“เธอก็มีด้านนี้เหมือนกันสินะ”
ผมหัวเราะเบาๆ ขณะเดินผ่านถนนที่พลุกพล่าน ด้านที่ไม่คาดคิดของชิร่านั้นน่าประหลาดใจ ผมไม่ได้คาดหวังว่าจะพบมัน แต่ตอนนี้มันจะเป็นข้อได้เปรียบที่ผมเอาไว้ใช้กับเธอ
เธอจะถูกเล่นอยู่ในมือของผมอย่างช่วยไม่ได้ และเมื่อมันจบลง ผมจะทำให้เธอร้องไห้เป็นสายน้ำ หน้าตาของผมในตอนนี้คือหนุ่มหล่ออายุ 20 ปี ซึ่งมีผมและตาสีน้ำตาล แค่ใบหน้าที่คุณมองมาก็ฟินแล้ว และนี่จะเป็นกุญแจสำคัญในแผนของผม ฉันแน่ใจว่าชิร่าและพ่อของเธอจะพยายามตรวจสอบผมและสิ่งที่ผมทำ เพราะจะมีผู้ชายอีกคนที่ปลอมตัวแบบนี้มาทำงาน แน่นอนว่าเขาจะไม่โต้ตอบกับชิร่า เป็นแค่หุ่นจำลองเพื่อหลอกเธอและครอบครัว
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือตอนนี้คือการไปพบกับคุณน้าคนสวยคนหนึ่ง เธอยังเป็นคนสำคัญที่ผมต้องการสำหรับแผนการอยู่ ท้ายที่สุดแล้วเธอก็เป็นคณบดีของสถาบันและแผนการที่ผมวางไว้นั้นเป็นแผนที่สร้างกระแสที่ยิ่งใหญ่ บวกกับการที่แอบตรวจไม่พบก็เป็นเรื่องที่น่าปวดหัว แถมยังได้โบนัสเพิ่มจากการที่ผมเข้าใกล้มิร่าด้วย สุดท้ายก็ win-win กันทั้งคู่
ไม่นานผมก็ทะลุผ่านถนนที่มีผู้คนพลุกพล่าน และวินาทีต่อมาผมก็มาถึงตึกคณบดี ผมกลับมาในรูปลักษณ์ที่แท้จริง คราวนี้ผู้คนต่างโฟกัสมาที่ผมขณะที่ผมเดินเข้าไปในอาคาร ผู้ชายที่โด่งดังที่สุด, คนที่มีอำนาจในการรักษาอาการคอรัปชั่น, อันดับหนึ่งในการจัดอันดับคนหล่อ, ชื่อดังกล่าวมากมายถูกมอบให้ผม
ภายนอกผู้คนนับไม่ถ้วนต้องการพบและรู้จักผม ตอนนี้ผมเป็นคนที่ลึกลับและมีชื่อเสียงที่สุดในบรรดานักเรียนรุ่นเยาว์ ดังนั้นไม่ว่าจะไปที่ไหน ผมก็มักจะได้รับความสนใจเสมอ ซึ่งผมเคยชินกับมันแล้ว
ผมเดินผ่านอาคารขนาดใหญ่และพบกับผู้ช่วยของมิร่าที่ส่งยิ้มให้ก่อนจะปล่อยให้ผมก้าวต่อไป
ผมพยักหน้าให้เธอโดยไม่หยุดขณะเดินผ่านโถงทางเดินไปยังห้องของมิร่าจนไปถึงประตูที่คุ้นเคย
ผมหยุดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อพยายามสงบใจที่ ‘เต้น’ ของตัวเองในขณะที่ ‘ความตื่นเต้น’ ของผมที่จะได้พบมิร่านั้น ‘เอ่อล้น’ ขึ้นมาในร่างกาย ผมต้องทำให้แน่ใจว่าการพบเธอไม่ใช่เพราะความปรารถนาของผม
แผนการของผมสำหรับมิร่านั้นเรียบง่าย ใจเธอยากเหลือเกินที่จะฝ่าฟัน เหตุผลเดียวที่ผมมาถึงจุดนี้ได้ก็เพราะพวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่เช่นนั้นปัญหาที่ผมจะต้องเจอคงจะหนักหนาสาหัสกว่านี้
