ตอนที่ 65-3 ฝังอันใดไว้

หลี่เหว่ยหยางส่งสัญญาณให้ไป่จื่อ และเมื่อนางรับรู้แล้วจึงนำกล่องใบเล็กออกมา

จากนั้นไป๋จื่อยัดกล่องใบนั้นใส่มือของหงหลัว และเมื่อเปิดดูแล้วจึงเห็นว่ามีเงินห้าร้อยเหรียญอยู่ในนั้น ซึ่งทำให้หงหลัวเบิกตากว้างด้วยอาการตกตะลึงในทันที

หลี่เว่ยหยางเอ่ยถามว่า:

“หากเงินจำนวนนี้มิเพียงพอที่จะแก้ไขปัญหาของเจ้า เจ้าสามารถแจ้งให้เราทราบได้”

หงหลัวยกกล่องขึ้น และทันใดนั้นมือของนางเริ่มสั่นสะท้านขณะที่น้ำตาเริ่มร่วงหล่น นางเช็ดน้ำตาและกล่าวว่า:

“คุณหนูสาม บ่าวสมควรตาย แต่บ่าวมิมีทางเลือกจริง ๆ

เมื่อสามปีก่อน มารดาของบ่าวป่วยหนัก และท่านพ่อมิมีทางเลือกอื่นนอกจากขโมยเงินในบัญชีจำนวน หนึ่งร้อยเหรียญ เพื่อที่นางจะได้ไปพบแพทย์

หลังจากนั้น ฮูหยินใหญ่เกิดจับได้ขึ้นมา และกล่าวว่านางจะส่งตัวท่านให้กับเจ้าหน้าที่

ท่านพ่อของข้าอายุมากแล้ว และท่านมีอาการบาดเจ็บที่ขา บ่าวจึงถูกบีบบังคับให้กระทำการดังกล่าว”

สิ่งนี้คล้ายกับที่หลี่เว่ยหยางคาดคิดเอาไว้ นางถอนหายใจและกล่าวว่า:

“หงหลัว ข้าต้องการช่วยเจ้าจากใจจริง จงนำกล่องนี้ไปด้วย แล้วมอบมันให้กับท่านพ่อของเจ้า และอย่าให้ฮูหยินใหญ่รู้เรื่องนี้เด็ดขาด”

ไป๋จื่อขมวดคิ้วทันที:

“คุณหนู ท่านจะปล่อยนางไปเช่นนี้ได้อย่างไร? สิ่งนี้จะเท่ากับเป็นการปล่อยเสือเข้าป่า!

หลี่เว่ยหยางโบกมือเพื่อบ่งบอกว่านางตัดสินใจแล้ว

หงหลัวมิเคยคิดว่า หลี่เว่ยหยางจะปฏิบัติต่อตนเองเช่นนี้ น้ำตาของนางจึงไหลรินลงมาโดยมิขาดสาย

นางขอบคุณนายหญิงอย่างนอบน้อม จากนั้นจึงลุกขึ้นยืน และเดินไปที่ประตู แต่เมื่อก้าวออกไปเพียงสองก้าว นางได้หยุดนิ่ง

ราวกับว่า ร่างนั้นมิสามารถขยับได้ และตอนนี้นางกำลังหันหน้ามาทางเว่ยหยาง พร้อมกับสายตาที่เด็ดเดี่ยว แต่ร่างนั้นยังคงสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว

จากนั้นนางคุกเข่าลงต่อหน้าหลี่เว่ยหยางและกล่าวด้วยน้ำตานองหน้า:

“คุณหนู บ่าวขอประทานโทษ หากปล่อยไว้เช่นนี้ บ่าวจะรู้สึกผิดต่อคุณหนูเป็นอย่างมาก

ฮูหยินใหญ่สั่งให้บ่าวฝังตุ๊กตาไม้ไว้ที่บริเวณรอบตําหนักหยวนซีทั้งหมดเจ็ดตัว……”

เจ็ดตัว?

เมื่อได้ยินดังนั้น หลี่เว่ยหยางจึงตกตะลึงจนอ้าปากค้าง ขณะที่ส่ายห้วช้า ๆ

ฮูหยินใหญ่เสียสติไปแล้วหรือ?

เหตุใดจึงต้องฝังตุ๊กตาไม้ถึงเจ็ดตัวในคราวเดียวกัน?

ไป๋จือเกิดความรู้สึกกลัวอยู่ภายในใจ ซึ่งแสดงออกมาทางสีหน้าจนเห็นได้ชัด

หากวันนี้หงหลัวเลือกที่จะตายแทนที่จะเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟังพวกนางอาจจะขุดตุ๊กตาออกมาได้แค่เพียงตัวเดียวเท่านั้น

แต่ยังมีเหลืออีกหกตัวที่สามารถทำให้คุณหนูสามต้องถูกลงโทษจากการถูกใส่ร้าย

ตอนนี้เหงื่อเริ่มปกคลุมศีรษะของสาวใช้คนสนิทที่ชื่อว่าไป๋จื่อแล้ว

ในเมื่อเหตุการณ์มาถึงขั้นนี้แล้วเหตุใดคุณหนูสามจึงปล่อยตัวหงหลัวออกไปอย่างง่ายดาย?

