ตอนที่ 237 โลลิซิลเลน สู่โลลิอปไปขั้นต่อไป

คุณหนูโลลิคลั่งเนีย・ลิสตัน

237 ซิลเลน สู่ขั้นต่อไป

 

แม้ว่าอาจจะยังเร็วไปหน่อยสำหรับอาหารเย็น แต่พวกเราก็ตัดสินใจไปทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารที่ค่อนข้างหรูนิดหน่อยที่อาคาชิเคยแนะนำเอาไว้

 

ฉันฝากให้อาคาชิจัดการเกี่ยวกับสัมภาระของฉัน เมื่อเห็นเธอออกตัวกลับบ้านไปด้วยรถสามล้อจนลับสายตา ฉันก็มุ่งหน้าไปยังร้านที่ว่าพร้อมดาลอนโดยมีริโนกิสติดตามมาด้ว

นี่เป็นการเจรจาทางธุรกิจดังนั้น จึงเตรียมเป็นห้องส่วนตัว 

 

ตั้งแตที่ฉันได้รับการแนะนำและจองเอาไว้ ก็ไม่มีการเลือกปฏิบัติจากการเป็นชาวต่างชาติ

หรือต้องบอกว่า――การเคลื่อนไหวของพนักงานทุกคนดูไม่ใช่มือสมัครเล่น ดังนั้นร้านนี้น่าจะเป็นกิจการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับรัฐบาล หรืออย่างน้อยก็อยู่ภายใต้การควบคุมของชิโนบาซ

 

ม๊า ไม่มีปัญหาหรอก ถ้ามีอะไรฉันก็แค่พูดให้ดังเข้าหูอาคาชิก็พอ

 

นอกจากนี้ อาคาชิที่กลับมาหลังจากทิ้งข้าวของไว้ที่คฤหาสน์ก็กำลังทานอาหารอยู่กับริโนกิสที่อีกห้องหนึ่ง

ฉันคิดว่าคงใช้เวลานาน เพราะฉันมีหลายเรื่องที่อยากจะพูด การทำให้คนรอเป็นเรื่องไม่ดี

 

“เช่นนั้นแล้ว ท่านคิดเช่นไรกับมาเวเลียขอรับ?”

 

“ก็อย่างที่รู้กัน มีการต่อต้านชาวต่างชาติที่รุนแรง แต่――”

 

ฉันเริ่มอธิบายสั้น ๆ ถึงเรื่องที่ฉันทำตั้งแต่ที่มาถึงที่นี่ มันคงจะยาวเกินไปถ้าฉันจะพูดถึงทีล่ะเรื่อง และมีบางเรื่องที่ไม่สามารถพูดออกไปได้

 

 

ข้อพิพาทที่เกี่ยวข้องกับทหารจักรกล จบลงไปแล้ว

ท่ามกลางความขัดแย้ง ฉันสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้บริหารของสมาคมการค้าของมาเวเลียได้

การเรียนต่างประเทศ ในส่วนที่เกี่ยวกับโรงเรียน ฉันได้รู้จักกับเชื้อพระวงศ์คนหนึ่งที่เข้าเรียนอยู่

 

หลังจากได้สร้างสายสัมพันธ์ และติดต่อกับคนเหล่านั้นแล้ว ฉันก็รู้สึกว่ามีมความเป็นไปได้ที่จะสามารถเปิดสาขาของบริษัทเซโดนีขึ้นมาได้

 

“สมกับเป็นเนียโอโจ้ซามะเลยขอรับ ทั้งได้รับการสนับสนุนจากราชวงศ์ และมีชื่อเสียงที่ดีในสมาคมการค้า เข้าใจแล้วขอรับ แน่นอนหากมีการ์ดเหล่านี้ในมือ ก็ย่อมสามารถเปิดสาขาได้”

 

อืม ที่ฉันเรียกมาก็เพราะคิดว่าสามารถทำได้ล่ะนะ

 

 

「ฉันจะขอบคุณมากเลยค่ะ หากมีร้านที่ฉันสามารถซื้อสินค้าจากอาร์ตัวร์ได้โดยเร็ว แน่นอนว่าการส่งออกสินค้าของมาเวเลียก็เป็นความคิดที่ดีเช่นกัน”

 

“นั่นสินะขอรับ ……เช่นนั้น ก่อนอื่นเรามาคุยเกี่ยวกับสิ่งที่โอโจ้ซามะต้องการให้นำเข้า จากนั้นก็สิ่งที่ต้องการส่งออกจากมาเวเลีย ดีไหมขอรับ?”

