ก่อนที่ลู่เฟิงจะพูดจบ ลิโป้ ก็ได้พูดขึ้น”ฝ่าบาทให้ข้าน้อยสังหารมันเองเถอะพะยะค่ะ!”

ลู่เฟิง มองไปรอบ ๆ และ พยักหน้า”ฆ่ามันซะ!”

ลิโป้ หยิบคันธนูและลูกศรขึ้นมาจากพื้น เขามองไปที่ แม่ทัพคนนี้ก็กำลังวิ่งออกจากเมืองเฉียนซาน

เขาง้างสายคันธนูและคลายนิ้วเล็กน้อยลูกศรพลังปราณได้พุ่งออกไปักศีรษะของแม่ทัพคนนี้อย่างรุนแรง

ตุบ!

ม้าของเขายังคงวิ่งต่อไปแต่ทว่าร่างที่ศีรษะโดนลูกศรปักนั้นได้ล้มลงกับพื้นอย่างรุนแรง

ในประวัติศาสตร์ ลิโป้ ไม่เพียงแต่มีดีด้านความแข็งแกร่ง เขายังเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการยิงธนูอีกด้วย

ดังนั้น ลิโป้ ในชีวิตนี้ไม่เเปลกที่เขาจะมีทักษะยิงธนูที่น่าเหลือเชื่อ

ไม่นานกองทัพของ เมิ่งเถียน ก็มาถึง พวกเขาเริ่มต้นเคลียร์สนามรบและส่งคนไปช่วย ลิโป้ ในการรับม้าด้านหลังภูเขา

ม้าศึกนับแสนตัวไม่ใช่จำนวนที่น้อย

หลังจากผ่านไปมากกว่าสามชั่วโมงเจี๋ยสวี่ ก็มาถึงเบื้องหน้าของ ลู่เฟิง และกล่าวพูดด้วยความเคารพ”รายงานความสูญเสียในสนามรบมาถึงแล้วพะยะค่ะ!”

“ว่ามา!”

“ในการรบครั้งนี้กองทัพของเราสูญสียไปมากกว่า 8,000 คน บาดเจ็บ นับ 10,000 คน ส่วนทหารเงาของกองทัพเงาสูญเสีย 130 คน”

“เป็นตัวเลขที่สาหัสจริง ๆ !”

ลู่เฟิง ถอนหายใจออกมา สงครามนั้นกลืนกินชีวิตมนุษย์ หากไม่มีการสูญเสียจะเรียกว่าสงครามได้ยังไง

“ฝ่าบาท หากไม่ใช่เพราะความสามารถของพระองค์ในการทลายกำแพงเมืองของเมืองเฉียนซานคาดว่ากองทัพของเราคงสูญเสียเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 5 เท่า!”เจี๋ยสวี่ ได้ตอบกลับ

สิ่งที่ เจี๋ยสวี่ พูดมานั้นเป็นความจริง เมืองเฉียนซาน มีกำแพงหนา หากลู่เฟิง ไม่ได้ทลายกำแพงลงมาและลดเวลาในการปิดล้อมของผู้คนจำนวนมาก เชื่อว่าจะมีผู้เสียชีวิตมากกว่านี้

ลู่เฟิง เองก็ยิ้มออกมา เป็นเพราะทหารเหล่านั้นได้มารวมตัวในที่เดียว ทำให้เขาสามารถอัดพลังลงไปข้างล่างและสังหารผู้คนจำนวนมากได้

ตามการคาดการ์ณของเขาหากต้องเผชิญหน้ากับกองทัพนับ แสน เขาคงไม่สามารถทำผลลัพธ์ได้ดีขนาดนี้

เขามองไปที่ เจี๋ยสวี่ และตอบกลับ”แล้วรายงานฝั่งศัตรูล่ะ?”

“ในการสู้รบครั้งนี้กองทัพของเราได้รับทหารเพิ่มมาประมาณ 3,000 คน และ อีก 50,000 กว่าคนได้ถูกสังหารไป ในหมู่พวกเขา พระองค์ได้สังหารไปมากกว่า 25,000 นาย ส่วนแม่ทัพลิโป้ไม่น้อยกว่า 5,000 นาย”

ลู่เฟิง พยักหน้า เขารู้เรื่องนี้อยู่แก่ใจ ตอนที่เขาทลายกำแพงลงมามีผู้เสียชีวิตจำนวนมากและเขาได้รับค่าประสบการณ์มากกว่า 20,000 แต้มคะแนน

คนเหล่านี้ ไม่แข็งแกร่งพอดังนั้นค่าประสบการณ์ที่ได้รับจึงน้อยมาก

ทางด้าน ลิโป้ ที่เฝ้าประตูเมืองทิศตะวันออก แน่นอนว่าเขาได้นำทหารกองทัพเงาเข้าชาร์จศัตรูและสังหารผู้คนไปไม่น้อย

“เหวินเหอ ส่งคำสั่งของข้าออกไป ให้กองทัพเข้ามาประจำการเมืองเฉียนซาน ซ่อมแซมหัวเมืองและพักผ่อนกันอย่างเต็มที่ ในอีกสิบวันต่อมาพวกเราจะบุกไปโจมตีเมืองหลิงหยาง”ลู่เฟิง ได้กล่าวสั่งการ

“ขอรับ!”

