ตอนที่ 211 การแก้แค้นต้องมีหลักการ

แม่ปากร้ายยุค​ 80

ตอนที่ 211 การแก้แค้นต้องมีหลักการ

หลินม่ายออกมาจากที่ซ่อนของเธอ หยุดภรรยาของผู้อำนวยการหงไว้และถามอย่างไม่พอใจ “คุณจะปล่อยหลินเพ่ยไปอย่างนั้นเหรอ?”

ภรรยาของผู้อำนวยการหงพูดอย่างหมดหนทาง “แล้วถ้าฉันไม่ปล่อยหล่อนไปล่ะ? ฉันไม่กล้าทำลายความสัมพันธ์กับสามีเพียงเพราะผู้หญิงเลวๆหรอกนะ”

หลินม่ายยิ้มเย็น “กลัวจะสูญเสียความสัมพันธ์กับสามี แต่ไม่กลัวว่าหลินเพ่ยจะยึดจุดอ่อนนี้และข่มขู่พวกคุณสามีภรรยาเหรอคะ? พวกคุณมีเงินเท่าไหร่ก็ต้องโดนหล่อนข่มขู่รีดไถจนหมดไม่ใช่เหรอ?”

ภรรยาของอำนวยการหงรู้สึกสลดใจและยอมจำนนต่อชะตากรรม “ใครบอกว่าผู้ชายของฉันตกไปอยู่ในเงื้อมมือคนอื่นล่ะ!”

หลินม่ายหัวเราะเบาๆ “ผู้ชายของคุณตกอยู่ในเงื้อมมือของหลินเพ่ยแล้ว หรือแท้จริงแล้วหลินเพ่ยไม่ได้ตกอยู่ในเงื้อมมือของผู้ชายของคุณ?”

ภรรยาของผู้อำนวยการหงถามอย่างงุนงง “ทำไมถึงพูดอย่างนั้น?”

“หากเรื่องนี้ไปถึงสถานีตำรวจจริงๆ ผู้อำนวยการหงคงไม่บอกความจริงว่าเขาทำผิดพลาดเพราะถูกหลินเพ่ยล่อลวงหรอกค่ะ”

ภรรยาของผู้อำนวยการหงยิ้มเจื่อน “แม้จะถูกล่อลวง แต่เขาก็ยังกระทำอนาจาร คงไม่พ้นที่จะได้กินลูกปืน”

“พูดไม่ผิดหรอกค่ะ” หลินม่ายพูดอย่างเฉียบขาด “แต่สามีคุณไม่ใช่คนที่กระทำผิดอยู่ฝ่ายเดียวหรอกนะคะ หลินเพ่ยจงใจล่อลวงสามีของคุณ ก็ถือว่าหล่อนเป็นผู้กระทำผิดอีกคนหนึ่ง ถ้าเรื่องนี้ไปถึงสถานีตำรวจหล่อนก็จะถูกยิงด้วย!”

แรงบันดาลใจของเธอมาจากคำพูดของผู้อำนวยการหงที่เอ่ยขู่หลินเพ่ยตอนที่เขาจัดการอีกฝ่าย

ภรรยาของผู้อำนวยการหงถามอย่างลังเล “คุณหมายความว่า..”

หลินม่ายพยักหน้า “ค่ะ สิ่งที่ฉันหมายถึงคือ ให้คุณไปเจรจากับหลินเพ่ยให้หล่อนคายทุกอย่างที่หล่อนกินจากคนของคุณ และคืนทุกอย่างที่หล่อนเอาไป ถ้าหล่อนกล้าปฏิเสธ คุณสามารถไปแจ้งความที่สถานีตำรวจและปล่อยให้ทั้งคนของคุณและหล่อนถูกยิงเป้า!”