 

ท้ายที่สุดในฐานะพ่อค้า ฉันแน่ใจว่านั่นคือสิ่งที่เขาต้องกังวล

ใช่แล้ว  สินค้าพิเศษของมาเวเลียคืออะไร เราสามารถนำอะไรไปที่อาร์ตัวร์ หรือประเทศอื่น ๆ เพื่อทำกำไรได้บ้าง

นี่อาจเป็นจุดที่สำคัญที่สุด

 

“อย่างแรก คือสิ่งพวกเรากำลังทานกันอยู่ตอนนี้ค่ะ”

 

เนื่องจากเราสั่งอาหารแบบคอร์ส ฉันกับดารอนจึงรับประทานอาหารแบบเดียวกัน ตอนนี้เป็นซุปพาสต้า

 

“อาหารของมาเวเลียค่อนข้างมีคุณภาพดีทีเดียวเลยล่ะ ระหว่างที่คุณอยู่ที่นี่ก็ลองตรวจสอบด้วยลิ้นของคุณดูนะคะ”

 

“เข้าใจแล้วขอรับ ……ฟุมุ รสชาติดีอย่างไม่ต่องสงสัย”

 

หลักจากที่ทานตามที่ฉันบอก เขาก็แสดงความรู้สึกอีกครั้ง อาจเป็นเพราะกำลังมุ่งความสนใจไปที่การเจรจาธุรกิจ จึงไม่รับรู้รสชาติมาจนถึงตอนนี้

 

ม๊า ฉันอยากให้เขาเพลิดเพลินไปกับมันอย่างละเอียดต่อจากนี้ 

ฉันยังอายุไม่ได้ แต่ถ้าพืชผลดี เหล้าก็ต้องดีด้วย ตอนที่ฉันรู้เรื่องเหล้า ฉันก็ต้องการส่งจดหมายไปถึงอันเซล เจ้าของบาร์ด้วย

 

“แล้วก็นะ มีอีกอย่างที่ยังไม่ได้รับอนุญาต แต่――”

 

แล้วก็อย่างที่คาดไว้ การสนทนาดำเนินไปอย่างต่อเนื่องจนดึกดื่น

 

 

 

“กรุณารอก่อนขอรับ”

 

วันถัดมา

 

ระหว่างทางกลับจากโรงเรียนทหารจักรกล ฉันก็ได้พบกับดาลอนที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งบนหัวมุมถนนสายหลัก

ฉันหยุดไม่ให้เขายืนขึ้นขณะที่เขากำลังดื่มชาและอ่านหนังสืออย่างสง่างาม

 

“อ้า เชิญใช้เวลาได้ตามต้องการเลยค่ะ”

 

น้ำชาและขนมยังเหลืออยู่ ฉันไม่มีอะไรเร่งด่วนที่ต้องทำดังนั้น ฉันจึงตัดสินใจดื่มชาเพียงแก้วเดียว

แม้ว่ากลิ่นหอมจะค่อนข้างแตกต่างจากชาดำของอาร์ตัวร์ แต่ฉันก็เริ่มคุ้นเคยกับชาดำนี้แล้ว

 

“จ๊า ไปกันเลยไหมคะ”

 

จากนี้พวกเราจะไปที่สมาคมการค้า

เนื่องจากตั้งอยู่ริมถนนสายหลัก จึงอยู่ห่างออกไปจากที่นี่เพียงไม่กี่ก้าว

 

“――ยินดีที่ได้รู้จัก กระผมมาจากอาร์ตัวร์ ดาลอนจากบริษัทเซโดนีครับ”

 

“――ทางนี้ก็ยินดีที่ได้รู้จัก กัดดัม ผู้บริหารสมาคมการค้าแห่งมาเวเลียครับ”

