ตอนที่ 230 สมรสพระราชทาน

เสน่ห์รักคุณหนูต่างสกุล

​ขื่อ​บน​ไม่​ตรง​ขื่อ​ล่าง​ย่อม​เอียง​ ​ตัว​หย่ง​เฉิง​โหว​เอง​ก็​ค่อนข้าง​ชอบ​รังแก​คนอ่อนแอ​หวาดกลัว​คน​แข็งแกร่ง​และ​ยกยอ​เบื้องสูง​เหยียบย่ำ​เบื้องต่ำ​เป็น​ทุนเดิม​อยู่​แล้ว​ ​จึง​ไม่ต้อง​พูดถึง​ข้า​รับใช้​ข้าง​กาย​เลย​ ​ต่าง​ลอกเลียนแบบ​กัน​มา​ ​ปกติ​ต้องการ​หน้าตา​ ​เห็น​แล้ว​ซ่อน​เอาไว้​ได้​เป็น​อย่างดี​ ​แต่​เมื่อ​เวลา​เนิ่นนาน​ไป​ ​ก็​เผยอ​อก​มา​ให้​เห็น​หลาย​ส่วน​อย่าง​เลี่ยง​ไม่ได้

ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​นั้น​แม้แต่​บุตรชาย​ตัวเอง​ยัง​รังเกียจ​ ​นับ​ประสบ​อะไร​กับ​ผู้ใต้บังคับบัญชา​เหล่านั้น​?

​ทุกคน​ได้ยิน​แล้วก็​แค่นั้น​ ​ไม่มีใคร​เอาเรื่อง​นี้​มา​ใส่ใจ​ไป​ปลอบโยน​นาง​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​มีพ​วก​ว่างงาน​เอา​ถ้อยคำ​ดั้งเดิม​ที่​ไม่​ผ่าน​การปรุง​แต่ง​ไป​ลือ​ต่อ​จนถึง​หู​ของ​โหวฮู​หยิน​ด้วย

​โหวฮู​หยิน​ตกใจ​ ​นำ​ถ้อยคำ​ดังกล่าว​ไป​บอกต่อ​หย่ง​เฉิง​โหว​ ​ยัง​กล่าว​ด้วยว่า​ ​“​ท่าน​แม่​ฉุนเฉียว​ง่าย​และ​หุนหันพลันแล่น​ไม่​รอบคอบ​เกินไป​แล้ว​ ​ข้า​เป็น​สะใภ้​ไม่​อาจ​ว่ากล่าว​อะไร​ได้​ ​คงมี​แต่​ท่าน​เท่านั้น​แล้ว​ที่​หว่านล้อม​ได้​…

​…​แรกเริ่ม​ตอนที่​ผู้อื่น​มา​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​ ​พวก​ท่าน​ไม่ได้​ยอมรับ​ว่า​เป็น​ญาติ​อย่าง​เป็นเรื่องเป็นราว​ ​บัดนี้​พอ​ผู้อื่น​ปีน​ขึ้น​ที่สูง​ได้​ ​ท่าน​แม่​ก็​อยาก​นับ​ญาติ​ขึ้น​มาทัน​ใด​ ​หาก​มีพ​ระ​ราชโองการ​มาที​่​จวน​ของ​พวกเรา​จริงๆ​ ​พวกเรา​จะ​รับ​อย่างไร​ ​รับ​ใน​ฐานะ​อะไร​ ​และ​จะ​บอกกล่าว​คนภายนอก​ว่า​อย่างไร​เจ้า​คะ​…

​…​ต้อง​เอาเรื่อง​ของ​ปีนั​้​นอ​อก​มา​พูด​อีก​หนึ่ง​รอบ​กระนั้น​หรือ​…

​…​เช่นนั้น​จะ​เอาหน้า​ท่าน​โหว​ผู้เฒ่า​ไป​ไว้​ที่ไหน​…

​…​เวลา​นั้น​พวก​ท่าน​ที่​เป็น​พี่ชาย​เหล่านี้​ทำ​อะไร​กัน​อยู่​ ​เหตุใด​ถึง​ไม่​ช่วย​พูด​ให้​น้องสาว​คนเล​็ก​สัก​ประโยค​ ​หรือ​ช่วยเหลือ​สักครั้ง​?…

​…​ตอนนั้น​ท่าน​กับ​น้องชาย​ทั้งสอง​ท่าน​อายุ​ก็​ไม่น้อย​แล้ว​”