ภรรยาของผู้อำนวยการหงอุทาน “อ่า!” ด้วยความประหลาดใจและพึมพำว่า “ฉันไม่อยากให้คนของฉันถูกยิง”

หลินม่ายลูบหน้าผาก “ไม่ได้ขอให้คุณรายงานความผิด แต่เพียงขู่ให้หลินเพ่ยกลัวเท่านั้น ในเมื่อหลินเพ่ยแย่ขนาดนั้น คนเลวขนาดนั้นจะยอมตายได้อย่างไร? เพื่อป้องกันตัวเอง หล่อนจะคายทุกอย่างที่หล่อนกินอย่างเชื่อฟังและคืนทุกอย่างที่หล่อนเอาไป และหล่อนก็จะไม่กล้าข่มขู่ผู้ชายของคุณอีก”

ภรรยาของผู้อำนวยการหงแสดงสีหน้ายุ่งยากใจเล็กน้อย

หลินม่ายรีบตีเหล็กขณะร้อนทันที “คุณขอให้สามีคุณบอกครูใหญ่ที่โรงเรียนมัธยมอวิ๋นเจิ้นก็ได้ว่าเขายินดีจ่ายค่าเล่าเรียนที่สูงลิ่วให้กับหลินเพ่ย ให้ทุนการศึกษาแก่หล่อน เพราะหล่อนสัญญาทั้งน้ำตาว่าจะตั้งใจเรียน ในฐานะนักการศึกษา สามีคุณจึงทำไปด้วยความเห็นอกเห็นใจ แต่คาดไม่ถึงว่าหลินเพ่ยจะพูดอย่างทำอย่าง ตอนอยู่ที่โรงเรียนหล่อนก็ไม่ได้ตั้งใจเรียน ดังนั้นเขาจึงต้องการถอนเงินทุน ด้วยวิธีนี้ หลินเพ่ยจะไม่สามารถเรียนที่โรงเรียนมัธยมอวิ๋นเจิ้นได้อีกต่อไป และคุณยังได้แก้เผ็ดหล่อนอย่างสมใจอีกด้วย”

ภรรยาของผู้อำนวยการหงพยักหน้าซ้ำๆ

ทำไมหล่อนถึงคิดไม่ถึงว่าสามารถใช้ลูกไม้นี้เพื่อจัดการหญิงเลวนั่นได้!

หล่อนไม่สนใจอีกแล้วว่าถ้าไม่ไปทำงานในตอนบ่ายจะถูกหักค่าจ้างไปหนึ่งวัน

ค่าแรงหนึ่งวันเทียบไม่ได้เลยกับเงินที่หลินเพ่ยขู่กรรโชกจากคนของหล่อน

ทันใดนั้นหล่อนก็ขึ้นรถไปที่โรงเรียนมัธยมอวิ๋นเจิ้นกับหลินม่าย

เมื่อหลินเพ่ยกลับมาที่โรงเรียนมัธยมอวิ๋นเจิ้น หล่อนก็ได้รับแจ้งจากครูประจำชั้นว่ามีคนตามหาตนหลังจากเลิกเรียนไปหนึ่งชั่วโมง

หล่อนมาที่ห้องรับแขกและเห็นหญิงแปลกหน้าวัยกลางคนคนหนึ่ง

ขณะที่กำลังสับสน หญิงวัยกลางคนได้พูดอย่างเย็นชาว่า “ฉันเป็นภรรยาของผู้อำนวยการหงแห่งโรงเรียนมัธยมอันดับหนึ่งอวิ๋นหลาย”

สีหน้าของหลินเพ่ยเปลี่ยนไปเล็กน้อย แสร้งเป็นสงบแล้วพูดว่า “ฉันไม่รู้จักคุณ และฉันไม่เคยคุยกับคนที่ฉันไม่รู้จักมาก่อน” หลังจากพูดอย่างนั้นหล่อนก็ทำท่าจะจากไป

ภรรยาของผู้กำกับหงพูดเสียงดังลับหลังหล่อน “เธอจะไปก็ได้ อย่าเสียใจทีหลังก็แล้วกัน!”

