ในเวลาเจ็ดโมงเช้าหลิงรันพึงทำการผ่าตัดรอบแรกเสร็จเขาเดินออกมาจากห้องผ่าตัดด้วยความรู้สึกสดชื่นและเขาได้เดินไปที่ห้องพักฟื้นผู้ป่วย
การฟื้นตัวของเอ็นกล้ามเนื้อเกร็งนั้นเป็นส่วนที่สำคัญมากในช่วงเวลานี้สำหรับการผ่าตัดของผู้ป่วย และนอกจากนี้เขาต้อองทำการตรวจอย่างละเอียดเนื่องจากแพทย์ที่เชียวชาญด้านกายภาพประจำที่ห้องพักฟื้นของแผนกศัลยกรรมมือนั้นมีน้อยมันทำให้แพทย์เจ้าของไข้จำเป็นจะต้องแจ้งรายการในการกายภายให้ละเอียดที่สุด
ถึงแม้จะมีแพทย์ที่รับหน้าที่ในการกายภาพแล้วแต่หลังรันก็ยืนยันที่ทำกายภาพด้วยตน เพราะเขาต้องการได้รับการขอบคุณที่จริงใจจากผู้ป่วย
เนื่องจากหลิงรันได้ค้นพบว่าการที่ได้อยู่ดูแลผู้ป่วยในช่วงนี้มันจะทำให้เขามีโอกาสในการได้รับการขอบคุณที่จริงใจจากผู้ป่วย
ซึ่งตอนนี้หลิงรันได้ตรวจดูอาการของผู้ป่วยแต่ละคน จนเขาได้รับหีบสมบัติมาสองใบมันเด้งแจ้งเตือนขึ้นมาที่หน้าอินเตอร์เฟสในหัวของเขา
ทุกครั้งที่หลิงรันได้รับหีบสมบัติขั้นพื้นฐานมาเขาจะเปิดมันทันทีซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นเซรุ่มพลังงานอย่างที่เขาคาดเดาไว้
นับตั้งแต่ฮายาโตะอุเอดะเดินทางมาจากญี่ปุ่นหลิงรันทำการผ่าตัดอย่างมุ่งมั้นตอนนี้เคสของเขาเพิ่มขึ้นประมาณหนึ่งร้อยเคสในการรักษา เขาเดินไปหาผู่ป่วยรอบวอร์ดซึ่งเป็นผู้ป่วยที่เขาเคยผ่าตัดในอดีตของเขาแต่ไม่ใช่ทุกคนรอบวอร์ดเขาได้รับหีบสมบัติขั้นพื้นฐานยี่สิบสามชุดซึ่งมอบเซรุ่มพลังงานยี่สิบสามขวดดังนั้นตอนนี้เขามีเซรุ่มพลังงานรวมๆแล้วเจ็ดสิบสองขวด
และเมื่อเอามารวมกับหีบสมบัติที่พึงได้ตะกี้อีกสองชวดก็เป็นเจ็ดสิบสี่ขวด
หลิงรันเคาะกระเป๋าของเขา
พยาบาลผู้ป่วยและญาติของผู้ป่วยเข้ามาทักทายลิงรันทั้งสองข้างทางของทางเดิน
หลิงรันพยักเพียงหน้าเล็กน้อยเท่านั้น
แม้หลิงรันจะสร้างความประทับให้กับใครหลายๆคนแต่เขาแทบจะจำหน้าและชื่อของคนเหล่านั้นไม่ได้เลย
มันจึงทำให้เขาต้องปฏิบัติตัวต่อทุกคนด้วยความสุภาพเพื่อจะไม่ได้มีปัญหาในอนาคต
“หมออหลิง” เมื่อแพนจินยูเห็นหลิงรันเธอก็พยยามเรียกให้หลิงรันมาตรวจสามีของเธอก่อน
หลังจากที่หลิงรันหยิบแฟ้มเคสของผู้ป่วยขึ้นมาดูตามปกติหลังจากเขาพลิกดูข้อมูลไปสองสามหน้าแล้วเขาก็พูดว่า “คุณเป็นคนไข้ที่บาดเจ็บสามนิ้วที่ผมพึงพาตัดไปเมื่อวานนิ ตอนนี้อาการคุณเป็นยังไงบ้าง
หลิงรันมองไปที่เจิ้งฉี
เจิ้งฉีถูกบังคับให้ต้องเริ่มทำกายภาพบำบัดนิ้วตั้งแต่ตีหาเขากัดฟันแน่นต้องที่เขาทำกายภาพ ณ ช่วงเวลานั้น และพูดคำหนึ่งว่าขณะที่กัดฟันแน่นมากว่า “เจ็บ”
“ในทางทฤษฎีคุณสามารถใช้ยาแก้ปวดได้แต่ยาแก้ปวดมันจะทำให้รู้สึกชาที่แผลและอาจทำให้คุณออกแรงกับแผลมากจนเกิดนไป” หลิงรันนิ่งไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “แสดงว่าคุณทำกายภาพไปบ้างแล้วใช่ไหม?”
