ตอนที่ 178 เสียงสู้รบดังกระหึ่ม

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 178 เสียงสู้รบดังกระหึ่ม
ไป๋ชิงเหยียนขี่ม้าเร็วพุ่งทะยานไปยังด้านบน ดวงตาคมกริบจ้องเขม็งไปยังเหยี่ยวที่บินฉวัดเฉวียนไปมาอยู่บนท้องฟ้าเหนือหุบเขา หยิบลูกธนูขึ้นมาหนึ่งดอก ง้างสายธนูเล็งยิงไปยังเหยี่ยวตัวนั้น!

แม่ทัพซีเหลียงที่นำทัพซุ่มโจมตีอยู่ตรงนั้นแนบตัวชิดกับหน้าผาเพื่อหลบซ่อนตัว สายตานิ่งขรึมกวาดมองไปรอบกาย จากนั้นสายตาหยุดอยู่ที่ไป๋ชิงเหยียนที่ง้างธนูอยู่บนหลังม้าด้วยท่าทีองอาจสง่างาม

เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนกำลังเล็งธนูไปที่เหยี่ยวของอวิ๋นพั่วสิง เขาตกตะลึงในทันที เหยี่ยวตัวนั้นเป็นสัญลักษณ์ตัวแทนของอวิ๋นพั่วสิง หลายปีมานี้นอกจากกองทัพไป๋แล้ว ไม่ว่ากองทัพของแคว้นใดเห็นเหยี่ยวของอวิ๋นพั่วสิงก็ล้วนหวาดกลัวจนถอยทัพหนีทั้งสิ้น เหยี่ยวตัวนี้คือขวัญกำลังใจของกองทัพซีเหลียง จะถูกยิงตกลงมาไม่ได้เด็ดขาด! เขายกคันธนูขึ้นทันที

หน้าผากของไป๋ชิงเหยียนเริ่มมีเหงื่อซึมขึ้น หญิงสาวพยายามควบคุมสติ กัดฟันกรอด

ทว่า ไป๋ชิงเหยียนยังไม่ทันยิงธนูออกไปก็ได้ยินเสียงลูกธนูลอยผ่านอากาศพุ่งตรงมาทางนาง ม้าศึกของหญิงสาวตกใจจนส่งเสียงร้องแหลมออกมา กระเด็นล้มลงพร้อมกับไป๋ชิงเหยียนที่ไม่ทันตั้งตัว

“พี่หญิงใหญ่!”

“คุณชาย!” เซียวรั่วไห่รีบกระโดดลงจากหลังม้าแล้วถลาเข้าไปหาไป๋ชิงเหยียน “คุณชายรับหอกขอรับ!”

เซียวรั่วไห่โยนหอกหงอิงของไป๋ชิงเหยียนไปให้นาง ไป๋ชิงเหยียนรับหอกมา หมุนตัวกลับไปต่อสู้กับกองทัพของซีเหลียงโดยสัญชาตญาณอย่างสุดความสามารถ ต้องการกวาดล้างกองทัพซีเหลียงให้ราบเป็นหน้ากองภายในพริบตาเดียว

เซียวรั่วไห่ชักดาบยาวออกมาคุ้มกันอยู่ข้างกายไป๋ชิงเหยียน ไป๋จิ่นจื้อกระโดดลงจากหลังม้า พุ่งเข้าไปคุ้มกันไป๋ชิงเหยียนเช่นเดียวกัน

“เซียวรั่วไห่รีบไปปักธงเดี๋ยวนี้!” ไป๋ชิงเหยียนตะคอกเสียงดัง

“ขอรับ!” เซียวรั่วไห่พยักหน้ารับคำสั่ง

ทหารซีเหลียงเล็งธนูไปยังไป๋ชิงเหยียนอีกครั้ง สัมผัสที่รวดเร็วในสนามรบทำให้ไป๋ชิงเหยียนสัมผัสได้ถึงอันตรายที่กำลังคืบคลานเข้ามาใกล้ หญิงสาวปักหอกยาวลงบนรอยแยกของพื้นดินอย่างแรง กดศีรษะของไป๋จิ่นจื้อให้ก้มต่ำลง คุ้มครองน้องสาวไว้ในอ้อมกอดพลางย่อกายหลบ ลูกธนูพุ่งเฉียดแก้มของไป๋ชิงเหยียนไปอย่างเฉียดฉิวจนมีเลือดซึมเล็กน้อย ทว่า ทำให้ไป๋ชิงเหยียนมองเห็นแม่ทัพของซีเหลียงที่เล็งธนูมาทางนางได้อย่างชัดเจน

