บทที่ 182 ขุดต่อไป

บทที่ 182 ขุดต่อไป

ท่านป้าจางล้วงเข้าไปในห่อผ้า หยิบเงินสิบอีแปะขึ้นมาในมือ แล้วนำเงินที่เหลือใส่ในถุงผ้าแล้วส่งให้กู้เสี่ยวหวาน

กู้เสี่ยวหวานรู้สึกงงงวย ยกมือขึ้นแล้วผลักมัน “ท่านป้าจาง ท่านหมายความว่าอย่างไรเจ้าคะ?”

ท่านป้าจางเขย่าเงินสิบอีแปะในมือของนาง “เสี่ยวหวาน ถ้าครั้งนี้ไม่ใช่เพราะเจ้า ข้าจะทำเงินได้มากขนาดนี้ได้อย่างไร!”

“อย่างนั้นพวกเรามาแบ่งกันคนละครึ่งเถอะเจ้าค่ะ!” กู้เสี่ยวหวานรู้ความหมายของท่านป้าจางดี แต่เมื่อเห็นท่านป้าจางได้เพียงสิบอีแปะจึงรู้สึกทนไม่ไหว

“อย่างนั้นไม่ได้! เจ้าเป็นคนคิดแผนนี้เอง! ข้าแค่มีส่วนร่วมนิดหน่อย” ท่านป้าจางรีบปฏิเสธ

ความคิดในการทำหน่อไม้แห้งเป็นของกู้เสี่ยวหวานและนางได้เจรจาต่อรองให้หน่อไม้สามารถขายได้ในราคาที่สูงเช่นนี้ กู้เสี่ยวหวานจึงเป็นผู้ที่มีส่วนร่วมมากที่สุด ส่วนครอบครัวของพวกเขาช่วยเพียงเล็กน้อย

ดังนั้นป้าจางจึงไม่กล้าที่จะรับเงินเพิ่มและขอบคุณกู้เสี่ยวหวานมาก นางรู้สึกว่าเงินสิบอีแปะก็เป็นเงินจำนวนมากแล้ว

“ท่านป้ารับไปเถอะเจ้าค่ะ” กู้เสี่ยวหวานหยิบเงินอีกยี่สิบอีแปะมอบให้ท่านป้าจาง แต่ท่านป้าจางไม่ยอมรับและกล่าวปฏิเสธซ้ำ ๆ “เสี่ยวหวาน ถ้าเจ้าทำเช่นนี้อีก สิบอีแปะนี้ข้าก็จะไม่เอา ทั้งหมดเป็นความคิดของเจ้า เราแค่ลงแรงเล็กน้อยเท่านั้น เงินส่วนมากควรจะเป็นของเจ้า ส่วนข้าขอแค่สิบอีแปะนี้ก็พอแล้ว!”

ท่านป้าจางพูดจากก้นบึ้งของหัวใจ เมื่อเห็นท่านป้าจางยืนยันหนักแน่น กู้เสี่ยวหวานก็ไม่ดื้อดึงอีกต่อไป

“ได้เจ้าค่ะท่านป้าจาง ครั้งนี้ข้าจะเอาไปมากกว่า หลังจากนั้นเราจะได้คนละครึ่งเพราะทั้งท่านและฉือโถวทำงานหนักมามาก ข้าไม่สามารถเอาเปรียบท่านได้หรอกเจ้าค่ะ”

“เอาเปรียบที่ไหนกัน? ถ้าข้าไม่ไปกับเจ้า ข้าคงไม่ได้เงินสิบอีแปะนี้มาหรอก!” ท่านป้าจางกล่าวอย่างตื่นเต้น

“ตกลง ท่านป้าจาง ตกลงกันดีแล้วนะเจ้าคะ ครั้งต่อไปที่ได้เงินมา พวกเราจะแบ่งคนละครึ่ง”

“ไม่ได้!” ท่านป้าจางยังคงปฏิเสธ!

