บทที่ 68 เธอสมควรตาย!

อ้อนรัก คุณภรรยาคนสวย

ดีเจในไนท์คลับก็ตกตะลึงเช่นกัน เขาไม่เคยเห็นการเต้นเช่นนี้มาก่อน

เมื่อเขากลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง เขารู้สึกว่าเพลงแบบนี้ไม่เข้ากับบุคลิกของเฉินฮวนฮวน เขารีบเปลี่ยนเป็นดนตรีเบาๆ ทำนองไพเราะให้กับเฉินฮวนฮวน

เมื่อได้ยินเสียงดนตรีที่เปลี่ยนไป เฉินฮวนฮวนที่กำลังมีความสุขกับการเต้นรำ เธอถอดรองเท้าบูทส้นสูงออก แล้วเหยียบบนแท่นด้วยเท้าเปล่า การเคลื่อนไหวของเธอก็ช้าลงตามจังหวะดนตรี และเธอก็เริ่มเขย่งเท้าขึ้นเต้นบัลเล่ต์

จากหงส์ดำที่มีเสน่ห์ จู่ๆ ก็กลายเป็นหงส์ขาวที่สง่างาม ทุกคนไม่สามารถละสายตาจากเธอไปได้เลย ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่เฉินฮวนฮวนเป็นตาเดียว

ซ่งหลิงเอ๋อร์ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม หยุดเต้นไปก่อนแล้ว เธอยืนนิ่งอยู่ตรงที่เดิม มองตรงไปยังเฉินฮวนฮวนที่อยู่บนแทนฝั่งตรงข้าม

เธอรู้ว่าตัวเองแพ้แล้ว แถมยังพ่ายแพ้อย่างราบคาบเสียด้วย เธอพ่ายแพ้อย่างชัดเจน

ขณะที่เฉินฮวนฮวนกำลังเต้นช่วงที่น่าตื่นเต้นที่สุด ทว่าดนตรีก็หยุดลงอย่างกะทันหัน

  

  

……

ขณะที่ทุกคนกำลังสงสัยว่าอุปกรณ์ดนตรีเสียหรือเปล่า ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่คนหนึ่งก็ก้าวขึ้นไปบนแท่น

เขาตัวสูงมาก อยู่ในชุดสูทสั่งตัดสีดำขับให้เขาดูสูงสง่าขึ้นไปอีก

ยิ่งรังสีของเขาด้วยแล้ว แม้ว่าเขาแค่เดินอย่างปกติ ทว่าเขากลับมีรังสีที่ไม่ให้ใครเข้าใกล้ รังสีที่น่าเกรงขามนั้น ทำให้ผู้คนที่อยู่ด้านล่างไม่กล้าปริปากพูดอะไร

เฉินฮวนฮวนที่กำลังมีความสุขกับการเต้น จู่ๆ ดนตรีก็หยุดลง ไม่นานเธอก็หยุดเต้นแล้วกลับสู่สภาวะปกติ

เมื่อเธอหมุนตัวกำลังจะก้าวลงจากแท่น เธอกลับเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าเธอ และชายหนุ่มคนนี้กลับกลายเป็นเฟิงหานชวน

  

เฉินฮวนฮวนตกใจ ก้าวถอยหลังสองก้าวอย่างไม่รู้ตัว

เธอไม่คิดเลยว่าจะบังเอิญเจอเฟิงหานชวนที่นี่

  

“อา อาสาม…” เฉินฮวนฮวนไม่กล้าสบตาชายหนุ่มตรงๆ เธอรู้สึกว่าหัวใจของเธอเต้นเร็วมาก และเต็มไปด้วยความกังวล

ตัวเองเต้นอยู่ในไนท์คลับ แถมเฟิงหานชวนยังมาเห็นอีก เขาต้องคิดว่าเธอกำลังทำลายภาพลักษณ์ของตระกูลเฟิงอย่างแน่นอน

เพราะว่า ตอนนี้ใบหน้าของเฟิงหานชวนน่ากลัวมากจริงๆ

วินาทีต่อมา เฉินฮวนฮวนยังไม่ทันตอบสนอง ร่างของเธอก็ลอยขึ้นกลางอากาศ เมื่อเธอก้มลงมอง ก็พบว่าตัวเองถูกเฟิงหานชวนจับอุ้มพาดบ่าโดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว

“อ๊า! อาสาม รีบปล่อยฉันลง คนมองตั้งเยอะแยะ…” เฉินฮวนฮวนดิ้นขลุกขลัก และตะโกนร้องอย่างตื่นตระหนก

  

ทว่าเฟิงหานชวนไม่ได้พูดอะไรแม้แต่คำเดียว เขาอุ้มเฉินฮวนฮวนลงจากแท่น และเดินไปยังด้านในสุด

