225 สาวน้อยผู้แสนซน

สัญญาว่าจ้างกับเอิร์ลดาเรนวาลด์เวลานี้กำหนดว่าเราจะทำงานให้เขาเป็นอย่างน้อยหนึ่งเดือน และหลังจากช่วงเวลานั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ เราจะทำสัญญาใหม่มากที่สุดสามเดือน

ในเดือนที่ผ่านมา เรากำจัดโจรสลัดไปเป็นจำนวนมาก, ขยี้ฐานหลักของพวกมัน, และสู้กับศัตรูผู้สมควรที่จะเกี่ยวข้องกับตระกูลนอกตระกูลอิซเทอมัลที่ต้องสงสัยว่ามอบทุนให้โจรสลัดเพื่อจะก่อกวนตระกูลดาเรนวาลด์ มันค่อนข้างเป็นเดือนที่วุ่นวาย

และผลลัพธ์ โจรสลัดไม่ค่อยออกมาเด่นระหว่างสิบวันสุดท้าย และความปลอดภัยสาธารณณะโดยรวมพัฒนานิดหน่อย แต่ก็เพียงชั่วคราว อย่างน้อย นั่นคืออะไรที่ข้อมูลบ่งบอก

“และดังนั้นเอง นั่นหมายถึง สัญญากับตระกูลดาเรนวาลตอนนี้จบอย่างเป็นทางการแล้ว ถ้าอย่างนั้น… อีกไม่นานฮิโระซามะก็จะบินไปที่ไหนสักแห่งไกลเอื้อมมือหนูอีกแล้ว ถูกมั้ย”

“เอ่อ… ใช่ พี่ว่า”

ผมพยักหน้าอย่างจริงใจตอบ

ตอนนี้ผมกำลังมาเยือนห้องทำงานของคริสบนโคโลนีโคแม็ตไพร์ม เวลาตอนนี้เกือบดึก

คริสกำลังนั่งหลังโต๊ะทำงานใหญ่ๆ และหน้าต่างใหญ่ๆหลังเธอถึงแสดงให้เห็นถึงทิวทัศน์กลางคืนของโคร์แม็ตไพร์มในความสวยงามทั้งหมด

บนโคแม็ตไพร์ม แสงอาทิตย์ประดิษฐ์ภายในโคโลนีนีถูกปิดระหว่าง 6 โมงตอนเย็นจนถึง ตี 5 วันต่อมา จำลองเวลากลางคืน

“ความรู้สึกของหนูสำหรับพี่ยังไม่เปลี่ยน รู้มั้ย”

“……เอ่อ”

ผมทำไม่ได้แม้กระทั่งตอบกลับไปสู่คริสผู้เพิ่งสารภาพรักกับผมอีกครั้งระหว่างมองตาผมตรงๆ ถ้าผมเป็นคนประเภทที่พูดฉลาดๆในสถานการณ์แบบนี้ ถ้าอย่างนั้นผมน่าจะถูกจัดหมวดหมู่เป็นพวกสิงนักล่าหญิง แต่โชคร้าย นั่นแค่ไม่ใช่ผม

“เมื่อไหร่ที่หนูจะได้เห็นพี่อีกครั้ง ฮิโระซามะ?”

“นั่น…… พี่ก็ไม่แน่ใจ”

“ถ้าอย่างนั้นมันเป็นอย่างนั้นสินะ ฮิโระซามะจะไม่อยากเจอกับสาวมีปัญหาเหมือนหนูถ้ามันไม่ใช่ทำงาน”

“นั่นไม่จริง เข้าใจพี่หน่อย! นั่นมากไปนิดหน่อย แม้ว่าสำหรับพี่!”

