บทที่ 201 มีเขาอยู่ก็สบายใจ
สุดท้ายภายใต้การค้นหาอย่างต่อเนื่องของคนกลุ่มนี้ ในที่สุดก็หาถวนจื่อเจอในโกดังแห่งหนึ่ง
ตอนที่ซู่จี้งยี้เห็นถวนจื่อ ถวนจื่อนั้นกำลังพิงอยู่ข้างกล่องกระดาษเปล่าที่วางเรียงรายกันอยู่
เนื่องจากโกดังแห่งนี้เป็นโกดังที่มีสภาพแวดล้อมแบบปิด ดังนั้นอากาศจึงไม่ถ่ายเท ถวนจื่อเนื่องจากขาดออกซิเจนได้สลบไปแล้ว
เมื่อเห็นสภาพแบบนี้แล้ว ซู่จี้งยี้ก็ตกใจทันที
ยังดีที่ภาพนี้ไม่ได้ถูกลี่จุนถิงมาเห็นเข้า เมื่อกี้ที่เห็นสภาพของเจียงหยุนเอ๋อ ซู่จี้งยี้เองยังรู้สึกเศร้าไม่น้อย ถ้าหากลี่จุนถิงมาเห็นสภาพของถวนจื่ออีก ไม่แน่วันนี้ลี่จุนถิงอาจจะรื้อที่นี่ทิ้งก็เป็นได้
ซู่จี้งยี้นั่งลง ตบที่แก้มของถวนจื่อเบาๆ: “ถวนจื่อ ถวนจื่อ?”
เมื่อเห็นถวนจื่อไม่รู้สึกตัวแล้ว ซู่จี้งยี้ก็รีบอุ้มถวนจื่อออกไป
ในเวลานี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มาถึงแล้ว
“ผู้ช่วยซู่” เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินมาข้างหน้าของซู่จี้งยี้โดยตรง เพราะว่าซู่จี้งยี้นั้นช่วยลี่จุนถิงติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นประจำ ดังนั้นพวกเจ้าหน้าที่ตำรวจส่วนใหญ่ต่างก็รู้จักซู่จี้งยี้
เมื่อกี้ตอนที่มีคนแจ้งความ พวกเขาก็รีบมาทันที สุดท้ายเมื่อมาถึง คนร้ายที่ก่อเรื่องได้หนีไปแล้ว ดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจส่วนหนึ่งจึงอยู่ตรวจดูสถานที่เกิดเหตุก่อน สิ่งแรกที่คิดถึงก็คือตามหาซู่จี้งยี้
“ผมเป็นคนแจ้งความเอง เรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ ในเวลาสั้นๆผมก็คงอธิบายรายละเอียดอย่างชัดเจนไม่ได้” ซู่จี้งยี้ตอนนี้กำลังจะช่วยชีวิตคุณชายน้อยที่เขาอุ้มอยู่ “คุณคุยกับคนอื่นทำความเข้าใจสถานการณ์ก่อน จากนั้นก็ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ถึงเวลาผมค่อยมาให้ปากคำอีกที” เจ้าหน้าที่ตำรวจพยักหน้า: “ได้ครับ มอบให้เป็นหน้าที่ของผมเถอะ”
“ใช่แล้ว วันนี้คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ห้ามปล่อยไปแม้แต่คนเดียว คุณชายลี่เป็นคนสั่ง” ขณะที่พูดซู่จี้งยี้ก็เดินไปทางลิฟต์
ไม่ว่ายังไงเรื่องวันนี้ถือว่าเล่นกันหนักเกินไป คนที่ทำร้ายเจียงหยุนเอ๋อเชื่อว่าครั้งนี้ลี่จุนถิงคงไม่มีทางที่จะปล่อยให้ลอยนวล
ณ โรงพยาบาล
ลี่จุนถิงเดินไปเดินมาอยู่หน้าห้องผ่าตัด
เมื่อกี้ลี่จุนถิงกับหลันเยว่เฉินมาที่โรงพยาบาลด้วยความร้อนใจอย่างมาก มาถึงก็รีบพาเจียงหยุนเอ๋อเข้าห้องผ่าตัดทันที
ผ่านประมาณชั่วโมงหนึ่งแล้ว แต่ว่าไฟในห้องผ่าตัดยังคงสว่างอยู่
