บทที่ 65 เกาเหวิน

อ้อนรัก คุณภรรยาคนสวย

ท้องฟ้าค่อยๆมืดลง

เฉินฮวนฮวนกำลังยุ่งอยู่ในร้านชานม

ทันใดนั้น ผู้หญิงที่คุ้นเคยเดินเข้ามาจากประตู ตัวสูง หน้าตาเย็นชา และแต่งหน้าอ่อนๆ รองเท้าบูทส้นสูงสีดำคู่หนึ่งทำให้ขายาวทั้งสองดูโดดเด่น

“รุ่นพี่!” เฉินฮวนฮวนลืมตาโตด้วยความประหลาดใจและอุทานออกมา

“ฮวนฮวน ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” เกาเหวินเดินไปหาเธอ ยืนอยู่หน้าเครื่องคิดเงินเหมือนลูกค้า แล้วพูดอย่างเกียจคร้าน: “สองแก้ว เธอหนึ่งแก้ว ฉันหนึ่งแก้ว”

“ห้ะ? รุ่นพี่ ฉันด้วยหรอ?” เฉินฮวนฮวนชี้มาที่ตัวเองอย่างงุนงง

เธอเป็นพนักงานของร้าน เกาเหวินเป็นเจ้าของร้านชานม ทำไมถึงสั่งให้ตัวเองอีกแก้ว?

“ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ เป็นเรื่องสำคัญมาก เกี่ยวกับชีวิตในอนาคตของเธอ” เกาเหวินพูดอย่างจริงจังและพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่ใจเย็น: “งานให้จินตั่วทำแทนก่อน”

“ได้ค่ะ” จินตั่วยืนอยู่ข้างๆและตอบรับ

หลังจากสั่งการเสร็จ เกาเหวินก็นั่งลงที่นั่งสองคนริมหน้าต่าง และฝั่งตรงข้ามเหลือไว้ให้เฉินฮวนฮวน

เฉินฮวนฮวนไม่เคยเห็นเกาเหวินจริงจังขนาดนี้มาก่อน ในฐานะเจ้านายของพวกเธอ เกาเหวินเป็นกันเองมาก

แต่ตอนนี้ เกาเหวินอยากคุยเรื่องสำคัญกับเธอ เกี่ยวกับอนาคต?

หรือว่า กำลังจะไล่เธอออก?

เฉินฮวนฮวนรู้สึกประหม่าขึ้นมา หลังจากชงชานมสองแก้วเสร็จ เธอรีบเดินไปหาเกาเหวิน และนั่งลงตรงข้ามกับเกาเหวิน

“รุ่นพี่ อยากคุยอะไรกับฉันเหรอคะ?” เฉินฮวนฮวนอดใจไม่ได้รีบถามทันทีหลังจากนั่งลง

เธอคุ้นเคยกับกระบวนการทำงานที่นี่ แถมร้านยังอยู่ที่มหาลัย เธอไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทาง สำหรับเธอที่นี่คืองานพาร์ทไทม์ที่สะดวกที่สุด

“ฉันอยากให้เธอเป็นตัวแทนฉัน เข้าร่วมการคัดเลือกไอดอล100คะแนน” การแสดงออกของเกาเหวินนั้นจริงจังและเสียงของเธอก็จริงจังมากเช่นกัน

เฉินฮวนฮวนตกตะลึง

เธอรู้ว่าไอดอล100คะแนนเป็นการแสดงความสามารถเกิร์ลกรุ๊ปที่เกาเหวินไปเข้าร่วม เกาเหวินและแฟนของเธอที่เป็นลูกคนรวยเปิดบริษัทเล็กๆด้วยกัน เกาเหวินเป็นทั้งศิลปินของบริษัทและเป็นคุณนายของบริษัท

“รุ่นพี่ พี่ไปฝึกอบรมแล้วไม่ใช่เหรอ? ทำไมจู่ๆ…” หัวของเฉินฮวนฮวนรู้สึกว่างเปล่า ไม่รู้ว่าเกาเหวินกำลังจะทำอะไร

“ขาของฉันได้รับบาดเจ็บ ไม่สามารถทนฝึกต่อได้ ช่วงหลังๆนั้นฝึกหนักมาก ฉันเลยต้องลาออก มิฉะนั้นหมอบอกว่าถ้าฉันยังฝึกต่อไปเรื่อยๆ ขาฉันจะเป็นง่อย” เกาเหวินพูดตรงๆเกี่ยวกับสถานการณ์ของเธอ

