บทที่ 187 คนผู้นี้ยังไม่ตาย

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 187 คนผู้นี้ยังไม่ตาย

บทที่ 187 คนผู้นี้ยังไม่ตาย

กู้เสี่ยวหวานมองไปรอบ ๆ สถานที่แห่งนี้อย่างระมัดระวัง ที่นี่อันตรายเกินไป

ต่อให้เมื่อสักครู่ตนจะคิดมาอย่างดีแล้ว แต่ที่ใต้น้ำตกนี้มีศพอยู่ เมื่อลมกรรโชกพัดมาก็ทำให้คนหวาดกลัว

กู้เสี่ยวหวานรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับเสียงกระแทกของวัตถุหนักที่ตกลงมาเมื่อสักครู่ ชายคนนั้นร่วงลงมาจากน้ำตกและตกลงไปในน้ำ จากนั้นแหจับปลาของตนเองก็บังเอิญไปติดคนและลากขึ้นมา

อย่างไรก็ตาม ศพถูกดึงขึ้นมาแล้ว และไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะโยนกลับ ตามคำกล่าวที่ว่า ฝังลงดินแล้วจะปลอดภัย แค่ฝังเขาได้ก็คงเป็นเรื่องที่ดี

กู้เสี่ยวหวานตัดสินใจแล้วพูดกับกู้หนิงผิงว่า “หนิงผิงปกป้องน้องสาวไว้ ข้าจะฝังคนคนนี้”

จากนั้นก็มองไปที่ศพบนพื้นอีกครั้ง และไม่รู้ว่าเป็นเพราะอุปาทานจากความหวาดกลัวหรือไม่ นางก็เห็นศพบนพื้นเคลื่อนไหว

กู้เสี่ยหวานที่อยู่ใกล้เห็นว่า “ศพ” กำลังขยับมืออย่างได้ชัดเจน นางก็อุทานออกมาหนึ่งคำ พลางถอยหลังสองสามก้าวและล้มลงกับพื้นด้วยความหวาดกลัว

เกิดอะไรขึ้น? ศพกลับมามีชีวิตอย่างนั้นหรือ?

กู้เสี่ยวหวานจ้องมองศพด้วยตาที่ไม่กะพริบ กู้หนิงผิงกอดกู้เสี่ยวอี้แน่นและยืนอยู่ไม่ไกล จ้องไปที่ “ศพ” ด้วยดวงตาเบิกกว้าง

“ช่วย ช่วยข้า……” ทันใดนั้น เสียงที่อ่อนล้าก็ดังขึ้น

เสียงนั้นเบามาก เบาราวกับเสียงของยุงบิน แม้น้ำเสียงจะอ่อนระโหยโรยแรง แต่ก็ยังแฝงไปด้วยพลังแห่งการเอาชีวิตรอด

“หือ?” กู้เสี่ยวหวานได้สติและก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว นางเข้ามาหาชายคนนั้นและพยายามอย่างเต็มที่ในการพลิกร่างให้เขานอนหงายหน้าขึ้น

เมื่อกู้เสี่ยวหวานพลิกชายคนนั้นขึ้นมาแล้วก็หลับตาลง นางหวาดกลัวที่จะเห็นใบหน้าที่กำลังเน่า แต่เมื่อลืมตาขึ้นช้า ๆ นางก็เห็นใบหน้าของชายผู้นี้อย่างชัดเจน หัวใจพลันเต้นแรงอย่างอธิบายไม่ถูก สมองว่างเปล่าครู่หนึ่ง

ช่างเป็นใบหน้าที่งามล่มบ้านล่มเมือง*[1]นัก! กู้เสี่ยวหวานหัวเราะเยาะตัวเอง ชายคนนี้งดงามกว่าสตรีเสียอีก อย่างไรก็ตาม ตอนนี้นางไม่มีเวลามาคิดมาก

เสียงร้องขอความช่วยเหลือดังขึ้นเมื่อครู่นี้ แต่ก็หยุดลงทันที ชายคนนั้นกัดริมฝีปากแน่น ริมฝีปากของเขาซีดและไร้เลือด บาดแผลที่หน้าอกของเขายังคงมีเลือดไหลออกมา เนื้อหนังเหวอะหวะนั้นทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัว

เมื่อกู้เสี่ยวหวานเห็นฉากนี้ หัวใจของเธอก็เต้นแรงดังตีกลอง พลางหายใจเข้าลึก ๆ บุคคลนี้ถูกแทงทะลุหน้าอกและหลังด้วยอาวุธที่แหลมคม! ช่างน่าตกใจและทำให้ผู้คนรู้สึกสยดสยองนัก!

