ตอนที่ 247 สอบเข้ามหาวิทยาลัย(2)

เมื่อเห็นทางฝ่ายบ้านลูกเขยชื่นชมลูกทั้งสอง ซูหว่านอี๋ก็อดยิ้มไม่ได้ ก่อนจะเอ่ย “คุณก็ชมพวกเขาเกินไปแล้วค่ะ แต่พวกเขาสองคนก็ตั้งใจมาก ฉันก็ได้แต่หวังว่าผลลัพธ์จะออกมาดี”

หลังจากพูดจบ ซูหว่านอี๋ก็เอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง “อาหลี่ได้ติดต่อมาบ้างไหมคะ?”

เมื่อพูดถึงลูกชายคนเล็ก เหยาจิ้งจือก็อดถอนหายใจไม่ได้ ก่อนจะเอ่ย “ไม่เลยค่ะ อาหลี่เพิ่งได้รับภารกิจ ติดต่อไม่ได้เลย ตอนแรกเห็นบอกว่าจะมาหาวันที่มู่หลานสอบ แต่ก็กลัวว่าจะกลับมาไม่ได้”

เหยาจิ้งจือกล่าวแล้วก็รู้สึกผิดต่อลูกสะใภ้คนเล็ก “ก็ได้แต่หวังว่ามู่หลานจะไม่ต่อว่าเขา”

เมื่อได้ยินแบบนี้ ซูหว่านอี๋จึงรีบกล่าวทันที “ญาติลูกเขย ดูคุณพูดเข้าสิ เรื่องงานต้องสำคัญที่สุดอยู่แล้วค่ะ นอกจากนี้ก็ยังมีพวกเราอีกหลายคนที่คอยอยู่กับมู่หลาน”

เมื่อเห็นซูหว่านอี๋พูดแบบนี้ เหยาจิ้งจือก็พยักหน้า แล้วเอ่ย “ค่ะ พวกเราก็อยู่เนอะ”

หลังจากนั้นทั้งสองก็พูดคุยเรื่องอื่นกัน

ช่วงสองวัน ฉินมู่หลานกับฉินเคอวั่งทบทวนกันอย่างรอบคอบ หลังจากนั้นสองวัน ฉินมู่หลานกับฉินเคอวั่งก็เริ่มพักผ่อนหย่อนใจ

หนึ่งวันก่อนสอบ ครอบครัวได้เตรียมทำอาหารมื้อหรูให้ทั้งสองคน เพื่อให้พวกเขาได้สารอาหารครบถ้วน มีพลังสู้กับการสอบ

ฉินมู่หลานเห็นว่ามีเนื้อตุ๋น หลังจากได้ลองกินก็พบว่ารสชาติดีมาก จึงกินไปหลายชิ้น

เหยาจิ้งจือเห็นฉินมู่หลานชอบ ก็ยกยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น “อันนี้พี่สะใภ้ของเธอซื้อมา บอกว่าจะทำให้เธอได้สารอาหารดี ๆ”

ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ ก็ยกยิ้มแล้วพูดขึ้น “ขอบคุณค่ะพี่สะใภ้”

หลี่เสวี่ยเยี่ยนโบกมือแล้วเอ่ย “ยังมีอะไรต้องขอบคุณอีกล่ะ ตอนนี้ฉันรอเธอสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้อยู่ ถ้าเป็นอย่างนั้นพอมีคนมาถาม ก็จะบอกได้ว่าครอบครัวเรามีนักศึกษาอยู่ด้วยนะ”

อันที่จริงหล่อนรู้สึกอิจฉาอยู่ในใจ แต่ก็ทราบดีว่าหากได้สอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้วชีวิตจะต้องต่างไปจากเดิม ซึ่งหล่อนรู้ตัวดีว่าตัวเองไม่ได้มีความสามารถขนาดนั้น จึงได้แต่หวังให้น้องสะใภ้สอบผ่าน

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินมู่หลานก็กำมืออย่างหนักแน่น แล้วเอ่ย “ค่ะ หนูจะตั้งใจ”