“ใช่” แพนจินยูรีบถามอย่างรวดเร็ว “การที่เขาทำกายภาพเนี่ยมันจะมัผลอะไรกับแผลหรือเปล่า?”
หลิงรันก้มหน้าลงของเขาและจับนิ้วมือของเจิ้งเฉียเบา ๆ เขาพยักหน้าแล้วพูดว่า “เนื่องจากนิ้วมือมันมีความยืดหยุ่นในระหว่างการเคลื่อนไหวการทำกายบำบัดอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้นิ้วได้ออกแรงมากขึ้น. ”
“เอาหละๆ” แม้ว่าแพนจินหยูเป็นพี่สาวของรอองผู้อำนวยการฝ่ายแพนแต่เธอยังมีความเกรงใจเมื่อต้องเผชิญหน้ากับแพทย์คนอื่น เธอถามอย่างอ่อรโยนอีกครั้ง “ด้วยการทำกายภาพแบบนี้จะทำให้เขากับมาเป็นปกติไหม”
เธอได้ถามคำถามนี้กับน้องชายของเธอแต่อย่างไรก็ตามน้องชายของเธอซึ่งเป็นอพทยที่เชียวชาญก็ไม่ได้ให้คำตอบโดยตรงกับเธอก่อนหน้านี้
แม้ว่าเจิ้งฉีจะเจ็บปวดมากจนเขากัดฟัน แต่เขาก็ยังคงให้ความสนใจกับบทสนทนาเป็นพิเศษ
“ ตอนนี้ผมยังบอกไม่ได้” หลิงรันหยุดครู่หนึ่งและบอกความจริงกับพวกเขาว่า“ ด้วยอาการบาดเจ็บที่รุนแรงเช่นนี้มันเป็นเรื่องยากมากที่มือของเขาจะกลับมาเป็นปกติ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ยากมาก ”
ดวงตาของเจิ้งฉีแสดงความรู้สึกเศร้าออกมาและแม้แต่ความเจ็บปวดในมือของเขาก็ไม่ทำให้เขาแย่ลงไปกว่านี้ได้อีกแล้ว
สิ่งที่ทำให้หลิงรันตัดสิ้นใจให้หลิงรันผ่าตัดผู้ป่วยต่อไปเพราะว่ามันอาจมีความเป็นไปได้ที่ผู้ป่วยอาจจะสามารถกลับมาใช้มือได้อย่างเป็นปกติจากการรักษาของเขา
“ก่อนหน้านั้นฉันถามหมออีกคนเขาบอกับฉันว่าอาการของสามีฉันจะดีขึ้น”, มันจึงจะต้องทำกายภาพหลังผ่าตัดสิบสองชั่วโมง”
“ถูกต้องนั้นเป็นสิ่งควรทำ” หลิงรันมั่นใจในเรื่องนี้มากเขาพูดว่า“ โดยทั่วไปแล้วการทำเช่นนี้จะช่วยขจัดปัญหาการยึดเกาะได้ซึ่งการยึดเกาะเป็นผลที่จะเกิดขึ้นหลังจากการรักษา และเป็นเรื่องที่ยากที่สุดที่จะให้มันสามารถยึดเกาะกันได้”
แพนจินยูจึงถามต่อว่า “ฉันถามคนไข้คนอื่น ๆ และบางคนก็เริ่มพักฟื้นหลังการผ่าตัดสามสิบหรือสี่สิบชั่วโมง ซึ่งทำยังงี้มันจะไม่เร็วไปหน่อยหรอเพราะตอนนี้เขาแทบจะเขยิบเมือป็นปกติไม่ได้เลย”
