บทที่ 200 ใครก็อย่าคิดจะออกไป
วินาทีที่ประตูถูกเปิดออก ลี่จุนถิงฝันยังฝันไม่ถึงเลย ตัวเองเข้ามาแล้วจะเจอกับภาพที่บ้าคลั่งขนาดนี้
ใบหน้าและร่างกายของเจียงหยุนเอ๋อต่างเต็มไปด้วยเลือด วันนี้อุตส่าห์แต่งตัวใส่ชุดสวยงาม ได้ถูกกระชากขาดไปหมดแล้ว ผมเผ้ายุ่งเหยิง
ตอนที่ลี่จุนถิงเห็นเจียงหยุนเอ๋อนั้น เธอที่อยู่ในท่าทางที่จะกระโดดลงจากระเบียง
และผู้ชายที่เจียงหยุนเอ๋อเผชิญอยู่ กำลังเดินเข้าไปหาเจียงหยุนเอ๋อ ในปากยังพูดจาหยาบคาย: ไอ้นางตัวดี ไว้หน้าเธอเธอไม่เอา ให้มึงเป็นผู้หญิงของกูถือเป็นบุญของมึงแล้ว มึงยังกล้าต่อต้าน? ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่มั้ย?
เจียงหยุนเอ๋อมองไปข้างหลังแวบหนึ่ง ตัดสินใจที่จะกระโดดลงไป ไม่ว่ายังไง เธอจะไม่มีวันยอมให้ผู้ชายคนนี้ทำลายตัวเองเด็ดขาด
เจียงหยุนเอ๋อได้เอามือข้างหนึ่งของตัวเองวางบนท้องของตัวเอง
หากว่าตัวเองกระโดดลงไป ชีวิตน้อยๆในท้องนี้ก็จะไม่ได้มีโอกาสมายังโลกใบนี้ ไม่สามารถที่จะใช้ชีวิตร่วมกับเขา และเขาก็เป็นผนึกความรักของตัวเองกับลี่จุนถิง ก็ต้องสูญเสียไปเสียแบบนี้
เจียงหยุนเอ๋อเงยหน้าจ้องมองผู้ชายคนนี้อย่างดุดัน มีความไม่พอใจ มีความโกรธ
ผู้ชายคนนี้เห็นเจียงหยุนเอ๋อจ้องมองตัวเอง อารมณ์ก็ขึ้นทันที
ก่อนนี้ตัวเองนั้นทรมานไปตั้งนาน กลับไม่สามารถทำอะไรเจียงหยุนเอ๋อได้ ผู้ชายคนนี้ได้หมดความอดทนไปแล้ว: “ไอ้นางตัวดี กล้าจ้องกูเหรอ? กูจะให้มึงรู้ว่าการที่จ้องกูมันจะมีจุดจบยังไง”
พูดๆอยู่ก็เดินก้าวขึ้นมาหนึ่งก้าว
เจียงหยุนเอ๋อเห็นชายคนนี้จะขึ้นมาแล้ว ก็ได้เตรียมใจตายแล้ว เตรียมตัวที่จะกระโดดลงไป
ลี่จุนถิงตกใจ ยื่นมือออกมาแล้ววิ่งไปข้างหน้าสองสามก้าว: “หยุนเอ๋อ อย่านะ”
เจียงหยุนเอ๋อหยุดชะงัก หันหน้ากลับไปทันที วินาทีที่เห็นลี่จุนถิงนั้น น้ำในตาก็ไหลรินออกมาทันที
ก่อนหน้านี้ เจียงหยุนเอ๋อได้บอกให้ตัวเองเข้มแข็งมาตลอด ไม่ว่ายังไงก็จะไม่แสดงความอ่อนแอออกมาต่อหน้าคนชั่ว
แต่เวลานี้ ลี่จุนถิงได้ปรากฏอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว เธอมีที่พึ่งแล้ว เธอรู้ว่าตัวเองนั้นมีทางรอดแล้ว
สายตาของเจียงหยุนเอ๋อนั้นจับจ้องไว้ที่ลี่จุนถิง อ้าปากเล็กน้อย อยากจะเอ่ยชื่อของลี่จุนถิง แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงเปล่งเสียงออกมาไม่ได้ หรือเป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้ตื่นเต้นเกินเหตุ จนทำให้ลืมว่าควรจะพูดอะไร
