ตอนนี้เวลาตีห้ายี่สิบนาที
รองผู้อำนวยการแผนกแพนที่สวมเสื้อคุลมสีขาวขนาดใหญ่และเดินผ่านห้องพักฟื้นเมื่อเขาเดินเข้าไปในห้องพักฟื้นที่สี่ เขาเห็นผู้ป่วยไม่กี่คนที่ตื่นขึ้นมาก่อนการทำการภาพเพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพในตอนเช้า
เจิ้งฉีเป็นคนหนึ่งที่ตื่นขึ้นมารวมถึงพี่สาวของรองผู้อำนวยการแผนกแพนที่เป็นภรรยา ซึ่งพี่สาวของรองผู้อำนวยการแผนกแพนเธอชื่อว่า แพนจินยูเธอยืนออยู่ข้างๆเตียงผู้ป่วย
“พี่เขยเป็นอย่างไรบ้าง?” ซึ่งรองผู้อำนวยการแผนกแพนดูให้มันใจว่าไม่มีแพทย์ที่ดูแลคนใครอยู่แถวนั้นก่อนจะออกมาพี่เขยของเขา
“ พี่ก็บอกไม่ได้” นางพยาบาลจินยู่ม่ไม่สบอารมณ์มากแต่เธอและเธอมีคำถามที่จะถาม“ พี่เขยของแก่เพิ่งเย็บเมื่อสิบสองชั่วโมงก่อนเขาสามารถทำกายภาพได้แล้วอย่างงั้นรึ?
“ชูว.” รองผู้อำนวยการแผนกแพนใช้นิ้วชี้และมองไปรอบๆผู้ป่วย และพูดว่า “ฉันลืมบอกพี่ว่าอย่าพูดถึงฉันในแผนกฉุกเฉินละ”
แพนจินยูเริ่มโวยวาย
รองผู้อำนวยการแผนกแพนถอนหายใจและพูดว่า “ถ้าหลิงรันไม่ใช่ศัลยแพทย์ที่เก่ง มันคงมีปัญหาตามมามากหมาย”
จริงๆแล้วนี่คือสิ่งที่เขาไม่เต็มใจที่จะยอมรับ แต่ในเวลานั้นเขาต้องโน้มน้าวให้พี่สาวและพี่เขยให้อยู่ในการดูแลของหลิงรัน ดังนั้นเขาตึงยอมเสียศักดิ์ศรีในครั้งนี้
พี่สาวของเขาอารมณ์เสียแล้วที่รองผู้อำนวยการแผนกแพนไม่ได้ทำการผ่าตัดด้วยตัวเองแต่ในตอนนี้รองผู้อำนวยการแผนกแพนกลัวว่าเธอกำลังจะเป็นบ้า
ตอนนี้พี่สาวของเขาคุมสติไม่อยู่และไม่ได้ดูสุขุมเหมือนตอนเจอกันก่อนผ่าตัดเธอถามซ้ำอีก “มันเหมาะสมแล้วใช่ไหมที่จะให้ทำกายภาพหลังการผ่าตัดเลย?”
แม้ว่าเจิ้งเฉียจะไม่พูดอะไร แต่สายตาของเขาก็บ่งบอกอย่างชัดเจนว่าเขาให้ความสนใจกับบทสนทนาระหว่างภรรยากับน้องเขย
ผู้ป่วยมักจะรู้สึกกลัวในวันรุ่งขึ้นหลังจากผ่าตัดเจิ้งฉีใช้เวลาสองสามชั่วโมงในร้องโอดโอยและอีกสองสามชั่วโมงอยู่ภายใต้การดมยาสลบสำหรับเมื่อวันก่อนเขาไม่ได้หลับสบายหลังการผ่าตัดแต่ตอนนี้เขาดูซีดเซียวจนเหมือนว่าเขาไม่ใช่คน
“มันจะเลื่อนไปอีกวันไม่ได้หรอ?” แพทย์ทุกคนของนายไม่เกรงใจฉันเลย” แพนจินยูกล่าวอย่างเหลืออด
“ให้ฉันใช้วิธีนี้ … ” แพนหัวถอนหายใจแล้วพูดว่า “โดยปกติการทำกายภาพจะเริ่มทำหลังผ่าตัดยี่สิบสี่ชั่วโมง”
“ห๊ะ?” แพนจินยูทุบโต๊ะแล้วลุกขึ้นยืน “แพทย์หนุ่มคนนั้นตั้งใจจะแกล้งพวกเรารึเปล่าเนี่ย?”