​หย่ง​เฉิง​โหว​ฟัง​แล้ว​ ​หน้าผาก​มี​เหงื่อ​เย็น​ซึม​ออกมา​ไม่​หยุด

​ทายาท​ชาย​ของ​ราชวงศ์​ต้อง​ถูก​บันทึก​ไว้​ใน​บันทึก​หยก​ ​ตระกูล​ชั้นสูง​ที่​มีบร​รดา​ศักดิ์​ต้อง​สืบทอด​ต่อ​ก็​ต้อง​รายงาน​ทายาท​ชาย​กับ​กรม​ขุนนาง​เช่นกัน​ ​สายเลือด​ที่​คลุมเครือ​ ​หาก​ถูก​ไล่​สืบสวน​ต่อไป​ขึ้น​มา​ ​อาจ​ถือเป็น​ความผิด​ทางอาญา​ได้

​บัดนี้​สถานการณ์​ของ​ราชสำนัก​ซับซ้อน​ระส่ำระสาย​ ​ไม่รู้​ว่า​มี​คน​คอย​จับจ้อง​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​อยู่​มากมาย​เพียงใด​ ​ปกติ​หาก​กระทำความผิด​เล็กน้อย​อาจ​ถูก​ฮ่องเต้​ตำหนิ​สัก​สอง​สาม​ประโยค​ ​แต่​หาก​กระทำความผิด​ตอนนี้​เป็น​อะไร​ที่​พูด​ยาก​แล้ว

​เขา​รีบ​กล่าว​ ​“​เจ้า​ระงับ​เรื่อง​นี้​เอาไว้​ก่อน​ ​อย่า​ให้​คน​เอา​ไป​พูดเหลวไหล​ ​ข้า​รู้​ว่า​ต้อง​จัดการ​อย่างไร​แล้ว​”

​นี่​หมายความว่า​จะ​เป็น​คน​ไป​จัดการ​ปากของฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​เอง

​โหวฮู​หยิน​พอใจ​แล้ว​ ​จึง​ไป​นอนหลับ​พักผ่อน​อย่าง​เป็นสุข

​ส่วน​หย่ง​เฉิง​โหว​ไป​ที่​เรือน​หยก​วสันต์​ตั้งแต่​เช้าตรู่​ของ​วันรุ่งขึ้น​ ​หลังจากนั้น​ก็ได้​ยิน​ว่าฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ ​‘​ไม่สบาย​’​ ​และ​นับวัน​ความสัมพันธ์​ระหว่าง​หย่ง​เฉิง​โหวกับฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ก็​ยิ่ง​เหินห่าง

​โหวฮู​หยิน​แสร้งทำ​เป็น​ไม่รู้​ ​แอบ​ไป​สืบ​ว่า​หย่ง​เฉิง​โหวกับฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​คุย​อะไร​กัน​บ้าง

​กว่า​สอง​สาม​วัน​พานห​มัว​มัว​ถึง​สืบ​ข่าว​มา​ได้​ ​บอกว่า​หย่ง​เฉิง​โหว​เกลี้ยกล่อม​ให้ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​อย่า​สนใจ​เรื่องไม่เป็นเรื่อง​มากเกินไป​ ​เรื่อง​ใน​ปีนั​้น​ทุกคน​ต่าง​ทราบ​แก่​ใจดี​ ​ภายหน้า​ไปมาหาสู่​กัน​เหมือน​เป็น​ญาติ​ก็​พอ​ ​ไม่จำเป็น​ต้อง​อยากได้​เกียรติ​นั่น​ขนาด​นั้น​ก็ได้​ ​แต่​ผู้ใด​จะ​รู้​ว่า​กลับ​ถูกฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ด่าทอ​ไป​คำรบ​หนึ่ง​ ​บอกว่า​ที่​บ้าน​กลายเป็น​เช่นนี้​ ​ล้วน​เป็น​เพราะ​คน​เป็น​พี่ชาย​ใหญ่​อย่าง​เขา​ไม่​เป็น​แบบอย่าง​ที่​ดี

​“​ท่าน​โหว​โกรธ​มาก​”​ ​พานห​มัว​มัว​กระซิบ​กล่าว​ ​“​กลับ​ห้อง​หนังสือ​แล้ว​เขวี้ยง​ถ้วย​น้ำชา​แตก​ไป​หลาย​ใบ​ ​ยิ่ง​อายุ​มากขึ้น​ ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ก็​ยิ่ง​พูดจา​ตามอำเภอใจ​มากขึ้น​”