“ห้ะ! ถ้าอย่างนั้น…” เฉินฮวนฮวนอุทานออกมา แต่ไม่รู้จะพูดอะไร

เธอรู้ดีว่าเกาเหวินให้ความสำคัญกับงานนี้มากและยังลงทุนในบริษัทไปมากด้วย หากเธอสามารถมีชื่อเสียงได้ บริษัทที่เธอและแฟนของเธอเปิดจะมีโอกาสเติบโตได้ดี

“ฮวนฮวน ฉันคิดมานานแล้ว เธอเป็นคนเดียวที่เหมาะสม เพราะฉันเชื่อในตัวเธอ เธอจะไม่ทรยศฉัน” เกาเหวินพูดอย่างจริงจัง เอื้อมมือออกไปจับมือเฉินฮวนฮวน มองตรงไปที่เฉินฮวนฮวน

เฉินฮวนฮวนรู้สึกสับสนเล็กน้อย เธอกล่าวว่า : “รุ่นพี่ ฉันไม่ใช่ศิลปิน อีกอย่างถ้าเข้าร่วมงานนี้ฉันต้องลาเรียนเป็นเวลานาน ฉัน…”

เฉินฮวนฮวนต้องการมุ่งเน้นที่การศึกษาของเธอ

“ฉันรู้จักคณบดีของเธอ แค่ขอลาเป็นเพียงเรื่องเล็ก ฉันเคยเห็นเธอเต้นเชียร์ลีดเดอร์มาก่อนรู้สึกว่าเธอมีจังหวะ การเรียนเต้นและร้องเพลงนั้นไม่ใช่ปัญหาหรอก หลังจากเธอไปค่ายฝึก เราจะส่งอาจารย์มาสอนเธออีก”

“ฉันรู้ว่าคุณยายของเธอป่วย ตราบใดที่เธอตกลงไปแข่ง ฉันจะออกค่าใช้จ่ายให้ทุกอย่าง ค่าเสื้อผ้า ค่าแต่งหน้า ค่าอาหาร และค่าเดินทาง แถมฉันจะให้เงินเดือนที่สูงมากด้วย ถ้าเธอตกลง ฉันจะให้เธอก่อน 100,000 หยวน”

“ถ้าเธอสามารถมีชื่อเสียงได้ อย่าว่าแค่ 100,000 ยังจะมีค่าธรรมเนียมโฆษณาจำนวนมากอีกด้วย และฉันมีอำนาจในบริษัท ฉันจะไม่มืดมนเหมือนบริษัทอื่น ฉันจะให้เธออัตราส่วน 70% บริษัทเอาแค่ 30% เท่านั้น”

“การแข่งขันนี้แค่ลา2เดือน ไม่ใช้เวลามากไปกว่านี้หรอก และเราจะทำให้เธอติดท็อป30อันดับ ที่เหลือขึ้นอยู่กับความโชคดีของเธอเองในระยะหลัง ถ้าเธอสามารถผ่านการคัดเลือกได้ เราจะให้รางวัลเธออีก 1,000,000″

“อีกอย่าง ในช่วงสองเดือนของการแข่ง เงินเดือนเดือนละ 100,000 หยวน รวมเป็น 300,000 หยวน ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆบริษัทจะจ่ายเองทั้งหมด!!”

น้ำเสียงของเกาเหวินเป็นกังวล เธอดึงเฉินฮวนฮวนและพูดอย่างจริงจัง เฉินฮวนฮวนไม่มีโอกาสที่จะขัดจังหวะ

แม้ว่าเงื่อนไขเหล่านี้จะน่าดึงดูดเป็นพิเศษ แต่หัวของเฉินฮวนฮวนเต็มไปด้วยความว่างเปล่า เธอถามว่า: “รุ่นพี่ โรงเรียนของเรามีคณะศิลป์ด้วย ทำไมพี่ไม่ไปที่คณะศิลป์การแสดงแล้วเลือกล่ะ?”

