228 ลายเดิม
ในที่สุดเราก็ออกมาจากห้วงอวกาศขั้นสูงสุดที่ไม่ดีกับสายตา บัวดำย้ายมาสู่อวกาศปรกติ ผมสงสัยว่าเมื่อไหร่กันที่ผมเริ่มรู้สึกถึงความปลอดภัยที่อธิบายไม่ได้ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่ผมเห็นทะเลประกายดาวจากหลังคายาน มันดูเหมือนผมเริ่มปรับตัวกับมิตินี้อย่างช้าๆไปแล้ว
“โยช ไปกันเถอะ”
“เปิดประตูโรงจอด เอาเลย”
“ออกยาน!”
หลังจากเติมพลังงานสั้นๆ กฤษณะถูกยิงออกจากโรงจอดบัวดำโดยเครื่องดีดส่งแม่เหล็กไฟฟ้าสู่อวกาศนอก ความรู้สึกถูกปลดปล่อยและอิสระที่คนหนึ่งรู้สึกได้ทันทีเมื่อคนนั้นกระโดดออกมาสู่ทะเลดวงดาว สำหรับผม นั้นไม่มีอะไรเทียบได้
“เหมือนที่เราปรึกษากันเป้าหมายต่อไปของเราคือโคโลนีรีฟิลไพร์ม”
『โรเจอร์ ตอนนี้ดิฉันจะตั้งเส้นทางสู่โคโลนีรีฟิลไพร์ม』
“ขอใช้หน่วยขับครส.จังหวะเดียวกัน”
『ยอมรับคำขอใช้หน่วยขับครส.จังหวะเดียวกัน เริ่มเติมพลังงาน』
“ตั้งระยะเรดาร์เต็มพิกัด ถ้าเจอบางอย่างน่าสงสัย บอกฉันทันที”
『「อายอายท่าน!」』
มีมิและเมย์ตอบพร้อมกัน ระหว่างนั้น เอลม่าดูเหมือนดำเนินการตรวจสอบระบบรองเป็นขั้นต่อไป ขณะสำหรับผม ผมนั้นผมไม่มีอะไรสักอย่างที่ทำอยู่ ณ ตอนนี้ นั่นเพราะลูกเรือของผมรับมือการเดินทาง, สื่อสาร, และควบคุมระบบรอง, ของยาน หน้าที่ของผมคือทำการบัญชาการระหว่างเวลาฉุกเฉินและขับยานเพื่อจัดการกับเหตุฉุกเฉินที่ว่า
『นับถอยหลัง 5, 4, 3, 2, 1…… หน่วยขับครส. ทำงาน』
เสียงคำรามดังก้องทั่วทั้งห้องนักบินและบัวดำกับกฤษณะฝ่าสู่ความว่างเปล่าระหว่างทิ้งเส้นแสงไว้ข้างหลัง
“ฉันล่ะหวังว่าจะไม่มีอะไรแย่ๆเกิดขึ้นครั้งนี้”
“นั่นก็ใช่…… แต่–”
“เพราะทั้งหมดระดับ ความโชคร้ายของเรานั้นแค่ฮาร์ดคอร์มากเกินไป พี่จะพบว่ามันแปลกกว่าถ้าเราไม่มีปัญหาลึกๆ จากใจเลย”
“อ่ะฮ่าฮ่า…… อา–”
มีมิ ผู้ยิ้มอย่างขมขื่นสังเกตุบางอย่างกระทันหัน เธอใช้งานเครื่องต้นทางและนำภาพที่เธอกำลังดูขึ้นบนจอหลัก
มันดูเหมือนเธอจับสัญญาณยานได้บนเรดาร์ห้วงอวกาศรองระหว่างเรากำลังใช้การเดินทางครส. ……แต่สัญญานนั้นคือ–
“พวกมันใช้เพื่อตีตราอาชญากร ถูกป่ะ……?”
