ในเวลานี้คฤหาสน์ของอดีตแม่ทัพแห่งเมืองเฉียนซานได้กลายเป็นที่พำนักชั่วคราวของลู่เฟิง
ในห้องโถง ลู่เฟิง นั่งอยู่บนเบาะหลัก โดยมี เจี๋ยสวี่ ลิโป้ เมิ่งเถียน และ จางซุนหวูจี๋ นั่งแยกอยู่เบาะด้านข้าง ส่วนคนของจินยี่เหว่ยได้ยืนรออยู่ในห้องโถง
หลังจากได้ฟังรายงานลู่เฟิงก็ยิ้มออกมา”ดูเหมือนว่า ชูจิน คนนี้กำลังก้าวเข้าสู่กับดักของเราทีละก้าว!”
เจี๋ยสวี่ ได้ยิ้มออกมา”เมื่อกองทัพของพวกเขารวมตัวกันครบเสร็จสู้เรารบชนะครั้งเดียวก็เท่ากับทำให้พวกเขาสูญสิ้นไร้หนทางต่อไป”
“กำลังพลเหล่านี้ ล้วนไม่น่ากังวล แต่ข้าน้อยกลับกังวลอีกเรื่องนึงแทน”จางซุนหวูจี๋ ได้พูดขึ้น
“เรื่องอะไร?”
“ฝ่าบาททหารส่วนตัวของตระกูลขุนนางเหล่านี้ล้วนไม่น่ากังวล แต่ข้าน้อยกลัวว่าหากยอดฝีมือที่ซุกซ่อนของตระกูลเหล่านี้ปรากฏตัวออกมาลอบสังหารแม่ทัพและคนของเราในเวลานั้นเกรงว่า…”
“ฮ่าฮ่า”
จางซุนหวูจี๋ ไม่ทันได้พูดจบ ก็ถูกลู่เฟิงหัวเราะออกมา”จางซุนหวูจี๋ เจ้ากังวลมากเกินไปแล้ว เจ้าคิดว่า ข้าราชบริพารและแม่ทัพของข้า จะมีใครลอบสังหารพวกเขาได้?”
จางซุนหวูจี๋ ได้ผงะไปชั่วครู เป็นความจริงที่ว่า เมิ่งเถียน,เจี๋ยสวี่,ลิโป้ หรือแม้แต่ จางฮั่น พวกเขาล้วนเป็นยอดฝีมือขั้นปรมาจารย์
ฝ่าบาทเองก็เป็นยอดฝีมือเช่นเดียวกันทั้งข้างกายยังมีทาสดาบทั้งหกคอยอารักษ์ หากคนอื่นต้องการลอบสังหารคนเหล่านี้ควรคิดเกี่ยวกับชีวิตตนเองมากกว่า
หลังจากทำความเข้าใจ จางซุนหวูจี๋ ก็ยิ้มอย่างบิดเบี้ยวและตอบกลับ”เป็นข้าน้อยกังวลเกินไป”
ลู่เฟิง ได้สั่นศีรษะ”เจ้าเป็นผู้มาใหม่ ย่อมไม่เข้าใจอำนาจบริหารในกองทัพของข้า แต่เดี๋ยวเจ้าจะเข้าใจเองว่าอำนาจจัดการในกองทัพของข้าสูงล้ำเพียงใด”
“ขอรับ!”จางซุนหวูจี๋ ได้ตอบกลับ
ลู่เฟิง เจี๋ยสวี่ และ เมิ่งเถียน ได้พูดคุยกันก่อนที่พวกเขาจะกลับออกไป
หลังจากนั้นลู่เฟิงก็กลับไปห้องการศึกษาและนั่งลง”ระบบครั้งที่แล้วไม่ใช่ว่าฉันได้รับคัมภีร์ลึกลับมาใช่หรือไม่ ฉันต้องการดูว่ามีอะไรอยู่ข้างในนั้น”
ครั้งล่าสุดที่เปิดหีบสมบัติพิเศษ เขาได้รับโอกาสอัญเชิญ 10 ครั้ง โอกาสอัญเชิญกำหนด หนึ่งครั้ง คัมภีร์ลึกลับ และ พลังพิเศษเนตรสวรรค์
นอกจากการอัญเชิญแล้วสิ่งที่ลู่เฟิงสนใจตอนนี้ก็คือ ม้วนคัมภีร์ลึกลับ
“ติ๊ง คัมภีร์ลึกลับถูกใช้งาน”
“ติ๊ง ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ด้วยได้รับ แผนผังโครงสร้างอาคมเคลื่อนย้ายระดับต้น”
ลู่เฟิง ได้รับการแจ้งเตือนจากระบบเขาได้กล่าวถามทันที”มีอาคมเคลื่อนย้ายอยู่ด้วย?”