มือของกู้เสี่ยวหวานสั่น ก่อนยื่นนิ้วชี้ขวาออกด้วยความกลัวสุดขีด และค่อย ๆ วางไว้ใต้จมูกของชายคนนั้นเพื่อสำรวจลมหายใจ

ลมหายใจร้อนแผ่วเบาเป่ารดปลายนิ้วของนาง

ขอบคุณสวรรค์ที่บุรุษคนนี้ยังมีชีวิตอยู่!

ดูเหมือนว่าเขาจะรู้สึกว่ามีคนเดินเข้ามาใกล้เขา ดวงตาบุคคลนั้นก็ลืมขึ้น แววโหดเหี้ยมในดวงตาของเขาทำให้หัวใจของกู้เสี่ยวหวานสั่นสะท้าน

ดวงตาของชายผู้นั้นล้ำลึกราวกับแอ่งน้ำลึกและมีร่องรอยความโหดเหี้ยม จิตสังหารฉายผ่านดวงตาของเขาขณะจ้องกู้เสี่ยวหวานอย่างไม่วางตา

ชายคนนั้นจ้องมองกู้เสี่ยวหวานอย่างดุดัน อาจเป็นเพราะรู้สึกว่าเด็กจะไม่เป็นอันตรายต่อเขา ในที่สุดดวงตาของเขาก็ฉายแววโล่งใจ

“ช่วยข้า……” เสียงร้องขอความช่วยเหลือยังคงดำเนินต่อไป แต่เขาก็ยังอ่อนแรงอยู่ ชายคนนั้นคงใช้กำลังทั้งหมดของเขาจนหมด และในเวลานี้ดวงตาของเขาก็ค่อย ๆ ปิดลงอย่างช้า ๆ

“เจ้าเป็นใคร?” กู้เสี่ยวหวานถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก นางมองเห็นเจตนาฆ่าในดวงตาของเขาได้อย่างชัดเจน

ไม่รู้ว่าคนผู้นี้เป็นคนดีหรือไม่! กู้เสี่ยวหวานจึงลังเลอยู่ครู่หนึ่งว่าจะช่วยหรือไม่ช่วยดี?

เมื่อมองดูชายผู้นี้อีกครั้ง เขาก็หลับตาลงเป็นเพราะอ่อนแรงมากแล้ว

เขายังมีชีวิตอยู่! กู้เสี่ยวหวานใจชื้นขึ้นมา ตอนนี้ไม่ควรคิดอะไรแล้ว แต่ควรช่วยชีวิตคนก่อน เมื่อเห็นว่าชายผู้นี้ดูอ่อนแอมาก หากช้ากว่านี้เขาอาจจะตายได้ เลือดบนหน้าอกของเขายังคงไหลริน ถ้ามันยังคงไหลแบบนี้ คนผู้นี้จะต้องตายอย่างแน่นอน

กู้เสี่ยวหวานไม่คิดอะไรมากอีกต่อไป นางฉีกผ้าออกจากเสื้อผ้าของตน แล้วกดลงที่บาดแผลพลางกล่าวอย่างกังวลว่า “หนิงผิง เจ้ารีบมานี่”

กู้หนิงผิงที่ได้ยินเสียงพี่สาวเรียก จึงรีบไปอย่างรวดเร็ว “ท่านพี่……”

“หนิงผิง เจ้ากดเอาไว้ ข้าจะไปเก็บสมุนไพรห้ามเลือด!” หลังจากที่กู้เสี่ยวหวานกล่าวจบ นางก็เดินเข้าไปในป่าเพื่อเก็บสมุนไพร