ไป๋จิ่นจื้อมองตามสายตาของไป๋ชิงเหยียนไป เห็นแม่ทัพซีเหลียงผู้นั้นกำลังเล็งธนูมาทางไป๋ชิงเหยียนอีกครั้ง นางรีบก้มหยิบธนูเซ่อรื้อแล้วโยนไปให้ไป๋ชิงเหยียน “พี่หญิงใหญ่รับธนูเจ้าค่ะ!”

ไป๋ชิงเหยียนรับธนูมาด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างหยิบลูกธนูออกมา นางหมุนตัวหลบลูกธนูที่พุ่งตรงเข้ามาพลางง้างสายธนูขึ้น ปล่อยลูกธนูออกไปอย่างแม่นยำ

นั่นคือลูกธนูที่แม่นยำ รวดเร็วและรุนแรงกว่าลูกธนูของแม่ทัพซีเหลียง ลูกธนูปักถูกลำคอของแม่ทัพซีเหลียงจนสิ้นใจในดอกเดียว!

“แม่ทัพ!” กองทัพใหญ่ของซีเหลียงตกใจ

แม่ทัพหลักที่แม่นธนูที่สุดของซีเหลียงถูกสังหารด้วยลูกธนูที่ปักโดนลำคอจนสิ้นใจในดอกเดียว กองทัพซีเหลียงทางฝั่งตะวันออกของหุบเขาเวิ่งที่กำลังสู้รบอยู่เริ่มเสียขวัญไปตามๆ กัน

เมื่อเห็นว่าเซียวรั่วไห่นำทหารแบกธงมุ่งเข้าไปใกล้ขอบหน้าผาแล้ว

ม้าศึกซึ่งไร้คนบังคับวิ่งม้าทางไป๋ชิงเหยียนอย่างตื่นตระหนก หญิงสาวรีบสะพายธนูเซ่อรื้อไว้ทางด้านหลัง ดึงหอกออกจากพื้นดิน กระโจนขึ้นไปบนหลังม้า ตะโกนเสียงดัง “เสี่ยวซื่อ!”

ไป๋จิ่นจื้อจับหอกหงอิงที่ไป๋ชิงเหยียนยื่นมาเป็นที่ยึดเหนี่ยวพลางกระโดดขึ้นไปบนหลังม้า ม้าพุ่งทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว ไป๋จิ่นจื้อที่นั่งอยู่ทางด้านหลังไป๋ชิงเหยียนใช้หอกแทงไปที่หัวใจของทหารซีเหลียง ดึกหอกออกแล้วสังหารทหารซีเหลียงทีละคน

“ถือไว้!” ไป๋ชิงเหยียนส่งหอกเงินหงอิงในมือให้ไป๋จิ่นจื้อ สองขาเกี่ยวท้องม้าเอาไว้แน่น หยิบลูกธนู ง้างสายธนู ปลายแหลมของลูกธนูชี้ไปยังเหยี่ยวที่บนโฉบเฉี่ยวอยู่บนท้องฟ้าเหนือหุบเขา

ม้าเร็วกระโดดข้ามทหารที่กำลังสู้รบกันอยู่ มุ่งไปยังเบื้องหน้า

เรื่องความแม่นยำนางไม่เคยเป็นรองผู้ใด ทว่า หลังจากหมั่นฝึกฝนอย่างเข้มงวดในทุกๆ วัน เรี่ยวแรงของนางก็ยังไม่เพียงพออยู่ดี

หญิงสาวง้างสายธนูไม้สุดแรงจนเกิดเสียงดังขึ้นเล็กน้อย ทุ่มเรี่ยวแรงทั้งหมดของตัวเองไปที่สายธนู ร่างเกร็งไปทั้งร่าง หน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อ

เล็งเป้า ยิงออกไป…

ลูกธนูลอยฟิ้วไปในอากาศอย่างรวดเร็ว แทงทะลุสิ่งมีชีวิตที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าตัวนั้นอย่างจัง

เสียงร้องแหลมของนกดังขึ้นกลางอากาศ เหยี่ยวที่โดนธนูยิงทะลุลำตัวร่วงลงสู่พื้นดินอย่างรวดเร็ว

ตอนนี้แหล่ะ!