ฝีเท้าของหลินเพ่ยหยุดชะงักทันที

วินาทีต่อมา ทั้งสองก็ถือร่มและยืนอยู่ใต้ต้นไม้นอกโรงเรียน

ภรรยาของผู้อำนวยการหงไม่พูดไร้สาระให้มากความ หล่อนบอกให้หลินเพ่ยคายเงินที่ได้รับจากสามีของหล่อนออกมาให้หมด

หลินเพ่ยรู้ว่าหล่อนรู้เรื่องอื้อฉาวระหว่างหล่อนกับสามีอีกฝ่ายแล้ว

แต่หล่อนรู้ดียิ่งกว่านั้นว่าภรรยาของผู้อำนวยการหงต้องการเจรจากับหล่อนเป็นการส่วนตัว ดังนั้นหล่อนจึงแค่เล่นกลและไม่กล้าไปหาตำรวจ

หล่อนเอ่ยด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม “ถ้าฉันไม่คายออกมา คุณจะทำอะไรฉันได้!”

ภรรยาของผู้อำนวยการหงโมโหมากกับท่าทางหยิ่งยโสของหล่อน จนอยากจะแทงหล่อนให้ตาย

หล่อนตะคอกอย่างเย็นชา “ถ้าอย่างนั้นฉันจะไปแจ้งความที่สถานีตำรวจโดยบอกว่าเธอล่อลวงผู้ชายของฉันและข่มขู่เขา อยากรู้เหมือนกันว่าตำรวจจะให้เธอกินลูกปืนหรือเปล่า?”

หลินเพ่ยยิ้มอย่างดูถูกเหยียดหยาม “คุณไม่กลัวว่าผู้ชายของคุณจะมีส่วนเกี่ยวข้องและจะได้กินลูกปืนเหมือนกันเหรอคะ?”

ภรรยาของผู้อำนวยการหงเอ่ยอย่างไม่แยแส “หากเขาได้กินลูกปืน นั่นก็เพราะเป็นความผิดของเขาเอง ใครบอกให้เขาคบชู้ พวกเธอสองคนจะต้องถูกยิงเป้าให้สาสมกับความเกลียดชังของฉัน!”

จากนั้นสีหน้าของหลินเพ่ยก็เปลี่ยนไป หล่อนกัดฟันและพูดว่า “คุณมันโหดเหี้ยม!”

ภรรยาของผู้อำนวยการหงเยาะเย้ยหล่อน “ในเมื่อรู้ว่าฉันโหดเหี้ยม ก็ทำตามที่ฉันพูดซะ!”

หลินเพ่ยพูดด้วยใบหน้าโศกเศร้า “ฉันไม่มีเงิน”

ภรรยาของผู้อำนวยการหงเยาะเย้ย “เธอเพิ่งข่มขู่ผู้ชายของฉันด้วยเงินห้าสิบหยวน เธอใช้มันเร็วขนาดนั้นเลยเหรอ?”

หลินเพ่ยรีบหยิบเงินห้าสิบหยวนออกมาและยื่นให้ด้วยมือทั้งสองข้าง แสร้งทำเป็นน่าสงสารและพูดว่า “มีแค่ห้าสิบหยวนนี่เท่านั้นค่ะ”

ภรรยาของผู้อำนวยการหงรับเงินห้าสิบหยวนและพยักหน้า “ถ้าเธอไม่มีเงิน ก็แค่รอโดนยิงเป้าเท่านั้นเอง” โดยไม่พูดอะไรมาก หล่อนก็หันกลับและจากไป

หลินเพ่ยพลันกระวนกระวายและเรียกหล่อนจากด้านหลัง “ขอเวลาฉันสามเดือน ตกลงไหมคะ? หลังจากสามเดือนถ้าฉันไม่สามารถหาเงินที่เหลือได้ คุณค่อยไปหาตำรวจ”

ภรรยาของผู้อำนวยการหงกล่าวว่า “อย่างช้าที่สุดก็หนึ่งเดือน ถ้าเธอไม่สามารถจ่ายเงินที่เหลือได้ภายในหนึ่งเดือน ก็รอให้โดนจับซะ!”

