ตอนที่ 179 สู้ให้ตายกันไปข้างหนึ่ง

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 179 สู้ให้ตายกันไปข้างหนึ่ง
ทั่วทั้งปฐพี นอกจากแม่ทัพกองพลทหารม้าจู่โจมอย่างไป๋ฉีจิ่งแห่งกองทัพไป๋แล้ว ไม่มีผู้ใดสามารถฝึกฝนนักรบที่แข็งแกร่งเช่นนี้ออกมาได้อีกแล้ว!

ด้านบนฝั่งตะวันออกของหุบเขา ไป๋ชิงเหยียนนำทัพทหารเลือดร้อนหนึ่งพันนายสู้รบกับทหารซีเหลียงนับหมื่นที่เสียขวัญกำลังใจในการสู้รบไปแล้ว

“ไป๋จิ่นจื้อ! เป่ากู่เซ่าส่งสัญญาณ…สั่งให้แม่ทัพเฉิงหย่วนจื้อนำกองทัพไป๋และกองทัพต้าจิ้นถอยทัพออกไปนอกหุบเขาโดยเร็วที่สุด เฝ้าอยู่ตรงแม่น้ำอูตานซึ่งเป็นปากทางเข้าของหุบเขาเวิ่ง รอสังหารกองทัพ

ซีเหลียงที่หนีออกมาจากหุบเขาอยู่ตรงนั้น!”

“เจ้าค่ะ!” ไป๋จิ่นจื้อเลือดพลุ่งพล่าน ไม่กล้ารอช้า รีบส่งสัญญาณกู่เซ่าในทันที

ทหารของกองทัพไป๋ที่มีหน้าที่ส่งสัญญาณกู่เซ่าได้รับสารจึงรีบพุ่งเข้าไปหาเฉิงหย่วนจื้อที่กำลังถือดาบใหญ่สู้รบกับกองทัพซีเหลียงอยู่ เขาตะโกนออกมา “ท่านแม่ทัพ สัญญาณกู่เซ่าถ่ายทอดคำสั่งให้ท่านพากองทัพไป๋และกองทัพต้าจิ้นถอยทัพออกไปนอกหุบเขา เฝ้าอยู่ตรงแม่น้ำอูตานซึ่งเป็นปากทางเข้าของหุบเขาเวิ่ง รอสังหารกองทัพซีเหลียงที่หนีออกมาจากหุบเขาอยู่ตรงนั้นขอรับ!”

เฉิงหย่วนจื้อไม่ข้องใจกับคำสั่งของเสี่ยวไป๋ไซว่ไป๋ชิงเหยียน ชูดาบใหญ่ขึ้น “ถอยทัพ!”

“ถอยทัพ!”

“ถอยทัพ!”

เมื่อกองทัพไป๋และกองทัพต้าจิ้นได้รับคำสั่งก็หันหลังกลับมุ่งไปยังด้านนอกหุบเขาทันที กองทัพซีเหลียงที่กำลังถือดาบ ถือหอกสู้รบอย่างสุดชีวิตเดาไม่ออกว่าพวกเขาต้องการทำสิ่งใด

“แย่แล้ว!” อวิ๋นพั่วสิงได้สติเป็นคนแรก ด้านบนทางฝั่งตะวันออกของหุบเขามีท่อนซุง ก้อนหินและน้ำมันที่พวกเราลำเลียงส่งขึ้นไปเมื่อวาน เสี่ยวไป๋ไซว่ผู้นั้นจะใช้ของเหล่านั้นจัดการกับพวกเรา!

อวิ๋นพั่วสิงมองไปรอบๆ กายด้วยใบหน้าซีดเผือด บัดนี้เขาถูกคุ้มครองอยู่ตรงกลางของกองทัพซีเหลียง ด้านหลังเป็นทางออกของหุบเขาเวิ่งซึ่งติดกับทางขึ้นยอดเขาจิ่วชวี ทางนั้นไม่เพียงแคบมาก…กองทัพซีเหลียงอีกกว่าครึ่งอยู่ทางด้านหลังเขา ยังไม่ทันที่เขาจะหนีออกไป กองทัพซีเหลียงคงถูกจัดการจนเกลี้ยง

ส่วนทางเข้าของหุบเขาเวิ่งที่ปากทางเป็นแม่น้ำอูตานยิ่งใกล้ปากทางพื้นที่ก็ยิ่งกว้างขวาง ใช้ทางนั้นถึงจะมีโอกาสรอดชีวิต ทว่ากองทัพไป๋และกองทัพต้าจิ้นหนึ่งหมื่นนายดักรออยู่ตรงนั้น!