หลังจากกินเสร็จ หลี่เสวี่เยี่ยนก็หันมองฉินมู่หลาน ก่อนจะเอ่ยถาม “มู่หลาน เดี๋ยวพวกเธอจะต้องเข้าไปในอำเภอใช่ไหม”

ฉินมู่หลานพยักหน้าแล้วบอกกล่าว “ใช่ค่ะ ใกล้จะออกเดินทางแล้ว”

สถถานที่สอบของเธอกับฉินเคอวั่งอยู่ที่โรงเรียนมัธยมต้นเขต 1 การสอบจะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้ตอนเช้า พวกเขาจึงต้องไปที่นั่นล่วงหน้า เนื่องจากเกรงว่าหากออกเดินทางวันพรุ่งนี้จะล่าช้าเกินไป

“ครับ ใกล้จะออกเดินทางแล้ว เราจองที่พักใกล้โรงเรียนมัธยมต้นเขต 1 เอาไว้เรียบร้อยแล้ว ช่วงสอบก็จะพักอยู่ที่นั่น”

“อย่างนั้นก็ดี เดี๋ยวให้เจ๋อเหว่ยพาพวกเธอไป”

“ได้ค่ะ ถ้าอย่างนั้นต้องขอรบกวนพี่ใหญ่ด้วยนะคะ”

ครั้งนี้มีคนเดินทางไปด้วยเยอะมาก นอกจากฉินมู่หลานกับฉินเคอวั่งแล้ว ก็ยังมีซูหว่านอี๋ เหยาจิ้งจือ เซี่ยเหวินปิง และเด็กน้อยทั้งสองคนของพวกเขาด้วย เพราะฉะนั้นจึงมีสัมภาระเยอะมาก มีเซี่ยเจ๋อเหว่ยคอยช่วยขนของไปจึงเป็นการดีที่สุด

หลังจากกลุ่มคนมาถึงที่พักแล้ว ฉินมู่หลานกับคนอื่น ๆ ก็เข้าพัก ครั้งนี้เด็กน้อยทั้งสองคนเชื่อฟังมาก ไม่ส่งเสียงร้องกวนเลย จึงเดินทางมาถึงที่นี่โดยสวัสดิภาพ

เมื่อเห็นเด็กทั้งสองเชื่อฟัง ฉินมู่หลานก็จูบลงบนหน้าผากของพวกเขาด้วยความเอ็นดู

ใกล้สอบเข้ามหาวิทยาลัย เธอตั้งใจอ่านหนังสือมาก จึงไม่ค่อยมีเวลาได้อยู่กับพวกลูกเลย รอสอบครั้งนี้เสร็จก่อน เธอจะใช้เวลากับลูกทั้งสองคนให้มากขึ้น

หลังจากเล่นกับลูกทั้งสองคนได้สักพัก อีกทั้งยังให้นมพวกเขาเรียบร้อยแล้ว ฉินมู่หลานก็พาเด็กทั้งสองคนเข้านอน และเพื่อจะให้เธอได้นอนหลับอย่างเต็มที่ จึงต้องไปนอนอีกห้องหนึ่ง

เมื่อตื่นขึ้นในเช้าวันถัดมา ฉินมู่หลานกับฉินเคอวั่งก็รับประทานอาหารเช้าแล้วไปเข้าสอบ ทั้งสองคนค่อนข้างโชคดีที่ได้สอบที่เดียวกัน กระทั่งห้องสอบก็อยู่ใกล้กันมากด้วย

“พี่ครับ สอบเสร็จแล้วผมจะรอพี่อยู่ตรงหน้าประตู แล้วเดี๋ยวพวกเรากลับพร้อมกันนะครับ”

เมื่อได้ยินคำพูดของฉินเคอวั่ง ฉินมู่หลานก็ยกยิ้มแล้วพยักหน้า

ระหว่างที่สองพี่น้องคุยกัน ก็มีคนเข้ามาร่วมด้วย ตอนแรกฉินมู่หลานยังนึกไม่ออก จนกระทั่งนึกอย่างถี่ถ้วน ก่อนจะพบว่าเป็นคนรู้จักสองคน คือหญิงสาวสองคนนั้นที่พวกเขาเคยเจอบนภูเขาใหญ่ ฉินมู่หลานไม่ได้สนใจ ไม่นานนักก็หันมองกลับไป แล้วเดินไปเข้าห้องสอบกับฉินเคอวั่ง

