บทที่ 209 สูญเสียคนรัก

วันถัดมา ถังหลี่งานยุ่งเกินกว่าได้นั่งพัก นี่เป็นครั้งแรกของนางในฐานะญาติเจ้าสาว เถ้าแก่เนี้ยฮวาไม่มีครอบครัว ถังหลี่และนางไช่จึงเป็นแม่งานในการจัดงานแต่งครั้งนี้ นางไช่มีอายุและประสบการณ์ที่มากกว่า ทั้งสองจึงสามารถพูดคุยและจัดการทุกอย่างให้เป็นไปด้วยดี

“พรุ่งนี้ซานเป่าจะสวมชุดสีแดง ขึ้นไปบนเตียงบ่าวสาวเพื่ออวยพรให้มีลูกมีหลานมากมาย”

“พรุ่งนี้จะมีแขกเหรื่อมามากมาย เอ้อร์เป่ากับซานเป่าต้องอยู่ด้วยกันล่ะ”

“เว่ยฉิงเจ้ามาออกแรงช่วยตรงนี้”

นางไช่เริ่มจัดแจงทีละคน

“พี่ไช่ ข้าควรทำอะไรหรือ?” ถังหลี่ถาม

“เจ้าคอยดูแลเถ้าแก่เนี้ยฮวา คอยช่วยอยู่ข้างกายนางเถอะ” นางไช่กล่าว

เมื่อได้ยินเช่นนั้นถังหลี่เงยหน้าขึ้นด้วยสีหน้าจริงจังและยืดหน้าอก

“รับทราบเจ้าค่ะ!”

นางไช่เห็นก็รู้สึกขบขันกับท่าทีเช่นนั้น ถังหลี่นั้นปกติมีท่าทีเป็นผู้ใหญ่มากเกินกว่าวัยที่แท้จริงของนาง ท่าทีตอนนี้เป็นสิ่งย้ำเตือนนางไช่ว่าความจริงแล้วถังหลี่ยังเป็นเพียงเด็กสาวคนหนึ่งเท่านั้น

“วันนี้รีบนอนแต่หัวค่ำล่ะ พรุ่งนี้คงเป็นวันที่วุ่นวายมาก” นางไช่กล่าว

หญิงสาวได้ฟังก็พยักหน้ารับ

“ข้ากลับก่อนนะ พรุ่งนี้เช้าข้าจะมาใหม่”

“ลาก่อนพี่ไช่”

ทั้งสองคนแยกย้ายกันกลับเพื่อพักผ่อน

ภายในห้องนอนของเถ้าแก่เนี้ยฮวา หญิงสาวจ้องมองชุดแต่งงานที่แขวนอยู่บนผนังห้องอย่างนิ่งงัน มันสวยงามมาก หากนางได้ใส่จะต้องดูงดงามมากอย่างแน่นอน

ลูกหมาป่าของนางก็คงตั้งหน้าตั้งตารอที่จะเห็นเฟิ่งเซี่ยในชุดเจ้าสาวสีแดงด้วยใช่ไหม?

ทันใดนั้นเองก็มีเสียงเคาะที่หน้าต่างดังขึ้น เมื่อหญิงสาวเดินไปที่หน้าต่าง เมื่อเห็นคนที่อยู่ด้านนอกใบหน้าของนางก็ซีดเผือด

…….

เช้าวันต่อมา

ถังหลี่ตื่นแต่เช้าตรู่ เว่ยฉิงปลุกเด็ก ๆ ให้ตื่นขึ้น ท่าทางของเด็กน้อยทั้งสองคนก็มีความตื่นเต้นเช่นเดียวกับพวกเขา งานแต่งงานเป็นงานรื่นเริงที่มีชีวิตชีวามาก ไม่น่าแปลกใจที่พวกเขาจะชอบกันมากขนาดนี้

เด็กน้อยทั้งสองคนอาบน้ำแต่งตัวสะอาดสะอ้านราวกับตุ๊กตาในภาพแขวนวันปีใหม่ที่งดงามและประณีต เด็ก ๆ รู้ว่าตนเองไม่สามารถช่วยอะไรได้มาก เอ้อร์เป่าและซานเป่าไม่ต้องการสร้างปัญหาให้ผู้ใหญ่จึงนั่งลงอย่างเรียบร้อย แทะแตงโมกินเล่นไปพลาง ๆ

“พี่สาวฮวาเป็นอย่างไรบ้าง?” ถังหลี่ถาม

“แต่งตัวเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้กำลังแต่งหน้าอยู่” นางไช่พูดก่อนจะมองไปที่เว่ยฉิงอีกครั้ง

“เว่ยฉิง เจ้าช่วยยกโต๊ะไปที่นั่นได้ไหม”

เว่ยฉิงเดินไปหยิบโต๊ะด้วยมือข้างเดียวก่อนจะวางไว้ตามที่นางไช่บอก

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว..