“สำหรับผู้ป่วยที่เริ่มพักฟื้นสิบสองชั่วโมงหลังการผ่าตัดอากการของการยึดเกาะจะดีกว่ามากเมื่อเทียบกับผู้ที่เริ่มพักฟื้นสามสิบหรือสี่สิบชั่วโมงหลังจากการผ่าตัดอย่างไรก็ตามมันยังคงยากมากที่จะฟื้นการทำงานของมือตามปกติ”
“แต่บางคนก็ทำคะแนนได้ ‘ยอดเยี่ยม’ เมื่อพวกเขารับถูกประเมิน ”
“มันง่ายมากที่จะทำคะแนน ‘ยอดเยี่ยม’ ในการประเมินการทำงานของมือ”
“หือ?”
“ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดเจิ้งฉีก็จะไม่มีปัญหาในการประเมินการทำงานของมือในขณะที่ฟื้นตัว” หลิงรันลูบคางและพูดว่า “ผู้ป่วยส่วนใหญ่ของผมได้คะแนน ‘ยอดเยี่ยม’ เมื่อพวกเขา ฟื้นตัวจนถึงขณะนี้อัตราผู้ป่วยของผมที่ได้คะแนน ‘ยอดเยี่ยม’ อยู่ที่เก้าสิบแปดเปอร์เซ็นต์ ”
ผู้ป่วยบางรายได้รับบาดเจ็บสาหัสจนเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะฟื้นตัวได้อย่างสมบูรณ์แม้กระทั่งได้รับยาแผนแล้วก็ตามดังนั้นจะมีผู้ป่วยที่ไม่ได้คะแนน “ยอดเยี่ยม” หรือแม้แต่ “ดี” เสมอในการประเมินการทำงานของมือ ผู้ป่วยปกติยังคงต้องการคะแนนอย่างน้อยในขั้น”ยอมรับ” มิฉะนั้นการตัดมือทิ้งไปส่ะคงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
แพนจินยูจ้องที่หลิงรันในขณะที่เขายกคางขึ้นอย่างจงใจเธอรู้สึกอึกอัดใจแต่ก็พูดซ้ำว่า “มือของเจิ้งฉีจะสามารถทำคะแนนได้ ‘ยอดเยี่ยม’W
ขณะที่หลิงรันพูดเขาพยายามอธิบายอย่างรอบคอบว่า “ภายใต้สถานณ์การณ์ปกติแม้ว่าผู้ป่วยจะได้คะแนน ‘ยอดเยี่ยม’ ในการประเมินการทำงานของมือ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าการทำงานของมือของเขาจะกลับมา ตัวอย่างเช่นเขาจะไม่สามารถดำเนินการสิ่งต่าง ๆ ในโรงยิมและความสามารถในการปฏิบัติงานที่ต้องใช้ความพิถีพิถันอาจได้รับ รวมถึงงานที่ต้องใช้ความความคล่องแคล่วของนิ้วมือ มันก็จะผิดแปลกออกไป… ”
“ แต่ฉันจะสามารถถือปากกาและเขียนกินอาบน้ำและใช้คอมพิวเตอร์ได้อยู่ใช่ไหม” เจิ้งฉีถามอย่างไม่ลังเลใดๆ
หลิงรันพยักหน้าเล็กน้อยและพูดว่า “หากการฟื้นฟูสมรรถภาพเป็นไปด้วยดีคุณสามารถทำได้ทุกสิ่งที่พูดมาเลย”
เจิ้งฉีตะโกนอย่างบ้าครั้งดด้วยความดีใจ“ ฉันจะตั้งใจทำกายภาพให้ดีที่สุด!”