“นั่งลงก่อนเถอะ” รองผู้อำนวยการแผนกแพนมองไปรอบ ๆ แบบแอบ”ขอให้ฉันพูดให้เสร็จก่อน”
แม้ว่ารองผู้อำนวยการแผนกแพนจะพยายามทำให้แพนจินยูนั่งลง แต่เธอก็ยังทำตัวน่ารำคาญมาก
เจิ้งฉีลุกขึ้นมานั้งช่นกันคิ้วของเขาขมวดคิ้วแน่น
“ ที่จริงแล้วมันไม่ใช่เรื่องเลวร้ายเลยที่จะเริ่มการกายภาพในตอนนี้” รองผู้อำนวยการแผนกแพนบอก
แพนจินยูหยุดขมวดคิ้วแล้วมองไปที่เขา
“เป็นเรื่องที่อันตรายมากสำหรับผู้ป่วยที่จะเริ่มพักฟื้นเพียงสิบสองชั่วโมงหลังการผ่าตัดเนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่เส้นเอ็นที่ถูกเย็บจะขาดแต่อย่างไรก็ตามเมื่อเริ่มการฟื้นฟูในตอนนี้ความน่าจะเป็นของการยึดเกาะจะลดลงอย่างมาก กล่าวอีกนัยหนึ่งตราบใดที่เส้นเอ็นไม่ฉีกการฟื้นตัวของมือจะดีขึ้น “หลังจากเขาพูดอย่างนี้รองผู้อำนวยการแผนกแพนมองไปที่พี่สาวของเขา และพี่เขยก่อนที่เขาจะพูดต่อ “ทำไมฉันถึงบอกว่านี่ไม่ใช่สิ่งเลวร้าย? หัวหน้าศัลยแพทย์รู้สถานการณ์ของเจิ้งฉีดีกว่าฉันเพราะเขามีความมั่นใจที่จะให้เขาเริ่มทำกายภาพในสิบสองชั่วโมงหลังจากการผ่าตัด มันหมายความว่าอย่างไรหมายความว่าเขามีความมั่นใจในการเย็บไหมถูกต้องไหม ”
แพนจินยูถามว่า “จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเส้นเอ็นเกิดขาด?”
รองผู้อำนวยการแผนกแพนตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า “ถ้าเส้นเอ็นขาดในการผ้าตัดครั้งที่สองความแข็งแรงของเส้นเอ็นในการเย็บจะไม่แข็งแรงเท่ากับครั้งแรกเมื่อมันเกิดขึ้นความสามารถของยึดเกาะจะไม่ถึงเกณฑ์มาตรฐานแน่นอน ”
แพนจินยูเธอเชื่อมั่นในคำพูดของรองผู้อำนวยการแผนกแพนก่อนหน้านี้ก็ไม่แน่ใจอีกครั้งทันทีเธอคิดและถามว่า “หัวเอ๋อนายจะจัดการเรื่องกายภาพบำบัดของเจิ้งฉีไหมถ้านายเป็นหัวหน้าศัลยแพทย์?”
ในขณะนั้นเขาคิดอีกครั้งก่อนพูดว่า “ถ้าผมเป็นหัวหน้าศัลยแพทย์ผมน่าจะจัดการให้เขาเริ่มทำกายภาพบำบัดหลังสามสิบหกชั่วโมงหลังจากการผ่าตัด”
“หือทำไม?”
“ เพราะผมยังกลัวว่าเส้นเอ็นที่เพิ่งเย็บใหม่จะขาดออกจากัน” หลังจากเขาพูดสิ่งนี้รองผู้อำนวยการแผนกแพนมองเจิ้งฉีและพูดว่า“ สำหรับผู้ป่วยธรรมดาของผมที่มีอาการบาดเจ็บเหมือนพี่เขยหากไม่มีปัญหาระหว่าง การผ่าตัดผมจะจัดให้มีการฟื้นฟูและเริ่มต้นประมาณสามสิบชั่วโมงหลังจากนั้น แต่เมื่อแพทย์ปฏิบัติต่อญาติของพวกเขาพวกเขามักจะคิดหาข้อดีและหลีกเลี่ยงข้อเสียนี่อาจไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ทั้งพี่สาวและพี่เขยของเขานิ่งเงียบ
พวกเขากำลังพูดถึงมือของเจิ้งฉีและผลลัพธ์จะส่งผลกระทบต่อชีวิตของพวกเขาไม่มีใครอยากเสี่ยงแม้แต่น้อยที่สุด
หลังจากความเสี่ยงของการฉีกของเอ็น, ความเสี่ยงของการยึดเกาะในตอนนี้มันก็ดูไม่เสี่ยงเท่าไร