อีกไม่นานก็ถึงเวลาส่งตัวเจ้าสาวแล้ว

“พี่ฮวาพร้อมหรือยัง?”

“พร้อมแล้ว ข้ารออยู่ด้านใน”

เมื่อเสียงฆ้องและกลองดังขึ้นเป็นสัญญานว่าขบวนเจ้าบ่าวเดินทางมาถึงแล้ว ถังหลี่และนางไช่ไปที่ประตูเพื่อยืนรอ เด็กน้อยทั้งสองยืดหัวชะโงกออกไปดูขบวนเจ้าบ่าวของเฉาจี เป็นขบวนที่ยาวมาก เฉาจีขี่ม้าสูงสง่านำอยู่ด้านหน้าตามหลังด้วยเกี้ยวแปดคนหาม

มีคำกล่าวเอาไว้ว่า ผู้คนอาศัยเสื้อ ม้าอาศัยอานในยามนี้ เฉาจีที่ยามปกติดูเป็นบุรุษหยาบกระด้างแต่วันนี้กลับดูท่าทางมีสง่าราศรี และมีความสุข ใบหน้ามีแต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ

ถัดจากเกี้ยวแปดคนหาม เป็นบ่าวรับใช้เดินตามเป็นขบวนยาว แสดงให้เห็นว่าเฉาจีผู้นี้ให้ความสำคัญกับงานแต่งงานในครั้งนี้มากเพียงไร เจ้าบ่าวในชุดแดงลงจากหลังม้าเพื่อเริ่มพิธีต่าง ๆ เขาเดินไปถึงห้องของเจ้าสาวของตน

ชายหนุ่มเคาะประตูห้องอย่างมีความสุข แต่รอจนนานแล้วก็ไม่มีเสียงตอบกลับมา

“ฮวาเอ๋อร์” เฉาจีตะโกน ก่อนจะเรียกนางด้วยชื่อเล่น “เซี่ยเซี่ย?”

ถังหลี่และนางไช่รู้สึกได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง เจ้าสาวควรออกมาจากห้องได้แล้ว เหตุใดประตูจึงยังไม่เปิด?

ถังหลี่และนางไช่เดินไปเคาะประตู แต่ข้างในไม่มีเสียงเคลื่อนไหวใดๆ สีหน้าเฉาจีเปลี่ยนไป ท่าทางหงุดหงิด เขากระแทกประตูอย่างแรงจนเปิดออก

ไม่มีใครอยู่ในห้อง!

“เซี่ยเซี่ย!”

“เซี่ยเซี่ย!”

เฉาจีค้นหาทุกที ไม่ว่าจะใต้เตียง ในตู้ แต่กลับไม่พบใครเลย!

ชุดเจ้าสาวที่งดงามวางอยู่บนเตียง…

ใบหน้าของเฉาจีเริ่มซีดเซียว

“ดูนี่สิ!” เสียงของถังหลี่ดังขึ้นมาอย่างร้อนรน

นางพบกับจดหมายฉบับหนึ่ง เฉาจีตื่นตระหนก เขาคว้าจดหมายมาถืออ่านอย่างรวดเร็ว หลังจากอ่านจดหมายแล้ว เฉาจีทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้หมดสติไปทันที

จดหมายเขียนไว้ว่าอย่างไร?

เหตุใดเฉาจีจึงมีท่าทีราวกับคนใจสลายแบบนั้น

ถังหลี่หยิบจดหมายขึ้นดูนางกวาดสายตาไปตามเนื้อหาด้านใน เมื่ออ่านจบก็เข้าใจได้ว่าเหตุใดเฉาจีจึงมีท่าทีเช่นนี้

เถ้าแก่เนี้ยฮวากล่าวในจดหมายว่านางวิตกกังวลเรื่องการแต่งงาน รู้สึกร้อนใจมาก ที่นางตอบตกลงเป็นเพราะเฉาจีเร่งรัดเซ้าซี้นาง

พอถึงวันแต่งงานจริงนางเกิดความกลัวขึ้นมาจนต้องหนีไป

ใจความคือฮวาเฟิ่งเซี่ยไม่ต้องการเข้าพิธีวิวาห์กับเฉาจี นางจึงหนีการแต่งงานไป แต่ถังหลี่รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

เป็นไปได้อย่างไร?

ในวันก่อนหน้านั้น นางเห็นเถ้าแก่เนี้ยฮวาดูมีความสุขมาก สีหน้าของนางเต็มไปด้วยความคาดหวัง นางจะหนีการแต่งงานไปได้อย่างไร?