หนีเสือปะจระเข้ ทว่า อวิ๋นพั่วสิงไม่มีเวลาลังเล

เขาตะโกนขึ้นสุดเสียง “รีบถอยทัพ! ถอยไปยังทางเข้าของหุบเขาเวิ่งที่แม่น้ำอูตาน!”

กองทัพซีเหลียงที่อยู่ในหุบเขาเวิ่งมีจำนวนมากเกินไป กว่าคำสั่งของอวิ๋นพั่วสิงจะถ่ายทอดไปถึงทหารที่อยู่ด้านหน้าสุดแล้วเริ่มถอยทัพ ทุกอย่างเป็นไปอย่างยากลำบากมาก!

ไป๋ชิงเหยียนมองดูทหารซีเหลียงซึ่งอยู่ทางด้านล่างเริ่มถ่ายทอดคำสั่งถอยทัพ หญิงสาวตะโกนออกมา “ถ่ายทอดคำสั่ง! ตัดเชือกให้ขาด เหวี่ยงตาข่ายหิน สาดน้ำมัน เตรียมจุดไฟ! ไป๋จิ่นจื้อห้ามอยู่ห่างจากเซียวรั่วไห่เด็ดขาด!”

กล่าวจบ ไป๋ชิงเหยียนชักม้ากลับ ขี่ม้าไปตามขอบหน้าผา มุ่งตรงไปยังแม่น้ำอูตาน หยิบคบเพลิงมาจากมือของทหารต้าจิ้นคนหนึ่งซึ่งเพิ่งจุดไฟเสร็จ จากนั้นขี่ม้าจากไปอย่างรวดเร็ว

ทหารยอดฝีมือของค่ายหู่อิงที่ได้รับคำสั่งจากด้านบน ต่างช่วยกันตัดเชือก เหวี่ยงตาข่ายหิน สาดน้ำมันลงไปด้านล่างหุบเขา

เสียงร้องอย่างตกใจดังขึ้นท่ามกลางหุบเขา

กองทัพซีเหลียงซึ่งคอยคุ้มกันอยู่ข้างกายอวิ๋นพั่วสิงรีบยกโล่ขึ้นกำบัง คุ้มกันอวิ๋นพั่วสิงให้อยู่ตรงกลาง

อวิ๋นพั่วสิงได้กลิ่นน้ำมันก็ร้อนใจจนเอาแต่ก่นด่าไม่หยุด “แม่งเอ้ย! เร็ว! รีบบุกออกไป! บุกออกไป!”

ก่อนหน้านี้อวิ๋นพั่วสิงถูกคุ้มกันให้อยู่ใจกลางกองทัพอย่างแน่นหนา บัดนี้จึงเคลื่อนที่ด้วยความยากลำบาก ทหารต้าจิ้นเทน้ำมันลงมาแล้ว หากยังมัวรีรออยู่ พวกเขาจุดไฟขึ้นมาเมื่อใด เขาต้องตายอยู่ในทะเลไฟนี่อย่างแน่นอน

องครักษ์ติดตามของอวิ๋นพั่วสิงรู้ดีว่าหากไม่รีบหนีออกไปโดยเร็ว พวกเขาต้องตายอยู่ที่นี่อย่างแน่นอน เขาจึงชักดาบออกมาสังหารทหารซีเหลียงที่หันหลังใช้ร่างกายคอยคุ้มกันให้พวกเขา จากนั้นชูโล่ขึ้นสูง วิ่งออกไปด้านนอกอย่างรวดเร็ว

บรรดาทหารซีเหลียงที่เสียชีวิตด้วยน้ำมือของพวกเดียวกัน ก่อนตายพวกเขาลืมตาอ้าปากค้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ

เมื่อแม่ทัพจางตวนรุ่ยซึ่งอยู่บนหุบเขาฝั่งตะวันตกเห็นว่าเหล่าทหารที่อยู่บนหุบเขาฝั่งตะวันออกเริ่มเทน้ำมัน สุมไฟ ดวงตาของเขาเป็นประกายขึ้นในทันที ตะโกนสั่งอย่างตื่นเต้น “เตรียมไฟ!”