มีสาวสวยมากมายในคณะศิลป์ เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเกาเหวินถึงมาหาเธอ

“ฉันไม่รู้จักผู้หญิงพวกนั้น แต่ฉันรู้จักเธอ ฮวนฮวน” เกาเหวินจับมือเฉินฮวนฮวนแน่นแล้วพูดว่า: “ถ้าฉันออกจากการแข่งขัน บริษัทของเราก็จะเสียชื่อ เพราะงั้นเราเลยต้องส่งคนใหม่เข้าไปแทนที่ฉัน”

“เหตุผลที่ฉันมาหาเธอเพราะว่าฉันเชื่อใจเธอได้ บอกตรงๆ ฉันไม่มีเวลาไปหาคนอื่นแล้ว ถ้าเธอไม่ไป แฟนของฉันจะให้คนที่เขาเลือกไป”

มันเป็นเรื่องที่เร่งด่วนมาก เกาเหวินไม่สนใจศักดิ์ศรีของเธอ จึงบอกเฉินฮวนฮวนไปทั้งหมด

หากเฉินฮวนฮวนไม่ไปแทนเกาเหวิน แฟนหนุ่มจางฟานของเกาเหวินจะให้ “เพื่อน” ของเขาไปแทนเกาเหวิน เธอเป็นผู้หญิงคนหนึ่งในสถาบันการแสดง

เกาเหวินเคยพบกับผู้หญิงคนนั้นและเธอก็รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นอาจจะเป็นเพื่อนร่วมเตียงของจางฟาน เพื่อป้องกันความสัมพันธ์ของจางฟานกับผู้หญิงคนนั้น เกาเหวินต้องให้คนของตัวเองเข้ามาในบริษัทเท่านั้น

“ฮวนฮวน ตกลงกับฉันเถอะ เธอก็รู้จักนิสัยของฉัน ฉันไม่มีทางเอาเปรียบเธอในอนาคตแน่นอน!” ใบหน้าของเกาเหวินดูกังวลมาก

เฉินฮวนฮวนดูออกว่าเกาเหวินกังวลเรื่องจางฟานมากกว่า ถ้าผู้หญิงคนนั้นเข้ามาในบริษัทและออกตัวแรง ก็อาจจะทำให้เกาเหวินถูกทิ้งได้

“ฉันตกลงค่ะ รุ่นพี่” เฉินฮวนฮวนพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม

“จริงเหรอ?” เกาเหวินแสดงความดีใจขึ้นมาทันที หินก้อนใหญ่ในใจของเธอดูเหมือนจะตกลงไปที่พื้น

ในขณะนี้ โทรศัพท์ที่เธอวางบนโต๊ะก็สั่น เธอเหลือบมองชื่อผู้โทร ทันใดนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไป

ต่อหน้าเฉินฮวนฮวน เกาเหวินเปิดสปีกเกอร์โฟนโดยตรง

“อาฟาน ฉันเจอผู้สมัครแล้ว และเธอก็ตกลงแล้ว!”

“ เฉินฮวนฮวนที่คุณเคยบอกเหรอ? เธอตอบตกลงแล้ว? เธอทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง เป็นแค่นักศึกษามหาวิทยาลัย เธอจะเข้าร่วมการคัดเลือกได้อย่างไร?” เสียงของจางฟานแสดงความไม่พอใจดังขึ้น: “คุณอย่าลืมสิ ผมต้องลงทุนเงิน ค่าเข้าร่วมต้องจ่าย ค่ากล้องก็จ่าย แล้วก็มีค่าโหวต ถ้าเป็นคุณ คุณเป็นแฟนของผม ผมจ่ายให้ได้ไม่เป็นไร นี่จะให้ผมไปเสียเงินกับนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมดาเหรอ?”

“ผมเคยบอกคุณแล้ว ผมรู้สึกว่าซงหลิงเอ่อร์มีโอกาสมากกว่า ดูดีและเป็นมืออาชีพในการแสดง แค่จัดการดูแลเล็กน้อยก็ให้เธอไปขึ้นกล้องได้ แบบนี้ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวไม่ใช่เหรอ?

เฉินฮวนฮวนเพิ่งได้ยินคำอธิบายของเกาเหวิน ดังนั้นเธอจึงเข้าใจสิ่งที่จางฟานพูดได้

ซงหลิงเอ่อร์น่าจะเป็นผู้หญิงที่เกาเหวินกลัว