“ไม่ใช่ว่าไม่นานนี้มีข่าวเกี่ยวกับยานที่ลุยกับกองทัพจักรวรรดิ”
“ใช่ มีจริงด้วยสิ”
ระหว่างกำลังฟังมีมิและเอลม่าคุยกัน ผมใช้งานเครื่องต้นทางอย่างรวดเร็วและยกเลิกการใช้ครส.จังหวะเดียวกันกับบัวดับ จากนั้นผมดันแท่งขับเพื่อเปลี่ยนเส้นทางเพื่อตามหลังยานที่มีตราอาชญากร
“ทำให้มันใจว่าตามเราทันทีหลัง บัวดำ”
『รับทราบ โชคดีนะคะนายท่าน』
ระหว่างเดินทางโดยครส. จะรับมือยานยากกว่า แต่แม้อย่างนั้น ยานต่อสู้เหมือนกฤษณะยังคล่องตัวและตอบสองมากกว่าบัวดำเยอะ ถ้าเราต้องตามยานที่ใช้ครส. มันดีกว่าที่กฤษณะจะลุยเดี่ยว
“การเคลื่อนไหวอีกฝ่ายค่อนข้างเชื่องช้า ประเภทกลางมั้ง? หรือบางทีเป็นประเภทใหญ่”
“ไม่ว่ายังไง ตามพวกมันติดๆก่อน ให้เครื่องขัดขวางรอพร้อม”
“นี่จะเป็นครั้งแรกที่เราขัดขวางยานอื่นด้วยตัวเองหือ”
การขัดขวางคือการบังคับหยุดยานระหว่างใช้การเดินทางครส. ผมไม่ชัดเจนเกี่ยวกับขั้นตอนอย่างละเอียดเบื้องหลังมัน แต่การขัดขวางดำโดยจับหลังของยานเป้าหมายโดยการใช้อุปกรณ์แทรกแซงสัญญาณเรียกว่าเครื่องขัดขวางซึ่งให้วิธีการควบคุมแรงโน้มถ่วง
พูดอีกอย่าง มันเหมือนทำการบินต่อสู้ใกล้ แต่ในความเร็วกว่าความเร็วแสง
“ฮ่าฮ่าฮ่า แกคิดว่าแกจะไปไหน เพื่อนซี้?”
แน่นอนฝั่งผู้รับปลายของเครื่องขัดขวางจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อหนีการถูกขัดขวาง
เพื่อทำการเล็งผมให้เสีย พวกเขาเริ่มเร่งความเร็วและซิกแซกไปทั่ว แต่ผมไม่ใช่นักบินพวกนั้นที่เล่ห์เหลี่ยมเหล่านี้จะได้ผล
พูดถึงแล้ว เราสามารถขัดขวางพวกมันสำเร็จทันทีเมื่อพวกมันลดความเร็วถึงระดับหนึ่ง ดังนั้นถ้าพวกมันไม่ระวังระหว่างใช้การเคลื่อนที่จับทางไม่ได้แบบนั้น มันจะเป็นเกมจบทันที
“มันดูเหมือนเราเสี่ยงถูก”
“ไม่จำเป็นต้องยั้งมือกับยานที่มีตราอาชญากร เราเข้าปะต่อสู้ได้ทันทีเมื่อเราจับพวกมันได้”
“อายอายท่าน!”
สั้นๆหลังจากเอลม่าและมีมิตอบ ในที่สุดเราก็ขัดขวางศัตรูและทั้งยานกฤษณะกับศัตรูถูกย้ายมาสู่อวกาศปรกติ และทันทีหลังจากขัดขวางสำเร็จ จากนั้นเป้าหมายจะถูกนำเข้าไปในสถานการณ์ย่ำแย่
“อา ช่างเป็นโศกนาฏกรรม”
ผมเปิดใช้งานระบบอาวุธขณะผมมองยานอวกาศประเภทใหญ่ที่ดูออกแน่นอนว่าเป็นโจรสลัดหมุดในอวกาศอย่างควบคุมไม่ได้
ยานถูกฝืนผลักออกมาจากห้วงอวกาศรองระหว่างเดินทางโดยครส.จะได้รับประสบการณ์หมุนหลายทิศทางอย่างผิดปรกติเหมือนอะไรที่เกิดขึ้นที่นี่ทุกอย่าง เขาพูดกันว่าพวกมันเกิดขึ้นโดยพลังกลตกค้างหลังจากการขัดขวาง