“หยุนเอ๋อ ผมอยู่นี่ อย่าคิดสั้นนะ” ลี่จุนถิงรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองนั้นเหมือนแขวนอยู่บนเส้นด้าย เขาไม่รู้ว่าหากเจียงหยุนเอ๋อกระโดดลงไปต่อหน้าต่อตาเขาจริงๆ เขาจะกลายเป็นแบบนี้ เขาไม่กล้าที่จะคิดต่อเลย
เจียงหยุนเอ๋อสองมือกำแน่น พยักหน้า
เห็นเจียงหยุนเอ๋อไม่คิดที่จะกระโดดลงไปแล้ว ลี่จุนถิงก็เบาใจ ก็ได้ถอนสายตาไปมองผู้ชายคนนี้ ทันใดนั้นแววตาก็ดุร้ายขึ้นมาทันที
ผู้ชายคนนี้ได้ยินเสียงคนดังขึ้นมาจากด้านหลัง กำลังจะหันกลับไปมองว่าเป็นใคร ถึงกล้ามาทำลายความสุขของตัวเอง
สรุปชายคนนี้หันหน้าไป ลี่จุนถิงก็ได้เหวี่ยงหมัดที่กำแน่นตั้งนานแล้วไปที่ใบหน้าของชายคนนี้
เวลานี้ลี่จุนถิงเต็มไปด้วยความโกรธ ความไม่พอใจ ความอาฆาตแค้น
ชายคนนี้ถูกหมัดของลี่จุนถิงชกจนหน้าเบี้ยว คนทั้งคนกำลังจะเซล้มลงไป
ลี่จุนถิงไม่มีทางยอมให้ชายคนนี้ล้มลงไปง่ายๆแบบนี้หรอก ก้าวเดินไปข้างหน้าสองก้าว ยกเท้าขาวขึ้น ถีบชายคนนี้จนกระเด็น
ร่างของชายคนนี้ลอยขึ้นเป็นเส้นโค้ง ร่างทั้งร่างไปแนบชิดติดขอบกำแพง แล้วค่อยๆไหลลงมาจากกำแพง
ผู้ชายคนนี้กุมหน้าอกของตัวเองไว้ นอนอยู่บนพื้นเริ่มร้องด้วยความเจ็บปวด: “โอ๊ย พวกมึง รีบเข้ามาเร็ว”
ลี่จุนถิงจ้องมองเขาอย่างดุดันแวบหนึ่ง ตัวเองตอนนี้ไม่มีเวลาที่จะมาสนใจคนสารเลวคนนี้ รีบพุ่งไปหาเจียงหยุนเอ๋อทันที
ตอนที่ลี่จุนถิงต่อยผู้ชายคนนี้ ใจของเจียงหยุนเอ๋อนั้นเต้นแรงมาก
เวลานี้ลี่จุนถิงได้มาถึงข้างกายตัวเองแล้ว ได้กลิ่นที่คุ้นเคย ใจทั้งดวงของเจียงหยุนเอ๋อจึงได้ถูกวางลง ความตึงเครียดก็ผ่อนคลายลง ได้ล้มลงไปโดยตรง ไถลลงไปจากระเบียง
ลี่จุนถิงที่เห็นเจียงหยุนเอ๋อกำลังจะล้ม รีบยื่นมือไปคว้าแขนของเจียงหยุนเอ๋อไว้
ร่างเล็กของเจียงหยุนเอ๋อล้มลงที่อ้อมอกของลี่จุนถิง คนทั้งคนสั่นไปทั้งตัว กอดตัวเองไว้แล้วพูดอย่างสุดชีวิต: “ไม่เอา ไม่เอา”
ลี่จุนถิงปัดผมที่หน้าผากของเจียงหยุนเอ๋อ คิ้วทั้งสองของเธอข้างต่างชนเข้าหากัน เขาร้องเรียกชื่อของเจียงหยุนเอ๋ออย่างเจ็บปวดหัวใจ ได้เอาหน้าผากของตัวเองไปชนกับหน้าผากของเจียงหยุนเอ๋อ: “หยุนเอ๋อ ผมอยู่นี่ ผมมาแล้ว ไม่ต้องกลัวนะ”
เจียงหยุนเอ๋อได้ยินน้ำเสียงที่คุ้นเคย เพื่อยืนยันว่าคนที่ตัวเองกอดอยู่นั้นเป็นลี่จุนถิง จึงได้พยายามลืมตาขึ้นมามอง มองแล้วว่าเป็นลี่จุนถิง จึงได้จับเสื้อของลี่จุนถิงไว้อย่างแน่นๆ: “เร็วเข้า รีบไปตามหาถวนจื่อ ถวนจื่อ”