เหล่าชายหนุ่มที่มองเฉินฮวนฮวนอยู่ด้านล่างต่างก็อยากตามขึ้นไปดูสถานการณ์ ทว่าพวกเขาถูกบอดี้การ์ดสองสามคนขวางเอาไว้

เมื่อเฟิงหานชวนและเฉินฮวนฮวนหลุดพ้นจากสายตาของทุกคน บรรยากาศที่เดิมทีเงียบกริบไม่มีใครกล้าซุบซิบนินทา เหมือนว่าจะระเบิดขึ้นในทันที

  

“คนสวยคนนั้นถูกพาไปแล้ว เธอเต้นสวยมากเลย ฉันยังดูไม่เต็มอิ่มเลยนะ!”

  

“ผู้ชายคนนั้นเป็นใครอ่ะ คงไม่ใช่พวกอันธพาลหรอกนะ พวกเราต้องไปช่วยคนสวยคนนั้นหรือเปล่า”

  

“ดูเหมือนว่าพวกเขาจะรู้จักกันนะ เมื่อกี้ผู้หญิงคนนั้นเหมือนจะเรียกผู้ชายคนนั้นว่าอาสาม อาจจะเป็นอาที่มาเห็นหลานสาวเต้นในที่แบบนี้ ในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ต้องสั่งสอนเด็กไงล่ะ!”

  

“พวกนายดูผู้ชายคนนั้นสิ มองแวบเดียวก็รู้แล้วว่าเขารวยมาก เขาดูดีขนาดนั้น ครอบครัวแบบนี้จะปล่อยลูกสาวออกมาได้ยังไง”

“แต่เสื้อผ้าที่ผู้หญิงคนนั้นใส่เยินมากเลยนะ ฉันยังคิดว่าเธอจนเลย!”

  

“เป็นไปได้ยังไง พวกนายดูทักษะการเต้นของเธอสิ เจ๋งขนาดนั้น เธอไม่ได้มาจากครอบครัวธรรมดาแน่นอน อย่าตัดสินคนด้วยเสื้อผ้าเลย”

  

“ใช่ ฐานะครอบครัวพวกเราถือว่าค่อนข้างดี ยังไม่ยอมให้ฉันเรียนศิลปะเลย! ผู้หญิงคนนี้ต้องเป็นลูกคนรวยแน่ๆ”

“ผู้ชายคนนั้นดูคุ้นๆ นะ เหมือนว่าฉันเคยเห็นเขาในช่องเกี่ยวกับเศรษฐกิจ!”

  

“โอ้ นายดูช่องเศรษฐกิจด้วยเหรอ ดูไม่ออกเลยนะ!”

  

“ผู้ชายบุคลิกแบบนี้ออกรายการช่องเศรษฐกิจดูเป็นเรื่องปกติมากนะ เขาต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน”

……

ทุกคนในไนท์คลับยังคงพากันซุบซิบเรื่องนี้กันอยู่ แต่เฟิงหานชวนพาเฉินฮวนฮวนเข้ามาในห้องบนชั้นแปดของ Poison

หลังจากเข้ามาในห้องแล้ว เขาก็โยนหญิงสาวที่อยู่บนบ่าลงบนเตียงนอนคิงไซส์

ร่างของเฉินฮวนฮวนลอยขึ้นกลางอากาศ จากนั้นเธอก็ตกลงบนที่นอนนุ่มๆ จนร่างของเธอกระเด้งกระดอนบนเตียงสองสามครั้ง

ทว่า การสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ทำให้เธอหัวสมองของเธอมึนงง เธอรีบหลับตาลงเพื่อให้ตัวเองสงบนิ่ง

“เหอะ เฉินฮวนฮวน เธอเก่งเกินไปแล้ว!”

เฟิงหานชวนเค้นเสียงหัวเราะในลำคอ เสียงหัวเราะนั้นแทบจะเล็ดลอดออกมาจากไรฟัน เขายกมือขึ้นดึงเนคไทของตัวเอง เผยให้เห็นลำคอที่มีลูกกระเดือกสุดเซ็กซี่ของเขา

เมื่อเฉินฮวนฮวนได้ยินเสียงของเฟิงหานชวน เธอก็รีบลืมตาขึ้น และพยายามตะเกียกตะกายเพื่อจะลุกขึ้น

เธอกำลังจะลุกขึ้น ทว่าวินาทีต่อมา ข้อมือทั้งสองข้างของเธอถูกคว้าเอาไว้ ชายหนุ่มกดร่างเธอแนบไปกับผ้าปูที่นอน