ไฟนี้สว่างอยู่นานแค่ไหน ใจของลี่จุนถิงก็เหมือนถูกแขวนอยู่บนเส้นด้ายนานแค่นั้น
ลี่จุนถิงเดินไปไม่กี่ก้าวก็จะเงยหน้าขึ้นมองห้องผ่าตัด เดิมทีเขาอยากจะอาศัยเวลานี้คิดทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้
ทำไมถึงเกิดเรื่องราวแบบนี้ขึ้นมาได้
ตอนที่ตัวเองไปนั้น เจียงหยุนเอ๋อก็ยังดีๆอยู่เลย ระหว่างนั้นเขาก็มองเห็นเจียงหยุนเอ๋อกับถวนจื่อยังนั่งอยู่ตรงนั้นเลย เห็นพวกเขาไม่ได้ไปไหน ลี่จุนถิงจึงได้เดินไปอย่างสบายใจ
แต่ใครจะไปคิด เมื่อมาเห็นเจียงหยุนเอ๋ออีกครั้ง ก็มีสภาพเป็นแบบนี้แล้ว
และถวนจื่อตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าไปอยู่ไหน ลี่จุนถิงตบหัวของตัวเองอย่างแรง ตัวเองเคยพูดไปแล้วว่าจะปกป้องสองแม่ลูกนี้อย่างดี แต่ตอนนี้ละ? คนหนึ่งบาดเจ็บ ถูกคนชั่วหยาบเกียรติ อีกคนถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าเป็นยังไง
ลี่จุนถิงเสียใจอย่างมาก ตอนแรกก็ควรที่จะพาพวกเขามายืนอยู่เคียงข้างตัวเอง
แต่ตอนนี้สมองเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย ราวกับว่ามันจะระเบิดแล้ว
ลี่จุนถิงรู้สึกว่าตัวเองเดินไปเดินมาแบบนี้ก็ไม่ใช่วิธีที่ดี จึงนั่งลงมาเพื่อที่จะสงบสติอารมณ์ก่อน
ก้นเพิ่งจะแตะพื้นเก้าอี้ ประตูห้องผ่าตัดก็ถูกเปิดออก
หลันเยว่เฉินเดินออกมา
ลี่จุนถิงรีบวิ่งเข้าไป สองมือจับที่ไหล่ของหลันเยว่เฉิน เขย่าถาม: “เป็นไงมั่ง? หยุนเอ๋อไม่เป็นไรแล้วใช่มั้ย”
หลันเยว่เฉินส่ายหัว: “ไม่เป็นไรแล้ว ไม่เป็นไรแล้ว นายอย่ากังวลอีกเลย”
ได้ยินหลันเยว่เฉินพูดว่าไม่เป็นไรแล้ว ลี่จุนถิงจึงได้ปล่อยมือออก แล้วเอามือตบที่หน้าอกของตัวเอง: “เด็กในท้องเป็นยังไงบ้าง?”
“อาการบาดเจ็บของเธอไม่ได้หนักหนา ฉันได้ช่วยเธอทำแผลไปแล้ว เด็กในท้องยังอยู่ดี เพียงแต่ครรภ์ได้รับความกระทบกระเทือนไปบ้าง มีภาวะแท้งเล็กน้อย” หลันเยว่เฉินไม่กล้าที่จะปิดบัง ได้บอกรายละเอียดกับลี่จุนถิงทั้งหมด
พูดตามตรง เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นเพื่อนของตัวเอง ตื่นเต้นเป็นห่วงผู้หญิงคนหนึ่งขนาดนี้
ทำให้เขาเห็นว่าความรักที่ลี่จุนถิงมีต่อเจียงหยุนเอ๋อนั้นมันลึกซึ้งแค่ไหน
“โอเค ฉันเข้าใจแล้ว” ลี่จุนถิงพยักหน้า
ไม่ใช่ว่าลี่จุนถิงจะไม่สนใจลูก เพียงแต่ว่าเมื่อเทียบกับลูกแล้ว เจียงหยุนเอ๋อนั้นสำคัญยิ่งกว่า ลูกยังมีใหม่ได้อีก แต่ว่าเจียงหยุนเอ๋อนั้นมีแค่คนเดียว
เพียงแต่หากลูกแท้งไปแล้ว หัวใจของเจียงหยุนเอ๋อต้องแตกสลายอย่างแน่นอน
ดูจากที่เธอนั้นรักถวนจื่อ เจียงหยุนเอ๋อนั้นรักเด็กมาก