ระหว่างมีความสัมพันธ์ระหว่างผู้ชายและผู้หญิงกับคริสนั้นเป็นอะไรที่ไม่ได้เลยอย่างแน่นอนที่สุดเนื่องด้วยความต่างของอายุและยศศักดิ์ นั่นไม่ได้หมายถึงผมตีตัวออกห่างจากเธอ

มีปัญหาหลายอย่าง แต่ผมคิดว่าคนส่วนใหญ่จะรู้สึกดีถ้าสาวสวยเหมือนคริสบอกว่าเธอรักคนนั้น

แน่นอน นั่นรวมถึงผมด้วย

“ถ้าอย่างนั้นนั่นหมายถึงจริงๆแล้วพี่ไม่ได้เกลียดหนูเหรอ ฮิโระซามะ?”

“……พี่ก็ยังไม่อยู่อยู่ดีนั่นแหละ โอเค๊”

อย่างไรก็ไม่รู้ ผมรู้สึกว่านัยน์ตน์โอนิกซ์แวววาวของคริสมีสีออกแปลกและผมก้าวถอยหลังอย่างไม่ได้ตั้งใจ ผมสงสัยว่านั่นอะไร? มันค่อนข้างรู้สึกเหมือนระฆังเตือนกำลังดังข้างในหัวผมด้วยเหตุผลบางอย่าง

“พูดถึงแล้ว พี่ไปคนเดียววันนี้ ใช่มั้ย?”

“เอ่อ ใช่ มีมิและเอลม่ารอกันอยู่ที่ยานวันนี้… และเมย์ดูเหมือนยุ่งกับการตรวจขั้นสุดท้ายกับข้อมูลอันถูกบันทึกที่ถูกส่งให้เธอโดยบริษัทผลิตสื่อ”

“หนูเข้าใจแล้ว หนูกังวลมากๆ ฮิโระซามะ”

“กังวล?”

คริสจับแก้มเธอด้วยมือหนึ่งขณะเอียงหัวและแสดงสีหน้ากังวล ผมจบที่การเอียงหัวผมด้วยเหมือนกัน สภาพแปลกประหลาดจากก่อนหน้าหายไปแล้ว และเธอดูเหมือนกังวลผมของแท้ครั้งนี้

“หนูคิดว่าฮิโระซามะจะมีโอกาสติดต่อกับขุนนางมากขึ้นจากตอนนี้ไป มีความเป็นไปได้ว่าพวกเขาบางคนจะยึดพลังของยานอวกาศและทำทุกๆอย่างเพื่อให้ได้มัน”

“เข้าใจแล้ว พี่จะให้แน่ใจว่าระวัง”

ผมพยักหน้าอย่างเชื่อฟังสู่คำพูดคริส แน่นอนมีโอกาสดีที่เราจะดึงดูดความสนใจคนเช่นนั้น ขณะผมตั้งมั่นจิตใจให้ระวังมากกว่านี้และยกหัวขึ้นเพื่อเผชิญหน้าคริสอีกครั้ง ผมพบว่าเธอยิ้มกว้างขณะเธอวางมือบนเสื้อผ้าเธอด้วยเหตุผลบางอย่าง

“ทำอะ–?”

“คิ่ย้าาา–!”

อยู่ดีๆคริสก็เสียงดัง เอ่อ พื้อฐานแล้วเธอกรี๊ด ไม่ใช่หรือ? แต่ความดังเสียงและคีย์เสียงของการกรี๊ดของเธอดูเหมือนจะไร้ทำนอง

“ท-ทำไม่ได้นะ ฮิโระซามะ–”

“เอ๋? เออ๋!?”

มือคริสเคลื่อนที่ช้าๆขณะเธอปลดกระดุมของชุดเธอทีละเม็ดทั้งหมด เธอทำให้ชุดหลวมลงและแง้มเฉี่ยวเห็นบราและคอน้องเขา ซึ่งเปลี่ยนเป็นสีออกเชอรี่พิงก์ โว่!

ตอนนี้เดี๋ยวก่อน! หยุดตรงนั้นเลยนะ สาว!