การเดินทางครส. แต่ผมไม่แน่ใจเกี่ยวกับทฤษฎีโดยละเอียด
และแน่นอน เมื่อยานเป็นอย่างนั้น พวกมันเปิดกว้างให้ถูกโจมตีโดยศัตรู
ดังนั้นถ้าไม่มีโอกาสหนีได้ตั้งแต่แรก มันจะดีกว่าที่จะแค่จงใจลดความเร็วและยอมรับการขัดขวางเพื่อเลี่ยงสถานการณ์เช่นนั่น
ตั้งแต่ผมมามิตินี้ มีครั้งสองครั้งที่ผมเป็นฝั่งผู้รับการขัดขวางและชะลอเพื่อรับการขัดขวางทุกครั้ง และนี่คือเหตุผลว่าทำไม
“ฉันจะยิงฝ่าโล่มันทันที”
“นั่นจะดีที่สุด”
ไม่มีความจำเป็นต้องมอบเมตตาสู่ยานที่มีตราอาชญากร ผมยิงจากปืนใหญ่เลเซอร์ลำกล้องใหญ่สี่กระบอกเป็นชุดใส่ยานโจรสลัดที่ยังบินไปของมันอย่างไม่ยั้ง ในสถานการณ์นั้น นอกจากห้องนักบินที่ถูกปกป้องโดยระบบควบคุมแรงเฉื่อย ส่วนอื่นของยานควรจะเละเทะที่สุด
“โล่ของยานดับ”
“มาเล็งที่เครื่องขับดันต่อ”
หลังจากฉีกโล่มัน ผมจะขยี้เครื่องขับดันมันต่อ เมื่อเราทำเสร็จ ยานประเภทใหญ่จะถูกริดความคล่องตัว
หลังจากนั้น ผมแค่ต้องทำลายป้อมปืนป้องกันจากจุดบอดและพวกเขาจะเปลือยเปล่าอย่างสมบูรณ์
『ห-หยุดนะโว้ย!เรามีตัวประกันอยู่นะรู้มั้ย?』
“แล้วไง? และไม่สำคัญว่าตัวประกันตายไปกี่คน ค่าหัวแกไม่ลดลง ถูกไหม?”
ตั้งแต่แรก เราไม่รู้ว่าพวกเขามีตัวประกันจริงหรือไม่ และไม่มีอะไรรับประกันว่าการช่วยเหลือที่สำเร็จในสถานการณ์นี้
ไม่ว่ามันคือพลเมืองดีเต็มไปด้วยจิตใจเมตตา, เด็กไร้เดียงสา, หรือขุนนางจักรวรรดิพร้อมตำแหน่งยศศักดิ์ ทั้งหมดจะถูกปฏิบัติว่าตายทันทีเมื่อถูกจับโดยโจรสลัด
ในความเป็นจริง แม้แต่อีกฝ่ายเสียชีวิตเขาหรือเธอหลังจากโจรสลัดถูกยิงตก ฝ่ายโจมตีจะไม่ผิดฏฎหมายกาแล็กซี
ไม่อย่างนั้น เราจะไม่สามารถล่าโจรสลัดถ้าพวกมันรู้ว่าการใช้โล่มนุษย์จะมีประสิทธิภาพ
“คนเดียวที่จะตกหลุมกลอย่างนั้นมันมือสมัครเล่น”
“เพราะทั้งหมดเราสนเกี่ยวกับเรื่องเล็กๆมากๆไม่ได้”
“……”
เอลม่าเข้าใจผม แต่มีมิหายใจตกใจอย่างเงียบๆ ผมไม่เห็นหน้ามีมิตอนนี้เพราะเราอยู่ระหว่างต่อสู้อยู่ แต่ผมจินตนาการว่าหน้าเธอเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินแล้ว อืม ผม มันจะใช้เวลาชินกับอะไรแบบนี้อยู่ดี…… หรือ จริงๆแล้วผมกล้าเมินชีวิตของตัวประกันจากใจหือ? บางทีผมแค่ไม่อ่อนไหวกับความตายของผู้อื่น
“เราขยี้แขนและขามันแล้ว อะไรต่อตอนนี้?”