หลินเพ่ยร้องไห้อย่างกระวนกระวาย “ฉันไม่สามารถหาเงินได้มากมายขนาดนั้นภายในหนึ่งเดือนหรอกค่ะ สองเดือน สองเดือนตกลงไหมคะ”

ทั้งสองต่อรองกัน และในที่สุดภรรยาของผู้อำนวยการหงก็ตกลงให้หลินเพ่ยจ่ายเงินที่เหลือภายในสองเดือน

แต่หล่อนถูกขอให้เขียนรายละเอียดทั้งหมดว่าหล่อนล่อลวงและข่มขู่สามีคนอื่นอย่างไร

แม้หลินเพ่ยสัญญาว่าจะคายเงินทั้งหมดจากการขู่กรรโชกภายในสองเดือน แต่ภรรยาของผู้อำนวยการหงก็กลัวว่าจะเป็นเพียงแผนเพื่อชะลอการโจมตี

คำสารภาพนี้หล่อนเป็นคนเขียนเอง เท่ากับถือหลักฐานแน่นหนาไม่กลัวเล่ห์เหลี่ยมของอีกฝ่าย และยิ่งไม่ต้องกลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่ทำตามสัญญา

หลังจากที่หลินเพ่ยเขียนคำสารภาพตามภรรยาของผู้อำนวยการหง ภรรยาของผู้อำนวยการหงก็ขอให้หล่อนออกจากโรงเรียนทันที

แม้จะปรึกษากับหลินม่ายมาก่อนว่าให้สามีออกหน้า ทำให้หลินเพ่ยออกจากโรงเรียนมัธยมอวิ๋นเจิ้น

แต่หล่อนกังวลว่าการปล่อยให้สามีปรากฏตัวจะส่งผลต่ออนาคตของเขา

ดังนั้นหล่อนจึงเปลี่ยนใจ และปล่อยให้ผู้หญิงเลวออกจากโรงเรียนมัธยมอวิ๋นเจิ้นด้วยตัวเอง

หลินเพ่ยไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำเช่นนั้น

นักเรียนที่กู้เงินเรียนเลวๆ คนหนึ่งขอลาออก จึงไม่ต้องคืนค่าเรียนให้หล่อน ทางโรงเรียนมัธยมอวิ๋นเจิ้นไม่รอช้ารีบดำเนินการลาออกของหลินเพ่ยทันที

เมื่อหลินเพ่ยเก็บข้าวของและออกจากโรงเรียนมัธยมอวิ๋นเจิ้นด้วยความสิ้นหวัง หล่อนก็เห็นหลินม่ายและภรรยาของผู้อำนวยการหงยืนกางร่มท่ามกลางสายฝนพลางมองหล่อนอย่างเย้ยหยัน และทันใดนั้นก็เข้าใจทุกอย่าง

หล่อนรีบเดินไปหาหลินม่ายในไม่กี่ก้าว แล้วถามเธอด้วยความโศกเศร้าขุ่นเคือง “แกใช่ไหมที่แทงข้างหลังฉัน?”

หลินม่ายถามกลับ “ฉันขอให้เธอเกลี้ยกล่อมผู้อำนวยการหงและข่มขู่เขา? อย่าทำผิดไปเรื่อยแล้วพอถูกคนอื่นเปิดโปงก็ไปโทษเขาสิ! ยิ่งกว่านั้นฉันไม่ได้เอามีดแทงข้างหลัง ฉันแทงอย่างเปิดเผยต่างหาก เธอคิดว่าทุกคนเป็นวายร้ายเหมือนเธอหรอ? “

เธอแค่ต้องการให้หลินเพ่ยรู้ว่าเธอคือคนบงการ และการแก้แค้นต้องมีหลักการ

หลินเพ่ยโกรธมากจนน้ำตาไหล แต่ก็ไม่กล้าทำอะไรหลินม่าย

……………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

จงรับผลของการทำชั่วซะนังเพ่ย จากนี้ก็ใช้ชีวิตเลวๆ ของหล่อนให้ดีล่ะ

ไหหม่า(海馬)