​โหวฮู​หยิน​ถึง​ไม่​ยุ่ง​เรื่อง​พวก​นี้

​เมื่อก่อนฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​เป็น​คนดู​แลบ​้าน​ ​นาง​ทั้ง​เคารพ​และ​ให้เกียรติ​ ​แต่ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​กระทำ​อะไร​ไร้​แบบแผน​เกินไป​ ​หาก​บอกว่า​เมื่อก่อน​ลูก​ๆ​ ​ยัง​เล็ก​ ​นาง​ตามน้ำ​ไป​ก็ได้​แล้ว​ ​แต่​หลาย​ปี​มานี​้​ ​ยิ่ง​นาง​ตามใจ​ ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ก็​ยิ่ง​เอาใจ​ยาก​ ​นี่​ล้วน​ถือเป็น​เรื่องเล็ก​ ​ที่​เป็นปัญหา​ก็​คือ​สะใภ้​ที่​แต่ง​เข้ามา​ก่อน​สอง​คน​นั้น​ ​บัดนี้​ก็ได้​รับ​อิทธิพล​ตาม​ไป​ด้วย​แล้ว​ ​ภายหน้า​ขนบ​ของ​บ้าน​หลัง​นี้​จะ​วุ่นวาย​เพียงใด

​เพื่อ​ลูก​ๆ​ ​แล้ว​ ​นาง​เอง​ก็​ไม่​อาจ​ปล่อย​ให้ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ทำตัว​เหลวไหล​ได้​ ​ต้อง​ทำให้ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​พักผ่อน​อยู่​ใน​เรือน​หยก​วสันต์​อย่างสงบ​ถึง​จะ​ดี

​โชคดี​ที่​คุณหนู​สกุล​หวัง​เข้ามา​อยู่​ที่​จวน​ ​ไม่อย่างนั้น​บาง​เรื่อง​ยาก​ที่จะ​จัดการ​ได้​จริงๆ​!

​โหวฮู​หยิน​คิด​แล้วจึง​ไป​สวน​ร่ม​หลิว​ ​ถาม​หวัง​ซี​ว่า​ต้องการ​ความช่วยเหลือ​อะไร​หรือไม่​ ​ยัง​จับมือ​นาง​เอาไว้​กล่าวว่า​ ​“​ซอย​ลิ่ว​เถียว​ห่าง​จาก​ที่นี่​ไป​ไม่​ไกล​ ​เจ้า​มี​เวลาว่าง​แล้วก็​กลับมา​เที่ยว​บ้าง​”​ ​กล่าว​อีกว่า​ ​“​โชคดี​ที่​พี่สาว​สาม​กับ​พี่สาว​สี่​ของ​เจ้า​ล้วนแต่​งอ​อก​ไป​ไม่​ไกล​ ​พวก​เจ้า​ต้อง​ไปมาหาสู่​กับ​ให้​มาก​ถึง​จะ​ถูก​”

​หวัง​ซี​รู้สึก​ว่าการ​ได้​ออก​ไป​จาก​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​อย่างสงบ​เช่นนี้​ถือเป็น​เรื่อง​หา​ได้​ยาก​ยิ่ง​แล้ว​ ​แต่​ให้​ไปมาหาสู่​กับ​ฉัง​เหยี​ยน​นั้น​ ​ไม่จำเป็น​แม้แต่น้อย​ ​อย่างไรก็ตาม​นาง​ยังคง​ขานรับ​อย่าง​ยิ้มแย้ม​ ​กระทั่ง​ถึง​วันที่​ยี่สิบ​เดือน​หนึ่ง​ก็​เริ่ม​ขนย้าย​หีบ​สัมภาระ

ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​โกรธ​เหลือ​จะ​กล่าว

​พอ​หวัง​ซีท​ราบ​ข่าว​ก็​ให้​สาวใช้​ผู้​หนึ่ง​ไป​กระซิบกระซาบ​กับ​สาวใช้​ของ​หัน​ซื่อ​ว่า​ ​“​บ้าน​ดี​ขนาด​นั้น​ ​พอคุณ​หนู​สกุล​หวัง​ไป​แล้ว​ ​ก็​ไม่รู้​ว่า​จะ​ตกไป​เป็น​ของ​ผู้ใด​”

​หัน​ซื่อ​ได้ยิน​เช่นนั้น​ก็​สนใจ​ขึ้น​มา​ ​พยายาม​ทุ่มเท​แรงกาย​แรงใจ​เฝ้าไข้ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ไป​หลาย​วัน​ ​จากนั้น​ก็​มี​ข่าวลือ​ออก​ไป​ว่า​หลังจาก​หวัง​ซี​ออก​ไป​แล้ว​จะ​ให้​หัน​ซื่อ​กับ​คุณชาย​สาม​ไป​อยู่สวน​นี้​แทน

​ความโกลาหล​พลัน​ระเบิด​ออก​เหมือน​ไป​แหย่​รังแตน​เข้า

​โหวฮู​หยิน​ยัง​มีบุ​ตร​ชาย​อีก​สอง​คน​กำลัง​รอ​แต่งงาน​อยู่​!