“อาสาม! นี่คุณจะทำอะไร” เฉินฮวนฮวนออกแรงบิดข้อมืออย่างสุดกำลัง พยายามจะหลุดพ้นจากเขา

  

“เฉินฮวนฮวน เธอสมควรตาย!” เฟิงหานชวนแทบจะกัดฟันกรอดอย่างหัวเสีย

เมื่อคิดว่าเขาถูกผู้หญิงคนนี้หลอกครั้งแล้วครั้งเล่า เขาถูกเธอหลอกจนหัวปั่น เฟิงหานชวนแทบอยากจะลงโทษเธอเดี๋ยวนี้เลยด้วยซ้ำ

  

เพียงแต่ เมื่อนึกถึงเรื่องสกปรกของเธอ เขาก็อดกลั้นเอาไว้

  

“อาสาม ฉันเต้นในไนท์คลับแค่วันนี้เองนะคะ อีกอย่างคนอื่นก็ไม่รู้ว่าฉันเป็นนายหญิงของตระกูลเฟิงด้วย ฉันจะไม่ทำให้ตระกูลเฟิงต้องแปดเปื้อนค่ะ” เฉินฮวนฮวนอธิบายอย่างรีบร้อน

  

เธอคิดว่า ตอนนี้เฟิงหานชวนโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเช่นนี้ เป็นเพราะเธอเต้นในสถานที่อย่างไนท์คลับ ทำให้ตระกูลเฟิงต้องอับอายขายหน้า

อย่างไรเสียตระกูลเฟิงก็เป็นตระกูลเก่าแก่ที่มีชื่อเสียง หากเรื่องที่นายหญิงของตระกูลเฟิงเต้นในไนท์คลับถูกแพร่งพรายออกไป คนในตระกูลเฟิงต้องเสียหน้าอย่างแน่นอน

เดิมทีเธอก็ไม่ได้อยากเต้น แต่เธอไม่มีทางเลือก เธอจำเป็นต้องเต้น

  

“แค่ครั้งเดียว? เฉินฮวนฮวน เธอบอกว่าครั้งเดียว ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ!” ดวงตาสีแดงฉานคู่นั้นของเฟิงหานชวนจ้องเฉินฮวนฮวนตาเขม็ง ก่อนจะกล่าวเย้ยหยัน

ก่อนหน้านี้ผู้หญิงคนนี้ก็บอกว่าเรื่องนั้นเกิดขึ้นแค่ครั้งเดียว แถมยังบอกอีกว่าหลิวตงรุ่ยบังคับเธอ แต่มันกลับเป็นเพียงคำหลอกลวง

เฉินฮวนฮวนนิ่งไปครู่หนึ่ง เธอไม่เข้าใจคำพูดของเฟิงหานชวน

  

“อาสาม แค่วันนี้ครั้งเดียวจริงๆ คราวหน้าฉันจะไม่เต้นที่ไนท์คลับแล้ว ไม่เต้นอีกแน่นอน…” ตอนนี้เฉินฮวนฮวนกลัวมาก เธอรู้สึกว่าเฟิงหานชวนในตอนนี้ เหมือนอยากจะกลืนกินเธอเสียให้ได้

ทว่าในจังหวะที่เธออธิบายอย่างร้อนรน คอเสื้อของเธอถูกฉีกออกโดยไม่ทันตั้งตัว เผยให้เห็นเนื้อเนียนขาวผ่องของเธอ ความหนาวเย็นปะทะเข้ากับผิวกายของเธอ

“อ๊ะ…”

เฉินฮวนฮวนกรีดร้องด้วยความตกใจ เธอไม่คิดว่าเฟิงหานชวนจะทำแบบนี้กับเธอ มือทั้งสองข้างพยายามขัดขืน

เธอออกแรงขัดขืนอย่างสุดกำลัง เนื่องจากการหมุนเวียนของเลือดภายในร่างกายของเธอ ทำให้ผิวขาวของเธอที่ถูกปกคลุมด้วยความเย็นจนเป็นสีแดงก่ำ ดูเหมือนจะเปลี่ยนเป็นสีอมชมพูแล้ว

ภายใต้แสงสีส้มสลัวของหลอดไฟ ทำให้เธอดูมีเสน่ห์เป็นพิเศษ

เฟิงหานชวนจ้องเธออย่างไม่ละสายตา เดิมทีเขาแค่ต้องการให้ผู้หญิงคนนี้อับอายเท่านั้น ทว่า เมื่อเขาเห็นเช่นนี้ ราวกับมีเปลวไฟที่พวยพุ่งออกมาจากภายในร่างกายของเขา

และเขายิ่งรู้สึกร้อนรุ่มราวกับเปลวไฟกำลังลุกโชนอยู่ภายใน