 

เมื่อฉันพาทั้งสองคนมาเจอกัน ก็เท่ากับว่างานของฉันในตอนนี้จบลงแล้ว

 

ที่เหลือคือรอดาลอนสำรวจมาเวเลีย มองหาสิ้นค้าที่จะขาย ค้นหาสถานที่เปิดสาขา จ้างคน และทำหน้าที่เป็นพ่อค้า

ด้วยความร่วมมือของผู้บริหารกัดดัม แม้แต่มาเวเลียที่ปิดประเทศก็ต้องได้ผลบางอย่างบางล่ะ

 

“หากต้องการอะไรเพิ่มเติมกรุณาเรียกหาฉันได้เลยนะคะ ฉันจะช่วยคุณให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้”

 

จากนี้ไปฉันจะตอบกลับเฉพาะเมื่อถูกเรียกหรือขอปรึกษาเท่านั้น

มันจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากเพื่อที่จะเปิดร้านและซื้อสินค้าต่าง ๆ ดังนั้นจึงอาจไม่ใช่ความคิดที่ดีที่จะเข้าไปยุ่งมากเกินไป

แม้ว่าฉันจะเหมือนคนใกล้ชิด แต่ท้ายที่สุดฉันก็ยังเป็นคนนอกอยู่ดี

 

――ฉันคิดว่าน่าจะไม่มีปัญหาแล้ว เมื่อฉันมีไพ่อยู่ในมือถึงสองใบ ราชวงศ์ และผู้บริหารสมาคมการค้า

 

――คงอีกสักระยะหนึ่งก่อนที่กิจกรรมของดาลอนจะเกิดผลข้างเคียงที่ไม่คาดคิดกับประเทศที่ชื่อว่ามาเวเลีย

 

 

 

เป็นเวลาประมาณหนึ่งเดือนแล้วที่ดารอนมาถึง 

 

บางครั้งเราก็พบปะและแลกเปลี่ยนข้อมูล อัพเดทสถานการณ์ปัจจุบัน และบอกเล่าเกี่ยวกับมาเวเลียที่ฉันไม่รู้

การสำรวจดูเหมือนจะเป็นไปด้วยดี และดูเหมือนเขาคิดว่การเปิดสาขาที่นี่ก็สามารถคาดหวังผลกำไรได้

 

ยังไงก็ตาม เนื่องจากเขาเป็นชาวต่างชาติจึงดูเหมือนว่าจะมีการวิพากษ์วิจารณ์อยู่บ้าง

ถึงจะคาดการณ์ว่าจะสามารถทำกำไรได้มากพอที่จะเปิดสาขาได้ แต่เมื่อสาขาใหญ่อยู่ในต่างประเทศ ก็ดูเหมือนจะมีความกังวลเกี่ยวกับจำนวนลูกค้าจะเพิ่มขึ้นหรือไม่

 

แต่เห็นได้ชัดว่าเขาสามารถใช้วิธีจ้างชาวมาเวเลียและตกแต่งให้เหมือนกับของมาเวเลียได้ แต่เขาบอกว่าจะขอคิดเรื่องนี้อีกสักหน่อย

 

ปัจจุบัน ฤดูใบไม้ผลิคือช่วงที่แมลงเริ่มกลับออกมาหากินมากขึ้น

 

“――น่าจะใกล้ได้เวลาเริ่มรับประสบการณ์ต่อสู้จริงแล้วสินะ”

 

ฉันจะแสดงขั้นถัดไปให้ซิลเลนผู้ซึ่งฝึกฝนอย่างหนักอย่างต่อเนื่องวันแล้ววันเล่า 

 

“มุ?”