​คน​สอง​สาม​บ้าน​แย่ง​กัน​ไป​แย่ง​กัน​มา​ ​หวัง​ซีล​อบ​ยิ้มเยาะ​ ​ย้ายออก​ไป​อยู่​บ้าน​ที่​ซอย​ลิ่ว​เถียว

​ตระกูล​หวัง​เป็น​คนซื้อ​บ้าน​หลัง​นี้​ให้​นาง​ ​ก็​เลย​ตกแต่ง​ทุกอย่าง​ตาม​ความชอบ​ของ​หวัง​ซี​ ​ดอก​อิ​๋ง​ชุน​ตรง​ประตู​ทางเข้า​พุ่ม​นั้น​เบ่งบาน​อย่าง​ตระการตา​ต้อนรับ​วสันตฤดู​ ​สีสัน​สวยงาม​สะกด​ใจ​คน​ยิ่ง​ ​ดอก​ไห่​ถัง​ที่อยู่​ทาง​ทิศตะวันตก​ของ​บ้าน​ยิ่ง​แล้ว​ใหญ่​ ​สีแดง​สว่าง​สดใส​ ​ชวน​ให้​บรรยากาศ​เบิกบาน​เหลือเกิน

​“​คนสวน​ผู้​นี้​ไม่เลว​เลย​”​ ​หวัง​ซีก​ล่าว​ชม

​หวังห​มัว​มัว​รีบ​กล่าว​ขึ้น​ว่า​ ​“​เป็น​คนที​่​หลง​จู๊​ใหญ่​หามา​เจ้าค่ะ​ ​จากนี้​ก็​จะ​ทำงาน​อยู่​ที่นี่​แล้ว​”

​หวัง​ซีพ​ยัก​หน้า​ไม่​หยุด​ ​มอง​สำรวจ​บ้าน​ที่​มีเรือน​หลัก​ขนาด​สาม​ห้อง​พร้อม​ห้องนอน​สองห้อง​และ​ห้อง​ข้าง​อีก​สองห้อง​หลัง​นี้​อีกครั้ง

​ไม่นาน​ห้องครัว​ขนาดเล็ก​ของ​นาง​ก็​จัดเก็บ​จน​เป็นระเบียบเรียบร้อย​ ​พวก​นาง​จัดงาน​เลี้ยง​ใน​ห้อง​อุ่น

​เมื่อ​ลู่​หลิง​และ​คนอื่นๆ​ ​ได้รับ​จดหมาย​แล้ว​ต่าง​ทยอย​กัน​ส่ง​ของขวัญ​มา​แสดงความยินดี

​เฉินลั​่ว​ส่ง​ของ​ตกแต่ง​แกะสลัก​จาก​ปะการัง​สีแดง​สูง​หนึ่ง​ฉื่อ​มา​ให้​คู่​หนึ่ง

​หวัง​เฉิน​วาง​ประดับ​เอาไว้​ใน​ห้องโถง​รับรอง​ของ​หวัง​ซี

​ถัดจาก​นั้น​ก็​มีพ​ระ​ราชโองการ​ส่ง​มาจาก​วัง​หลวง

​หวัง​เฉิน​เป็นตัวแทน​ของ​ตระกูล​หวัง​รับพระ​ราชโองการ​ ​ทั้งสอง​ครอบครัว​เริ่ม​หารือ​เรื่อง​งานมงคล​อย่างเป็นทางการ​ ​ส่วน​หวัง​ซี​เขียนจดหมาย​เล่าเรื่อง​ของ​ตัวเอง​ที่เกิด​ขึ้น​ใน​ช่วงนี้​ส่ง​ไป​ให้​คุณหนู​รอง​อู๋​หนึ่ง​ฉบับ

​ลู่​หลิง​กับ​สะใภ้​หลิว​และ​คนอื่นๆ​ ​ล้วน​มาร​่ว​มงาน​หมั้น​เล็ก​ของ​นาง

​ปิ่นทอง​ที่​จวน​จ่าง​กง​จู่​ส่ง​มามี​ขนาดเล็ก​และ​ประณีต​ ​หนัก​เพียง​สิบ​แปด​เหลี่ยง​[1]​เท่านั้น​ ​ทว่า​ฝีมือ​วิจิตรบรรจง​ยิ่ง​ ​เป็น​ปิ่น​ลายเมฆา​ม้วน​สมปรารถนา​ทุก​ประการ​ ​ใช้กรรม​วิธีการ​ตัด​ทองให้​เป็น​ลาย​ทึบ​และ​เงา​ที่​แตกต่าง​กัน​ออก​ไป​ ​ทำให้​ปิ่นทอง​ชิ้น​นั้น​แวววาว​มากกว่า​ปิ่นทอง​โดยทั่วไป​หลาย​ส่วน​ ​แล้วก็​ยิ่ง​โดดเด่น​สะดุดตา​ด้วย