“ท่านป้าจาง ถ้าท่านยังปฏิเสธ ข้าจะแยกออกมา ท่านก็ทำของท่าน ส่วนข้าก็ทำของข้า ท่านคงต้องใช้เวลามากเพื่อเงินเพียงเล็กน้อย และข้าก็รู้สึกเสียใจด้วย! นอกจากนี้! ตอนนี้ข้ามีเงินมากกว่าสี่สิบตำลึงเงิน และในช่วงเวลานี้ครอบครัวของข้าก็มีเงินเพียงพอแล้ว เงินไม่ได้ขาดแคลน” กู้เสี่ยวหวานกล่าวตามความจริง ตอนนี้นางต้องการเงินจริง ๆ แต่ก็ไม่สามารถหักเงินท่านป้าจางได้ตลอด และความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนก็ไม่สามารถให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสียเปรียบได้

เมื่อเห็นว่าท่าทางหนักแน่นของกู้เสี่ยวหวาน ท่านป้าจางจึงไม่สามารถพูดอะไรอีก ตอบได้เพียงว่า “ได้ พวกเราแบ่งคนละครึ่ง!”

“ท่านป้าจาง หน่อไม้ยังขุดได้อีกนาน ข้าเดาว่าเมื่อหน่อไม้ตากแห้งถูกขายออกไปแล้ว หลายคนคงจะทำตามอย่างแน่นอน และเมื่อถึงเวลานั้นราคาอาจจะไม่สูงนัก พวกเราคงต้องใช้เวลานี้ทำหน่อไม้แห้งให้เร็วที่สุด”

ในชาติก่อนเมื่ออะไรออกมาก็จะเป็นกระแสอยู่ช่วงหนึ่ง ของลอกเลียนแบบเหล่านี้จะออกมาทีละอย่างและทำทุกอย่างเพื่อสร้างรายได้ ในสมัยโบราณนี้ก็เช่นกัน

ท่านป้าจางก็รู้เรื่องนี้ดี นางพยักหน้า “เสี่ยวหวาน ที่เจ้าพูดก็ไม่ผิด คราวนี้เรามาทำงานให้หนักขึ้นกันเถอะ ขุดให้มากขึ้นและตากให้มากขึ้น”

หลังจากที่คนสองคนกำลังทำอาหารอยู่ในครัว ฉือโถวและกู้หนิงผิงก็กลับมาพร้อมหน่อไม้เต็มตะกร้าใหญ่สองตะกร้า ฉือโถวเทหน่อไม้ลงบนเกวียนวัวโดยตรง และทิ้งตะกร้าไว้ที่บ้านของกู้เสี่ยวหวาน

“หลังจากที่เราทานอาหารเสร็จแล้ว ฉือโถวเจ้าเอาหน่อไม้กลับไปบ้าน แล้วให้พ่อของเจ้าปอก หั่น และต้มหน่อไม้ ส่วนพวกเราไปขึ้นภูเขาเพื่อขุดหน่อไม้กันเถอะ” ท่านป้าจางสั่งการ ท่านลุงจางอยู่บ้านคนเดียวและต้องทำอะไรมากมาย ตอนนี้หน่อไม้ตากแห้งทำเงินได้มหาศาลแล้ว ตามธรรมชาติแล้วท่านลุงจางก็ไม่สามารถถูกทิ้งไว้ข้างหลังได้

หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ ฉือโถวก็รีบขับเกวียนกลับไป ทุกคนกำลังขึ้นไปบนภูเขาอีกครั้ง กู้เสี่ยวหวานเห็นว่ากู้เสี่ยวอี้เหนื่อยมาทั้งเช้า เดิมทีนางวางแผนที่จะให้กู้เสี่ยวอี้พักผ่อน แต่กลับไม่ได้คาดคิดว่าสาวน้อยคนนี้จะดื้อรั้นเช่นกัน นางได้ยินมาว่าหน่อไม้แห้งสามารถขายได้ ให้ตายอย่างไรก็ไม่ยอมไปพัก ยืนกรานที่จะขึ้นไปบนภูเขาเพื่อขุดหน่อไม้ด้วยกัน และยังกล่าวอีกว่า “ข้าขุดไม่ได้ แต่ข้าหาได้ ถ้าข้าเจอแล้วให้พี่ชายขุด แบบนี้คงเร็วกว่า”

เมื่อเห็นท่าทางอันชาญฉลาดของกู้เสี่ยวอี้ กู้เสี่ยวหวานก็ไม่พูดอะไรอีก ลูบศีรษะของกู้เสี่ยวอี้ด้วยความชื่นชม

ท่านป้าจาง กู้เสี่ยวหวาน กู้หนิงผิง และกู้เสี่ยวอี้ ช่วยกันยกสิ่งของและขึ้นไปบนภูเขาอีกครั้ง