เสียงของเขาดังมากจนดึงความสนใจของพยาบาลที่อยู่ใกล้นั้น
พยาบาลสาวตอนนี้เธอรู้สึกว่ามันคงจะเป็นเรื่องน่าอายถ้าจะขออเข้าร่วมการสนทนาก่อนหน้านี้แต่หลังจากได้ยินเสียงเธอรีบวิ่งไปช่วยเชียร์หลิงรันและเธอพูดว่า “คุณจะหายดีและกับมาทำทุกอย่างได้ปกติ คุณโชคดีที่ได้หมอหลิงเป็นคนเย็บแผลเพราะเขาเย็บแผลได้เก่งมากๆ ความน่าจะเป็นที่การยึดเกาะขอองแผลจะเพิ่มขึ้นได้ด้วยการเริ่มการฟื้นฟูสมรรถภาพสิบสองชั่วโมงหลังจากการผ่าตัด … ”
แม้ว่าเธอจะพูดแบบเดียวกับที่หลิงรัน แต่คำพูดของเธอเหมือนเสียงสวรรค์ของเจิ้งฉีและแพนจินยูในขณะนี้
บูม *. *
หีบสมบัติอีกที่ได้รับจากความปราบปลื้มและขอบคุณอย่างจริงใจ ปรากฏขึ้นมาบนหน้าของหลิงรัน
หลิงรันเปิดมันอย่างรวดเร็วๆและเก็บเซรุ่มพลังงานที่เขาได้รับไว้ในกระเป๋าของเขา
หลังจากทำรอบวอร์ดแล้วหลิงรันก็ไปออกไปทานมื้อเช้าแม่ครัวในโรงอาหารก็คุ้นเคยกับเมนูของหลิงรันซึ่งประกอบไปด้วยเนื้อหมูเนื้อวัวและไก่ในมื้อเช้าของหลิงรันนอกจากนี้เธอยังเตรียมของว่างเล็ก ๆ ซึ่งมันมีแพนเค้กแป้งทอดพุดดิ้งเต้าหู้และนมถั่วเหลืองที่เป็นเครื่องเคียงมันถือว่าเป็นอาหารที่สมบูรณ์แบบ
เมื่อเร็ว ๆ นี้หลิงรันได้ทำการผ่าตัดจำนวนมากเขาจึงสั่งเจ็ดเมนูในครั้งเดียวเขาเริ่มทานมันซึ่งเขาดูเหมือนคนตะกละในขณะที่เขากำลังทานอาหารอยู่ในขณะนั้น
มีนางพยาบาลคนหนึ่งนั่งที่โต๊ะข้างๆเขาแอบหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอออกมาและมีเสียงดังคลิก
หลิงรันเงยหน้าขึ้นมองเธออย่างเป็นธรรมชาติเขาเห็นว่าพยาบาลตัวน้อยเธอตกใจจนหน้าของเธอซีดอย่างเห็นได้ชัดและเหมือว่าเธอจะรู้สึกกลัวอยู่ในตอนนี้
เขามีประสบการณ์โดนคนถ่ายภาพของเขาตั้งแต่ยุคของกล้องฟิล์มนับตั้งแต่การกำเนิดของกล้องดิจิทัลมันทำให้เขาถูกแอบถ่ายภาพนับไม่ถ้วนซึ่งเขาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร
* * * * * * * * ซูวๆๆๆ …
หลิงรันดื่มนมถั่วเหลืองครึ่งแก้วในคราวเดียว
พยาบาลสาวกุมมือไว้ที่หน้าอกดวงตาของเธอเป็นประกาย
“จะทานอาหารกลางวันหรือเปล่า?” ผู้อำนวยการฮวงเขาเหมือนสุนัขตัวใหญ่ซึ่งเขาเดินมานั่งตรงข้ามกับหลิงรันทำให้บังการมองเห็นของนางพยาบาลสาวในซึ่งมีนทำให้พยาบาลแค้นผู้อำนวยการฮวงมากรังสีอำมหิตของเธอแพร่ออกมากแต่ก็ไม่ได้ทำให้ผู้อำนวยการฮวงสะทกสะทานใดๆ
