บทที่ 181 ขายได้สำเร็จ

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 181 ขายได้สำเร็จ

บทที่ 181 ขายได้สำเร็จ

นี่คือสิ่งที่บรรพบุรุษได้สำรวจมานับพันปี ดังนั้นอร่อยแน่นอน ไม่ต้องกลัวว่าจะขายไม่ได้

หลังจากกัดไปสองสามคำ ตาเฒ่าหมินโถวก็กล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า “สาวน้อย เจ้าเอามาเท่าไร ข้ารับทั้งหมด!”

กู้เสี่ยวหวานราวกับจะรู้การตัดสินใจของตาเฒ่าหมินโถวอยู่แล้ว แต่นางยังคงสงบ

เมื่อนำหน่อไม้แห้งลงจากเกวียน ตาเฒ่าก็กล่าวว่า “สาวน้อย ข้าต้องการหน่อไม้แห้งทั้งหมดของเจ้า ให้แปดสิบอีแปะต่อหนึ่งชั่ง เจ้าคิดว่าอย่างไร?”

กู้เสี่ยวหวานแอบชั่งน้ำหนักในใจ แปดสิบอีแปะต่อหนึ่งชั่งถือว่าค่อนข้างสูง อย่างไรก็ตามกู้เสี่ยวหวานเห็นว่าตาเฒ่าหมินโถวเสนอราคาที่สูงเช่นนี้ทันทีที่เขาเปิดปากดูเหมือนว่ายังมีเรื่องให้พูดถึงอีก ดังนั้นกู้เสี่ยวหวานจึงก้มหน้าลงให้รู้สึกว่าราคาดูต่ำไปนิด “ท่านลุง หน่อไม้แห้งหนึ่งชั่งของข้าต้องใช้หน่อไม้สดราวสามชั่งในการทำ ท่านลุงคงรู้ว่าช่วงนี้หน่อไม้เป็นที่นิยมมากในเมืองและราคาไม่ต่ำเลย โดยทั่วไปหน่อไม้สดมีราคาสี่สิบหรือห้าสิบอีแปะ และหน่อไม้สดสามชั่งก็มีราคามากกว่าหนึ่งร้อยอีแปะ นอกจากนี้ยังมีหลายกระบวนการในการทำให้หน่อไม้แห้ง สิ่งที่ใช้ไปคือเงินและเวลา!”

คำพูดของกู้เสี่ยวหวานมีความชัดเจนและถี่ถ้วนมาก และเมื่อตาเฒ่าหมินโถวได้ยินก็เข้าใจ

ตาเฒ่าหมินโถวรุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวอีกครั้ง “ได้! เช่นนั้นก็ร้อยอีแปะต่อหนึ่งชั่ง!”

กู้เสี่ยวหวานฟังและกล่าวว่า “หนึ่งร้อยยี่สิบอีแปะ!”

หลังจากได้ยิน ในใจของตาเฒ่าหมินโถวก็ปฏิเสธ เขารู้สึกว่าราคาค่อนข้างสูง แต่เขาก็ยังคิดเรื่องนี้อยู่ในใจและลังเลอยู่เล็กน้อย

กู้เสี่ยวหวานเห็นท่าทีของตาเฒ่าหมินโถวและยังคงชักชวนต่อไป “ท่านลุง หน่อไม้แห้งนี้เป็นของหายากและไม่เคยปรากฏในเมืองหลิวเจียมาก่อน ดังนั้นท่านต้องรู้เรื่องนี้ดีกว่าข้า ยิ่งกว่านั้นหน่อไม้แห้งที่ท่านเพิ่งชิมไปไม่กี่ชิ้น รสชาติเป็นอย่างไรท่านก็รู้ดี ท่านอย่าคิดว่ามันแพงเกินไป ข้าเรียกหนึ่งร้อยยี่สิบอีแปะ ท่านลุงสามารถขายได้ในราคาหนึ่งร้อยห้าสิบอีแปะเลยด้วยซ้ำ!”

ตาเฒ่าหมินโถวทำธุรกิจมาหลายปีแล้ว ดังนั้นเขาย่อมรู้ดีว่ากู้เสี่ยวหวานหมายถึงอะไร เขาครุ่นคิดครู่หนึ่ง สูบบุหรี่อีกครั้งหนึ่ง และตัดสินใจ “ตกลง!”