ท้องฟ้ามืดครึ้มลงเรื่อยๆ บนหน้าผาสูงทางฝั่งตะวันออกยังสามารถมองเห็นร่างที่ถือคบเพลิงขี่ม้าจากไปไกลได้ลางๆ

ภายในหุบเขาที่มีเสียงลมพัด เสียงรบราฆ่าฟันที่น่าสะพรึงกลัวเมื่อครู่ถูกแทนที่ด้วยเสียงร้องอย่างเจ็บปวดและหวาดกลัวของกองทัพซีเหลียงที่ถูกหินก้อนใหญ่ น้ำมันและท่อนซุงท่อนใหญ่หล่นลงมาทับ

ไป๋ชิงเหยียนขี่ม้าไปอย่างรวดเร็ว หญิงสาวหวังจะไปรวมตัวกับกองทัพไป๋ที่ทางเข้าของหุบเขาที่แม่น้ำอูตาน นึกไม่ถึงเลยว่าจะเจอกับม้าขนาดมหึมาของซีเหลียงที่ถูกผูกอยู่บนหุบเขาทางฝั่งตะวันออกเพื่อสกัดกองทัพใหญ่ของต้าจิ้น

กลิ่นน้ำมันถูกลมพัดโชยเข้ามา ม้าขนาดมหึมาถูกน้ำมันราดจนเปียกชุ่มไปทั้งตัว

หญิงสาวมองไปในหุบเขา เมื่อเห็นว่ากองทัพไป๋และกองทัพต้าจิ้นถอยทัพออกไปพ้นจากตำแหน่งที่ม้าขนาดมหึมาตัวนั้นสกัดไว้แล้ว หญิงสาวไม่รีรอ โยนคบเพลิงไปยังม้าขนาดมหึมาตัวนั้นทันที ไฟลุกลามขึ้นในพริบตา ท้องฟ้าเหนือหุบเขาเวิ่งกลายเป็นสีแดงจากเปลวเพลิง

หญิงสาวควบคุมสติ หยิบลูกธนูออกมา ยิงไปยังเชือกที่ผูกม้าขนาดมหึมาตัวนั้นทีละดอกจนเชือกขาดลงในที่สุด

เสียงกึกก้องดังต่อเนื่องไม่ขาดสาย ม้าขนาดมหึมาซึ่งมีไม้ซุงขนาดใหญ่มัดติดตัวอยู่กลิ้งตกจากหน้าผาสูงทางฝั่งตะวันออกลงไปด้านล่างในทันที ไม้ที่ปลายทั้งสองข้างแหลมคมถูกไฟลุกท่วม บางท่อนร่วงปักลงในดินสกัดทางออกของทหารซีเหลียง บางท่อนร่วงทับลงบนตัวของทหารซีเหลียงจนเสียชีวิตในทันที

กองทัพซีเหลียงหวาดกลัวจนไม่เลือกทางออก ทหารซีเหลียงที่อยู่ใกล้ทางออกของหุบเขาเวิ่งที่เชื่อมกับทางขึ้นยอดเขาจิ่วชวีสู้รบกับทหารต้าจิ้นที่แม่ทัพสือพานซานและแม่ทัพเจินเจ๋อผิงนำทัพอย่างสุดชีวิตเพื่อบุกหนีออกไปให้ได้

แม่ทัพเจินเจ๋อผิงและแม่ทัพสือพานซานที่เมื่อครู่ยังอยู่ในหุบเขาถอยออกจากหุบเขาไปเฝ้าอยู่ตรงปากทางออกอันแคบ ทหารซีเหลียงอยากหนีเอาตัวรอดออกมาแทบเป็นไม่ได้เลย!