เมื่อขึ้นไปบนภูเขาและเพิ่งขุดหน่อไม้ได้หนึ่งตะกร้า ฉือโถวก็กลับมาด้วยใบหน้าเบิกบาน บอกท่านป้าจางว่า “ท่านแม่ขอรับ ข้ากลับไปบอกท่านพ่อ เมื่อท่านพ่อได้ยินว่าหน่อไม้ตากแห้งขายได้ราคาสูงขนาดนั้นก็มีความสุขมาก และขอให้พวกเราขุดมาเพิ่มอีก ท่านพ่อทำทุกอย่าง แล้วตากให้แห้งแล้ว!”

ท่านป้าจางไม่ได้หยุดการเคลื่อนไหวของมือ และคิดว่าปฏิกิริยาของหัวหน้าครอบครัวเป็นไปตามคาด

โดยส่วนตัวแล้วเมื่อฉือโถวเห็นว่าพวกกู้เสี่ยวหวานไม่สนใจเรื่องนี้ จึงกระซิบกับท่านป้าจางว่า “ท่านแม่ ท่านพ่อบอกว่าคราวนี้เราไม่ควรเอาเงินมามาก เอามาสักหน่อยก็พอแล้ว ท่านพ่อบอกว่าทั้งหมดเป็นความคิดของกู้เสี่ยวหวาน เงินส่วนมากจึงควรเป็นของนาง พวกเรารับแค่ค่าเหนื่อยก็พอแล้ว”

ท่านป้าจางจ้องไปที่ฉือโถวอย่างประหลาดใจ “เด็กโง่ ต้องให้เจ้าบอกหรืออย่างไร! ”

เมื่อเห็นมารดาจ้องมองมาที่เขาและเอ่ยคำเหล่านั้น ฉือโถวก็เข้าใจทันทีว่ามารดาได้ทำอย่างนั้นแล้ว เขาลูบหัวอย่างเขินอายเล็กน้อย ยิ้มอย่างร่าเริง จากนั้นก็ได้ยินกู้เสี่ยวอี้ตะโกนอย่างมีความสุขมาจากอีกด้าน “พี่ฉือโถว นี่มันมันใหญ่มาก!”

“โอ้ ข้ามาแล้ว ข้ามาแล้ว!” ฉือโถวหยิบจอบขึ้นมาแล้วรีบวิ่งไปในสามก้าว

ทุกคนมีความกระตือรือร้น งานในมือจึงไม่ล่าช้า เมื่อดวงอาทิตย์กำลังจะตก ตะกร้าที่นำมาก็เต็มไปด้วยหน่อไม้ มีทั้งหมดหกตะกร้า

กู้เสี่ยวหวานมองดูตะกร้าที่เต็มไปด้วยหน่อไม้ด้วยความพึงพอใจ หลังจากเหวี่ยงจอบตลอดบ่าย นางก็ปวดระบมไปทั้งกาย แต่เนื่องจากด้ามจอบถูกพันด้วยผ้าหนาจึงป้องกันมือได้อย่างดี มันไม่เหมือนกับครั้งก่อน ๆ ที่มีแผลพุพองขนาดใหญ่

“ท่านป้าจาง วันนี้อากาศดี พรุ่งนี้ก็คงอากาศดีเช่นกัน พวกเราต้องทำความสะอาดพวกมันคืนนี้ แล้วพรุ่งนี้ก็มาขุดอีก!” กู้เสี่ยวหวานกล่าวพลางลูบแขนที่ปวดเมื่อยของตน

“อือ ข้าก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน พวกเราขุดเท่านี้ก่อน ทุกคนเหนื่อยแล้ว เสี่ยวหวาน เจ้าไม่ต้องทำอาหารเย็นแล้ว มากินที่บ้านข้า ข้าจะทำอาหาร พวกเจ้าจะได้พักผ่อนให้เต็มที่!” ท่านป้าจางกล่าว

กู้เสี่ยวหวานพยักหน้า “ตกลงเจ้าค่ะท่านป้าจาง”

……………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

น้ำขึ้นให้รีบตัก คว้าโอกาสแรกมาได้ก็ต้องรีบคว้า ไม่งั้นคนอื่นมาเลียนแบบแล้วจะขายไม่ได้

ไหหม่า(海馬)