หญิงสาวกำบังเหียนแน่น ชูหอกเงินขึ้นฟ้าพลางตะโกนออกมาเสียงดัง “ปักธง!”

เซียวรั่วไห่ขบกรามแน่น ปักธงสัญลักษณ์ของกองทัพไป๋ลงบนพื้นดินด้วยแรงทั้งหมดที่มี ตะโกนออกมาเสียงดัง “ปักธง!”

“ปักธง!”

“ปักธง!”

“ปักธง!”

พริบตานั้น ธงสัญลักษณ์ของกองทัพไป๋ยี่สิบกว่าธงสะบัดพลิ้วไปมาตามแรงลม ครอบครองพื้นที่สูงทางฝั่งทิศตะวันออกของหุบเขาเวิ่งเกือบทั้งหมด

ไป๋จิ่นจื้อนั่งอยู่บนหลังม้าศึกที่กำลังวิ่งทะยานอยู่ได้ยินเพียงเสียงลมพัด และเสียงตะโกนโห่ร้องก้องกังวานไปทั่ว สาวน้อยกัดฟันล้วงเข้าไปในเสื้อเกราะเพื่อหยิบธงกองทัพไป๋ออกมา จากนั้นสวมลงไปบนหอกหงอิงของตัวเอง

ขณะที่ม้าพุ่งทะยานไปยังขอบหน้าผา ไป๋ชิงเหยียนควบคุมม้าให้วิ่งเร็วขึ้น ไป๋จิ่นจื้อปักหอกลงบนพื้นแล้วกระโดดลงจากหลังม้า วิ่งไปยังขอบหน้าผาที่ห่างออกไปไม่เกินสิบก้าวอย่างบ้าคลั่ง ชูธงเฮยฟานหงหมั่ง[1]ที่ไป๋ชิงเหยียนเคยใช้ขึ้นไปบนฟ้า น้ำตาไหลรินไม่ขาดสาย

ไป๋จิ่นจื้อแอบหยิบธงผืนนี้มาเอง ธงเฮยฟานหงหมั่งเป็นธงที่ตอนที่ไป๋ชิงเหยียนติดตามท่านปู่ไปออกรบเป็นครั้งแรก พวกนางพี่น้องชื่นชมพี่หญิงใหญ่จึงช่วยกันระบายสีงูสีขาวที่อยู่บนธงให้กลายเป็นสีแดง พี่หญิงรองกล่าวว่าพี่หญิงใหญ่เป็นสตรี เป็นแม่ทัพในชุดแดงก็ควรจะใช้ธงหงหมั่ง!

ต่อมายามที่พี่หญิงรองออกรบก็ใช้ธงเฮยฟานหงหมั่งนี้ พี่หญิงสามก็เช่นเดียวกัน!

ไป๋จิ่นจื้อนำธงผืนนี้มาก็เพราะอยากจะให้ทหารกองทัพไป๋ที่ยังมีชีวิตอยู่รับรู้ว่า แม้บุรุษตระกูลไป๋จะเสียชีวิตลงหมดแล้ว ทว่า หากสตรีของตระกูลไป๋ยังมีชีวิตอยู่ ก็จะไม่ยอมอยู่อย่างคนขลาดแน่นอน พวกนางจะร่วมทุกข์ร่วมสุข ร่วมเป็นร่วมตายไปกับพี่น้องกองทัพไป๋ทุกคน!

ท้องฟ้าเริ่มมืดลง

ภายในหุบเขาเวิ่ง เหยี่ยวสัญลักษณ์ของอวิ๋นพั่วสิงร่วงสู่พื้นดิน สิ่งที่ตามมาคือธงสัญลักษณ์ของกองทัพไป๋ที่ครอบครองอยู่เต็มพื้นที่ฝั่งตะวันออกของหุบเขาเวิ่ง

อวิ๋นพั่วสิงที่ถูกคุ้มกันอยู่ใจกลางทหารหน้าซีดเผือดในทันที เขาเงยหน้ามองไปยังธงเฮยฟานไป๋หมั่งที่เขาเคยหวาดกลัว ตะคอกออกมาเสียงดัง

“เป็นไปไม่ได้! ต้องเป็นแผนขององค์รัชทายาทแคว้นต้าจิ้นแน่ๆ! จะมีกองทัพไป๋อีกได้อย่างไรกัน ข้าสังหารสายเลือดตระกูลไป๋จนหมดสิ้นแล้ว!”

