ตอนที่ 228 เถ้าแก่ซูรู้ได้ยังไง

ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก

ตอนที่ 228 เถ้าแก่ซูรู้ได้ยังไง

ตอนที่ 228 เถ้าแก่ซูรู้ได้ยังไง

หลังจากวางสาย ซูเถาก็อุทิศตนให้กับการก่อสร้างห้องใหม่

ห้องชุดแบบ 2 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่นห้าห้อง ห้องชุดแบบ 3 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่นสามห้อง

เวลาตอนกลางคืนช่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว ซูเถาซึ่งกำลังทำการก่อสร้างติดต่อกันเป็นเวลาสามชั่วโมงก็ง่วงนอนจนลืมตาไม่ขึ้น และรู้สึกเหมือนกำลังจะตาย ดังนั้นเธอจึงรีบกลับไปที่ห้องของตัวเอง เมื่อเธอถึงห้องก็เข้านอนและหลับไปทันที

ในขณะเดียวกัน บริเวณโดยรอบฐานอู๋ไถ ภายใต้แสงจันทร์อันมืดมิด สัตว์เลื้อยคลานสีดำสนิทสองตัวก็ผ่านมา

พวกมันกำลังจะเข้าใกล้กำแพงเมือง จากนั้นก็มุดลงไปในดินและหายตัวไป

ติงเหออวี้นำทีมลาดตระเวนออกไปเพื่อตรวจสอบ

เมื่อมองไปที่กำแพงเมืองที่สูงตระหง่านและมั่นคงในยามค่ำคืน เขาก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงคำพูดของซูเถา ดังนั้นเขาจึงถอยออกไปเล็กน้อยอย่างระวัง

ขณะลาดตระเวน เครื่องสื่อสารก็ดังขึ้น หลังจากเชื่อมต่อแล้ว เสียงของภรรยาก็ดังขึ้น

“ลาดตระเวนอยู่เหรอ ระวังตัวด้วยนะ แต่ฉันมีเรื่องจะบอกคุณ พี่สะใภ้ของฉันบอกว่าศูนย์สุขภาพแม่และเด็กตงหยางมีสภาพแวดล้อมที่ดีมาก เพราะได้เถาหยางมารับช่วงต่อ และสร้างโดมป้องกัน อุณหภูมิภายในเหมือนฤดูใบไม้ผลิตลอดทั้งปี เหมาะมาก ๆ ที่จะไปคลอดลูกที่นั่น หรือไม่ก็รอฉันท้อง แล้วพอท้องเริ่มโตค่อยส่งฉันไปที่นั่นก็ได้”

“แต่ว่าคุณต้องจองสถานที่แต่เนิ่น ๆ พี่สะใภ้ของฉันบอกว่าสถานที่ศูนย์สุขภาพแม่และเด็กตอนนี้แน่นมาก เหล่ากง*[1] คุณมีโอกาสมากมายที่จะได้ติดต่อกับเถ้าแก่เสี่ยวซูในเถาหยาง ยังไงแล้วคุณช่วย…”

ในขณะที่ติงเหออวี้กำลังจ้องมองที่กำแพงเมืองภายใต้แสงจันทร์ด้วยความงุนงง ฝีเท้าของเขาก็เดินออกห่างกำแพงเมืองเรื่อย ๆ โดยไม่ตั้งใจ

เมื่อเขาได้ยินเธอพูดถึงตรงนี้ ก็รู้สึกฮึกเหิมขึ้น

“เป็นที่ยืนยันแล้วเหรอว่าเถาหยางจะเข้ารับช่วงต่อศูนย์ส่งเสริมแม่และเด็ก”

ฝ่ายภรรยาพูดว่า “ใช่ พี่สะใภ้ของฉันบอกว่าพวกเขาสร้างห้องน้ำและห้องเก็บน้ำจำนวนมากในวันที่พวกเขาเข้าครอบครอง มีทั้งน้ำร้อนและน้ำเย็นในตัว แถมให้ใช้ฟรีอีกด้วย สะดวกมาก”