กู้เสี่ยวหวานถือมีดที่ตนมักจะใช้เพื่อป้องกันตัวฟันกิ่งไม้ที่ขวางทางข้างหน้า ก้มศีรษะลงและค่อย ๆ ค้นดูในป่า นางไม่กล้าเดินไปไกลเกินไป เพราะไม่รู้ว่าคนที่บาดเจ็บสาหัสอยู่นั้นจะเป็นมิตรหรือศัตรู และยังมีน้องที่อ่อนแออีกสองคน นางจึงไม่กล้าไปไหนไกล

หญ้าบนพื้นขึ้นสูงต่ำสลับกันเช่นเดียวกับใบไม้และกิ่งไม้ที่ตายแล้วทั้งหมดกองอยู่บนพื้น กู้เสี่ยวหวานก้มหาและใช้กิ่งไม้เขี่ยหาสมุนไพรห้ามเลือดอย่างช้า ๆ ด้วยความมั่นใจ

ในอดีตเมื่อค้นหาสมุนไพรชนิดใหม่บนภูเขาลึก ก็เป็นการง่ายที่จะถูกกิ่งไม้แหลมคมเกี่ยว ถ้าอวิ๋นหนานไป๋เย่า*[2]ถูกใช้จนหมด กู้เสี่ยวหวานจะมองหาสมุนไพรห้ามเลือดในบริเวณใกล้เคียง ก่อนเอาใส่ปากเคี้ยวแล้วนำมาโปะที่แผล ซึ่งมันได้ผลดีมาก

หลังจากค้นหารอบสระน้ำลึกครู่หนึ่ง กู้เสี่ยวหวานก็พบสมุนไพรชนิดนั้น นางนั่งยอง ๆ คว้ามาสองสามต้น แล้วรีบวิ่งกลับไป

นางล้างสมุนไพรในสระน้ำ หลังจากนั้นจึงนำใส่ปากเคี้ยวและโปะลงบนแผลของชายผู้นั้น จากนั้นพันแผลด้วยผ้า

กู้หนิงผิงมองดูการเคลื่อนไหวของกู้เสี่ยวหวานจากด้านข้างอย่างงงงวย “ท่านพี่ ท่านกำลังทำอะไรอยู่?”

“สมุนไพรนี้สามารถห้ามเลือดได้ คนผู้นี้ได้รับบาดเจ็บที่หน้าอกและเลือดไหลไม่หยุด ถ้าเลือดไม่หยุดไหล ข้าเกรงว่าเลือดคงไหลออกมาหมดตัว” กู้เสี่ยวหวานตอบขณะมือยังคงเคลื่อนไหวพันผ้าพันแผลให้ชายคนนั้น

“ท่านพี่ เราจะทำอย่างไรกันดี?” กู้หนิงผิงเห็นว่าพี่สาวเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วราวกับว่าคุ้นเคยกับมัน ไม่นานชายผู้นั้นก็ได้รับการพันแผลเสร็จภายในระยะเวลาอันสั้น แม้จะมีความสงสัยอยู่ในใจ แต่ก็ไม่น่าแปลกใจ

“รีบกลับกันเถอะ เราต้องพาชายผู้นี้กลับไปด้วย เขาบาดเจ็บสาหัส ถูกอะไรสักอย่างแทงทะลุหน้าอกและหลังของเขา และตกลงมาจากหน้าผาสูงขนาดนั้น โชคดีที่น้ำมีแรงต้าน ไม่อย่างนั้นเขาคงตายไปนานแล้ว ถ้าไม่ไปหาหมอเร็วกว่านี้ เขาคงไม่รอดเป็นแน่” ชายผู้นั้นหน้าซีดและจมอยู่ในน้ำเป็นเวลานาน ลมฤดูใบไม้ผลิในหุบเขานี้ทำให้พวกเขารู้สึกเย็นนิดหน่อย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงชายผู้นี้ที่เนื้อตัวเปียกโชกไปด้วยน้ำอยู่เลย

*[1]งามล่มบ้านล่มเมือง เป็นสำนวน หมายถึง ทำให้ประเทศและประชาชนเดือดร้อน กล่าวถึงความงามที่ทำให้เกิดการแย่งชิงจนประเทศล่มจมได้

*[2] อวิ๋นหนานไป๋เย่า เป็นยาสิทธิบัตรจีนที่มีชื่อเสียงในยูนนาน

………………………………………………………………………………………………………………………..