เมื่อเห็นกู้เสี่ยวหวานเจรจาธุรกิจเช่นนี้แล้ว ท่านป้าจางและฉือโถวก็ตกตะลึงอยู่พักหนึ่ง เมื่อสักครู่ยังเป็นแปดสิบอีแปะต่อหนึ่งชั่งอยู่เลย ตามความคิดของพวกเขา ราคาแปดสิบอีแปะต่อหนึ่งชั่งก็ถือว่าสูงมากแล้ว แต่แล้วก็ต้องรู้สึกตื่นเต้นที่จู่ ๆ ราคากลับพุ่งขึ้นเป็นร้อยยี่สิบอีแปะ

ทั้งสองรู้สึกตื่นเต้นอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงรีบไปเอาหน่อไม้มาชั่ง

กู้เสี่ยวหวานไม่ได้ผละไปช่วยขนหน่อไม้ แต่พูดคุยกับตาเฒ่าหมินโถว “ท่านลุง หน่อไม้ของข้าตากมาแห้งมาก ถ้าจะกินต้องแช่ในน้ำก่อน แล้วจากนั้นค่อยนำไปทำอาหาร!”

“นอกจากผัดกับหมูแล้ว ทำอะไรได้อีก?”

“ทำน้ำแกงได้! เป็ดต้มหน่อไม้แห้ง มีรสชาติดีมาก!” กู้เสี่ยวหวานแนะนำ

เมื่อตาเฒ่าได้ยินเช่นนี้ เขาก็แอบมีความคิดว่า “หน่อไม้นี้รสชาติดีจริง ๆ ไม่อย่างนั้นรีบกลับไปทำเพิ่มอีก ถ้าขายดีข้าจะจ่ายเพิ่มให้! เจ้าว่าอย่างไร?”

สีหน้าของกู้เสี่ยวหวานยังคงสงบมาก แต่ก็พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ได้ ท่านลุง ตกลง! อย่างไรก็ตาม ท่านจะต้องรับซื้อเฉพาะหน่อไม้แห้งจากครอบครัวของข้าเท่านั้น และข้าจะจัดหาให้ท่านตามกำหนดเวลา ห้ามรับของคนอื่นนะเจ้าคะ!”

ทันทีที่หน่อไม้ออกมาและมีราคาสูงมาก คนอื่นจะเลียนแบบแน่นอน ถ้าทุกครัวเรือนขายหน่อไม้แห้ง ราคาหน่อไม้แห้งจะไม่สามารถสูงขึ้นมาได้ กู้เสี่ยวหวานและตาเฒ่าหมินโถวก็รู้ความจริงนี้เช่นกัน

“ตกลง! พวกเจ้าต้องเร่งทำเพิ่มอีกสักหน่อย สินค้าที่ทำครั้งแรกพวกนี้มักจะดีที่สุด!” ตาเฒ่าหมินโถวพูดอย่างจริงจังเมื่อมองดูหน่อไม้แห้งในตะกร้า เขาตื่นเต้นมาก หน่อไม้แห้งนี้ไม่เคยปรากฏในเมืองหลิวเจีย และถือได้ว่าเป็นหน่อไม้แห้งชุดแรกสำหรับเขา

ถ้าขายดีคงประสบความสำเร็จแน่

หลังจากชั่งน้ำหนักและให้เงินแล้ว ท่านป้าจางก็เก็บมันอย่างระมัดระวัง ห่อด้วยผ้าและใส่ไว้ในอ้อมแขนของนาง หลังจากที่กู้เสี่ยวหวานบอกลาตาเฒ่าหมินโถว นางก็จากไป

เมื่อนั่งบนเกวียนวัว กู้เสี่ยวหวานแจกจ่ายขนมที่ตนเพิ่งซื้อให้กู้หนิงอัน แบ่งให้ท่านป้าจางและฉือโถว ทั้งสามคนพลางกินพลางเดินทาง

ท่านป้าจางยังคงตื่นเต้น “เสี่ยวหวาน นี่……นี่สามารถขายได้เงินจริง ๆ ด้วย!”