แม้กระทั่งกองทัพไป๋ที่อยู่ในหุบเขาก็ยังอึ้งไปเช่นเดียวกัน ไม่รู้ว่านี่คือกองทัพไป๋ค่ายใด

เสียงร้องแหลมของม้าศึกดังก้องกังวานไปทั่วทั้งหุบเขา

เฉิงหย่วนจื้อเงยหน้าขึ้น สายตาหยุดอยู่ที่ร่างซึ่งสะพายธนูเซ่อรื้อ มือถือหอกเงินหงอิงอยู่บนหลังม้า จากนั้นมองเห็นธงเฮยฟานหงหมั่งที่ไป๋จิ่นจื้อโบกสะบัดอย่างแรง เฉิงหย่วนจื้อเบิกตาโพลง เลือดร้อนในกายพุ่งพล่าน ผลักทหารที่ประคองเขาอยู่ออกอย่างแรง

ธงเฮยฟานหงหมั่ง ม้าศึก ธนูเซ่อรื้อ หอกเงินหงอิง! นั่นคือแม่ทัพเสี่ยวไป๋ไซว่ผู้ไร้เทียมทานที่เคยสู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่กับพวกเขา!

ลูกผู้ชายอกสามศอกที่แม้โดนธนูยิงปักไหล่ก็ยังไม่แม้แต่ขมวดคิ้ว บัดนี้น้ำตารินไหลออกมาอย่างตื้นตัน ตะโกนออกมาสุดเสียง “เสี่ยวไป๋ไซว่! เสี่ยวไป๋ไซว่กลับมาแล้ว!”

เฉิงหย่วนจื้อหัวเราะออกมาเสียงดังอย่างกลั้นไม่อยู่ ตะคอกใส่อวิ๋นพั่วสิงอย่างโมโหทั้งน้ำตา

“ไอ้คนขลาดอวิ๋นพั่วสิง! เบิกตาของแกดูให้ดีๆ นะ นั่นคือหลานสาวคนโตของท่านแม่ทัพใหญ่ของพวกเรา เสี่ยวไป๋ไซว่ที่เคยตัดศีรษะของแม่ทัพใหญ่ผางผิงกั๋วแห่งแคว้นสู่! อวิ๋นพั่วสิง วันนี้แกได้ตายสมใจแน่!”

เมื่อเห็นธงเฮยฟานหงหมั่ง เฉิงหย่วยจื้อที่เดิมทีเริ่มอ่อนล้าชี้ดาบยาวไปทางอวิ๋นพั่วสิงอย่างฮึกเหิม จิตวิญญาณนักสู้แผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่าง

“ทหารของทัพไป๋ทุกคน! เสี่ยวไป๋ไซว่กลับมาแล้ว พวกเราพร้อมติดตามเสี่ยวไป๋ไซว่สังหารศัตรูจนตัวตาย! วันนี้ต้องตัดศีรษะของอวิ๋นพั่วสิงให้ได้! ฆ่า!”

ภายในหุบเขาเกิดเสียงสู้รบดังกระหึ่มในทันที

บนเขาสูงที่เชื่อมต่อระหว่างหุบเขาเวิ่งและยอดเขาจิ่วชวี ทหารยอดฝีมือของค่ายหู่อิงโหนตัวลงไปด้านล่างด้วยเชือกอย่างรวดเร็วราวกับเหยี่ยวสลายปีก ความเข็งแกร่งของพวกเขาทำให้กองทัพซีเหลียงเริ่มหวาดกลัว

———————————————

[1] ธงเฮยฟานหงหมั่ง เป็นสัญลักษณ์ของกองทัพไป๋ที่สตรีของตระกูลไป๋ใช้ หงหมั่ง หมายถึงงูสีแดง ธงสัญลักษณ์ปกติของกองทัพไป๋คือธงเฮยฟานไป๋หมั่ง ไป๋หมั่ง คือ งูสีขาว