“เป็นเช่นนั้น!”
ระบบได้ตอบกลับ”เก้าทวีปนั้นยิ่งใหญ่อย่างมากหากไม่มีอาคมเคลื่อนย้ายราชวงศ์เหล่านั้นจะสามารถรักษาเขตการปกครองของตนเองได้อย่างไร ดังนั้น ราชวงศ์ระดับสูง ย่อมมีอาคมเคลื่อนย้ายอยู่”
“ที่แท้ก็แบบนี้!”
ลู่เฟิง เองก็กำลังคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เหมือนกัน อาณาจักรหนานหยานมีพื้นที่ครอบครองไม่น้อยไปกว่าประเทศจีนในชาติก่อนหรือมากกว่านั้น ตอนนี้ อาณาจักรหนานหยานได้อาณาจักรซีหยางมาครองเขตพื้นที่ของพวกเขาที่มีย่อมเพิ่มพูนมากขึ้น
ดังนั้นหากอาศัยเพียงม้าศึกในการขนส่งสิ่งของบางอย่างเมื่อเกิดสงครามที่อาณาจักรซีหยาง และ อาณาจักรหนานหยาน ต้องส่งกองกำลังออกไปคาดว่าน่าจะใช้เวลาเตรียมการมากกว่า 15 วัน อีก 15 วันเดินทาง ดูแล้ว คงไม่ต่ำกว่า 30 วันอย่างแน่นอน
ดังนั้นกว่าจะกำลังเสริมจะมาถึงก็คงพ่ายแพ้ศึกไปแล้ว
เพราะแบบนี้การมีอยู่ของอาคมเคลื่อนย้ายจึงสำคัญอย่างมาก
“ระบบแสดงข้อมูลของอาคมเคลื่อนย้ายให้ฉันดู”
ในไม่ช้า ข้อมูลก็ปรากฏตรงหน้าของลู่เฟิง
อาคมเคลื่อนย้าย : อาคมที่สามารถจัดตั้งรูปแบบในสถานที่ที่แตกต่างกันสองแห่ง เพื่อเคลื่อนย้ายผู้คนจากสถานที่หนึ่งไปอีกสถานที่หนึ่ง
ระดับ : ระดับต้น (หมายเหตุ อาคมระดับต้น นั้นสามารถเคลื่อนย้ายผู้คนได้ครั้งละ 10 คน เท่านั้น แต่ละครั้งใช้หินวิญญาณระดับกลาง 10 ก้อน)
ลู่เฟิง มองไปที่ ข้อความและรู้สึกพูดไม่ออก จำนวนคนที่ส่งไปได้แต่ละครั้งนั้นน้อยเกินไป ถ้าส่งไปได้ไม่เกิน 10 คน เช่นนั้นเขาก็ทำได้แค่ส่งยอดฝีมือไปเท่านั้น
แต่มันก็ไม่เลว ในการต่อสู้ครั้งประวัติศาสตร์ ของรัฐฉิน และ จ้าว พวกเขาได้เปลี่ยนตัวแม่ทัพของพวกเขา จากนั้นกระแสสงครามของแต่ละฝ่ายก็เปลี่ยนไป
หากเขาสามารถเรียกยอดฝีมือมาช่วยในยามคับขันได้สถานการณ์การต่อสู้ของเขาย่อมเปลี่ยนไปในทางที่ดีอย่างแน่นอน
ดังนั้นอาคมเคลื่อนย้ายนี้จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก
ถึงแม้ว่าจะไม่ต้องใช้ส่งแม่ทัพที่ทรงพลังไปรบก็ยังสามารถใช้ส่งข่าวสารได้อย่างรวดเร็ว
แต่ทว่า หินวิญญาณระดับกลาง 10 ก้อน นี่มันเป็นราคาที่สูงมาก
หินวิญญาณระดับกลางสิบก้อน สามารถใช้เส้นเลือดวิญญาณที่ได้รับมาครั้งก่อนในการผลิตได้ แต่ในหนึ่งเดือนก็ยังไม่สามารถผลิตได้ถึง 10 ก้อนด้วยซ้ำ
ดูเหมือนว่า อาคมเคลื่อนย้ายระดับต้นนี้จะไม่สามารถใช้พร่ำเพื่อได้
ลู่เฟิง สั่นศีรษะและมองไปที่รูปแบบโครงสร้างอาคมเคลื่อนย้าย เขาต้องการสิ่งต่าง ๆ มากมาย แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของอาณาจักรหนานหยาน ยังไม่สามารถตอบสนองปัญหาของเขาได้
“เข้ามา!”ลู่เฟิงได้ตะโกนออกไปนอกห้องศึกษา
“ข้าน้อยอยู่นี่แล้วขอรับ!”