ติงเหออวี้เคยได้ยินข่าวลือมาก่อน แต่เขาแค่ไม่คิดว่าเธอจะได้รับช่วงต่อเร็วขนาดนี้

หมายความว่าในอนาคตอันใกล้นี้ เถาหยางจะเข้ายึดครองย่านธุรกิจ ย่านที่อยู่อาศัย และแม้แต่กองกำลังรัฐบาลทหารของตงหยาง…

ด้วยความสามารถของเถ้าแก่ซู หากเธอได้เข้ายึดครองจริง ๆ ก็เกรงว่าตำแหน่งอันดับ 1 ของอู๋ไถแห่งชิงเผิงก็อาจจะสั่นคลอน

ไม่สิ นับประสาอะไรกับชิงเผิง กลัวว่าฐานทางตอนใต้ทั้งหมดก็จะล้าหลังอย่างสู้ไม่ได้

“เหล่ากง ว่ายังไง ได้ไหม? อู๋ไถของเราร้อนเกินไป น้ำประปาก็มีอย่างจำกัดแล้วก็แพงด้วย ทุกวันนี้แค่ค่าน้ำอย่างเดียวก็มากพอแล้ว ทำไมคุณไม่ใช้เงินนี้ไปเป็นค่าธรรมเนียมแลกเข้าล่ะ?”

ตงเหออวี้กลับมามีสติ เขาฝืนยิ้มและพูดว่า “ผมจะหาโอกาสคุยกับเถ้าแก่ซูให้”

ในอดีตผู้คนจากตงหยาง โส่วอัน และอวิ๋นชางต่างก็หนีมาที่อู๋ไถ

แต่ตอนนี้เขาต้องส่งภรรยาของเขาไปที่ตงหยาง เมื่อคิดดูแล้วเวลาก็เปลี่ยนไปจริง ๆ

ไม่รู้ว่านายกเทศมนตรีเริ่นจะทำหน้ายังไงเมื่อเขาได้ยินสิ่งนี้

ในขณะที่เขากำลังคิดอยู่นั้น จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องซึ่งอยู่ไม่ไกลราวกับกับว่าอยู่ในระยะยี่สิบเมตร

จากนั้นเขาก็ถอยห่างจากกำแพงเมืองไปหลายก้าวโดยไม่รู้ตัว

เมื่อเขาถอยออกไปในระยะที่ปลอดภัย เขาก็เพ่งสายตาและมองไปยังทิศทางของเสียงกรีดร้อง ทันใดก็มีเงาสีดำขนาดใหญ่พุ่งผ่านดวงตาของเขาไป!

เมื่อมองดูอีกครั้งก็เห็นว่าผู้ใต้บังคับบัญชาสองคนที่มากับเขาดูเหมือนจะถูกกัดด้วยอะไรบางอย่างตรงกลางกลางลำตัว และร่างกายก็แยกออกเป็นสองส่วน

ในขณะเดียวกันก็มีเสียงกรีดร้องดังไปทั่ว

ติงเหออวี้หน้าซีด

ถ้าเขาไม่ถอยออกไปก่อน เขาอาจจะเป็นคนที่ตายไปแล้วก็ได้!

เห็นได้ชัดว่ากำแพงเมืองไม่ได้รับความเสียหาย นับประสาอะไรกับการพังทลาย แล้วมันมีบางอย่างเข้ามาทำร้ายผู้คนข้างในได้ยังไง?!