ผมครุ่นคิดความคิดเหล่านั้นขณะผมจัดการเครื่องขับดันศัตรู, เครื่องยิงจรวด, และระบบอาวุธรอง ทั้งหมดนั้น และจากนั้น เอลม่า เรียกความสนใจผม อืม มันไม่มีประโยชน์ที่จะคิดอะไรแบบนั้นเยอะอยู่ดี ผมว่านั่นแค่แสดงให้ดูว่าผมปรับเป็นหนึ่งเดียวกันกับมิตินี้แล้วมากเท่าไรและหน้าที่ของผมคือทหารรับจ้าง ผมไม่คิดเยอะเกี่ยวกับมันจะดีกว่า
“มาดูกัน…… เพราะพวกมันเป็นยานมีตราอาชญากร มันจะดีที่สุดที่จะส่งพวกมันให้กองทัพจกรวรรดิถ้าหน่วยลาดตระเวนมาถึง แต่–”
ก่อนผมจจะพูดเสร็จ เงามืดใหญ่ปรากฏภายในเขตอวกาศหลังเสียงตูมคำราม มันคือบัวดำ
“เพราะบัวดำอยู่ที่นี่แล้ว เราควรแค่ปราบพวกมันด้วยตัวเราเอง ฉันจำเป็นต้องเข้าต่อสู้ระยะประชิดบ้างบางครั้งหรือไม่อย่างนั้นทักษะฉันจะขึ้นสนิม”
“แต่มันจะอันตรายนะ?”
“เพราะศัตรูคือโจรสลัด ฉันจะไม่เสียเปรียบ เรามีหุ่นยนต์ต่อสู้ด้วย แล้วก็ ที่จะเป็นโอกาสดีที่จะฝึกปฏิบัติการระยะประชิดกับมีมิ ด้วย”
ผมชำเลืองและพบว่าเธอมีสีหน้าตึงเครียดเต็มที่ ใช่ เธอทำมันบ้างแล้วโดยใช้เครื่องจำลอง แต่เพราะทั้งหมดไม่มีอะไรเหมือนกับการฝึกซ้อม ผมจะให้เธอทำเต็มที่ด้วย
“โถ่ ช่างผิดแผน”
ผมมีแผนที่จะให้กฤษณะไปอยู่ข้างยานโจรสลัดและขึ้นยานมันก่อน จากนั้นให้หุ่นยนต์ต่อสู้ลงเครื่องส่งไร้สายตามหลังจากนั้น แต่ผมรู้ทีหลังว่าจริงๆแล้วผมเอาชุดเกราะพลังงานจักรกลไว้ข้างในบัวดำ
และดังนั้น ผมจะเข้าปะทะในการต่อสู้ระยะประชิดโดยไม่ใส่เกราะพลังงานจักรกลครั้งนี้ อืม ผมมีเครื่องกำเนิดโล่พกพากับผมอยู่ดี ผมแม้แต่มีชุดต่อสู้แรงดันอากาศที่จะอนุญาติให้ผมรอดชีวิตจากการถูกโยนไปอยู่อวกาศนอกประมาณสามชั่วโมง ดังนั้นผมคิดว่าผมจะไม่เป็นไร
『พี่จะไม่เป็นไรจริงๆเหรอ? ไม่มีความจำเป็นต้องฝืนตัวเองนา ฮิโระซามะ』
“พี่จะไม่เป็นไร ถ้ามันเริ่มอันตรายจริงๆ พี่จะแค่ซ่อนในมุมที่ไหนสักแห่งและปล่อยงานทั้งหมดให้หุ่นยนต์ต่อสู้โปรแกรมล่วงหน้า”
ผมมตอบมีมิผู้กังวลขณะผมตรวจอุปกรณ์ของผม ครั้งนี้ ผมจะนำดาบสั้นและยาวไปด้วยเหมือนกันพร้อมด้วยกันกับปืนเลเซอร์ที่ไว้ใจได้ แล้วก็นำระเบิดช็อตไฟฟ้าสามลูก, ระเบิดพลาสมาสองลูก, และซองพลังงานสำรอง ผมก็ใส่ผ้าคลุมล่องหนคาเมเลียนด้วย
ผมกำลังเทียบคิดว่าไม่เอาปืนเลเซอร์ไปด้วยดีหรือไม่แต่ผมไม่ทำอย่างนั้นเพราะเมื่อเจออาวุธยาวกว่าอาจพบว่ารับมือยากกว่าระหว่างดำเนินการต่อสู้ระยะประชิดในพื้นที่คับแคบ
