุดมาจากขุมนรก

“อ๊าก!” คุณชายสาม ผมไม่รู้จักเฉินฮวนฮวนจริงๆ ผมไม่รู้จริงๆ…”หลิวตงรุ่ยน้ำตาคลอด้วยความเจ็บปวด ต่อให้เขาคิดเท่าไหร่เขาก็นึกไม่ออกอยู่ดีว่าเขาเคยก่อกวนผู้หญิงที่ชื่อเฉินฮวนฮวนตอนไหน

“ฉันจะให้โอกาสนายครั้งสุดท้าย” ไม่มีการแสดงออกบนใบหน้าของเฟิงหานชวน แต่ใบหน้านั้นก็ชวนทำให้คนรู้สึกขนลุกได้

เมื่อหลิวตงรุ่ยได้ยินประโยคนี้ทำให้เขาตกใจมากจนฉี่ราดกางเกง

“(เสียงฉี่)” ดังขึ้นภายในห้อง

ในขณะเดียวกันเสียง “กริ๊ก” ประตูก็ถูกเปิดออก

ซูอวี่รีบวิ่งไปกระซิบที่หูของเฟิงหานชวนและรายงานว่า: “ประธานเฟิงครับ หลิวตงรุ่ยเดินทางไปญี่ปุ่นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพื่อไปซื้อโมเดล เขาไปที่นั่นประมาณสิบวันและเพิ่งกลับมาเมื่อวันก่อน”

แม้ว่าเสียงของซูอวี่จะเบามากแต่หลิวตงรุ่ยก็ได้ยินมัน เขารีบตะโกนว่า: “ใช่ครับ ผมเพิ่งกลับมาเมื่อวันก่อน เมื่อวานผมนอนที่บ้านและวันนี้พ่อของผมก็โทรเพื่อให้ผมมาที่บริษัทเพื่อเช็ครายชื่อ ไม่มีใครชื่อเฉินฮวนฮวนและผมก็ไม่เคยเอาสร้อยคอผู้หญิงไปด้วย ผมจะเอาสร้อยคอของผู้หญิงไปทำไม?”

“คุณชายสาม ผมไม่รู้จักผู้หญิงคนนี้จริงๆ ผมไม่รู้อะไรเลย ผมถูกใส่ร้าย…”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ใบหน้าของเฟิงหานชวนก็มืดมนยิ่งกว่าเก่าราวกับว่าเขาสามารถกินคนทั้งคนเข้าไปได้

หลิวตงรุ่ยตกใจมาก เป้ากางเกงของเขาเปียกแฉะไปหมดจนกางเกงสีขาวของเขากลายเป็นสีเหลือง ดวงตาของเขาบวมจากการร้องไห้และตอนนี้เขาก็รู้สึกอับอายมาก

เขาสั่นไปทั้งตัวและไม่กล้าพูดอะไรอีกเพราะเขากลัวจะโดนกระทืบอีก

“กลับบริษัท”

ในตอนนี้เสียงที่เย็นชาของเฟิงหานชวนดังขึ้นอย่างช้าๆ เขาพูดเพียงแค่สามคำเท่านั้น

เฟิงหานชวนเตะเข้าไปที่ประตูสำนักงานของหลิวตงรุ่ยอีกครั้งก่อนจากไป

……

บนถนน ซูอวี่ขับรถอย่างสั่นๆและไม่กล้าพูดอะไรออกมาสักคำ

แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พอประธานเฟิงได้ยินข่าวการเดินทางของหลิวตงรุ่ย เขาก็เลยปล่อยหลิวตงรุ่ยไปและออกจากหลิวซื่อกรุ้ปทันที

นอกจากนี้ใบหน้าของประธานเฟิงยังดูน่ากลัวมากอีกด้วย

ซูอวี่คิดว่าเขาเป็นหนึ่งในคนที่รู้จักเฟิงหานชวนดีที่สุด และเขารู้สึกว่าน่าจะมีโอกาสที่เฉินฮวนฮวนอาจจะหลอกประธานเฟิงและเป็นสาเหตุที่ทำให้สถานการณ์กลายเป็นเช่นนี้

อันที่จริงซูอวี่เดาถูก

เฟิงหานชวนพบว่าเฉินฮวนฮวนหลอกเขาและเขาถูกเฉินฮวนฮวนเล่นกับเขาอีกครั้งเสียแล้ว

วันที่เข้าบ้านตระกูลเฟิงในวันนั้นตามร่างกายของเฉินฮวนฮวนมีร่องรอยตามตัวเต็มไปหมด ดังนั้นสิ่งที่เฉินฮวนฮวนพูดเพียงครั้งเดียวในตอนนั้น เรื่องคงจะต้องเกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วแน่นอน

และหลิวตงรุ่ยยังบอกอีกว่าเขาอยู่ที่ญี่ปุ่นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และไม่มีเฉินฮวนฮวนอยู่ในลิสต์รายชื่ออีกด้วย เห็นได้ชัดว่าเฉินฮวนฮวนโกหก

เฟิงหานชวนหัวเราะ น้ำเสียงของเขานั้นเย็นชามาก

ผู้หญิงคนนี้น่าทึ่งจริงๆ

อย่างไรก็ตามเฟิงหานชวนไม่ได้เป็นคนที่ถูกยั่วโมโหได้ง่ายนักแต่เธอกลับกล้ายั่วโมโหเขา ถ้าอย่างนั้นเขาก็จะทำให้เฉินฮวนฮวนต้องจ่ายในราคาที่เธอสมควรจะต้องจ่าย!

ผู้หญิงที่กล้าโกหกเขา เธอคือคนแรกและคือคนสุดท้าย!

เฟิงหานชวนกำหมัด เส้นเลือดที่หลังมือของเขาถูกเผยให้เห็น และเปลวเพลิงแห่งความโกรธก็แผดเผาไปทั่วร่างกายของเขา