​ไม่​คาดคิด​ว่า​คนที​่​มาปั​กปิ​่น​ให้​หวัง​ซีจะ​เป็น​หลิน​อาน​ต้า​จ่าง​กง​จู่​ที่​อายุ​ล่วงเลย​หกสิบ​ปี​แล้ว​ผู้​นั้น

​นาง​ปักปิ่น​ทอง​เข้าไป​ใน​เรือน​ผม​หนาด​กดำ​ดุจ​เส้น​ไหม​ของ​หวัง​ซี​ไป​ด้วย​ ​กล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​ไป​ด้วยว่า​ ​“​คิดไม่ถึง​ว่า​แก่​ปูน​นี้​แล้ว​ ​ข้า​ยัง​ถูก​เป่า​ชิ่ง​ใช้​ให้​มาทำ​หน้าที่​เช่นนี้​อีก​ ​เด็กสาว​ผู้​นี้​ช่าง​งดงาม​จริงๆ​ ​ไม่ต้อง​พูดถึง​เป่า​ชิ่ง​เลย​ ​แม้แต่​ข้า​ก็​หวงแหน​เช่นกัน​”​ ​ยัง​กล่าว​ชม​ปิ่นทอง​ชิ้น​นั้น​ด้วยว่า​ ​“​ไม่​เหมือน​ของ​ผู้อื่น​ที่​ใช้​ใน​วาระ​พิเศษ​ ​แต่​ชิ้น​นี้​ยาม​ปกติ​ก็​สวมใส่​ได้​ ​ช่าง​ใส่ใจ​ยิ่งนัก​”

​คนที​่​มาร​่วม​พิธี​ปักปิ่น​ต่าง​หัวเราะ​ร่า​ ​รู้สึก​ว่างาน​หมั้น​เล็ก​นี้​ช่าง​มีเกียรติ​จริงๆ

​ต่อมา​งานเลี้ยง​ขอบคุณ​ของ​ตระกูล​หวัง​ก็​ไม่ธรรมดา​เหมือนกัน​ ​นอกจาก​อาหาร​เลิศ​รส​ทั้ง​บก​ทั้ง​ทะเล​แล้ว​ ​ขนม​ตังเม​ถั่ว​ซิ่ง​เห​ริน​ก็​ทำให้​บรรดา​สตรี​พากั​นก​ล่าว​ชม​เช่นกัน​ ​ยัง​สอบถาม​ถึง​วิธีทำ​อีกด้วย

​สตรี​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​มากัน​ถ้วนหน้า​ ​ทว่า​มา​ใน​ฐานะ​ญาติ​ดอง​มิใช่​ญาติ​จริงๆ​ ​พวก​นาง​แยก​ไป​นั่ง​กันเอง​หนึ่ง​โต๊ะ

​โหวฮู​หยิน​และ​คนอื่นๆ​ ​มอง​โต๊ะ​หลัก​ที่​หลิน​อาน​ต้า​จ่าง​กง​จู่​กับ​คน​จวน​ชิง​ผิง​โหว​และ​คนอื่นๆ​ ​พูดคุย​สรวลเสเฮฮา​กัน​แล้ว​รู้สึก​ไม่สบอารมณ์​ยิ่งนัก​ ​ตอน​เดินทาง​กลับ​นาย​หญิง​สาม​กล่าว​กับ​โหวฮู​หยิน​ว่า​ ​“​พวกเรา​จะ​ปล่อยไป​เช่นนี้​จริงๆ​?​ ​จะ​ไม่ยอมรับ​คุณหนู​สกุล​หวัง​จริงๆ​ ​หรือ​”

​“​หาก​เป็น​เจ้า​ ​เจ้า​ยินดี​ถูก​ยอมรับ​กลับมา​หรือไม่​”​ ​โหวฮู​หยิน​ถอนหายใจ​ ​ถาม​นาย​หญิง​สาม​กลับ​ไป

​นาง​เอง​ก็​เคย​พูด​เช่นนี้​กับ​พาน​ซื่อ​ผู้​เป็น​หลานสาว​เป็นการ​ส่วนตัว​เหมือนกัน​ ​ซึ่ง​หลานสาว​ก็​ถาม​นาง​กลับมา​เช่นนี้​ ​นาง​ถึง​ได้​เก็บความ​คิด​เรื่อง​ยอมรับ​เป็น​ญาติ​กลับมา