เมื่อนึกบางอย่างขึ้นมาได้ นางจึงเข้าใจ และเงยหน้าขึ้นมองหลี่เว่ยหยาง ในขณะนั้นนางสามารถเข้าใจความตั้งใจของคุณหนูสามแล้ว

หลี่เว่ยหยางกล้าเดิมพัน เพราะรู้นิสัยและจุดอ่อนของหงหลัว และเชื่อว่านางจะซื่อสัตย์ต่อตนเอง

เมื่อเข้าใจเรื่องนี้ ไป๋จือจึงทำเพียงแค่นิ่งเงียบและครุ่นคิดอยู่ในใจว่าความคิดของคุณหนูสามนั้นมีความซับซ้อนเกินไป จนนางมิสามารถอ่านใจได้เลย

“บ่าวรู้ดีว่าการกระทำเช่นนี้ผิดต่อหลักศีลธรรม และเป็นการหักหลังคุณหนู แต่บ่าวมิกล้าขัดคำสั่งของฮูหยินใหญ่

เพื่อป้องกันมิให้คนอื่นล่วงรู้ บ่าวจึงออกไปตอนกลางคืนเท่านั้น

ตุ๊กตาทั้งเจ็ดตัวนี้นอกจากฝังอยู่ใต้ต้นไม้แล้ว ยังฝังอยู่ทุกมุม มีหนึ่งตัวอยู่ใต้เตียงของคุณหนู และตัวสุดท้าย……”

ใบหน้าของหงหลัวเปลี่ยนเป็นสีแดงและในที่สุดก็กล่าวว่า:

“ตัวสุดท้ายบ่าวซ่อนมันไว้ในกอหญ้าหลังตำหนัก”

หลี่เว่ยหยางยิ้มเบา ๆ กลเม็ดของฮูหยินใหญ่นั้นช่างร้ายกาจ และนางทำแค่เพียงนั่งรอดูการถูกลงโทษเว่ยหย่าง!

หากมิค้นพบสิ่งนี้ตั้งแต่เนิ่น ๆ นางอาจจะมิรู้ด้วยซ้ำว่าตนเองจะต้องตายอย่างไร! ตุ๊กตาไม้ตัวจิ๋วเจ้าปัญหา?

นี่คือคุณไสยมนต์ดํา

นางเอ่ยถามหงหลัวว่า

“มีผู้อื่นล่วงรู้เรื่องนี้อีกหรือไม่?”

หงหลัวส่ายหัว ขณะที่กล่าวว่า:

“บ่าวมิทราบ”

หลี่เว่ยหยางพยักหน้าและกล่าวว่า:

“เช่นนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าควรแสร้งทำเป็นมิรู้เรื่องต่อไป”

หงส์หลัวมีความรู้สึกประหลาดใจ ขณะเงยหน้าขึ้นและกล่าวว่า:

“คุณหนูยังจะให้บ่าวอยู่เคียงข้างคุณหนูต่อไปหรือ?”

หลี่เว่ยหยางยิ้ม:

“ตราบใดที่เจ้ายังเลือกที่จะอยู่ข้างเดียวกับข้า ข้าจะมิมีวันทอดทิ้งเจ้าและจะปฏิบัติต่อเจ้าเหมือนเดิม”

นางกล้าที่จะรักษาผู้ใดสักคนที่ทรยศหักหลังตนเอง สิ่งนี้มิใช่เพราะนางมีความมั่นใจมากเกินไป

แต่เป็นเพราะนางยึดจุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดของคู่ต่อสู้ไว้ได้ มันคือนางรู้ดีว่า หงหลัวผู้นี้ยังคงมีจิตสำนึกที่ดี

ไป๋จือนำหงหลัวออกไป ขณะที่โม่ฉู กล่าวอย่างระมัดระวังว่า:

“คุณหนูตอนนี้เราควรทำอย่างไร?

เราควรรายงานเรื่องนี้กับท่านผู้อาวุโสหลี่หรือไม่?”

โม่ฉูเป็นคนของท่านย่าใหญ่ ดังนั้นจึงมิใช่เรื่องแปลก ที่นางจะแนะนำเช่นนั้น

หลี่เว่ยหยางส่ายหัวและกล่าวอย่างใจเย็นว่า:

“ท่านย่าอายุมากแล้ว จะดีกว่าที่จะมิทำให้นางต้องร้อนใจ หรือเจ้าคิดว่าอย่างไร”

โม่ฉูกัดริมฝีปากของตนเอง และตัดสินใจได้ในที่สุด:

“ใช่ คุณหนูกล่าวได้ถูกต้องแล้ว”

เนื่องจากนางตัดสินใจที่จะอยู่กับเว่ยหยางแล้ว ดังนั้นนางจะต้องเชื่อฟังคุณหนูสามไปตลอดชีวิต

บุคคลที่มีอำนาจในการตัดสินชะตากรรมของนางคือคุณหนูสาม ดังนั้นจึงมิมีอันใดที่ต้องคิดอีกแล้ว

“รีบไปค้นหาตุ๊กตาไม้ที่หงหลัวกล่าวถึง” หลี่เว่ยหยางออกคำสั่ง

โม่ฉูรับคำสั่งด้วยความรวดเร็วว่า

“รับทราบคุณหนู เราจะเอาพวกมันไปทิ้งให้เร็วที่สุด”

“ไม่ เก็บทุกอย่างเอาไว้ แล้วเรียก

หรงเอ๋อมาที่นี่!”

หรงเอ๋อคือสาวใช้คนสนิทของชิหยินเหนียงผู้ซึ่งเป็นมารดาของเว่ยหยาง

หลี่เว่ยหยางยิ้มจาง ๆ ขณะที่นางกล่าวเช่นนั้น

เมื่อได้ยินชื่อหรงเอ๋อ โม่ฉูจึงเกิดความรู้สึกประหลาดใจขึ้นมาในทันที?

นางคือสาวใช้ผู้ที่แอบอ้างชื่อของชิหยินเหนียงส่งข้อความมาหลอกล่อให้เว่ยยางเข้าไปที่สวนในตอนนั้นมิใช่หรือ?