จางฮั่น ได้พูดขึ้น
“ไปแจ้งเจี๋ยสวี่ให้มาพบข้าทันที”
“ขอรับ!”
ในไม่ช้า เจี๋ยสวี่ก็มาถึง
“ถวายบังคมฝ่าบาท”
“ลุกขึ้นเถอะ”
ลู่เฟิง ขอให้ เจี๋ยสวี่ นั่งจากนั้นเขาก็ส่งแบบโครงสร้างอาคมเคลื่อนย้ายให้อีกฝ่ายและยิ้มออกมา”เหวินเหอ เจ้าลองดูนี่ เจ้าคิดว่ามันคืออะไร?”
เจี๋ยสวี่ ได้คลี่ภาพวาดและดูที่มัน เขารู้สึกตกใจมาก”ฝ่าบาท…นี่…นี่คือแบบโครงสร้างอาคมเคลื่อนย้ายใช่หรือไม่?”
ลู่เฟิงยิ้มและพยักหน้าตอบ”ถูกต้องมันคือแบบโครงสร้างอาคมเคลื่อนย้าย”
“นี่มัน…”
เจี๋ยสวี่ ได้ยินลู่เฟิงยอมรับเขาก็รู้สึกตื่นเต้น
เขาได้เดินทางไปหลายประเทศและเคยได้ยินเกี่ยวกับอาคมเคลื่อนย้ายนี้อยู่ ข้อดีของอาคมเคลื่อนย้ายนี้พิเศษอย่างมากสำหรับการทำสงคราม
แม้แต่ทางด้านการขนส่งข่าวสารเองก็สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว
ว่ากันว่าอาคมเคลื่อนย้ายที่ทรงพลังที่สุดสามารถขนส่งกองทัพขนาดใหญ่ได้ครั้งละหลายล้านคน หากมีอาคมเคลื่อนย้ายเช่นนี้อยู่ก็คงไม่มีประเทสไหนต้านทานได้
แต่ทว่า ฝ่าบาทของเขาครอบครองอาคมเคลื่อนย้ายเหล่านี้ได้อย่างไร?
นี่มันเป็นสิ่งมีค่ามากยิ่งกว่าสมบัติสวรรค์ระดับสูงเสียอีก!
“ดูเหมือนว่าฝ่าบาทจะทรงลึกลับและยากที่ข้าจะคาดเดาทั้งหมดได้จริง ๆ “
เจี๋ยสวี่ รู้สึกชื่นชม ลู่เฟิงในใจ ฝ่าบาทของเขาไม่เพียงแต่ทรงพระปรีชาสามารถในการต้านทานแรงกดดันจากกองทัพจำนวนมากทั้งยังครอบครองอาคมเคลื่อนย้ายที่ทรงพลังนี้ด้วย
“เหวินเหอ เจ้าสามารถจัดหาคนสร้างรูปแบบอาคมเคลื่อนย้ายนี้ขึ้นมาได้หรือไม่?”ลู่เฟิง ได้กล่าวถาม
เจี๋ยสวี่ ได้ตอบกลับโดยไม่ลังเล”ฝ่าบาทโปรดวางพระทัย ข้าน้อยจะให้คนรีบสร้างอาคมเคลื่อนย้ายนี้ทันที”
ลู่เฟิง พยักหน้าทันที”ข้าได้พิจารณาสถานที่เอาไว้แล้ว”
“ขอรับ”
“สถานที่แรกตั้งอยู่ในตำหนักซงยี่ ที่อยู่ด้านนอกที่ประทับของจักรพรรดิสถานที่แห่งนั้นมีการป้องกันแน่นหนาคนธรรมดาไม่สามารถเข้าไปได้ สถานที่ที่สองคือ เมืองซีหยาง สถานที่ทั้งสองนี้ต้องสร้างอาคมเคลื่อนย้ายขึ้นมา ส่วนที่เหลือ ข้าคิดว่าจะต้องเชื่อมอาณาจักรหนานหยานกับ 13 มณฑลของอาณาจักรซีหยาง”
“นี่…”