 

ฉันเดาว่าเธอไม่ได้ฟังเพราะหมกมุ่นอยู่กับอาหารเย็น

 

“เอ๊ะ? เราไม่เคยคิดเลยว่าจะได้ต่อสู้จริง……”

 

แคลนอลล์ที่ช่วงนี้มาพักที่คฤหาสน์มากกว่าซิลเลนซะอีก ทั้งที่เหมือนจะหมกมุ่น แต่ดูเหมือนว่าจะฟังอยู่ น่าจะประมาณสองสัปดาห์แล้วนับตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่เธอกลับไปที่ปราสาท

 

บางทีราชวงศ์ของมาเวเลียอาจมีลักษณะนิสัยที่จริงจังหรือเปล่า แคลนอลล์ฝึกในตอนเช้า ทำงานตามหน้าที่ที่ปราสาทในช่วงบ่าย กลับมาหาของว่าง และเข้านอนหลังการฝึกในตอนเย็น 

เธอใช้ชีวิตซ้ำซากจำเจแบบนั้น

 

ม๊า ก็เป็นวงจรชีวิตแบบเดียวกับซิลเลนโดยประมาณ ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือเธอไปทำงานแทนไปโรงเรียน

 

ลิวิเซลและอิลก์ที่ตอนนี้ก็ยังคงมา จะกลับบ้านตลอด ……ฉันสงสัยว่าที่นี่สบายขนาดนั้นเลยเหรอ

 

――ไม่สิ ม๊า แบบนี้ก็ดีแล้ว

 

“ทำไมไม่ลองต่อสู้กับแมลงล่ะ นั่นคือสิ่งที่ฉันหมายถึง”

 

“ได้งั้นเหรอ?”

 

ดูเหมือนว่าซิลเลนก็มีความคิดที่อยากจะต่อสู้จริงเร็ว ๆ เหมือนกัน เธออาจต้องการทดสอบความแข็งแกร่งของตัวเองกับศัตรูตัวฉกาจซึ่งก็คือ แมลง

 

“เพราะว่าค่อนข้างมั่นคงกันแล้ว คิดว่าไม่เป็นไรหรอก”

 

เพราะว่าเธอฝึกฝนอย่างหนักทุกวัน「คิ」ของซิลเลนจึงค่อนข้างมั่นคงแล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้ น่าจะสามารถไปยังขั้นต่อไปได้แล้ว

 

“เนียจัง ฉันล่ะ?”

 

“ยังเร็วเกินไปสำหรับแคนน๊า”

 

“งั้นเหรอ ……ม๊า ฉันเองก็เข้าใจดี แต่”

 

แคลนอลล์ก็มีการเติบโตที่ดีเช่นกัน แต่อาจจะเร็วเกินไป

แม้ว่าเธอจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับ「คิ」มากพอจน「สามารถเข้าใจได้ด้วยตัวเอง」แต่เธอยังไม่มั่นคงพอเมื่อเทียบกับคนรอบข้าง ฉันเดาว่าเธอสามารถคิดออกเองได้

 

“มิโตะด้วยเหรอ?”

 

“เด็กคนนั้นไม่ได้ ฉันหมายถึง ฉันไม่ต้องการให้เด็กต้องต่อสู้จริงเน๊ะ”

 

“เธอก็ยังเป็นเด็กเหมือนกันน๊า――แต่ตอนนี้ไม่รู้สึกว่าอยากพูดแบบนั้นเลย”

 

「สายเกินไปแล้ว」ไงล่ะ

 

จริง ๆ แล้วณ จุดนี้ ฉันรู้สึกว่ามิโตะแข็งแกร่งที่สุดแล้วในบรรดาลูกศิษย์ของมาเวเลีย

แต่เธอด้านเทคนิคและจิตใจยังไม่สามารถตามทันได้

 

ในความเป็นจริงแล้ว เธอไม่ได้ตัดสินใจที่จะแข็งแกร่งขึ้นเพื่อที่จะต่อสู้กับสัตว์อสูร หรือแมลง ดังนั้นฉันอยากจะตัดสินอย่างรอบคอบว่าควรจะปล่อยให้เธอสัมผัสกับชีวิตและความตายดีหรือไม่

 

ใช่เป็นความปรารถนาของเธอเองที่อยากจะบรรลุ「คิ」แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเธอต้องการความแข็งแกร่งเพื่อการต่อสู้ ไม่ต้องพูดถึงจุดประสงค์ไม่ใช่เพื่อ「พรากชีวิต」มาแต่แรกแล้ว

 