“ตอนนี้เราจะย้ายเธอไปที่ห้องพักฟื้นผู้ป่วย เดี๋ยวนายค่อยไปดูเธอ ฉันรู้สึกว่าเธอน่าจะได้รับความตกใจไปไม่น้อย ทางที่ดีที่สุดนายควรปลอบใจเธอ” หลันเยว่เฉินกล่าว “ใช่แล้ว อีกอย่างทางที่ดีที่สุดนายควรรักษาความเงียบสงบของห้องเอาไว้ อย่าเพิ่งให้คนมาเยี่ยมเธอเยอะเกินไป”
ลี่จุนถิงพยักหน้า: “โอเค ฉันรู้แล้ว ลำบากนายแล้ว”
หลันเยว่เฉินเป็นหมอ ก็ต้องพูดแนะนำในสิ่งที่ดีต่อเจียงหยุนเอ๋อ ลี่จุนถิงไม่มีความสงสัย
“นายกับฉันยังต้องพูดขอบคุณกันอีกเหรอ” หลันเยว่เฉินยื่นมือไปตบที่หน้าอกของลี่จุนถิงแล้วก็เดินจากไป
เมื่อหลันเยว่เฉินไปแล้ว ลี่จุนถิงก็รีบไปที่ห้องผู้ป่วยทันที
ตอนที่ลี่จุนถิงเดินเข้าไปในห้องพักฟื้นผู้ป่วยกัน เจียงหยุนเอ๋อยังคงนอนแนบนิ่งอยู่
มันช่างแตกต่างจากเวลาปกติที่เธอทำตัวออดอ้อน เวลานี้เธอเงียบและเงียบมากจริงๆ ลี่จุนถิงนั้นกลับไม่ค่อยคุ้นชินนัก
ลี่จุนถิงดึงเก้าอี้มาหนึ่งตัว นั่งลงข้างเตียงผู้ป่วย จับมือของเจียงหยุนเอ๋อขึ้นมาอย่างเบาๆ ค่อยๆลูบ จากนั้นก็นำมือของเธอมาแนบไว้ที่แก้มของตัวเอง: “หยุนเอ๋อ เป็นผมที่ผิดต่อคุณ ที่ปกป้องคุณได้ไม่ดี”
ลี่จุนถิงไม่รู้ว่าครั้งนี้เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วที่เห็นเจียงหยุนเอ๋อนอนอยู่ในห้องผู้ป่วย
ตัวเองบอกว่าจะปกป้องเธอครั้งแล้วครั้งเล่า จะไม่ให้เธอโดนรังแกอีก แต่สถานการณ์ตอนนี้เหมือนกับกำลังตบหน้าตัวเองอยู่
ขณะที่ลี่จุนถิงจับมือของเจียงหยุนเอ๋อไว้ พลางพูดไปอย่างช้าๆ
ผ่านไปประมาณสองชั่วโมง เจียงหยุนเอ๋อจึงค่อยๆลืมตาขึ้นมา
“คุณตื่นแล้ว?” ลี่จุนถิงที่ดูแลห่วงใยเจียงหยุนเอ๋ออยู่ตลอดเวลา ดังนั้นเมื่อเธอตื่นเขาก็เห็นทันที
เจียงหยุนเอ๋อเห็นคนที่อยู่ตรงหน้าคือลี่จุนถิง จึงได้โล่งอก เรื่องที่เกิดขึ้นเหมือนจะไม่นานนี้เอง
เดิมทีเจียงหยุนเอ๋อนั้นอยากที่จะหลับตาพักผ่อนอีกสักพัก จู่ๆก็นึกอะไรขึ้นมาได้ จับเสื้อของลี่จุนถิงอย่างแน่นๆ: “จุนถิง ถวนจื่อล่ะ? รีบไปตามหาเขา ฉันหาเขาไม่เจอ ฉันหาเขาไม่เจอ…….”
เจียงหยุนเอ๋อที่พูดๆอยู่ก็ร้องไห้ออกมา เธอรู้สึกว่าตัวเองนั้นไม่ได้เรื่องเลย แค่เด็กหนึ่งคนก็ยังดูแลได้ไม่ดี ทำหน้าที่ของความเป็นได้ไม่ดีเลย
ลี่จุนถิงยื่นมือออกไปหนึ่งข้าง ลูบที่หลังของเจียงหยุนเอ๋อเบาๆ ไม่ต้องร้องแล้ว ตามหาถวนจื่อเจอแล้ว ไม่เป็นไรแล้ว ได้ช่วยเขากลับมาแล้ว เพียงแต่ตอนนี้ยังสลบอยู่
เจียงหยุนเอ๋อสูดจมูกไปสองสามที ได้ยินคำพูดประโยคนี้จึงสบายใจขึ้นมา ได้เอาหัวของตัวเองไปซบอยู่ตรงอกของลี่จุนถิง เวลานี้ที่ตรงนี้สามารถทำให้เธอปลอดภัย