ตอนที่ 223 ผมสนใจแค่เรื่องที่ทำให้คุณนอนไม่หลับ
ตอนที่ 223 ผมสนใจแค่เรื่องที่ทำให้คุณนอนไม่หลับ
ซูเถาถอนหายใจ “คุณอย่ามากดดันถามฉันเลย บอกได้แค่ไม่ได้พูดอะไรถึงคุณไม่ดี”
เหลยสิงยืนยันว่า “ผมไม่สนหรอกว่าคุณจะพูดไม่ดีเกี่ยวกับผมหรือเปล่า เรื่องนี้ผมไม่แคร์ ผมสนใจแค่เรื่องที่ทำให้คุณนอนไม่หลับเท่านั้น”
ซูเถาพยายามอดทนและพูดออกมาอีกไม่กี่คำ “ถามคุณยังถามอีกฉันจะไม่ทนแล้ว”
เหลยสิงหุบปากทันทีและมองหญิงสาวอย่างขุ่นเคือง
ซูเถาส่งสัญญาณให้ทุกคนที่ยังอยู่บนระเบียง
“คุณไปบอกทุกคนว่าให้ไปตรวจสอบห้องของตัวเองเดี๋ยวนี้ และรายงานฉันก่อนสี่ทุ่มคืนนี้ ถ้ามีอะไรต้องปรับปรุงและแก้ไข ฉันจะได้รีบไปแก้ไขแล้วเข้านอน อย่ารอช้าและทำให้กระทบการนอนหลับของฉัน”
เหลยสิงโบกมือและพูดว่า “ผมดูแล้วไม่มีปัญหา มันดีมาก ไม่ต้องถามพวกเขาหรอก พวกเขาต้องพอใจ”
จากนั้นเขาก็เป่านกหวีดเสียงดัง “พวกเราเร็วเข้า เก็บข้าวของและเข้าพักตั้งแต่คืนนี้!”
ผู้ชายกลุ่มใหญ่รีบเข้าไปสำรวจฐานใหม่ และก่อนอื่นก็ปักธงกลุ่มเป้าถูไว้บนหลังคา ซึ่งมีสีสันสดใสเมื่อต้องลม
จากนั้นพวกเขาก็หยิบของส่วนตัวจากต้าจุ่ยและวิ่งขึ้นไปชั้นบนเพื่อจองห้อง
แน่นอนว่าพวกเขาละห้องชั้นสองไว้ให้เหลยสิง เนื่องจากเป็นห้องที่ดีที่สุดและมีทำเลที่ดีที่สุดเนื่องจากหันหน้าไปทางทิศใต้ และพวกเขาก็ยังช่วยจัดห้องของเหลยสิงให้เป็นระเบียบเรียบร้อย
เหลยสิงยิ้มและดุว่าพวกเขาประจบประแจง แต่เขายอมรับอย่างมีความสุขและถามว่า
“พวกนายชอบพื้นที่ใหม่หรือเปล่า”
หั่วเสอส่งเสียงเชียร์
“ไม่ชอบไม่ได้ ไม่ชอบก็ไม่มีที่อยู่ เหล่าต้า พูดตามตรงแบบไม่ได้เอาใจเถ้าแก่ซูเลยนะ แต่ชื่นชมจริง ๆ ว่าที่นี่สบายมาก เราไม่ได้ร้องขออะไรแต่ก็ยังได้ดาดฟ้านั่น เธอเข้าใจพวกเราจริง ๆ”
วันนี้ต้าจุ่ยคายของออกมามากมายและสะอึก “เห็นด้วย”
คนอื่น ๆ ก็พูดถึงฐานใหม่ด้วยความสนใจอย่างมาก ไม่เพียงแต่เหลยสิงที่มีความสุขมากที่ได้ยินแบบนั้น แต่อารมณ์ของซูเถาก็ดีขึ้นเช่นกัน
เมื่อเห็นว่าเธอยิ้มออก เหลยสิงรู้สึกโล่งใจและอดไม่ได้ที่จะถามว่า
“คุณไม่ต้องการความช่วยเหลือจากผมจริง ๆ ใช่ไหม ผมรู้สึกว่าคุณกำลังมีปัญหา”
