ตอนที่ 248 หย่าให้เร็วที่สุด
ตอนที่ 248 หย่าให้เร็วที่สุด
ถังหลิงเห็นรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเสิ่นเสี่ยวเหมยแล้วก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ใช้โอกาสนี้พูดว่า “เสี่ยวเหมย เธออย่าเปิดเผยให้คนตระกูลเฉินรู้เชียวว่าฉันช่วยเธอปกปิดเรื่องท้องหลอกอยู่ ไม่งั้นถ้าพวกเขาเข้าใจฉันผิดขึ้นมา เกรงว่าฉันจะเข้าบ้านตระกูลเฉินไม่ได้ด้วยซ้ำ แล้วฉันจะไปบ้านพวกเขาเพื่อพูดแทนเธอได้ยังไง?”
หล่อนพูดต่อ “แล้วเธอก็ต้องเก็บเป็นความลับไว้จากหลินเซี่ยด้วย ผู้หญิงคนนั้นไม่ธรรมดาเลย ลี่ลี่ไปสมัครงานที่นั่นถึงสองครั้งแต่หล่อนก็ไม่ยอมรับ ช่วงนี้พยายามอยู่ห่าง ๆ ไม่ไปเผชิญหน้ากับหล่อนโดยตรงจะเป็นการดีที่สุด ฉันจะคอยดูจนกว่าหล่อนจะตายใจ ปล่อยให้หล่อนผ่อนคลายความระมัดระวังแล้วค่อยคิดหาทางกำราบอีกครั้ง เซี่ยไห่สหายพี่ชายของเฉินเจียเหอที่เธอเคยเห็นหน้ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับฉันอยู่บ้าง ไว้ฉันจะลองเล่าเรื่องเธอผ่านเขาให้ลองไปพูดกับเฉินเจียเหออีกที ส่วนเฉินเจียซิ่งก็เกรงใจพี่ใหญ่ของเขาไม่น้อย ถ้าพี่ชายแนะนำ เขาต้องยอมฟังแน่”
เสิ่นเสี่ยวเหมยเองก็เห็นพลังของหลินเซี่ยแล้วเช่นเดียวกัน ต่อให้ตอนนี้ตนจะได้ความกล้าหาญกลับคืนมาแล้ว แต่ก็ยังไม่กล้าต่อสู้กับอีกฝ่ายเพียงลำพัง
ลูกผู้ชาย สิบปีล้างแค้นก็ยังไม่สาย
หล่อนควรรักษาสถานภาพการแต่งงานเอาไว้ก่อน ตราบใดที่ยังอยู่ใต้ชายคาเดียวกัน ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีโอกาสร่วมเรียงเคียงหมอนกับเขา
“ฉันเข้าใจแล้ว”
เสิ่นเสี่ยวเหมยมองถังหลิงอย่างซาบซึ้ง “พี่หลิง ไม่ต้องกังวลนะ ฉันรู้ว่าที่พี่แนะนำก็เพื่อประโยชน์ของตัวฉันเอง ฉันจะไม่ทรยศพี่โดยการทำให้พี่ต้องเดือดร้อนภายหลังแน่”
“ว่าแต่ หมอคนนั้นไปไหนแล้ว? หลินเซี่ยโวยว่าจะไปแจ้งความให้ได้ ถ้าตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จริง ๆ ความจริงทุกอย่างต้องคลี่คลายในสักวัน”
“หล่อนเป็นญาติฉันเองแหละ ก่อนหน้านี้ฉันไปบอกหล่อนแล้วว่าแผนการผิดพลาด หล่อนเป็นคนที่เชื่อถือได้ ช่วงนี้น่าจะไปจัดการสิ่งต่าง ๆ หลังได้รับเงินจากฉันไปแล้ว ต่อให้ใครจะแจ้งความ ก็ให้หล่อนยืนกรานว่าตัวเองวินิจฉัยผิดพลาดสถานเดียว ถึงคนพวกนั้นรู้ แต่ไม่มีหลักฐานแล้วจะทำอะไรได้? เราไม่ได้ไปขู่กรรโชกเอาเงินใคร มันเป็นเรื่องของความเข้าใจผิดล้วน ๆ แจ้งความไปตำรวจก็แค่มาทำหน้าที่สอบสวน ไม่มีโทษเป็นผลสำคัญอะไร”
“แน่นอนว่าฉันไม่ได้แบล็กเมล์อะไรหล่อนทั้งสิ้น แจ้งความไปก็เปล่าประโยชน์”
หลังจากกำชับเสิ่นเสี่ยวเหมยแล้ว ถังหลิงก็ยกยิ้ม ไม่นานก็ออกจากบ้านตระกูลเสิ่นไปด้วยความพึงพอใจ
…………………..