“จุดไฟ! ยิงธนู!”

ลูกธนูไฟมากมายพุ่งเข้าไปในหุบเขาเวิ่ง

ลูกธนูไฟปะทะกับน้ำมัน ไฟลามขึ้นเป็นแนวราวกับงูขนาดใหญ่ ลุกพรึบเป็นกองไฟขนาดใหญ่ทันทีราวกับจะลามขึ้นไปบนท้องฟ้า

ไอร้อนของเปลวไฟระอุขึ้นไปบนอากาศ ไฟลามแผดเผาทหารซีเหลียงทีละคนราวกับถูกวิญญาณกลืนกิน อ่อนโยนและไม่มีการนองเลือด โหดร้ายและรวดเร็ว!

อวิ๋นพั่วสิงซึ่งถูกคุ้มกันอยู่ตรงกลางด้วยโล่วิ่งไปยังทางออกของหุบเขา มองลอดโล่ออกไปเห็นเปลวไฟลุกลามมาทางเขาเรื่อยๆ เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดทำให้อวิ๋นพั่วสิงหน้าซีดลงกว่าเดิม หากยังไม่รีบออกไปจากหุบเขาแล้วศพที่เกลื่อนกลาดอยู่บนพื้นติดไฟจนลุกลามกลายเป็นเปลวเพลิงลุกโหมขวางกั้นเอาไว้ อวิ๋นพั่วสิงคงถูกเผาทั้งเป็นอยู่ที่นี่จริงๆ !

โล่เหล็กร้อนราวกับไฟ เหล่าทหารใช้แขนเสื้อคลุมโล่ไว้อีกชั้นหนึ่ง เร่งฝีเท้าตรงไปที่ทางออกอย่างรวดเร็ว ด้านนอกเต็มไปด้วยเสียงร้องโอดครวญและเสียงธนู ฟังดูน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก

คนอย่างอวิ๋นพั่วสิงไม่อยากตายอยู่ที่นี่ ความฝันสูงสุดในชีวิตนี้ของเขาคือการเอาชนะไป๋เวยถิง บัดนี้ลูกชายหลานชายของไป๋เวยถิงเสียชีวิตลงหมดแล้ว เขาไม่อยากตายด้วยน้ำมือของหลานสาวของไป๋เวยถิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลานสาวของไป๋เวยถิงเอาชนะเขาด้วยกำลังทหารที่น้อยกว่าเช่นนี้ หากเป็นเช่นนั้นเขาคงไม่มีทางลบล้างชื่อเสียงที่ว่าเขาไม่มีทางเอาชนะกองทัพไป๋ได้เลย

แม่ทัพหวังสี่ผิงของกองทัพต้าจิ้นที่ถอยทัพออกมาอยู่ตรงบริเวณทางออกของหุบเขาเวิ่งยันมือสองข้างไว้ที่หัวเข่าพลางหอบหายใจอย่างเหน็ดเหนื่อย ใบหน้าเต็มไปด้วยคราบเลือดและคราบโคลน เขาหันกลับไปมองกองทัพต้าจิ้นและกองทัพไป๋ที่วิ่งออกมาจากหุบเขาไม่ขาดสาย สภาพของแต่ละคนสะบักสะบอม คราบเลือดและคราบโคลนเลอะเปื้อนลำตัวและชุดเกราะจนแยกไม่ออกว่าคือเลือดหรือโคลนกันแน่!

จู่ๆ เขาก็มองเห็นเปลวไฟลุกท่วมในหุบเขา เขารีบถลาเข้าไปหาแม่ทัพเฉิงหย่วนจื้อพลางกำหมัดเอ่ยถาม “แม่ทัพเฉิง ถอยทัพออกมาแล้วพวกเราต้องทำสิ่งใดต่อขอรับ”

“คุ้มกันทางออกของหุบเขา สู้รบกับกองทัพของซีเหลียงที่หนีออกมาจากหุบเขาให้ตายกันไปข้างหนึ่ง!” เฉิงหย่วนจื้อกำดาบใหญ่ในมือแน่น ดวงตาเป็นประกายร้อนแรง