​โชคดี​สตรี​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​มี​เวลาว่าง​ไม่​มาก​นัก​ ​พอ​เข้า​เดือน​สอง​ ​พวก​นาง​ก็​เริ่ม​วุ่น​กับ​งานแต่ง​ของ​พวก​ฉัง​หนิง​แล้ว

​หวัง​ซี​เอง​ก็​ค่อยๆ​ ​คุ้นเคย​กับ​การ​ใช้ชีวิต​ที่​ซอย​ลิ่ว​เถียว​แล้ว​เช่นกัน

​เช้าตรู่​หลังจากที่​นาง​ไป​คารวะ​หวัง​เฉิน​เสร็จ​แล้ว​ ​สอง​พี่น้อง​ก็​รับประทาน​มื้อ​เช้า​ด้วยกัน​ ​จากนั้น​หวัง​เฉิน​เดินทาง​ไป​ที่​ร้าน​หรือไม่ก็​ออก​ไป​ทำ​ธุระ​ ​ส่วน​หวัง​ซีจัด​เก็บ​สิน​เจ้าสาว​ของ​นาง​อยู่​ใน​บ้าน​ ​ตอนเที่ยง​หวัง​เฉิน​ไม่​กลับมา​ ​ทว่า​เฉินลั​่ว​เอง​ก็​ย้าย​มา​อยู่​ข้างๆ​ ​แล้ว​เช่นกัน​ ​เขา​มักจะ​เข้ามา​ขอ​ข้าว​กิน​จาก​ทาง​ประตู​หลัง​อยู่​เสมอ​ ​ตกบ่าย​บางที​หวัง​ซีก​็​ถือโอกาส​ตอน​แดด​ดี​มา​อาบแดด​บ้าง​ ​วาดภาพ​หรือไม่ก็​หยอก​แมว​ให้อาหาร​นก​บ้าง​ ​เมื่อถึง​ตอนเย็น​ ​เวลา​ที่หวัง​เฉิน​ไม่ต้อง​ไป​ออกงาน​สังคม​สอง​พี่น้อง​จะ​กิน​มื้อ​เย็น​ด้วย​ ​แล้ว​ค่อย​แยกย้าย​กัน​ไป​ทำ​ธุระ​ส่วนตัว​ของ​ตัวเอง​ ​แต่​ถ้า​เขา​ต้อง​ไปร​่ว​มงาน​สังคม​หวัง​ซีจะ​กินข้าว​เย็น​คนเดียว​ ​เฉินลั​่ว​ไม่​มา​ในเวลานี้​แล้ว

​แต่​พอ​ดึก​ขึ้น​อีกหน่อย​ ​รอตี​กลอง​บอก​เวลา​ยาม​สอง​แล้ว​ ​บางครั้ง​เฉินลั​่​วก​็​มา​พบ​นาง​ ​บ้าง​ก็​เอา​ขนม​ที่​เพิ่ง​ออกจาก​เตา​ใหม่​ๆ​ ​มาด​้วย​ ​บ้าง​ก็​เอา​ผลไม้​ต่างถิ่น​มาด​้วย​ ​หรือ​บางที​ก็​มี​ของเล่น​หน้าตา​แปลกประหลาด​มาด​้วย​ ​ซึ่ง​น่าอัศจรรย์​ใจมา​กว่า​ไม่เคย​บังเอิญ​เจอ​หวัง​เฉิน​เลย​สักครั้ง

​หวัง​เฉิน​รู้​ทุกอย่าง​แจ้ง​แก่​ใจดี​ ​เห็น​ว่า​ทั้งสอง​คนยัง​เหมือน​เด็กน้อย​ ​แค่​มือ​ยัง​ไม่เคย​จับ​กัน​เลย​สักครั้ง​ ​อีกทั้ง​พอได้​รับ​ของ​จาก​เฉินลั​่ว​แล้ว​หวัง​ซีก​็​ดีใจ​ ​เขา​ก็​เลย​ยิ่ง​ไม่​อาจ​ไป​เปิดโปง​ ​ได้​แต่​ส่ง​คน​ไปดู​เอาไว้​ ​ปล่อย​ให้​พวกเขา​เล่น​สนุก​กัน​ไป

​กระทั่ง​วัน​มังกร​เชิด​หัว​ใน​วันที่​สอง​เดือน​สอง​ผ่านพ้น​ไป​ ​อันดับ​แรก​เป็น​งาน​วัน​หมั้น​เล็ก​ของ​ฉัง​หนิง​ก่อน​ ​ถัดจาก​นั้น​ก็​ของ​ฉัง​เหยี​ยน​และ​ฉัง​เคอ​ตามลำดับ