บ้านตระกูลเฉิน
หลังจากที่เฉินเจิ้นเจียงและโจวลี่หรงกลับมาถึงบ้าน พวกเขาก็บอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยละเอียดบราวนี่ออนไลน์
ผู้เฒ่าเฉินตบโต๊ะด้วยความโกรธ
“เสิ่นเสี่ยวเหมยคนนั้นชักจะหยามหน้าพวกเราเกินไปแล้ว ถึงขั้นใส่ร้ายสมาชิกครอบครัวของเราตามใจชอบ โกหกปลิ้นปล้อนจนเป็นนิสัย นอกจากพฤติกรรมจะเลวร้ายแล้วยังทำผิดทำนองคลองธรรมอีก”
ผู้เฒ่าเฉินมองไปที่เฉินเจิ้นเจียงและโจวลี่หรงพร้อมถามว่า “เจียเหอกับเซี่ยเซี่ยอยู่ไหน? ทำไมพวกเขาไม่กลับมาพร้อมพวกเธอ เซี่ยเซี่ยคงโกรธมากหลังจากถูกพวกเราตัดสินอย่างไม่ยุติธรรม เมื่อวานพวกเราเองก็มัวแต่อารมณ์เสีย ไม่ได้ปลอบใจหล่อนไม่พอยังปฏิบัติไม่ดีต่อหล่อนอย่างออกหน้าออกตาอีก เด็กคนนั้นต้องเสียใจมากแน่”
ผู้เฒ่าเฉินรู้สึกผิดเป็นที่สุด เขามองไปที่ภรรยาแล้วถามยืนยันว่า “เมื่อวานนี้ผมไม่ได้พูดจาอะไรแย่ ๆ กับหลานสะใภ้ใช่ไหม?”
“ไม่นะ พวกเราเพิ่งจะเข้าใจสถานการณ์เอาตอนนี้ เซี่ยเซี่ยต้องเข้าใจแน่”
ผู้เฒ่าเฉินถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ถ้าอย่างนั้นก็โล่งใจแล้ว”
“เจียซิ่งล่ะหายไปไหน?” เขาถามเฉินเจิ้นเจียงและคนอื่น ๆ อีกครั้ง
“น่าจะกลับไปทำงานต่อครับ แต่เขาบอกว่าเขาต้องการหย่า”
“หย่าเหรอ?” คุณย่าเฉินถอนหายใจหลังจากได้ยินสิ่งนี้ “ความอดทนของเขาคงจะถึงจุดสิ้นสุดแล้วล่ะ พอเขาได้ยินว่าเสิ่นเสี่ยวเหมยท้อง เขาก็รีบออกไปรับหล่อนกลับมา แถมในช่วงที่ผ่านมายังทำดีกับหล่อนมาก พอตอนนี้ทราบว่าพวกเขาไม่มีลูกด้วยกัน หนำซ้ำเรื่องราวยังเลยเถิดไปกันใหญ่ เจียซิ่งเลยไม่ยอมอีกต่อไป”
ผู้เฒ่าเฉินตัดสินใจอย่างเด็ดขาด “ดี ถ้าเจียซิ่งตัดสินใจแน่นอนแล้วก็ปล่อยให้เป็นไปตามนั้น เราควรสนับสนุนเขา”
เฉินเจิ้นเจียงที่อยู่ข้าง ๆ ลังเล “พ่อ ครอบครัวเราไม่เคยเกิดการหย่าร้างระหว่างสามีภรรยามาหลายชั่วอายุคนแล้ว ถ้าข่าวลือแพร่ออกไปจะฟังดูไม่ดีเอานะครับ”