ซูเถาเพียงแค่ส่ายหัว “ขอบคุณนะเหลยสิง”
“หึ” เหลยสิงพ่นลมหายใจเย็นชา
“ถ้าคุณไม่อยากพูดก็ลืมมันไปเถอะ ผมจะไม่ถามอีก เพื่อไม่ให้เสียรอยยิ้มของคุณเมื่อเอ่ยถึงมัน”
ซูเถายิ้มให้เขาอย่างขอบคุณ
รอยยิ้มนี้ทำให้เหลยสิงทำอะไรไม่ถูก
“ต้นเดือนหน้าผมมีงาน ผมอาจต้องพาพี่น้องออกไปครึ่งเดือน แต่ถ้าคุณยังเป็นแบบนี้ผมก็ค่อนข้างเป็นห่วง”
ซูเถาพูดอย่างจริงจัง “ออกไปหาเงินเถอะ”
ค่าเช่าที่ดินนี้เกี่ยวข้องกับค่าคอมมิชชั่นรายเดือนของเป้าถู ถ้าพวกเขามีรายได้น้อยลง เธอก็จะได้รับค่าเช่าน้อยลง เธอยังคงหวังว่าเป้าถูจะสร้างโชคลาภให้
เหลยสิงเข้าใจในทันที “ผมเป็นพวกเห็นแก่เงินก็จริง แต่ผมก็ทำไม่ได้ถ้าไม่มีคุณ สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตคืออิสรภาพและความสุข เงินและอื่น ๆ ล้วนเป็นของนอกกาย”
ซูเถาผู้น่าสงสารปฏิเสธที่จะพูดคุยหัวข้อนี้
……
เขตตะวันออก
“บอส… พบฐานใหม่ของเป้าถูแล้ว…”
กู้หมิงฉือยกเปลือกตาขึ้นและมองไปที่ผู้ช่วยของเขา “ที่ไหน”
ผู้ช่วยของเขากลืนน้ำลายไม่กล้าพูดออกมา
กู้หมิงฉือขมวดคิ้ว “มีอะไรที่ไม่กล้าพูดหรือไง?”
ผู้ช่วยของเขาเลยพูดออกไป
“บอส…พวกเขาย้ายไปที่สถานีเก่าจริง ๆ! คนที่เราส่งไปบอกว่า พวกเขาสร้างฐานใหม่ที่นั่นและจัดการได้ดีมาก มีอาคารเล็ก ๆ สนามฝึกซ้อม หรือแม้แต่สระว่ายน้ำ ซึ่งทำให้พวกเขาภูมิใจมาก และพวกเขาก็ปักธงของกลุ่มไว้ด้วย คงกลัวว่าคนอื่นจะไม่รู้ว่าพวกเขาย้ายไปที่ใหม่แล้ว!”
เขาถอยร่นไปด้านข้าง และหดตัวทันทีเมื่อเขาพูดสิ่งนี้ออกไป เขาไม่กล้ามองหน้าเจ้านายของตนเอง
ผู้ช่วยกล่าวต่อ “เราไปตรวจสอบดูแล้วพบว่าถานหย่งถูกเหลยสิงจับตัวไป แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่าเขาเป็นหรือตาย และหลังจากที่ถานหย่งหายตัวไป สถานีเก่าก็เกิดความวุ่นวายขึ้น จากนั้นดูเหมือนว่ามีคนเข้ายึดครอง อาจเป็นเหลยสิง แต่มันก็แปลกมาก เพราะตั้งแต่การหายตัวไปของถานหย่งจนถึงการยึดครองของเหลยสิง ใช้เวลาเพียงหนึ่งเดือนหรืออาจน้อยกว่าหนึ่งเดือน ฐานใหม่ของพวกเขาก็ถูกสร้างขึ้นราวกับว่ามันปรากฏขึ้นในชั่วข้ามคืน”
กู้หมิงฉือยืดตัวขึ้น “ปรากฏขึ้นชั่วข้ามคืน?”
