ตอนที่ 190

The simple life of the emperor

เทียนหลางจ้องมองดร.พาเลร่าเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปในห้องครัว และนั่งลงตรงข้ามเธอก่อนจะหยิบเส้นด้ายสีน้ำเงินเส้นหนึ่งออกมาพร้อมกับพูดขึ้นว่า

“ยื่นแขนข้างที่ถนัดออกมา”

ดร.พาเลร่าสับสนเล็กน้อยกับคำพูดของเทียนหลางแต่เธอก็ยังคงยื่นแขนซ้ายออกไป

เทียนหลางจ้องมองแขนอันขาวเนียนของเธอเล็กน้อยก่อนจะนำเส้นด้ายนั้นมาผูกที่ข้อมือของเธอ พร้อมกับถามเธอว่า

“เธอพูดภาษาจีนได้หรือเปล่า ?”

ดร.พาเลร่าพยักหน้า เทียนหลางจึงพูดต่อว่า

“ดูเหมือนว่าตัวเธอจะถูกพาไปที่วาติกันอะนะ”

ดร.พาเลร่าได้ยินก็ตกใจเล็กน้อยก่อนจะถามกลับ

“นายทำงานให้กับวาติกันงั้นเหรอ ?”

เทียนหลางส่ายหน้า

“ฉันทำงานให้กับรัฐบาลจีน ถึงจะเป็นแค่ลูกจ้างชั่วคราวก็เถอะ”

“ลูกจ้างชั่วคราว ?”

ดร.พาเลร่าเอียงคอสงสัย แต่เทียนหลางก็ไม่ได้ตอบกลับอะไรจากนั้นเทียนหลางก็พูดต่อว่า

“ถ้าหากเธอคิดว่าที่นั่นไม่ปลอดภัยสำหรับเธอ ให้เธอทำลายด้ายนี่ซะมันจะพาเธอมาหาฉันเข้าใจนะ”

ดร.พาเลร่าได้ยินที่เทียนหลางพูดก็อดไม่ได้ที่จะสงสัย แต่เธอก็ยังคงพยักหน้ารับฟังและมองด้ายที่สีน้ำเงินที่ผูกอยู่ที่ข้อมือของเธอ

“นาย…”

ดร.พาเลร่าเหมือนกับจะพูดอะไรบางอย่างแต่การสนทนานั้นก็ถูกขัดจังหวะเอาไว้โดยแอนเดียที่เดินเข้ามา

“นี่ฉันได้คุยกับทางวาติกันแล้ว ดูเหมือนว่าดร.พาเลร่าจะต้องมาอยู่ในการดูแลของทางเราสักพักเนื่องจากเธออาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์บุกโจมตีวาติกันเมื่อครั้งก่อน”

เทียนหลางพยักหน้าก่อนจะถามกลับ

“แล้วจะเดินทางตอนไหนล่ะ ?”

แอนเดียคิดเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับ

“หลังจากเก็บข้าวของเสร็จก็ว่าจะเดินทางเลย คุณอยากจะให้ฉันแวะส่งคุณที่ประเทศจีนหรือเปล่า ?”

“ไม่ล่ะ คุณแวะส่งผมที่ศูนย์การค้าแถวๆนี้แล้วกัน เพราะผมคงจะต้องซื้อของฝากกลับไปที่บ้านเสียหน่อย”

“เข้าใจแล้ว”

แอนเดียพยักหน้าก่อนจะเดินกลับออกจากห้องครัวไป หลังจากนั้นประมาณสองชั่วโมงแอนเดียและทีมงานก็ได้ทำการเก็บข้าวของของพวกเขาเสร็จ ดูเหมือนภารกิจลับของพวกเขาจะเสร็จก่อนที่จะทันได้เริ่มเสียอีกเพราะตลอดระยะเวลาของภารกิจพวกเขาแทบจะไม่ต้องทำอะไรเลยแม้แต่น้อย

แอนเดียมาส่งเทียนหลางที่ห้างสรรพสินค้า NY ซึ่งเป็นศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดในเมือง

เทียนหลางเดินวนอยู่ที่นั่นประมาณสองชั่วโมงเพื่อเลือกซื้อของฝากก่อนจะเดินออกมา และขึ้นไปที่ดาดฟ้าของตึกๆหนึ่งเพื่อที่จะกลับบ้าน แต่ในจังหวะนั้นเองเขาก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง

เทียนหลางเดินไปที่ริมระเบียงก่อนจะก้มหน้าลงไปมองด้านล่างก็พบกับเด็กวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งกำลังรุมทำร้ายเด็กหนุ่มผิวสีคนหนึ่งอยู่ ซึ่งเด็กหนุ่มผิวสีคนนั้นกำลังพยายามป้องเด็กผิวสีอีกคนที่ร่างกายเล็กกว่าดูเหมือนว่าเด็กผิวสีตัวเล็กคนนั้นคงจะเป็นน้องชายของเด็กที่กำลังโดนรุมทำร้าย

เทียนหลางเฝ้ามองเหตุการณ์นั้นอย่างสนอกสนใจ หลังจากผ่านไปไม่กี่นาทีดูเหมือนว่าเด็กหนุ่มพวกนั้นจะเริ่มหมดแรง เด็กหนุ่มผิวสีที่เห็นว่าอีกฝ่ายกำลังหมดแรงเขาก็รีบพุ่งตัวเข้าต่อสู้กับอีกฝ่ายทันที แต่ด้วยร่างกายที่สะบักสะบอมของเขาทำให้เขาแทบจะไม่มีเรี้ยวแรงจะสวนกลับเลย

เทียนหลางลูบคางของตัวเองเล็กน้อยก่อนจะขยับนิ้วมือเบาๆ

กลุ่มเด็กหนุ่มอันธพาลพวกนั้นก็ล้มลงทันทีสร้างความงุนงงสับสนให้กับเด็กผิวสีทั้งสองคนเป็นอย่างมาก หลังจากนั้นตัวของเทียนหลางก็ปรากฏขึ้นด้านหลังของทั้งสองคน ทำเอาทั้งคู่ถึงกับตกใจล้มลงไปกับพื้น

เทียนหลางเดินเข้าไปใกล้พวกเขาเล็กน้อยก่อนจะยิ้มพร้อมกับพูดออกมา

“แม้ตัวเองจะอ่อนแอ แต่เธอปกป้องน้องชายได้อย่างกล้าหาญ ช่างน่านับถือยิ่งนัก”

เมื่อเทียนหลางพูดจบเขาก็นำเม็ดยาสีฟ้าครามออกมาสองเม็ดและยื่นมันให้กับเด็กผิวสีทั้งสองคน ก่อนจะพูดออกมาว่า

“นี่คือของขวัญสำหรับบุคคลผู้กล้าหาญ ทานมันซะและมันจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเธอ”

เมื่อทั้งสองคนรับเม็ดยาสีฟ้าครามไปแล้ว เทียนหลางก็หายตัวไปจากตรงนั้นทันทีสร้างความประหลาดใจให้กับเด็กทั้งสองคนอีกครั้ง พวกเขามองหน้ากันพร้อมกับคำถามที่พรั่งพรูออกมา

เทียนหลางมาปรากฏตัวที่หน้าบ้านก่อนจะเปิดประตูเข้าไปก็พบว่าพ่อกับแม่ของเขากำลังนั่งดูทีวีอยู่ เมื่อทั้งสองคนเห็นเทียนหลางหอบถุงอะไรบางอย่างมาเต็มมือก็อดไม่ได้ที่จะถาม

“ซื้ออะไรมาเยอะแยะน่ะลูก ?”

เทียนหลางยิ้มพร้อมกับตอบกลับ

“พอดีว่าผมได้ไปทำงานที่ต่างประเทศมานิดหน่อยก็เลยซื้อของฝากมาฝากครับ”

แม่ของเทียนหลางที่ได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะรับของทั้งหมดมา

“ลูกคงเหนื่อยไปอาบน้ำและพักผ่อนเถอะ”

“เข้าใจแล้วครับ”

เทียนหลางพูดพร้อมกับยิ้มก่อนจะเดินไปที่เรือนด้านหลังเพื่อกลับไปพักผ่อน