แต่จดหมายที่ทิ้งเอาไว้ก็ได้ระบุอย่างชัดเจน

หรือว่าจะมีบางอย่างแอบซ่อนอยู่

“เซี่ยเซี่ย…” เฉาจีผุดลุกขึ้นทันที

“เซี่ยเซี่ย เจ้าทิ้งข้าไว้แบบนี้ไม่ได้นะ!”

เมื่อพูดจบเขาก็วิ่งออกไปราวกับคนเสียสติ ทั้งนางไช่และถังหลี่ต่างตกตะลึงเมื่อเห็นแบบนั้น

“ถังถัง เราจะทำอย่างไรต่อไปดี?” นางไช่ถาม

“อย่างไรงานแต่งก็ล่มไปแล้ว เก็บข้าวของก่อนเถอะ”

ถังหลี่พูดขึ้น นางไช่เองก็เห็นด้วยเช่นกัน

ในตอนแรกก็จัดการกับขบวนเจ้าบ่าวก่อน จากนั้นก็ค่อยมาบอกกล่าวกับแขกที่มาช่วยงานและเริ่มจัดเก็บโรงเตี๊ยมให้เรียบร้อย

“ถังถัง เจ้าจะรื้อผ้าไหมแดงมงคลเหล่านี้ออกด้วยหรือไม่?” นางไช่ถาม

ถังหลี่มองไปยังผ้าไหมสีแดงที่ปักคำว่าความสุขมากล้น ในตอนที่พวกนางตกแต่งสถานที่มันคือความสุขที่แท้จริง วันนี้ควรเป็นวันแห่งความสุข สนุกสนาน ไม่คาดคิดเลยว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น จากเรื่องดีกลายเป็นร้าย

“ปล่อยเอาไว้ก่อนเถิด” ถังหลี่ลังเล

“ถังถัง ตอนนี้เถ้าแก่เนี้ยฮวาจะเป็นอย่างไรบ้าง? เหตุใดนางถึงหนีงานแต่งงานไปนะ”

นางไช่รู้สึกงงงวย

“ข้าคิดว่าเรื่องนี้น่าจะมีเบื้องหลัง” ถังหลี่กล่าว

“ถังถัง หรือว่าจะเกิดอะไรบางอย่างขึ้นกับนาง?” นางไช่รีบบอก

ถังหลี่ครุ่นคิดถึงการกระทำทุกอย่างของเถ้าแก่เนี้ยฮวาในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ยิ่งคิดมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งรู้สึกว่าไม่ชอบมาพากลมากขึ้นทุกที แต่เดิมเถ้าแก่เนี้ยฮวาดูมีสุขมากที่จะได้แต่งงาน แต่ดูเหมือนว่าเมื่อห้าวันก่อน นางจะดูผิดปกติออกไป เกิดอะไรขึ้นกับนางกันแน่ ?

ถังหลี่เต็มไปด้วยความวิตกกังวล

“ฮูหยิน ข้าจะลองออกตามหาทั่วเมืองดู” เว่ยฉิงพูด

ผู้ชายคนนี้เป็นคนที่พึ่งพิงได้ ยามที่ถังหลี่ต้องการอะไร เขาจะตอบสนองให้นางได้เสมอ นางจึงรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่กับเว่ยฉิง

ถังหลี่เงยหน้าสบตากับเขาแล้วพยักหน้า

เว่ยฉิงเห็นแล้วจึงหันหลังเดินออกไปทันที

เมื่อถังหลี่หันหน้าไป ก็เจอกับเจอกับเด็กทั้งคู่ที่นั่งบนม้านั่งตัวเล็ก ๆ อย่างว่าง่าย ไม่ก่อความวุ่นวาย ดูแล้วเชื่อฟังเป็นอย่างมาก

ถังหลี่มองไปทางเอ้อร์เป่า เด็กชายพูดขึ้นว่า

“ท่านแม่ไม่ต้องเป็นห่วง ท่านพ่อจะตามหาท่านป้าฮวากลับมาได้แน่นอน!”

หญิงสาวรู้สึกอุ่นวาบในอก นางพยักหน้ารับ ในตอนที่เว่ยฉิงกลับเข้ามาเป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว

“ข้าพบกับเฉาจี เขาให้คนออกกระจายค้นหาทั่วทั้งเมืองฉินโจว แต่ก็ไม่พบเลย”

เว่ยฉิงกล่าว

เถ้าแก่เนี้ยฮวาเหมือนหายไปในอากาศ

เว่ยฉิงนึกถึงตอนที่เขาได้พบกับเฉาจี ในตอนกลางวันเขายังเป็นเจ้าบ่าวที่ร่าเริงมาก แต่ตอนกลางคืนเขาเหมือนหมาบ้าที่มีดวงตาแดงก่ำ

นี่คือการสูญเสียคนที่รักมากที่สุด

เฉาจีดูน่าสงสารมาก

เว่ยฉิงกระชับกอดถังหลี่ไว้ในอ้อมแขน