เพราะทั้งหมดส่วนใหญ่ภายในยานนั้นเป็นพื้นที่แคบ ปืนเลเซอร์จะสะดวกมากกว่า
『เข้าหาสำเร็จ กำลังฝ่าตัวถัง』
『เครื่องส่งไร้สายก็พร้อมแล้วด้วย เราบุกข้างในได้ทุกเวลา』
“ช่วยให้หุ่นยนต์ต่อสู้แทรกซึมก่อน ฉันจะควบคุมห้องนักบินระหว่างพวกมันยุ่งอยู่”
『อายอาย โชคดีค่ะ นายท่าน』
ขณะเอาคุยใน ในที่สุดเราก็เปิดช่องฝ่าตัวถังยานศัตรูเพื่อให้เราบุกเข้าไปแล้ว
『ฝ่าเสร็จสมบูรณ์ ได้โปรดระวังตัวนะ』
“แน่นอน ดำเนินการขึ้นยาน”
ช่องประตูกฤษณะเปิด และผมไปช่องฝ่าตัวถังยานของยานศัตรูเพื่อรีบเข้าไปข้างในมัน
สถานที่ซึ่งเราเปิดเห็นว่าเป็นนอกช่องประตูของห้องเก็บของยาน ผมไม่ได้เผชิญหน้ากับคณะกรรมการต้อนรับ พวกมันน่าจะยุ่งกับการรับมือหุ่นยนตร์ต่อสู้
“นี่คือสเนก ฉันแทรกซึมยานโจรสลัดศัตรูสำเร็จ”
『ไม่ใช่ผู้ชื่อรหัสของผู้แทรกซึมเป็นหนูเหรอ?』
“ถ้าอย่างนั้นมันมีหนูในมิตินี้หือ……”
มันดูเหมือนหนูเป็นมาตรฐานกับอะไรที่เกี่ยวกับแทรกซึมในมิตินี้แทนงู ช่างโชคร้าย
“นี่ดูเหมือนห้องเก็บของเราหาแผนที่ของยานด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งได้มั้ย?”
『อืม…… มีเครื่องต้นทางบนกำแพงทางซ้าย ได้โปรดเชื่อมต่อเครื่องปลายทางระบบสื่อสารที่นั่น ฮิโระซามะ』
“โรเจอร์”
ผมตามการบอกนำของมีมิและเจอเครื่องต้นทาง จากนั้นผมเชื่อมต่อเครื่องปลายทางระบบสื่อสารพกพากับมันผ่านสายข้อมูล
จากนั้นมีมิดำเนินการแกะฐานข้อมูลของยานโจรสลัดเพื่อที่จะหาสารสนเทศของมันแบบละเอียด
『อืม… หนูรับสารสนเทศเสร็จแล้ว หนูจะนำสารสนเทศขึ้นบนจอเหนือจอในหมวกเกราะพี่ ฮิโระซามะ』
ทันทีหลังจากนั้น แผนที่ 3 มิติของภายในยานถูกฉายบนจอเหนือจอของหมวกเกราะชุดต่อสู้กันอากาศที่ผมกำลังใส่ แน่นอนว่ามันเป็นยานประเภทใหญ่ มันค่อนข้างใหญ่โต
“ได้โปรดแสดงเส้นทางสู่ห้องนักบิน ฉันจะเริ่มปฏิบัติการระงับ”
『อ-อายอายท่าน』
“ใจเย็น มีมิ หายใจลึกๆสามครั้งและมีสมาธิ”
ผมมุ่งหน้าไปทางออกห้องเก็บของระหว่างฟังมีมิหายใจลึกๆสามครั้งผ่านระบบสื่อสาร ผมสงสัยว่าพวกเขากำลังขนอะไร แต่ผมจะต้องควบคุมห้องนักบินก่อน
“ฉันจะออกจากห้องเก็บของ”
『ค่ะ ปล่อยการสนับสนุนไว้ให้หนูได้เลย』
『ระวังตัวนะฮิโระ』
ขณะผมฟังการตอบของคุณนายทั้งสองคน ผมชักปืนเลเซอร์จากซองและปิดเซฟตี้
แปลโดย: wayuwayu
tipme : tipme.in.th/wayuwayutl
ได้โปรดโดเนทเพื่อสนับสนุนผู้แปล ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ: http://linktr.ee/wayuwayu