ท่านป้าจางไม่อยากเชื่อเลย ห่อผ้าหนาในอ้อมแขนนี้มีเงินอยู่หลายสิบอีแปะ! เงินพวกนี้ ถ้าไม่มีกู้เสี่ยวหวาน พวกเขาคงไม่สามารถหาหามาได้จริง ๆ

“แน่นอน! ท่านป้าจาง เงินอยู่ในอ้อมแขนท่านไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงยังไม่เชื่อ?” กู้เสี่ยวหวานพูดติดตลก

“เสี่ยวหวาน เจ้าอย่าล้อข้าสิ ข้าแค่ไม่อยากเชื่อเลยจริง ๆ!” ท่านป้าจางเขินอายเล็กน้อยและยิ้ม “หน่อไม้นี้มีค่ามาก ทำไมเราไม่รู้มาก่อนเลย! เป็นความคิดของเจ้าแท้ ๆ เชียวเสี่ยวหวาน”

“ท่านป้าจาง ไม่ใช่ว่าข้ามีความคิดมากมาย แต่ครอบครัวต้องการเงิน ไม่มีทางอื่นนอกจากหาวิธีทำเงิน!” กู้เสี่ยวหวานไม่ได้พูดต่อ และเปลี่ยนหัวข้อไปคุยเรื่องอื่น ๆ

ทันทีที่นางพูดแบบนี้ ท่านป้าจางก็ถอนหายใจ และเข้าใจอย่างเป็นธรรมชาติว่ากู้เสี่ยวหวานหมายถึงอะไร

“เสี่ยวหวาน ท่านแม่ พวกเรากลับไปขุดหน่อไม้เพิ่มกันดีกว่า!” ฉือโถวพูดขณะขับเกวียนอยู่ข้างหน้า

“แน่นอน!” ท่านป้าจางรู้ว่าหน่อไม้แห้งสามารถขายได้เงิน ดังนั้นจึงสามารถทำเงินได้มาก เมื่อคิดถึงเงินในอ้อมแขนของนางว่าจะแบ่งอย่างไร ท่านป้าจางก็คิดไว้แล้ว

เกวียนวัวมาถึงบ้านของกู้เสี่ยวหวานก่อนเพื่อส่งนาง กู้หนิงผิงและกู้เสี่ยวอี้ไม่อยู่บ้าน เพราะไม่มีตะกร้าและเครื่องมือที่บ้าน เกรงว่าพวกเขาอาจจะขึ้นไปบนภูเขาเพื่อขุดหน่อไม้

ฉือโถวก็กระโดดลงมา หยิบตะกร้า จอบ แล้ววิ่งขึ้นไปบนภูเขาไผ่

วันนี้ทุกคนยังไม่ได้กินข้าวเลย กู้เสี่ยวหวานตั้งใจที่จะให้ท่านป้าจางและคนอื่น ๆ ไปหลังจากที่พวกเขากินเสร็จแล้ว

ท่านป้าจางไม่ได้ออกไป แต่อยู่ต่อและไม่รีบตามกู้เสี่ยวหวานไปที่ห้องครัว แต่ลากกู้เสี่ยวหวานเข้าไปในห้องโถงใหญ่ ปิดประตู และหยิบถุงผ้าใบเล็กออกจากแขนของนาง เมื่อเห็นท่าทางระมัดระวังของท่านป้าจาง กู้เสี่ยวหวานก็รู้ดีว่าหญิงกลางคนต้องการทำอะไร

ท่านป้าจางหยิบถุงผ้าออกมาเปิดทีละอันจากซ้ายไปขวาแล้วกางไว้บนโต๊ะ กู้เสี่ยวหวานเหลือบมองดู นางมีเงินมากกว่าห้าสิบตำลึง ดูเหมือนว่าคราวนี้รายได้ไม่เลว กู้เสี่ยวหวานตัดสินใจว่านางจะขุดหน่อไม้หลังอาหารเย็น และอาจทำเงินได้มากมายตลอดฤดูใบไม้ผลิที่เป็นฤดูของหน่อไม้

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

ได้เงินมาเยอะเลย ข้อดีของการรู้จักพลิกวิกฤตเป็นโอกาสโดยแท้

ไหหม่า(海馬)