“อ๊าน นั่นไม่ได้นะ ฮิโระซาม้า พี่แรงเกินไป–”

“อะ–!? อ่ะร่ะ–!? อะไรที่หนูกำลังทำกันเนี่ย?”

“และในท้ายที่สุด หนูแค่ต้องกดปุ่มเพื่อเรียกผู้รักษาความปลอดภัยเข้ามา”

“หยู้ดดดดดดด!?”

ขณะคริสเริ่มเอื้อมหาวัตถุทรงไข่เล็กๆบนโต๊ะเธอ ผมรีบไปหาเธอและจับข้อมือเธออย่างแน่นเพื่อเลี่ยงเธอจากการกระทำไม่คิด

“อุฟุฟุ ถ้าบางคนมาเห็นเราตอนนี้ พี่จะไม่สามารถอ้างได้ พี่รู้มั้ย”

คริสหัวเราะคิกคักอย่างซุกซนขณะเธอมองขึ้นมาที่หน้าผมด้วยแววยั่วยวนในดวงตาเธอ แก้มแดงของเธอ, ริมฝีปากของเธอ, และคอขาวๆของเธอทำให้เธอดูค่อนข้างดึงดูดหัวใจแปลกๆด้วยและผมช่วยไม่ได้นอกจากหันหัวออกไป

“คริส การแกล้งแบบนี้ไม่ตลก เข้าใจมั้ย ไม่ว่าเราสนิทกันแค่ไหน บางอย่างแบบนี้ยังไม่ผ่าน”

“ค่ะ หนูขอโทษค่ะ แต่หนูหมายความอย่างนั้นจริงๆเมื่อหนูพูดว่าพี่ต้องระวัง เข้าใจมั้ยคะ?”

“……ระวังอะไร?”

ทันทีเมื่อผมหันกลับไปสู่คริส เธอยกมือและโอบคอผม และจากนั้น เธอดึงผมไปและวางจูบบนริมฝีปากผม

ตัวผมเกร็งครู่หนึ่งหลังจากถูกโจมตีด้วยความรู้สึกนุ่มบนริมฝีปาก

คริสมองหน้าอันแดงของผมด้วยสายตามองขึ้นมา

“ขุนนางหญิงที่ขี้แอบและร้ายกาจอาจพยายามฝืนก่อความสัมพันธ์กับพี่แบบนี้รู้มั้ย ดังนั้นพี่ไปเจอกับคุณนายขุนนางใดๆอื่นไม่ได้ตามลำพังนอกจากหนู เข้าใจมั้ย?”

“……ได้”

อะไรกันเนี่ย? ผมฟันดาบปะทะกับขุนนางและชนะ, รอดชีวิตจากการต่อสู้กับทวิสต์แสนดุร้ายและไอ้จอมจับใหญ่อย่างโง่เง่านั้น, และรับมือกับสัตว์ประหาดสี่แขน แต่เอาเข้าจริงสุดท้ายผมตกกับดักโดยคริสแบบนี้หือ

บางทีเธอนั้นพอใจกับการตอบเชื่อฟังของผม คริสแยกตัวเธอเองจากผมระหว่างมีสีหน้าคล้ายกับแมวซุกซน จากนั้นเธอติดกระดุมชุดเธออีกครั้ง แต่ทำให้แน่ใจว่าทำแบบยั่วชัดหน้าผม ชัดเจนว่าเธอยั่วยุผม แต่ผมไม่เคลื่อนไหวสักคืบ มันจะเป็นภัยพิบัติถ้าผมเปลี่ยนเป็นโลลิค่อน!

“……หนูไม่ถือที่จะทำให้ความสัมพันธ์และการเป็นคู่กันแล้วเป็นความจริงที่นี่และตอนนี้ รู้มั้ย?”

“หยุดแกล้งใจพี่ได้แล้ว…… ให้ตายเถอะน่า มันแค่สักพักเดียวสั้นๆตั้งแต่เราจากกัน และก่อนพี่รู้ตัว น้องกลายเป็นสาวแสนซนแล้ว ไม่ใช่เหรอเนี่ย?”

“สาวน่ะโตขึ้นเร็วมากๆนะ รู้มั้ย”

โอ้ ผมรู้ โดยเฉพาะสาวที่ผมรัก ผมว่า

ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากปิดปากผมขณะคริสยิ้มให้ผมต่อไปเรื่อยๆ

 

 

“สาวน่ากลัวอ่ะ”

“นี่อาการกลัวผู้หญิงฉับพลันเหรอคะ?”

เมย์ออกความคิดเห็นที่ไม่ตรงขณะเธอเอียงหัว

เอ่อมันไม่จริงจังทั้งหมดมันแค่ก่อนผมแยกมา น้องสาวคนนั้นมอบคำจากลาเหล่านี้ให้ผม: หนูอาจแค่บอกปู่ที่รักของหนูหลายๆอย่างอันแอบอยู่ในหัวใจหนูเพราะความเหงา ใครจะรู้เนาะว่าอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนั้น? เห็นไหมเล่า? ผมอดสั่นไม่ได้หลังจากได้ยินนั่น

อืม มันคริส ดังนั้นเธอน่าจะล้อเล่น เธอล้อเล่น ใช่ไหม?

“ไม่ ฉันไม่เป็นไร น่าจะ ช่าย แน่นอนนั่นไม่มีปัญหา”

“เป็นอย่างนั้นเหรอคะ? นั่นสำหรับอะไรที่ดีที่สุด”

เมย์พยักหน้าขณะเธอแสดงวีดีโอต่อบนจอหลักของบัวดำ วีดีโอคือกฤษณะกำลังทำลายยานโจรสลัดศัตรู และยานประจันบานกำลังยิงเป็นชุด

กฤษณะและยานอวกาศลำอื่นกวาดล้างจอมจับและบินลอยไถจากการสนับสนุนทางอากาศใกล้ๆ และตัวผมกำลังกวัดแกว่งดาบกลางพายุรุนแรง

“ดิฉันตรวจข้อมูลวีดีโอทั้งหมดที่ถูกส่งเพื่อตรวจสอบโดยบริษัทผลิตสื่อทั้งสี่แล้ว หนูได้ลบทุกอย่างที่อาจทำให้ความปลอดภัยยานของเราเสียหาย”

“ขอบคุณ มันต้องลำบากกับเธอแน่?”

“มันใช้เวลาไปบ้าง แต่มันไม่ยากเลยสักนิดค่ะ”

“อาจเป็นอย่างนั้น แต่ฉันก็ยังอยากขอบคุณเธออยู่ดี ฉันถึงขั้นอยากจะมอบรางวัล แต่จริงๆแล้วเธอต้องการรางวัลแบบไหน เมย์?”

พื้นฐานแล้ว เมย์ไม่ได้ดูเหมือนมีความต้องการวัตถุ และเธอไม่อยากได้เงินค่าจ้างด้วยเหมือนกัน ดังนั้นผมไม่รู้เลยว่าผมจะให้รางวัลเธอได้อย่างไร

“รางวัลเหรอคะ?”

“ใช่แล้ว รางวัล แม้ว่ามันอยู่ในธรรมชาติของเธอที่ทำงานให้ฉันอย่างไร้เงื่อนไขในฐานะดรอยด์แม่บ้าน เพราะเธอทำเต็มที่อยู่ตลอด ฉันยังอยากมอบรางวัลให้เธอไง เมย์”

“เข้าใจแล้วส อืม ถ้าอย่างนั้น–”

เมอ้าแขนกว้างระหว่างยังมีหน้าไร้สีหน้าปรกติ มันเหมือนเธอขอการกอด

“ได้โปรดโอบกอดหนู”

“หืม?”

“พลังงานของดรอยด์แม่บ้านสามารถถูกเติมได้โดยอนุภาคที่ถูกเรียกมานายท่านเนียม ซึ่งสามารถจะได้รับไม่ว่าเมื่อไหร่ที่นายท่านโอบกอดคนนั้น มันก็มีผลข้างเคียงเป็นการเพิ่มผลงานด้วยเหมือกัน”

“หืม? อืม ถ้ามันแค่การกอด ถ้าอย่างนั้น ได้สิ”

“ได้โปรด”

นั่นสมควรเป็นมุขดรอยด์แม่บ้านหรือบางอย่างหรือ? ผมยืนขึ้น อ้าแขน และกอดแขนแน่นๆรอบเมย์ผู้รอรับ

หลังจากผมทำอย่างนั้น เมย์เอาแขนกอดผมกลับ ผมสงสัยว่าทำไมเมย์มีกลิ่นหอมแม้ว่าเธอสมควรเป็นเครื่องจักร? ผมคิดว่าความอุ่นร่างกายมาจากความร้อนตกค้างที่ถูกส่งออกโดยเครื่องกำเนิดพลังงานหรือบางอย่าง เส้นใยก้ามเนื้อและโครงกระดูกสมควรสร้างด้วยโลหะผสม แต่ร่างกายเธอยังนิ่มเท่าผู้หญิงที่มีสภาพชีวภาพนั่น ผมคิดว่าเธออาจเป็นตัวตนลึกลับมากที่สุดผู้ผมเจอในมิตินี้ ใช่ มากกว่ากฤษณะและบัวดำด้วยซ้ำ

เมย์และผมกอดกันสักพักใหญ่และจากนั้นแยกกันตามธรรมชาติ และหลังจากช่วงเวลาตั้งใจกอดลึกลับ สีหน้าเมย์ไม่ได้ไร้สีหน้าเหมือนเคย

จริงแล้วเธอดูเหมือนมีความสุขและพอใจ มุมของปากเธอก่อเกิดเป็นรอยยิ้มอ่อนบางจางแทบไม่เห็น

“เธอได้เติมนายท่านเนียมเต็มยังล่ะ?”

“ค่ะ ความจุการประมวลผลหนูเพิ่มขึ้น 4%”

“นั่นยอดเยี่ยม”

มันน่าจะแค่มุขดรอยด์แม่บ้าน แต่มันจะน่าทึ่งถ้าช่วงเวลาตั้งใจกอดนั้นสามารถเพิ่มความสามารถประมวลผลเธอ 4% ได้จริงๆ แบบนั้น ถ้าผมกอดเมย์ทุกวัน สมรรถภาพโดยรวมเมย์น่าจะเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่า

ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ ในที่สุดเราก็จะบอกลาก่อนกับระบบดาวนี้หลังจากคนผลิตสื่อเตรียมการเดินทางเสร็จสมบูรณ์ ผมค่อนข้างรู้สึกเหมือนเราลืมบางอย่าง แต่มันไม่ควรเป็นเรื่องใหญ่

ผมสงสัยนิดหน่อยเกี่ยวกับอะไรที่เอิร์ลอิซเทอมัลจะทำต่อไปและว่าสัตว์ประหลาดสี่แขนนั้นเป็นเกริตซ์จริงหรือไม่ แต่มันไม่เหมือนว่าผมจำเป็นต้องรู้จริงๆ  ความเสี่ยงที่มาพร้อมการแง้มเห็นความจริงนั้นมากเกินไป และราคาสูงแลกกับเพียงแค่อิ่มความสงสัยของผม ถ้าผมรู้เข้าจริงว่าจริงๆแล้วเกิดอะไรขึ้นด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง ผมแน่ใจว่าผมจะตกเป็นเป้าหมายของเอิร์ลอิซเทอมัล

เราจากไปเร็วเท่าการเตรียมการเสร็จดีกว่าถ้าอย่างนั้น

แปลโดย: wayuwayu

tipme : tipme.in.th/wayuwayutl

ได้โปรดโดเนทเพื่อสนับสนุนผู้แปล ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ: ​http://linktr.ee/wayuwayu