มีเสียงกรีดร้องมากขึ้นเรื่อย ๆ และเหตุการณ์ก็วุ่นวายมากขึ้นเรื่อย ๆ

ติงเหออวี้ไม่มีเวลาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาใช้พลังวิเศษของเขาทันทีเพื่อ ‘หยุดนิ่ง’ สภาพแวดล้อมรอบตัวเขาให้มากที่สุด

เพราะท้ายที่สุดแล้ว เขาไม่สามารถสู้กับสัตว์ประหลาดในความมืดเพียงลำพัง เขาทำได้แค่ช่วยผู้คนที่อยู่รอบตัวเขา สัตว์ประหลาดหลบหลีกเขาไปในขณะที่มันกำลังคลั่งและเริ่มฆ่าในค่ำคืนที่มืดมิดนี้

จนกระทั่งรุ่งสางที่เต็มไปด้วยการนองเลือด สัตว์ประหลาดสีดำที่ไม่รู้จักและทรงพลังก็หายไปใต้ดิน และแสงสลัว ๆ ก็สาดลงมาบนกำแพงเมืองที่แข็งแกร่ง ซึ่งถูกปกคลุมไปด้วยเลือดแห้งกรังแล้ว

ติงเหออวี้ใช้พลังของเขาจนหมดเรี่ยวแรง เข่าของเขาอ่อนลงและคุกเข่าลงครึ่งหนึ่งบนพื้น และผู้ใต้บังคับบัญชาของเขารีบก้าวข้ามศพที่อยู่บนพื้นอย่างรวดเร็วเพื่อเข้ามาประคองเขา

ติงเหออวี้โบกมือด้วยใบหน้าซีด “ไม่ต้องเป็นห่วงฉัน ไปนับจำนวนผู้เสียชีวิต”

ครั้งนี้อู๋ไถไม่ได้เตรียมพร้อม มีคนบาดเจ็บล้มตายหนักมาก ดินแดนของพวกเขาหายไปสองเขต และไม่ว่าสัตว์ประหลาดจะไปที่ใด ก็จะมีซากศพที่นั่น และมันมักจะกัดส่วนเอวของมนุษย์ มันโหดร้ายมาก

นายกเทศมนตรีเริ่นโกรธมาก เขาถามทหารที่เฝ้ากำแพงเมือง แต่ติงเหออวี้ก็อธิบายกับเขา

“ท่านนายก ตัวที่โจมตีเราครั้งนี้อาจไม่ใช่ซอมบี้ธรรมดา”

นายกเริ่นขมวดคิ้ว “แม้แต่ซอมบี้ที่พัฒนาแล้วก็ไม่สามารถผ่านกำแพงเมืองของเราได้”

ติงเหออวี้ส่ายหัว “มันไม่ใช่ซอมบี้วิวัฒนาการ มันสามารถมุดดินและเคลื่อนไหวได้เร็วมาก ถ้าไม่ใช่เพราะซู… ผมเฝ้าระวัง ผมก็เกรงว่าพี่น้องของเราจะถูกพวกมันฆ่าตายไปแล้ว”

เมื่อเห็นใบหน้าซีดของเขา นายกเริ่นก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่

“รีบกลับไปพักผ่อน ฉันจะจัดคนไปจัดการกับที่เกิดเหตุ เมื่อคืนที่ผ่านมาเสี่ยวชิวตื่นตระหนก ฉันขอให้คนช่วยห้ามไม่ให้เธอออกไป”

ติงเหออวี้กล่าวขอบคุณ และกลับบ้านด้วยอาการปวดหัว

ทันทีที่ประตูเปิดออก ภรรยาก็รีบเข้ามากอดเขาแน่น เธอสั่นไปทั้งตัว และสะอื้นเบาๆ

“อาอวี้ ฉันคิดว่าคุณจะไม่กลับมาแล้ว…”

ติงเหออวี้โอบกอดเธออย่างแนบแน่น

ถ้าไม่ใช่เพราะคำเตือนของซูเถาที่ทำให้เขาตื่นตัวแต่เช้า เขาอาจจะกลับมาไม่ได้จริงๆ

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เขาก็ปลอบโยนภรรยาของเขาอยู่พักหนึ่ง จากนั้นรีบไปที่ระเบียง เดินไปรอบ ๆ สักพัก และในที่สุดก็โทรไปที่เถาหยาง

ซูเถาเพิ่งตื่นและรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่เห็นว่าเป็นสายของติงเหออวี้

“เกิดอะไรขึ้น รองติง? หากต้องการสั่งซื้อเสบียง คุณสามารถไปที่เว็บไซต์ทางการของเราและทำตามคำแนะนำ”

ติงเหออวี้ลูบคิ้ว เขาเต็มไปด้วยความสับสนในใจ เขามีคำถามในหัวมากมาย แต่เขาไม่รู้จะถามยังไง

เมื่อเห็นว่าเขายังคงเงียบ ซูเถาถามด้วยความสับสน “รองติง?”