เจี๋ยสวี่ ได้ลงไปจัดการทันที

รอยยิ้มได้ปรากฏบนใบหน้าของลู่เฟิง”ในระยะเวลาสิบวัน น่าจะเพียงพอให้ ชูจิน รวบรวมกองทัพทหารจากตระกูลขุนนางเหล่านั้น”

“ชูจิน ข้าให้เวลาเจ้าสิบวันดังนั้นอย่าทำให้ข้าผิดหวังซะล่ะ!”

เมืองเฉียนซานตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองหลิงหยาง เพียงแค่ใช้เวลาน้อยกว่าหนึ่งวันข่าวสารก็ไปถึง

เช้าของวันถัดไป ชูจิน ได้รับข่าวการล่มสลายของเมืองเฉียนซาน

พอข่าวนี้แพร่ออกไปคนของเขาก็เกิดความโกลาหลทันที

“เมือง เฉียนซาน คือปราการป้องกันสุดท้ายของพวกเรา ตอนนี้ได้พังทลายลงไปแล้ว พวกเราเหลือแค่เมืองหลงิหยาง หากเมืองหลิงหยางถูกทำลาย อาณาจักรซีหยาง ก็คงจะจบสิ้นจริง ๆ “

“เกิดอะไรขึ้นกับ ลู่เฟิง ก่อนหน้านี้ มันเป็นแค่จักรพรรดิปัญญาอ่อนคนนึงเท่านั้น ทำไมตอนนี้มันถึงทรงพลังมากขนาดนี้?”

“บุคคลผู้นี้ เป็นปีศาจร้ายสำหรับอาณาจักรซีหยางของพวกเรา!”

รัฐมนตรีหลายคนได้มาหารือกัน แต่ไม่มีใครพูดถึงสันติภาพและการยอมจำนน

เนื่องเพราะรัฐมนตรีเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นตัวแทนของตระกูลขุนนาง เขารู้วิธีที่ลู่เฟิงใช้จัดการขุนนางในอาณาจักรหนานหยาน เขากังวลว่า หาก อาณาจักรซีหยาง กลายเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรหนานหยานพวกเขาจะลงเอยแบบตระกูลเหล่านั้นในอาณาจักรหนานหยาน

คนที่หันคมดาบใส่ก็จะถูกฆ่า หากไม่ยินยอมก็จะถูกทำลายล้างตระกูล สำหรับคนที่ยอมก็จะถูกยึดทหารส่วนตัวไป

สิ่งนี้จะทำให้พวกเขายอมจำนนพูดเจรจาถึงสันติภาพได้อย่างไร?

ตอนนี้พวกเขาตั้งใจจะใช้ไพ่ใบสุดท้ายที่เหลืออยู่ต่อสู้กับลู่เฟิงจนถึงที่สุด

ใบหน้าของ ชูจิน หน้าเกลียดมากที่สุด

เดิมเขาคิดว่าจะพึ่งพาเมืองเฉียนซานในการป้องกันตนเองได้อย่างน้อยสามเดือน และทำให้เขามีเวลารวบรวมและฝึกฝนม้าศึก 150,000 ตัว ที่ชูหยี ซื้อมาก่อนหน้านี้

แน่นอนว่า ทหารส่วนตัวเหล่านี้ ไม่มีทางกลายเป็นทหารม้า 150,000 คนได้ในระยะเวลาอันสั้น

เหตุผลที่ ชูจิน กล้าที่จะต่อต้านลู่เฟิง เป็นเพราะ ม้าศึก 150,000 ตัวที่ได้รับมา ตราบใดที่เขาสามารถฝึกฝนทหารม้า 150,000 นายขึ้นมาได้เขาย่อมไม่เกรงกลัวลู่เฟิง

ด้วยพลังของทหารม้า 150,000 นาย แม้จะเป็นลู่เฟิง เมิ่งเถียน ก็ยังยากที่จะหยุดได้

อย่างไรก็ตามเขาไม่มีเวลาขนาดนั้น

ฟู่ว!

เขาได้สูดลมหายใจเข้าลึกและมองไปที่รัฐมนตรีด้านล่าง”ทุกคนคงรู้สถานการณ์ของอาณาจักรซีหยางของเรากันแล้ว พวกเราได้มาถึงจุดเชื่อมต่อที่อันตรายที่สุด ตระกูลขุนนางจำนวนมาก ล้วนไม่มีทางออกสำหรับเรื่องนี้ ข้าเชื่อว่าพวกเจ้าคงได้ยินเกี่ยวกับวิธีการของ ลู่เฟิง ในการจัดการตระกูลขุนนางในอาณาจักรหนานหยาน หากพวกเจ้าไม่ต้องการเป็นเช่นนั้น พวกเจ้าต้องให้การสนับสนุนทุกอย่างที่มีเพื่อต่อกรกับลู่เฟิง”

“นี่คือการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดของอาณาจักรซีหยาง ทั้งยังเป็นการต่อสู้เพื่อความอยู่รอดของตระกูลขุนนางพวกเจ้า พวกเจ้าจะต้องเข้าใจถึงความสำคัญของมัน ตามข้อมูลที่ข้าได้รับมา ลู่เฟิง ได้นำทัพพักอยู่ในเมืองเฉียนซาน พวกมันกำลัง ซ่อมแซมและรออุปกรณ์ปิดล้อมคาดว่าจะต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 10 วัน ดังนั้นข้าหวังว่าภายในห้าวัน ตระกุลขุนนางทุกคนจะส่งทหารส่วนตัวทั้งหมดมารวมตัวกันที่หน้าเมืองหลิงหยาง!”