ตอนนี้ผมจะอยู่ในส่วนเล็กๆ ของหัวใจเธอแล้ว ผมแค่ต้องป้อนความรักให้เธอเป็นระยะๆ เพื่อทำให้เธอเสพติดความรู้สึกของผมอีกนิดหน่อย
และในขณะที่เธอกำลังจะถูกพิชิต ผมจะปลุกความสั่นสะเทือนที่แท้จริงในใจของเธอ
ผมยืนยันแผนการของตัวเองอีกครั้งก่อนจะเคาะประตูและเข้าไปข้างในโดยรู้ว่ามิร่าจะยินยอม
“สวยเหมือนเดิมเลยนะครับน้า”
“และดูเหมือนเธอเองก็ยังปากหวานเหมือนเดิมเลยนะ”
มิร่าตอบกลับคำพูดของผมอย่างกวนๆ เธอนั่งอยู่บนโซฟาอย่างผ่อนคลายขณะจิบชาในมือ เธอดูผ่อนคลายและงดงามเช่นเคย ผมสีม่วงของเธอถูกจัดทรงอย่างลงตัว ในขณะที่ดวงตาสีเงินของเธอสงบและใจเย็น นัยน์ตาแห่งความสุขปรากฏขึ้นในดวงตาของเธอขณะที่มองมาที่ผม
และเช่นเคย ผมตกอยู่ในความ ‘ภวังค์’ ขณะเฝ้ามองเธอ ความรักที่ ‘ซ่อนเร้น’ ของผมกำลังลุกโชนส่งไปถึงมิรา ผู้มีใบหน้าแดงระเรื่อเล็กน้อย
เธอมองมาที่ผมขณะพูดขึ้นมา
“เธอควรหยุดตกอยู่ในภวังค์ไปมากกว่านี้จะดีกว่านะ”
“แต่ผมสามารถมองน้าตลอดไปเลยก็ได้นะครับ”
ผม ‘บังเอิญ’ พูดออกไป คำตอบที่ ‘แท้จริง’ ของผมทำให้มิร่าหน้าแดงขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่นานเธอก็ส่ายหัวขณะที่มองมาที่ผมด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน
“ออสติน…”
“ผมรู้ครับ ผมรู้ มันหลุดออกมาโดยบังเอิญหน่ะครับ”
“ก็ได้ๆ ลืมมันไปซะเถอะ”
มิร่าพูดขึ้นมา และเมื่อเธอพูดจบ ความรู้สึก ‘ผิดหวัง’ ก็พุ่งเข้าหามิร่าซึ่งรีบจัดท่าทางของเธออย่างรวดเร็วด้วยท่าทางที่สง่างาม เธอจัดแก้วในขณะที่เริ่มเติมอีกแก้ว
ผมนั่งลงตรงข้ามกับมิร่าขณะที่เธอผลักชามาที่ผมพร้อมๆ กันกับของกินเล่น
ผมไม่ปฏิเสธและหยิบชาขึ้นมาดื่มด้วยความสง่างามเช่นเดียวกับมิร่า
“อืมมม….ชาดี”
ครั้งนี้ผมพูดตามความจริง
มิร่ายิ้มขณะที่เธอผงกศีรษะ หลังจากนั้นเราก็ใช้เวลาไม่กี่นาทีต่อมาในความเงียบเพื่อดื่มด่ำกับรสชาติของชาและแอบสัมผัสความอบอุ่นของกันและกัน
ในที่สุดหลังจากผ่านไป 5 นาที มิร่าก็พูดขึ้น
“ชีวิตในสถาบันเป็นยังไงบ้าง?”
“ก็ดีครับ ผมได้เพื่อนมา 2-3 คน, เข้าร่วมชมรมและได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ โดยรวมแล้วก็สนุกและดีมากเลยครับ”
“งั้นก็ดีแล้ว”
“แล้วน้าหล่ะครับ? ทุกอย่างเป็นยังไงบ้างครับ?”