ในตอนนี้ ในจิตสำนึก ฉันต้องการมอบความแข็งแกร่งเพื่อปกป้องตัวเอง มันให้ความรู้สึกแบบนั้น

จะเป็นอย่างไรถ้าถูกโยนออกไปสู่โลกกว้างตั้งแต่ยังเป็นเด็กอีกครั้ง ฉันคงอยากได้ความแข็งแกร่งที่สามารถอยู่รอดได้โดยไม่ต้องพึ่งใคร

 

มิโตะไม่ได้อยู่คนเดียวจริงไหม

 

ซิก พี่ชายของมิโตะรับผิดชอบทำความสะอาดและจัดการคฤหาสน์ และเมื่อเร็ว ๆ นี้เขาได้ช่วยทำอาหารโดยเรียนรู้จากริโนกิสและซาคุมะ ฉันคิดว่าเขากำลังพยายามหางานในแบบของเขาเอง

 

แล้วก่อนที่จะรู้ตัว ฝาแฝด บัลเจอร์ และคาลัวก็สามารถจำการคำนวณง่าย ๆ ได้แล้ว

ปกติจะไม่ปล่อยให้พวกเขาไปไหนมาไหนคนเดียยว แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะแยกตัวจากริโนกิสหรือซาคุมะเพื่อซื้อวัตถุดิบที่ตลาดมาสักพักแล้ว และตอนนี้ก็กำลังเรียนเขียนจดหมายด้วย

 

“ไปในวันหยุดครั้งหน้ากันดีไหม”

 

“เข้าใจแล้ว ……อะ เราควรทำยังไงกันอีสล่ะ?”

 

นั่นคือปัญหา

 

ใช่แล้ว เธอที่มาถึงที่นี่เอง แม้ว่าฉันจะไม่ได้เรียกก็ตาม ตอนนี้ก็เหมือนกับเป็นลูกศิษย์ของฉันกลาย ๆ ไปแล้ว

ในขณะเดียวกัน เธอยังมีความสามารถเพียงพอที่จะต่อสู้กับซิลเลนได้อีกด้วย

 

วิธีที่เธอเติบโตมีบางอย่างที่ต้องเรียกว่าผิดปกติ

มีบางอย่างที่น่ากลัวเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับการเรียนรู้ได้โดยที่ฉันไม่ได้สอน เพียงแค่เลียนแบบจากสิ่งที่เห็นเท่านั้น ถ้าดูจากความสามารถของเธอ อาจจะเก่งพอ ๆ กับพี่นีลแลยก็ได้

 

หากมีพรสวรรค์ที่หายาก ฉันอยากจะพัฒนามัน……

 

――แต่ฉันยังไม่รู้ว่าเธอกำลังเล็งเส้นทางไปทางไหน กำลังตั้งเป้าไปที่อนาคตที่จำเป็นต้องต่อสู้จริงหรือไม่

 

“ฉันจะถามเธอเอง”

 

ม๊า เดาได้เลยว่าคำตอบจะมีแค่หนึ่งเดียวคือ 「ไป」

 

 

 

แน่นอนหลังจากถาม เธอก็ตอบว่า「ไป!」ตามที่คาดไว้

 

 

 

 

 

ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー

 

คนแปลขออนุญาตเปิดโดเนทหน่อยนะงับ 

{ไทยพาณิชย์} {880-222211-5} {เสฏฐวุฒิ}

 

ขอบคุณ คุณCHA***AI KIMN SCB X-2478 มาก ๆ เลยครับ

ขอบพระคุณทุกท่านที่สนับสนุนเป็นกำลังใจเข้ามาด้วยนะครับ

ขอบคุณงับ

 

ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー

 

ไร้สาระ

สงสัยช่วงนี้จะร้อนอบอ้าวมากไปหน่อย อะไรก็เลยเหมือนขวางหูขวางตา ความคิดบ้าบอหลุดกระจาย อารมณ์แปรป่วน หดหู่จนอยากตายขึ้นมาดื้อๆซะอย่างงั้น ยังไม่นับความรู้สึกอยากทำลายข้าวของแปลกๆอีก สงสัยสะมงสมองจะร้อนจนเหลวหมดแล้ว