และเมื่อสองคนนั้นเห็นฉินมู่หลานเหมือนกันและเห็นว่าอีกฝ่ายเมินเฉยใส่เช่นนั้น ก็รู้สึกโกรธมาก “ดูหล่อนทำตัวสิ คนไม่รู้คงคิดว่าเธอเข้ามหาวิทยาลัยได้แล้ว”

“พอเถอะเสี่ยวเหมย พวกเราก็รีบไปเข้าห้องสอบเถอะ”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เสี่ยวเหมยก็ไม่พูดอะไรอีก แล้วรีบเดินไปที่ห้องเรียน

การสอบรอบแรกคือวิชาภาษาจีน ฉินมู่หลานทำข้อสอบได้อย่างง่ายดายมาก แต่หลังจากที่เธอออกมา ก็พบว่าผู้เข้าสอบหลายคนดูหน้าตาไม่ค่อยดีกันเป็นแถว หนึ่งในนั้นมีสองคนนั้นที่อยากจะอวดเบ่งใส่พวกเขาสองพี่น้อง เธอจึงแอบหลุดหัวเราะ แล้วยืนรอฉินเคอวั่งเงียบ ๆ

“พี่ครับ ผมมาแล้ว”

สองพี่น้องไม่ได้พูดอะไรมาก แล้วกลับไปทันที สำหรับการสอบอีกหลาย ๆ วิชาต่อไป ฉินมู่หลานก็ทำได้ดีมากเช่นกัน จนกระทั่งสอบวิชาสุดท้ายเสร็จ เธอก็รู้สึกได้ถึงการพ้นผ่านของเวลา การสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้สิ้นสุดลงแล้ว

“อา…พี่ พวกเราสอบเสร็จแล้ว”

ฉินเคอวั่งไม่ค่อยสงบเสงี่ยมเหมือนมู่หลาน หลังจากสอบเสร็จ เขาก็ได้แต่รู้สึกตื่นเต้น

ฉินมู่หลานเห็นท่าทางของน้องชายเป็นแบบนี้ ก็อดหัวเราะไม่ได้ ก่อนจะเอ่ย “ใช่แล้ว ในที่สุดก็จบสักที พวกเรารีบกลับกันเถอะ ไม่รู้ว่าวันนี้สายเกินจะกลับหมู่บ้านแล้วหรือยัง”

“ครับ”

สองพี่น้องเดินทางกลับไปยังที่พัก ก่อนจะพบว่าเหยาจิ้งจือกับซูหว่านอี๋กำลังยืนรออยู่ตรงหน้าประตู เมื่อเห็นพวกเขากลับมา ก็รีบเอ่ยขึ้นทันที “พวกเธอสองพี่น้องคงจะเหนื่อยแล้ว ไป พวกเราไปกินข้าวกัน” พวกเขาต่างตกลงกันเอาไว้ว่าจะไม่เอ่ยถามว่าการสอบเป็นอย่างไรบ้าง เพราะอยากให้สองพี่น้องรู้สึกผ่อนคลาย

ฉินมู่หลานหิวมาก จึงพาฉินเคอวั่งไปกินของอร่อย ๆ

หลังจากกินข้าวเสร็จ ฉินมู่หลานก็หันไปถามเซี่ยเหวินปิง “พ่อคะ วันนี้พวกเราจะกลับหมู่บ้านกันเลยไหม?”

“วันนี้ยังไม่กลับ รอพรุ่งนี้เช้าค่อยกลับ”

เมื่อเห็นว่าพวกเขาตัดสินใจแล้ว ฉินมู่หลานจึงไม่พูดอะไรมากมาย เมื่อถึงเช้าวันรุ่งขึ้น พวกเธอก็เตรียมตัวพาลูกทั้งสองคนกลับหมู่บ้าน แต่สิ่งที่เธอไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เพราะขณะที่กำลังจะออกเดินทาง เซี่ยเจ๋อหลี่ก็ได้กลับมาแล้ว

“ขอโทษนะมู่หลาน ที่ผมมาช้า”