ติงเหออวี้หายใจเข้าลึก ๆ “เถ้าแก่ซูรู้ได้ยังไง ว่าผมจะตายที่แนวกำแพงเมือง”

ซูเถาผงะและเริ่มดึงสติของเธอขึ้นมา

“รองติง ทำไมคุณถึงถามว่าฉันรู้เรื่องนี้ได้ยังไง คุณรู้แต่ว่าฉันแค่เตือนคุณด้วยความหวังดีก็พอ”

ติงเหออวี้นิ่งไป แต่เพราะคำเตือนของเธอ ถือว่าเธอได้ช่วยชีวิตเขาไว้ ทำให้ภรรยาของเขาไม่สูญเสียเขาไป

เขาถอนหายใจ “ขอบคุณ แล้วคุณรู้ไหมว่าสัตว์ประหลาดตัวนั้น…คือตัวอะไร”

ซูเถาส่ายหัวและพูดว่า “พูดตามตรง ตงหยางก็ถูกพวกมันโจมตีเหมือนกัน ไม่มีใครรู้ว่าพวกมันคืออะไร แต่ตอนนี้พูดกันโดยทั่วไปว่าพวกมันเป็นซอมบี้วิวัฒนาการในอีกทิศทางหนึ่ง”

ติงเหออวี้ลูบขมับ “เอาล่ะ อย่างไรก็ตาม ผมก็ขอบคุณคุณมาก ผม ติงเหออวี้เป็นหนี้บุญคุณคุณ ถ้ามีโอกาสผมจะตอบแทนคุณแน่นอน”

ซูเถาไม่ได้จริงจังกับมัน แต่ถามว่า “แล้วคุณจะสั่งเสบียงอีกไหม”

ติงเหออวี้กล่าวว่า “สั่ง ผมวางแผนที่จะไปเถาหยางวันนี้ แต่อาจต้องเลื่อนเวลาไปสองสามวัน การโจมตีครั้งนี้ทำให้เราสูญเสียอย่างหนัก และเราต้องจัดลำดับความสำคัญหลังเกิดสงคราม”

หลังจากพูดจบ เขาก็จำได้ว่าภรรยาของเขาบอกอะไรเขาเมื่อคืนนี้ เขาลังเลอยู่สองวินาทีแล้วถามว่า

“เถ้าแก่ซู ที่ในศูนย์สุขภาพแม่และเด็ก…”

เมื่อซูเถาได้ยิน เธอจะไม่เข้าใจได้อย่างไร “ครอบครัวของคุณมีหญิงตั้งครรภ์ที่กำลังจะคลอดบุตรเหรอ”

ติงเหออวี้รีบพูดว่า “ยังไม่ใช่ แต่คาดว่าภรรยาของผมต้องการไปที่ศูนย์สุขภาพแม่และเด็กตงหยางภายในสิ้นปีหรือต้นปีหน้า ดังนั้นผมจึงอยากถามคุณว่าเป็นไปได้ไหมที่เราจะจองล่วงหน้า และจ่ายค่ามัดจำก่อนจำนวนหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นคะแนนสมทบ เงินสกุลเหลียนปัง….หรือผลึกนิวเคลียสก็ได้”

สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนทำให้เขาเข้าใจว่าอู๋ไถไม่ปลอดภัยจริงๆ และเขาคงจะสบายใจได้ด้วยการให้ภรรยาและลูกอยู่ภายใต้การปกครองของเถาหยาง

[1] เหล่ากง (老公) แปลว่า สามี