ผู้ช่วยของเขาขมวดคิ้วและพิจารณา
“เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืนก็อาจจะเกินจริงไป แต่มันต้องเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้น ๆ เป็นไปไม่ได้ที่การก่อสร้างตามปกติแล้วจะรวดเร็วได้ขนาดนี้”
กู้หมิงฉือดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างออก ใบหน้าของเขาชาดิก
คนข้าง ๆ เขาจึงไม่กล้าส่งเสียงอะไรออกมา
เขาหรี่ตาและใช้นิ้วเคาะโต๊ะสองสามครั้ง จากนั้นจึงโทรหาพยาบาลของปู่เขา ทำเหมือนโทรมาถามสารทุกข์สุกดิบของชายชราในแต่ละวัน และในที่สุดก็ถามว่า
“เสี่ยวหลี่ว์ ฉันได้ยินมาว่าเถาหยางมีที่ดินให้เช่าใช่ไหม”
เสี่ยวหลี่ว์คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ดูเหมือนว่าจะเป็นแบบนั้น ฉันได้ยินมาว่าเธอปล่อยที่ดินให้กลุ่มทหารรับจ้างเช่า”
ใบหน้าของกู้หมิงฉือจริงจังยิ่งขึ้น “ทีมทหารรับจ้างนี้ชื่ออะไร”
เสี่ยวหลี่ว์เกาหัวของเธอ “ฉันไม่รู้เรื่องนี้จริง ๆ แม้ว่าฉันจะเคยเห็นคนเหล่านั้นมาก่อน แต่ฉันก็ไม่ค่อยได้ติดต่อกับพวกเขามากนัก ฉันไม่รู้รายละเอียดจริง ๆ แต่ได้ยินลูกชายของผู้จัดการจวงเรียกกัปตันของพวกเขาว่า พี่ใหญ่เหลย”
กู้หมิงฉือหายใจเข้าลึก ๆ “พอแล้ว ดูแลคุณปู่ให้ดี”
หลังจากวางสาย ยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ
ในแง่หนึ่ง เขาแค้นกลุ่มเป้าถู ที่ไม่รู้ว่าไปเข้าหาซูเถาตอนไหน! ในขณะเดียวกัน เขาก็โกรธจงเกาอี้คนเนรคุณ ที่รู้เรื่องนี้และจงใจปกปิดเขา!
ผู้ช่วยรอให้เขาคลายความโกรธก่อนจะถามอย่างระมัดระวัง
“บอส คุณยังจะเข้ายึดครองที่ดินของพวกเขาอยู่หรือเปล่า”
ไฟที่กู้หมิงฉือเพิ่งสลายไปนั้นลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง เขาพยายามอดทน แต่มันก็ทนไม่ได้จนอยากจะเอาเรื่องใครบางคน
“ไสหัวไป! หากมันสามารถแย่งชิงที่ดินจากซูเถาได้ มันก็สามารถรับตำแหน่งหัวหน้าในเขตตะวันออกได้”
ผู้ช่วยของเขาวิ่งหนีโดยที่เอามือป้องหัวเอาไว้
แต่หุยซู่ผจญเพลิงความโกรธอย่างกล้าหาญ
“บอส ผมจะดูว่ากลุ่มเป้าถูเช่าพื้นที่เท่าไร ถึงตอนนั้นเราจะเช่าพื้นที่ที่ใหญ่กว่าของพวกเขาสองเท่า สร้างโครงสร้างดีกว่าพวกเขา มีอาคารมากกว่าสิบชั้น และปักธงเขตตะวันออกของเราบนยอดตึก เพื่อให้พวกเขาได้แหงนหน้าดู!”
ไฟแค้นของกู้หมิงฉือดับลงครึ่งหนึ่ง
กู้หมิงฉืออารมณ์ดีขึ้นเล็กน้อยและมอบหมายงานให้เขา
“ช่วงนี้นายติดต่อกับซูเถาให้บ่อยขึ้น รู้ใช่ไหมว่าควรพูดอะไร”
หุยซู่พูดอย่างชาญฉลาด “เถ้าแก่ซูบอกว่าไม่มีที่ดินให้เช่า แต่ถ้าคุณกระตุ้นและเสนอความพร้อม เธออาจจะมีก็ได้”
หลังจากพูดจบ เขาก็เสริมว่า “หากเถ้าแก่ซูต้องการความช่วยเหลือ เธอสามารถโทรหาคุณได้โดยตรง”
ลูกน้องที่อยู่ถัดจากเขาก็ต้องตกตะลึง
นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นการประจบสอพลอที่เฉียบขาดเช่นนี้
กู้หมิงฉือมองเขาอย่างชื่นชมและพูดด้วยความพึงพอใจ
“ดีมาก หลังจากนี้ก็คอยอยู่ช่วยงานฉันข้าง ๆ แล้วกัน”
หุยซู่กลับออกไปพร้อมกับความสุขบนใบหน้าของเขา
ความสุขที่ฉายชัดนั้นทำให้คนอื่นรู้สึกอิจฉา
ในอดีต หมอจงเป็นคนเดียวที่ติดตามบอสตลอดทั้งปี และเขาได้รับความไว้วางใจจากเจ้านายเป็นอย่างมาก
ตอนนี้หุยซู่คนนี้ได้เข้ามาแทนที่ตำแหน่งของหมอจง และกลายเป็นคนสนิทที่ไว้ใจได้
แน่นอนว่าเอาเรื่องของเถ้าแก่ซูมาประจบสอพลอนั้นได้ผล!