ผู้เฒ่าเฉินจ้องมองเขาด้วยท่าทางเคร่งครึม “แกยังจะเห็นแก่หน้าตัวเองอีกเหรอ? ถ้าไม่หย่ากันแล้วชีวิตคู่ในอนาคตจะมีความสุขได้ยังไง ครอบครัวของเรามีรากฐานแข็งแกร่ง จะไม่มีวันยอมให้คนทุศีลมาอยู่ก่อปัญหาไม่จบไม่สิ้นจนตกต่ำเด็ดขาด เจียซิ่งถูกหล่อนทรมานมานานมากแล้ว อย่าลืมสิว่าภรรยาดีจะความเจริญรุ่งเรืองมาสู่สามชั่วอายุคน แต่ถ้าไม่ใช่ มันก็จะตกต่ำไปสามชั่วอายุคนเช่นกัน”
ผู้เฒ่าเฉินมองเฉินเจิ้นเจียง แสดงท่าทีรังเกียจ “แกน่ะหัวโบราณเกินไป ตัวเองเป็นพ่อกลับจัดการเรื่องของลูกชายทั้งสามคนไม่ได้ เอาแต่ห่วงหน้าพะวงหลังกับเรื่องนี้และเรื่องนั้น สุดท้ายเด็กก็ไม่สนิทใจกับพ่ออีกต่อไป”
“เราทุกคนควรเคารพการตัดสินใจของเจียซิ่งในเรื่องนี้ ในเมื่อเขาตั้งใจแล้วว่าจะหย่า ถ้าอย่างนั้นก็บอกให้เขาดำเนินการตามขั้นตอนหย่าโดยเร็วที่สุด
ผู้เฒ่าเฉินลุกขึ้น ตั้งท่าจะกลับเข้าไปในห้อง “เอาล่ะ อย่าลืมมาเรียกฉันด้วยถ้าเจียซิ่งกลับมา ฉันจะคุยกับเขาเอง”
…
หลิวกุ้ยอิงได้ยินว่าหลินเซี่ยกลับมาแล้วก็รีบไปเจอลูกสาวที่ร้านตัดผมทันที เช้านี้หล่อนไม่มีกะจิตกะใจจะออกไปตั้งแผงขายของเลยด้วยซ้ำ เพราะรอฟังข่าวทางจากหลินเซี่ยอยู่
เมื่อเห็นเธอ หลิวกุ้ยอิงและหลินเยี่ยนก็รีบเดินเข้าไปหาอย่างกระตือรือร้น และถามขึ้น “เซี่ยเซี่ย เป็นยังไงบ้าง? พวกเราได้ยินข่าวมาว่าน้องสะใภ้ของลูกแท้ง จากนั้นหล่อนก็เริ่มใส่ร้ายลูก พวกเรากังวลกันแทบแย่”
ชุนฟางพูดอย่างโกรธเคือง “หล่อนตั้งใจล้มเพื่อที่จะฉวยโอกาสใส่ร้ายเซี่ยเซี่ย เมื่อเช้าหลิวลี่ลี่ก็เดินลอยหน้าลอยตาเข้ามา เยาะเย้ยถากถางเหมือนมั่นใจว่าตัวเองชนะแน่”
“ไม่ต้องกังวลกันนะคะ ทุกอย่างคลี่คลายแล้ว” หลินเซี่ยมองสายตาที่เป็นกังวลของคนอื่น ๆ จากนั้นอธิบายว่า “ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ท้องตั้งแต่แรก แค่ประจำเดือนมาล่าช้าผิดปกติ แต่ดันใช้โอกาสนี้จงใจสาดน้ำสกปรกใส่ฉัน ข้อเท็จจริงทุกอย่างเปิดเผยแล้ว”
หลิวกุ้ยอิงตกตะลึงเมื่อได้ยินแบบนั้น “เลวทรามไร้ยางอายถึงขนาดนี้เชียวหรือนี่ ตัวเองไม่ท้องก็พูดความจริงไปสิว่าไม่ได้ท้อง ครั้งหน้าก็ท้องใหม่ได้ ทำไมต้องหาเรื่องใส่ร้ายลูกด้วย”
เมื่อความจริงถูกเปิดเผยแล้ว หลินเซี่ยก็ไม่ต้องการพูดหัวข้อนี้ซ้ำอีก ถามหลิวกุ้ยอิง “แม่ เราไม่ต้องพูดถึงเรื่องเฮงซวยนี้แล้ว ว่าแต่วันนี้แม่ไม่ได้ไปเปิดร้านเหรอคะ?”