นอกจากนี้หากรองผู้อำนวยการแผนกแพนเป็นคนผ่าเองเขาก็จะจัดลำดับความสำคัญในการลดความเสี่ยงในการแยกความเสี่ยงของการยึดเกาะเช่นเดียวกับที่เขากล่าวนี่จะมันพ่อจะทำให้ทั้งคู่เข้าใจมากขึ้นเพราะทั้งคู่ไม่มีความรู้ทางแพทย์เลย
ความกังวลที่บอกว่านำไปสู่การตัดสินใจที่บกพร่องนั้นปรากฏชัดเจนในสถานการณ์นี้
รองผู้อำนวยการแผนกแพนรู้สึกว่าจากมุมมองของญาติมันเป็นเรื่องยากมากสำหรับเขาที่จะเห็นได้อย่างชัดเจนถึงข้อดีและข้อเสียของการเริ่มต้นการทำกายภาพบำบัดตั้งแต่ต้น
นอกจากนี้เนื่องจากเขาไม่ได้มีส่วนร่วมในการผ่าตัดเขาไม่ทราบว่ามีกระบวนการทำยังไงบ้าง อีกทั้งเขาไม่ทราบว่าการเย็บแข็งแรงแค่ไหนหรือถ้ามีข้อโต้แย้งใด ๆ เขาก็ไม่ได้อยู่ใน ตำแหน่งในการตัดสินสถานการณ์นั้น
“ในเมื่อแพทย์ผู้รักษาเป็นคนสั่งก็ควรจะทำตามที่แพทย์สั่งจะเป็นการดีที่สุด” รองผู้อำนวยการแผนกแพนพูด แต่เพียงคำเดียวหลังจากที่คิดถึงมันไปซักพัก
ในเวลาเดียวกันรองผู้อำนวยการแผนกแพนก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงตัวเองดูวิดีโอของหลิงรันที่ทำศัลยกรรมเขายังจำการผ่าตัดครั้งล่าสุดที่หลิงรันได้แสดง
เทคนิคเอ็มถังของเขานั้นสุดยอดในเรื่องความแข็งแรงในการเย็บและเขาใช้ประโยชน์จากความแรงนั้นอย่างเต็มที่
ปกติผู้ป่วยมักเริ่มการทำกายภาพสามวันหลังการผ่าตัดหากพวกเขาได้รับเทคนิคการเย็บแบบดั้งเดิมในบางกรณีผู้ป่วยอาจเริ่มการทำกายภาพเมื่อผ่านไปแล้วสองวันก็ได้ แต่มีเพียงเทคนิคเดียวเท่านั้นที่ผู้ป่วยสามารถทำกายภาพได้เลยหลังการผ่าตัดคือเทคนิคเอ็มถัง
ในหยุนหัวหลิงรันได้รับความร่วมมืออย่างมากจากผู้ป่วยที่เข้ารับการผ่าตัดโดยใช้เทคนิคเอ็มถังเพื่อเริ่มการฟื้นฟูสมรรถภาพแม้ก่อนหน้านี้ … เขาจะไม่ได้รับความร่วมมมือใดๆจากผู้ป่วยเลยเพราะเขาไม่ได้มาจากแผนกศัลยกรรมมือแต่อย่างไรก็ดีในโครงการเอ็มถังของโรงพยาบาลหยุนหัวนั้นมีแต่แพทย์ที่มาจากแผนกฉุกเฉินทั้งนั้น
โดยหากการผ่าตัดนี้ทำในแผนกศัลยกรรมมือแผนกจะไม่ปล่อยให้ผู้ป่วยเริ่มการกายภาพจนกว่าจะหลังจากยี่สิบสี่ชั่วโมงและให้ผู้ป่วยพักผ่อนประมาณสิบสองชั่วโมงซึ่งพวกเขายึดมั่นในประเพณีของแผนกมาก มันเป็นไปได้ว่าผู้ป่วยทุกคนในแผนก จะถูกวางไว้ภายใต้แผนการทำกายภาพแบบเดียวกันนี่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ ของแผนกใหญ่ของโรงพยาบาลขนาดใหญ่
รองผู้อำนวยการแผนกแพนเริ่มที่จะคิดมากกับสถานณ์การปัจจุบันที่เขากำลังเผชิญอยู่และขาพูดว่า “พวกพี่ๆไม่ต้องกังวลไปถึงแม้หลังรันจะดูเด็กแต่จากประวัติการรักษาของเขา เขาไม่เคยพลาดสักครั้งเดียวเลย ”
“ในกรณีที่เส้นเอ็นไม่มีการขาดการกายภาพในระยะแรกจะดีใช่ไหม” หัวฉานเจิ้งฉีถาม
รองผู้อำนวยการแผนกแพนพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม
“เอาล่ะเราจะทำในสิ่งที่หมอพูด” เจิ้งฉีตัดสินใจอย่างง่ายดาย
“ เธอเช็ดน้ำตาและพูดว่า” ในเคสนี้เราต้องทำงานหนักในระหว่างการกายภาพและพยายามฟื้นฟูการทำงานของมือตามปกติ”
“ ได้ฉันจะพยายามเพื่อการฟื้นฟูมือให้กับมาเป็นปกติ” เจิ้งฉีมอองมือของตัวเองสั่นและเขายิ้ม
แม้ว่ารองผู้อำนวยการแผนกแพนจะยิ้มเช่นกัน แต่ความคิดของเขาก็มีสิ่งที่ต่างออกไป ‘มันเป็นเรื่องยากมากที่จะกลับมาใช้งานมือปกติได้อีกครั้ง’
อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถพูดอะไรออกมาดัง ๆ ได้
หลังจากพี่สาวและน้องเขยของเขาสงบลงเล็กน้อยรองผู้อำนวยการแผนกแพนเริ่มเข่าไปช่วยพวกเขาขณะที่เจิ้งฉีทำกายภาพเพื่อฟื้นฟูร่างกายของเขานอกจากนี้เขายังสอนพื้นฐานบางอย่างให้พี่เขายและพี่สาวของเขาด้วย
การฟื้นฟูสมรรถภาพหลังการผ่าตัดในระยะแรกนั้นง่ายมากและส่วนใหญ่ประกอบด้วยการเคลื่อนไหวของมือแบบง่ายๆเช่นการงอเช่นเดียวกับการแบมืออย่างไรก็ตามเนื่องจากผู้ป่วยไม่ได้อยู่ภายใต้การดมยาสลบและเขาจะรู้สึกเจ็บปวดมากขึ้น บ่อยครั้งที่ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่ไม่มีคุณภาพและจำนวนที่ต้องการตามมาตรฐานของขั้นตอนการฟื้นฟูสมรรถภาพ
รองผู้อำนวยการแผนกแพนยืนอยู่ด้านหลังเจิ้งฉีขณะที่เขาทำกายภาะหนึ่งรอบจากนั้นเขาก็ให้คำแนะนำกับพยาบาลของห้องพักฟื้นก่อนจะกลับไปที่ออฟฟิศของเขา
เนื่องจากทีมงานของโครงการเทคนิคเอ็มถังซึ่งสังกัดแผนกฉุกเฉินพวกเขาได้ยืมห้องพักฟื้นของแผนกศัลยกรรมมือพยาบาลจึงมาจากแผนกศัลยกรรมมือโดยธรรมชาติรองผู้อำนวยการแผนกแพนเพียงแค่ต้องบอกพยาบาลว่าเจิ้งฉีเป็นญาติของเขาให้พยาบาลช่วยดูแล
หลังจากรองผู้อำนวยการแผนกแพนเดินออกจากห้องพักฟื้นเขาก็ดูอารมณ์ดีขึ้นเล็กน้อยในขณะที่เขาคิดว่าจะให้แพทย์ในสังกัดขอองเขามาเดินตรวจรอบวออร์ดเพิ่มเติมต่อจากเขา
.ในขณะนั้นผู้อำนวยการฮวงเดินมาพอดี เขามองไปที่ รองผู้อำนวยการแผนกแพนด้วยรอยยิ้มที่สดใสราวกับว่าเขาเพิ่ง “เกิดใหม่”
“ผู้อำนวยการแผนกฮวง… ” รองผู้อำนวยการแผนกแพนรู้สึกตกใจเล็กเมื่อได้พบเขาและเขามีท่าทีลับๆล่อในขณะที่เขาทักทาย ผู้อำนวยการฮวง
“มาเยี่ยมญาติใช่ไหม” ผู้อำนวยการฮวง ยิ้ม
รองผู้อำนวยการแผนกแพนลุกลี้ลุกลนก่อนที่จะดึงตัวเองกลับมาและตอบว่า “ใช่”
ผู้อำนวยการฮวงยิ้มอีกครั้งและพูดว่า “ไม่ต้องกังวลเราจะดูแลญาติของคุณอย่างดี”
“ขอบคุณมาก”
“ดูคุณ … จริงๆแล้วมันเป็นความรับผิดชอบของเราที่เราควรทำอยู่แล้ว” ผู้อำนวยการฮวงโบกมือด้วยรอยยิ้มเหมือนตุ๊กตาแมวโชคลาภที่ตั้งไว้หน้าร้านโชว์ห่วย และมองดูรองผู้อำนวยการแผนกแพนที่กำลังเดินจากไป