​งาน​ของ​ฉัง​หนิง​เทียบเคียง​ได้​กับ​ของ​ฉัง​ลู่​คุณหนู​ใหญ่​สกุล​ฉัง​ ​ส่วน​ของ​ฉัง​เหยี​ยน​เทียบเคียง​ได้​กับ​ของ​คุณหนู​พาน​ ​และ​ของ​ฉัง​เคอ​เทียบเคียง​ได้​กับ​ของ​หวัง​ซี​ ​คน​หนึ่ง​ถูกต้อง​ตามธรรม​เนียม​ปฏิบัติ​ของ​สังคม​ ​คน​หนึ่ง​ครึกครื้น​สนุกสนาน​ ​ส่วน​อีก​คน​หนึ่ง​เชิญ​โหวฮู​หยิน​ของ​จวน​ชิง​ผิง​โหว​มาปั​กปิ​่น​ให้​อย่าง​มีเกียรติ

​สีหน้า​ของฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ไม่น่า​ดู​เท่าไร​นัก​ ​ถาม​โหวฮู​หยิน​ว่า​ ​“​ตระกูล​เวิน​นั่น​ไป​สนิทสนม​กับ​จวน​ชิง​ผิง​โหว​ขนาด​นั้น​ตั้งแต่​เมื่อไร​กัน​”

​โหวฮู​หยิน​ปรารถนา​ให้​บ้าน​สาม​กด​ทับ​บ้าน​รอง​เอาไว้​ยิ่งนัก​ ​กล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​เนื่องจาก​ตระกูล​เวิน​เป็น​สหาย​เก่าแก่​ของ​จวน​เจียง​ชวน​ป๋อ​ ​เจียง​ชวน​ป๋อ​กับ​จวน​ชิง​ผิง​โหว​สนิทสนม​กัน​ดียิ่ง​ ​จะ​เชิญ​โหวฮู​หยิน​ของ​พวกเขา​มาปั​กปิ​่น​ให้​ก็​เป็นเรื่อง​ปกติธรรมดา​ของ​มนุษย์​”

​ใน​สายตา​ของฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​แล้ว​ ​ตระกูล​เวิน​ควร​เชิญ​คน​จาก​จวน​เซียง​หยาง​โหว​มาปั​กปิ​่น​ให้​ถึง​จะ​ถูก

​อย่างไรก็ตาม​ ​นี่​เป็นเรื่อง​ของ​ฝั่ง​บุตร​เขย​ ​นาง​ไม่​อาจ​กะเกณฑ์​ไป​ถึง​ครอบครัว​ของ​บุตร​เขย​ได้

​กระทั่ง​วาง​ของหมั้น​เสร็จ​แล้ว​ ​วัง​หลวง​ก็​มีเรื่อง​คึกคัก​ขึ้น​มา​ ​อันดับ​แรก​ซู​เฟย​ถูก​ปล่อยตัว​ออกมา​ ​รับ​องค์​ชาย​สาม​และ​องค์​ชาย​ห้า​ออกเดินทาง​ไป​ปกครอง​เมือง​ศักดินา​ก่อนกำหนด​ ​องค์​ชาย​สี่​เอง​ก็ได้​รับ​แต่งตั้ง​เป็น​อี๋​ปิน​อ๋อง​ ​จะ​เสกสม​รส​กับ​คุณหนู​สี่​ถาน​ใน​เดือน​ห้า​ ​จากนั้น​ไป​ปกครอง​เมือง​ศักดินา

​หวัง​ซี​ถาม​อย่างแปลกใจ​ว่า​ ​“​ไป​อี๋​ปิน​หรือ​ ​ที่นั่น​ใกล้​กับ​บ้าน​ของ​พวก​ข้ามาก​”

​เวลานี้​เฉินลั​่​วกำ​ลัง​มา​ขอกิ​นข​้าว​เที่ยง​อยู่​ที่​ตระกูล​หวัง​ ​ได้ยิน​แล้ว​กล่าว​อย่าง​ไม่เห็นด้วย​ว่า​ ​“​ทั้ง​เปลี่ยว​ทั้ง​ห่างไกล​ ​มี​อะไร​ควรค่า​ให้​ดีใจ​กัน​ ​อย่างไรก็ตาม​ ​ทำให้​องค์​ชาย​สี่​ไป​ปกครอง​เมือง​ศักดินา​ได้​ ​ชิ่ง​อวิ​๋น​ป๋อ​ลงแรง​ไป​ไม่น้อย​ ​กล่าวคือ​ ​เหยี​ยน​เฮ่า​ญาติ​ผู้​พี่​ของ​หนิง​ผิน​ผู้​นั้น​เพียง​ถูก​ปลดออก​จาก​ราชการ​เท่านั้น​ ​และ​กลับ​ไป​ทำนา​ที่​บ้านเกิด​ ​ไม่แน่​ว่า​อีก​ไม่​กี่​ปีก​็​กลับมา​ได้​อีกแล้ว​ก็​เป็นได้​”