“ไม่ได้ไป พวกเราเป็นห่วงลูกเลยพลอยไม่มีใจจะออกไปข้างนอก เมื่อวานนี้ไม่ได้ทำแป้งทิ้งไว้ด้วยซ้ำ”
เมื่อวานหลินเซี่ยบอกว่าเซี่ยไห่จะเข้าไปเยี่ยมที่บ้าน ดังนั้นหลิวกุ้ยอิงจึงไม่ได้เตรียมแป้งไว้ แต่ยังไม่ทันข้ามวัน เหตุการณ์ต่าง ๆ ก็เปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน
“ไม่เป็นไร ไม่ต้องกังวลแล้วค่ะ”
หลังจากเซี่ยไห่ทำงานของตัวเองเสร็จ เขาก็เดินเข้ามา และบังเอิญเห็นหลิวกุ้ยอิงกับหลินเยี่ยนอยู่ในร้าน
พวกเขาเคยเจอหน้ากันหลายครั้งก่อนหน้านี้ เซี่ยไห่ก็เคยกินเหลียงเฝิ่นฝีมือหลิวกุ้ยอิงแล้วครั้งหนึ่ง ดังนั้นพวกเขาจึงถือเป็นคนรู้จักกัน แต่ตอนนี้เมื่อได้พบกันอีกครั้ง อารมณ์ของพวกเขากลับแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
เซี่ยไห่มองหลิวกุ้ยอิง เกือบจะร้องเรียกหล่อนว่าพี่สะใภ้
ส่วนหลิวกุ้ยอิงรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย ไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับเซี่ยไห่อย่างไร
“พี่อิงจื่อ วันนี้ไม่ได้ไปตั้งร้านเหรอครับ?”
เซี่ยไห่ประมวลผลอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็คิดคำเรียกนี้ขึ้นมา
เนื่องจากความสัมพันธ์ของหล่อนกับพี่ใหญ่ เขาจึงต้องเรียกหล่อนด้วยสถานะอันทรงเกียรติ
คาดหวังว่าในอนาคตจะมีโอกาสได้เรียกหล่อนว่าพี่สะใภ้
หลิวกุ้ยอิงทำตัวลีบเล็ก พูดอย่างเชื่องช้า
“ไม่ได้ไป ฉันเป็นห่วงเซี่ยเซี่ย ก็เลยแวะมาดูหล่อนหน่อย”
เซี่ยไห่พูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ “ไม่ต้องกังวลแล้วครับ ทุกอย่างเรียบร้อยดี มีเจียเหอกับผมอยู่ที่นี่ทั้งคน พวกเราจะไม่ยอมให้เซี่ยเซี่ยถูกรังแกเด็ดขาด”
“ขอบคุณค่ะ”
ลูกค้าทยอยเข้ามาในร้าน ชุนฟางช่วยสระผมอย่างรวดเร็วด้วยความกระตือรือร้น หลินเซี่ยจึงกลับมาสู่ช่วงงานยุ่งอีกครั้ง
เซี่ยไห่ยังอยากคุยกับหลิวกุ้ยอิง แต่ติดที่ไม่สามารถพูดคุยหัวข้อส่วนตัวในที่สาธารณะได้
หลินเซี่ยพูดกับหลิวกุ้ยอิงว่า “แม่ คืนนี้เถ้าแก่เซี่ย เจียเหอ ฉัน แล้วก็หู่จือจะกลับบ้านไปกินข้าวมื้อเย็นที่บ้านนะคะ แม่กับเสี่ยวเยี่ยนใช้เวลาว่างกลับไปซื้อวัตถุดิบมาเตรียมกับข้าวอร่อย ๆ ไว้ให้พวกเราก็ได้ ฉันหนักใจกับเรื่องพวกนี้มาสองวันแล้ว กินข้าวไม่ลง น้ำหนักลดฮวบไปหมด”
หลังจากได้ยินสิ่งที่หลินเซี่ยพูด หลิวกุ้ยอิงก็รีบตอบกลับ “ได้ งั้นพวกเราจะไปซื้อของกันตอนนี้เลย”
เซี่ยไห่พูดอย่างมีน้ำใจ “พี่อิงจื่อ ไม่ต้องเตรียมอะไรมากก็ได้นะครับ ทำแค่กับข้าวง่าย ๆ หรือเหลียงเฝิ่นธรรมดา ๆ ก็พอ”
“ค่ะ พวกเราไปก่อนนะ”
หลิวกุ้ยอิงจากไปพร้อมกับหลินเยี่ยน
เซี่ยไห่ก็กลับไปที่ห้องเต้นรำพร้อมกับฮัมเพลงไปด้วย
…
ในช่วงบ่าย เจียงอวี่เฟยก็แวะมาหา
หลังจากที่ไม่ได้เจอกันหนึ่งสัปดาห์ เจียงอวี่เฟยที่หอบขนมถุงใหญ่เข้ามา เมื่อเห็นหลินเซี่ยก็รีบวิ่งเข้าไปกอดแนบแน่น “เซี่ยเซี่ย ฉันคิดถึงเธอจังเลย”
“ช่วงนี้เธอมัวยุ่งอยู่กับอะไร? ตอนพักเที่ยงไม่คิดจะแวะมาหาฉันด้วยซ้ำ”
เจียงอวี่เฟยอธิบาย “ช่วงนี้ที่วิทยาลัยมีกิจกรรมซ้อมเต้น มีการจัดเตรียมอาหารและที่พักไว้ให้นักศึกษา ฉันก็เลยไม่ค่อยมีเวลาปลีกตัวออกมา”
เจียงอวี่เฟยเหลือบมองที่ชุนฟางซึ่งอยู่ไม่ไกล จากนั้นขยับเข้าไปใกล้หูของหลินเซี่ยและกระซิบถาม “วันนี้ฉันกลับไปที่บ้าน ได้ยินป้า ๆ ในละแวกบ้านนินทาเรื่องเสิ่นเสี่ยวเหมยแท้งลูก จับใจความได้ว่าผู้หญิงคนนั้นแท้งในร้านเธอ บอกว่าเธอเตะเข้าตรงหน้าท้องของหล่อน จากนั้นเด็กก็หลุดออกมา ดูจากรูปร่างแล้วน่าจะเป็นเด็กผู้ชาย นี่มันเรื่องอะไรเนี่ย?”
หลินเซี่ย “!!!”
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
ใครนั่งเทียนเขียนข่าวเนี่ย เขียนข่าวมั่วมาก เซี่ยเซี่ยต้องรีบแก้ข่าวด่วนเลยค่ะ
ไหหม่า(海馬)