“ คุณสามารถพูดได้” หลิงรันคิดเกี่ยวกับมันการผ่าตัดตองใช้เวลาห้าชั่วโมงตั้งแต่สามโมงและอาหารมื้อนี้อาจถือเป็นอาหารกลางวันด้วยเลย
ผู้อำนวยการฮวงถอนหายใจ “คนหนุ่มสาวทุกคนในทุกวันนี้นอนหลับตอนตีสาม แต่นายตื่นขึ้นมาตอนตีสามฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันควรเตือนให้นายดูแลสุขภาพของตัวเองยังไง เลิกสนใจงานบ้างและพยามสร้างสมดุลระหว่างการทำงานกับการพักผ่อนและ ออกกำลังกายเมื่อนายมีเวลา รวมถึงพักผ่อนให้เต็มที่ … ”
หลิงรันไอเล็กน้อยและกล่าวว่า “ผมไม่จำเป็นต้องตื่นเช้าแล้วเพราะตั้งแต่วันพรุ่งนี้ไม่พื้นที่พอให้ผู้ป่วยในห้องพักฟื้นแล้ว”
ผู้อำนวยการฮวงหัวเราะออกมาดัง ๆ แล้วพูดว่า “พูดอย่างนี้ฉันจะต้องเพิ่มห้องพักฟื้นใหม่ให้กับนายส่ะแล้ว ต่อไปห้องฟื้นฟูห้าจะเป็นของเรา!”
หลิงรันของเขาเปร่งประกายขึ้นมาขณะที่เขาเพิ่มความเร็วในการทานข้าว และกล่าวว่า “แสดงว่าผมสามารถทำศัลยกรรมเพิ่มอีกสองครั้งในวันนี้”
“ใช่แล้วมันจะเป็นการเสียเปล่าถ้าเราปล่อยให้ห้องฟื้นฟูสมรรถภาพที่ฉันได้รับมาโดยใช้กลอุบายที่จากการใช้เล่ห์เหลี่ยมเสียเปล่า” ผู้อำนวยการฮวงไอสองสามครั้งในขณะที่เขาพูดเขาพูดต่อ “อย่าใส่ใจ โปรดจำไว้ว่าความสมดุลระหว่างการทำงานและการพักผ่อนต้องเหมาะสม
“ครับ.”
“และและ … ” ผู้อำนวยการฮวงลูบหลังศีรษะของเขาและพยายามที่จะดึงตัวเองกลับมา “อีกไม่กี่วีนจะมีทีมที่ปรึกษาด้านสุขภาพที่จัดโดยคณะกรรมการสนธิสัญญาสุขภาพและสวัสดิการพวกเขาจะเดินทางไปตรวจทางคลินิค โดยช่วงนี้นายต้องทำงานอย่างหนักเพื่อทำศัลยกรรมให้มากขึ้นในสองสามวันนี้จนห้องพักฟื้นเต็ม และนายควรไปเข้าร่วมการตรวจครั้งนี้ถือว่าเป็นการไปพักผ่อนล่ะกัน ”
“แล้วผมจะไปทำอะไรกับทีมที่ปรึกษาด้านสุขภาพ” หลิงรันค่อนข้างสับสนในตอนนี้
“พวกเขาไปที่โรงพยาบาลทหารผ่านศึกที่มีประสบการณ์เพื่อทำการตรวจสอบทางคลินิกและอื่น ๆ อีกสองสามอย่างมันง่ายมาก”
หลิงรัน กล่าวว่า “ผมจะไปที่นั่นเพื่อทำการตรวจทางคลินิกหรือผมไม่ควรไปเพราะผมไม่มีความรู้เกี่ยวกับผู้สูงอายุมันจะดีกว่าถ้าฉันอยู่ที่นี่และทำศัลยกรรม”
“อีกทั้งพวกหลานสาวของทหารผ่านศึกทื่อยู่ที่นั้นพวกเธอซนมากๆ … “