ลี่จุนถิงพยักหน้าอย่างสุดชีวิต: “ได้ ผมจะให้คนไปตามหาเดี๋ยวนี้เลย”
ในเวลานี้ มีคนได้ยินเสียงเคลื่อนไหวของทางนี้ก็ได้มามุมดูกันแล้ว
คนในนั้นรวมทั้งส้งหวั่นหวั่นและลี่จีถอง
เมื่อทั้งสองมาถึงที่หน้าประตูนั้น ต่างก็อึ้งกันไปเลย
เดิมทีพวกเขาสองคนยังคุยกัน ตอนนี้เจียงหยุนเอ๋อจะมีสภาพเป็นยังไง
ตอนหลังได้ยินที่ร้องตะโกนจากทางนี้ นึกว่าเป็นเสียงขอความช่วยเหลือของเจียงหยุนเอ๋อ เดิมทีเตรียมตัวมาดูเรื่องดี
เพื่อให้คนมามุมดูมากขึ้น เธอทั้งสองคนยังจงใจสร้างเรื่องราวให้มันใหญ่โต ดึงดูดผู้คนมาดูไม่น้อย
เดิมทีนึกว่าสิ่งที่ตัวเองเห็นนั้นน่าจะเป็นภาพที่เจียงหยุนเอ๋อกับชายคนนี้มีอะไรกัน แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นฉากที่น่าเศร้าเช่นนี้
ลี่จุนถิงกอดเจียงหยุนเอ๋อไว้อย่างแน่นๆ ความหมดหวังและสงสารได้เขียนไว้เต็มหน้าของเขา
เจียงหยุนเอ๋อใบหน้าซีดเซียว สลบอยู่ในอ้อมอกของลี่จุนถิง เงียบจนเหมือนตุ๊กตาเซรามิก ทำให้คนที่เห็นต่างพากันสงสาร
และคนที่มาที่นี่ก็มีลี่จุนซินอยู่ด้วย เมื่อเห็นภาพของตอนนี้ สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปอย่างมาก ให้คนรีบโทรศัพท์ อธิบายสถานการณ์ของที่นี่
ลี่จุนถิงได้อุ้มเจียงหยุนเอ๋อขึ้นมา สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน ท่าทางที่สิ้นหวังก็หายไปทันที กลายเป็นสีหน้าที่เฉยชา
เจียงหยุนเอ๋อนั้นไม่รู้ตัวไปนานแล้ว สลบไปแล้ว
เมื่อลี่จุนถิงเดินไปถึงประตูแล้ว เห็นผู้คนที่มายืนดูสอดรู้สอดเห็น ก็พูดอย่างโมโห: “ไสหัวไปให้หมด”
ผู้คนมากมายเห็นท่าทางแบบนี้ของลี่จุนถิงแล้ว ก็รีบหลบไปทันที เพื่อให้ลี่จุนถิงเดินได้สะดวก
สายตาที่เย็นเฉียบของลี่จุนถิงได้กวาดมองคนที่อยู่ตรงนี้ ทำให้ร่างกายของพวกเขาสั่นสะท้าน: หลันเยว่เฉิน ไปโรงพยาบาลกับผมเดี๋ยวนี้ ซู่จี้งยี้ นายรีบไปตาหาคุณชายน้อยเดี๋ยวนี้ จากนั้นตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้ให้ละเอียด หากตรวจสอบไม่ชัดเจน ใครก็อยากคิดที่จะออกไป
ซู่จี้งยี้รับคำสั่ง: “ครับ”
ลี่จุนถิงทิ้งน้ำเสียงที่เย็นเฉียบไว้ก็ได้ออกไปจากที่นี่
ซู่จี้งยี้รับคำสั่งจากลี่จุนถิงมาแล้ว ก็เริ่มปฏิบัติงานทันที
เขาได้รวบรวมผู้จัดการของที่นี่ หาคนมามากมาย