“งานส่วนใหญ่ของน้าจบลงแล้ว เหลืองานภายในอีกแค่ 2-3 อย่างหน่ะ เห้อออ…..ศึกชิงตำแหน่งราชานี่มันน่าปวดหัวจริงๆ เลยนะ”
พูดอย่างนั้นแล้วเธอก็ทำตาปริบๆ ให้ผม ซึ่งผมก็ได้แต่หัวเราะคิกคักอย่างไร้เดียงสาและทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
“เดี๋ยวก่อนครับ! นี่หมายความว่าในที่สุดเราก็จะสามารถทดลองตามทฤษฎีของผมได้แล้วใช่ไหมครับ?”
ผมถามกลับด้วยความ ‘ตื่นเต้น’ หัวใจของผมแทบระเบิด
ย้อนกลับไปหลังจากที่ผมเปิดเผยทฤษฎีของตัวเองให้กับมิร่าและปรึกษาหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้กันแล้ว แต่เนื่องจากเธอไม่มีเวลา เราจึงเลื่อนการจัดการกับมันออกไป และมิร่าก็สัญญาว่าเธอจะจัดการกับมันในภายหลัง ความจริงแล้วเร็วกว่าที่ผมคาดไว้เล็กน้อย แต่ผมต้องจัดการกับมัน
เมื่อรู้สึกถึง ‘การมีอยู่’ และ ‘ความสุข’ ของผม ความรู้สึกผิดก็แล่นเข้ามาในหัวใจของมิร่าขณะที่ใบหน้าของเธอสูญเสียรอยยิ้มไป
เมื่อเข้าใจว่ามันเกี่ยวกับอะไร ผมก็ก้าวไปข้างหน้าในขณะที่จับมือของมิร่าและพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มสบายๆ
“อย่ากังวลไปเลยครับน้า ผมรู้ว่าน้ายุ่งและผมควรจะเป็นคนฉลองที่รู้ว่าอัจฉริยะแห่งเวทมนตร์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกกำลังช่วยเหลือผมอยู่ เพราะทั้งสถาบันอยู่ในความรับผิดชอบของน้าและน้าก็ไม่สามารถบ่นเกี่ยวกับมันได้ใช่ไหมหล่ะครับ”
“ออสติน….”
เมื่อได้ยินคำพูดของผม ดวงตาของมิร่าก็อ่อนลงขณะที่เธอจับมือผมกลับ
ผมยังคงยิ้มไว้ในขณะที่พูดต่อ
“แล้วน้าจะใช้เวลากับผมมากขึ้นเพื่อชดเชยให้ใช่ไหมครับ?”
น้ำเสียงของผมเจือด้วยความซุกซนและดูเหมือนไม่ใส่ใจ แต่ในใจลึกๆ กลับ ‘วิตกกังวล’ อย่างเต็มเปี่ยม อย่างน้อยความกังวลที่ ‘ซ่อนเร้น’ อยู่ของผมก็ถูกส่งไปถึงมิร่าได้
เธอรู้สึกลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะผงกหัวอย่างแน่วแน่
“แน่นอน…เมื่อทุกอย่างจบลง เรามาใช้เวลาร่วมกันเหมือนที่ผ่านมานะ”
เมื่อมิร่าพูดคำสุดท้าย เธอก็ยิ่งเน้นเสียงมากขึ้นเพื่อให้ดูเหมือนพยายามถ่ายทอดบางอย่าง
ผมยิ้มในใจให้กับการแสดงแบบเด็กๆ ของเธอขณะพยักหน้าและพูดต่อ
“แน่นอนครับ เหมือนกับที่ผ่านมา”
‘ด้วยการหักมุมเล็กน้อย’
ผมเก็บส่วนสุดท้ายของคำพูดไว้ในใจก่อนจะปล่อยมือของมิร่าและเริ่มจิบชา
“อ๊ะ ผมมีเรื่องบางอย่างจะบอกด้วยครับ”
“อะไรงั้นเหรอ?”
“มีใครบางคนในสถาบันกำลังจะลักพาตัวเอลด้าครับ”
และเมื่อผมพูดจบ ความเงียบก็ลงมาที่ห้องก่อนที่เจตนาฆ่าอันหนาทึบจะเข้ามาแทนที่
“เล่าต่อสิจ๊ะ”
มิร่าพูดด้วยท่าทางเย็นชา โดยไม่มีท่าทีสงบนิ่งอีกต่อไป
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต