ตอนที่ 168 – สาเหตุที่พวกยักษ์สูญพันธ์?

*ก่อนจะอ่านนิยาย โปรดตรวจสอบว่าท่านได้อยู่ในสถานที่ที่มีแสงเพียงพอ หรือถ้าท่านอ่านในความมืดก็อย่าลืมเปิด Night Mode หรือจอส้ม เพื่อป้องกันการปวดหัวและสายตาสั้นด้วยนะครับ*

ความอดทนเท่านั้นที่จะช่วยได้

นี่คือสิ่งที่เย่เทียนกําลังคิด!

ถนนมันทั้งยาวและลึกมาก มีทางเลี้ยวคดเคี้ยวไปหมด ด้านนอกอาจจะดูเล็กแต่ด้านในนี่กว้าง, แถมยังดูดแรงอีกด้วยจนเขาแทบจะถึงขีดจํากัดอยู่แล้ว

นั่นคือปัญหาที่เย่เทียนกําลังประสบอยู่

แต่เขาก็แกร่งและกล้าพอที่จะใช้ถนนนั้นต่อ นอกจากจะไปสุดถนนจนเจอห้องโล่งๆแล้ว เขายังเข้าออกห้องนั้นได้ตามใจด้วย.

สุดท้ายเย่เทียนก็มาถึงขีดจํากัดและปล่อยของไว้ในห้องโล่งนั่น.

แต่ทว่าไข่สองข้างของเขาก็ได้จากไปแล้ว

“เจ้านายคะ….”

ผ่านไปซักพัก โฟบี้รู้สึกมึนๆแล้วพึมพําออกมาเบาๆ พร้อมเอาเย่เทียนมากอดให้จมอกเธอไว้

“ข้าบอกแล้วว่าข้าไม่ได้เป็นเจ้า”

เย่เทียนเงยหน้าขึ้นมา, ยิ้มแล้วพูด.

“ค่ะ ขอบคุณค่ะ เจ้านายผู้ใจดี…”

โฟบี้กล่าวด้วยความรู้สึกทราบซึ้งและดีใจมากๆ. มันเหมือนกับของขวัญเลย เพราะเธอไม่เคยได้รู้สึกแบบนั้นมาก่อน.

“ทําไมถึงนานจังล่ะคะ เจ้านาย?.

โฟบี้ถามด้วยความสงสัย

“ถามทําไมเหรอ?”

เย่เทียนเองก็ตกใจจึงถามไป.

“ถึงแม้ข้าจะไม่เคยมาก่อน แต่ข้าก็เคยเห็นพ่อแม่…..ทํากันแล้วเสร็จเร็วมาก ดูเหมือนว่ามีแค่พ่อของข้าที่มีความสุขคนเดียว แม่ข้าดูไม่มีความสุขเท่าไหร่เลยค่ะ…”

โฟบี้พูดด้วยความสงสัยมากๆ

“อ่อ….เพราะเจ้านายของเจ้าคือตํานานยังไงล่ะ!”

เย่เทียนยิ้มแต่ในใจเขาก็รู้สึกโล่งขึ้นมา พวกยักษ์นั้นแข็งแรงเกินไปและร่างกายเองก็แน่นมากๆด้วย ดังนั้น มันจึงค่อนข้างน่ากลัว แถมทางยังคดเคี้ยว เนินนูนตลอดทางแบบนั้น คงมีไม่กี่คนหรอกที่ทนไหว

เย่เทียนเดาว่านี่คงเป็นหนึ่งในสาเหตุที่พวกยักษ์สูญพันธ์สินะ.

เพราะถ้ายักษ์ชายไม่แข็งแรงพอโอกาสก็จะต่ําลงเพราะเชื้อมันไปไม่ถึงเส้นชัย

นี่มันทฤษฎีผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะอยู่รอดรึป่าวเนี่ย?

บางทีพวกยักษ์สาวอาจจะวิวัฒนาการตัวเองให้มีโครงสร้างร่างกายที่แข็งแกร่งเพื่อลูกที่เกิดมาจะได้แข็งแรงก็ได้ มีเพียงยักษ์ชายที่แข็งแกร่งพอเท่านั้นที่จะสืบสายพันธ์ต่อไปได้

แต่เพราะพวกยักษ์ยังไม่พัฒนาอารยธรรมการทําฟาร์มหรือปศุสัตว์ ชีวิตส่วนใหญ่จึงต้องออกล่าเท่านั้น พวกยักษ์ชายที่แกร่งๆจะต้องพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลับมาพร้อมกับอาหารเยอะๆ แต่นั่นก็หมายความว่าพวกเขาก็จะต้องเผชิญหน้ากับสัตว์ที่อันตรายมากๆด้วยเช่นกัน

“พ่อแม่เจ้ายังมีชีวิตอยู่รึป่าว?”

เย่เทียนถาม.

“ค่ะ! พ่อข้าเป็นนักรบที่ยิ่งใหญ่ แม่ของข้าเป็นหญิงงาม…”

โฟบี้กล่าวอย่างภาคภูมิใจ

“นักรบรี? นักรบของเจ้าแพ้ให้กับมนุษย์ตัวจ้อยและช่วยเจ้าไว้ไม่ได้นี่นะ…”

เย่เทียนส่ายหัว.

“เจ้านายคะ…..ธนูและศรของมนุษย์นั้นน่ากลัวเกินไปแถมอาวุธพวกเขายังคมมากๆด้วย….”

โฟบี้อธิบายด้วยความเสียใจ

“เจ้าพอจะเดาได้ไหมว่าเผ่าของเจ้าย้ายไปที่ใดแล้ว?”

เย่เทียนถาม.

“ข้าไม่รู้ค่ะ แต่พวกเขาไม่น่าไปได้ไกลเพราะเผ่าของเราจะไม่ไปไกลจากถิ่นที่เรารู้จัก!”

โฟบี้อธิบาย เธอเชื่อฟังเย่เทียนอยู่แล้ว พอได้เป็นผู้หญิงของเขานางจึงไม่ปิดบัง

“พอเรื่องที่นี่อยู่ตัวแล้ว เจ้าช่วยพาข้าไปหาพวกเขาได้มั้ย?”

เย่เทียนนึกแล้วถามโฟบี้ไป.

“เจ้านายจะไปจับเผ่าของข้ารคะ?”

โฟบี้ถาม.

“ใช่!”

เย่เทียนพยักหน้าแล้วพูด “เจ้าไม่คิดหรอว่าถ้าพวกเขามาอยู่ที่นี่จะมีชีวิตที่ดีกว่านะ? นึกดูดีๆนะ ที่นี่เจ้าได้กินอิ่มท้องและได้ใส่เสื้อผ้าอุ่นๆ…”

“อืมมม ข้ารู้ค่ะ งั้นข้าจะช่วยเจ้านายตามหาพวกเขาเองค่ะ! ต่อให้พวกเขาหนีไป ข้าก็จะไปตามให้!”

โฟบี้ยิ้มแล้วตอบเย่เทียนอย่างดีใจ

“เอาล่ะ เข้านอนกันเถอะ…”

เย่เทียนหาวแล้วกอดภูเขาสีขาวแล้วหลับตาลง

“อ๊ากกก….เจ้าชั่วซาตาน!!”

สตราโบสะดุ้งตื่นเพราะความเจ็บปวดแล้วร้องโหยหวนออกมา พอเขาลืมตาขึ้นเขาก็อยู่ที่บ้านแล้ว จากนั้นก็พยายามเดินไปที่ห้องสมุด

“อั่กก….”

เสียงร้องโหยหวนเจ็บปวดดังไปทั่วห้องสมุดจนสตราโบสลบไปอีกรอบ.

เขาเสี่ยงดวงไปและสิ่งที่ได้กลับมาก็คือความทรมาณ อัณฑะเขาหายไปแล้วพร้อมๆกับส่วนปลายไปครึ่งนึงด้วย.

ชีวิตนี้เขาต้องบอกลาความเป็นชายแล้ว

“ไม่นะ….”

เสียงถอนหายใจดังออกมาพร้อมๆกับหญิงชั้นสูงหุ่นอวบคนหนึ่งโผล่ออกมา น้ําตาของเธอเริ่มคลอเบ้า

นางคือภรรยาของสตราโบ และสภาพที่น่าสงสารของเขาทําให้ใจเธอสลดมากขึ้นไปอีก

เธอกําลังจะกลายเป็นแม่หม้ายไปแล้ว

“ท่านแม่ครับ…ท่านพ่อ…เขา…”

ปอมปีย์เองก็โผล่ออกมาด้วย พร้อมสีหน้าที่เศร้าหมองและโกรธเกรี้ยว

ถึงพ่อเขาจะไม่ตายแต่เขาก็เสียความเป็นชายไปแล้ว เขาไม่รู้ว่าพ่อเขาจะกลับมาเป็นปกติได้ไหม ถ้าไม่ได้ล่ะก็ ตระกูลเขาก็จะต้องพินาศ.

“พ่อไม่เป็นอะไรหรอก อย่างน้อยก็ไม่ถึงชีวิต…..เจ้าเลิกคิดเรื่องนี้ไปก่อนเถอะ ตอนนี้สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง?”

เวลิน่ากล่าวเบาๆ

“ตระกูลมาเรียส,ฉินน่า,เวิร์นเนอร์,จูเลียส และออเรเลียสค็อตต้าได้ส่งคําร้องให้ทางสภาตรวจสอบเรื่องที่ซาตานโดนลอบโจมตีอย่างละเอียดแล้วครับ……”

ปอมปีย์กําหมัดแน่น เขาโมโหจนแทบจะกระอักเลือดออกมา พวกเขาเป็นเหยื่อชัดๆ ต้องขอบใจที่เย่เทียนพูดวันนั้น ตอนนี้มีดถึงได้มาจ่อคอพวกเขาอยู่

“เจ้าซาตานชั่วนั่น มันสมควรตายจริงๆ!!”

เวลิน่าตัวสั่นและโมโหขึ้นมา

“ท่านเทเรโดส่งจดหมายมาแล้วครับ เขาบอกว่าเขาสามารถจัดการเรื่องนี้ให้ได้ แต่เพื่อเป็นการตอบแทนเขาอยากให้ตระกูลเราสนับสนุนเขาถ้าถึงเวลาจําเป็น!”

ปอมปีย์กล่าวด้วยเสียงทุ้ม

“ตกลงไปซะ พ่อของเจ้าต้องรักษาตัวตอนนี้จะให้เขามากังวลเรื่องพวกนี้ไม่ได้และเราก็ไม่มีอารมณ์จะมาสะสางเรื่องนี้ด้วยตัวเองด้วย!”

เวลิน่ามองดูสตราโบที่สลบอยู่แล้วพูดเบาๆ

“เข้าใจแล้วครับ ข้าจะไปบอกเขาเอง ท่านแม่!”

ปอมปีย์ก้มหัวแล้วออกห้องไป. เขาไม่เหลือแรงใจใดๆเลย.

เย่เทียนเล่นครอบครัวเขาหนักจริงๆรอบนี้