​ยาม​เอ่ย​ถ้อยคำ​ดังกล่าว​นั้น​ ​สายตา​ดุดัน​วาบ​ผ่าน​นัยน์ตา​ของ​เขา

​เดิม​คิด​ว่า​เขา​จะ​เติม​เชื้อไฟ​ลง​ไป​ ​ชิ่ง​อวิ​๋น​ป๋อ​จับ​คอ​ของ​เหยี​ยน​เฮ่า​เอาไว้​แน่นหนา​ ​แต่​สุดท้าย​ชิ่ง​อวิ​๋น​ป๋อ​ก็​ยัง​ไม่ยอม​เป็น​ศัตรู​กับ​ฮ่องเต้​อย่าง​สิ้นเชิง​ ​ยอม​ถอย​ให้​ก้าว​หนึ่ง

​ฮ่องเต้​แต่งตั้ง​องค์​ชาย​สี่​ ​ให้​องค์​ชาย​สี่​ไป​ปกครอง​เมือง​ศักดินา

​แต่​ต่อให้​เป็น​เช่นนี้​ ​เนื่องจาก​หนิง​ผิน​มีข้อบกพร่อง​แล้ว​ ​อยาก​เป็น​ฮองเฮา​ก็​เป็นไปไม่ได้​แล้ว

​ก็​ต้อง​รอดู​ว่า​ฮ่องเต้​จะ​มี​จิตใจ​อำมหิต​สังหาร​บุตร​หรือไม่

​สังหาร​องค์​ชาย​ที่​แข็งแรง​และ​บรรลุนิติภาวะ​แล้ว​สอง​พระองค์

​เขา​รู้สึก​ว่าน​อก​จาก​เตือน​องค์​ชาย​ใหญ่​แล้ว​ ​สมควร​เตือน​องค์​ชาย​รอง​ให้​ระมัดระวัง​องค์​ชาย​เจ็ด​เอาไว้​ด้วย​เช่นกัน

​ดีร้าย​อย่างไร​หลัง​ปีใหม่​องค์​ชาย​เจ็ด​ก็​สิบ​หก​ชันษา​แล้ว​ ​เด็ก​ใน​วัง​หลวง​รู้ความ​เร็ว​กว่า​ปกติ​ ​เป็นไปไม่ได้​ที่​เขา​จะ​ไม่รู้​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น​บ้าง

​เขา​คิด​ว่า​เขา​ขึ้นไป​นั่ง​บน​บัลลังก์​ได้​อย่างนั้น​หรือ

​เฉินลั​่ว​ตัดสินใจ​ได้​แล้ว​ ​ไม่​ให้​หวัง​ซี​ต้อง​เป็นห่วง​เรื่อง​พวก​นี้​ด้วยดี​กว่า​ ​เขา​ถาม​นาง​ว่า​ ​“​พี่สะใภ้​ใหญ่​ของ​เจ้า​จะ​มาถึง​เมื่อใด​ ​ถึง​ท่าเรือ​ทง​โจว​ก่อน​ใช่​หรือเปล่า​ ​กำหนด​เดินทาง​จะ​มี​การเปลี่ยนแปลง​หรือไม่​”

​ใน​ฐานะ​เขย​ใหม่​ของ​ตระกูล​หวัง​ ​เขา​ย่อม​ต้อง​ไปรับ​คน​เป็นเพื่อน​พี่​ภรรยา​อย่าง​หวัง​เฉิน​อยู่​แล้ว

​หวัง​ซี​เอง​ก็​กำลัง​วุ่น​เรื่อง​นี้​อยู่​พอดี​ ​นาง​ยิ้ม​ตอบ​ว่า​ ​“​พี่ใหญ่​ข้า​บอกว่า​อย่างมาก​อีก​ห้าวั​นนา​งก​็​น่าจะ​ถึง​แล้ว​ ​ห้องหับ​และ​บ่าวไพร่​ต่างๆ​ ​ของ​ทาง​นี้​จัดเตรียม​เอาไว้​เรียบร้อย​แล้ว​ ​เหลือ​แค่​ดู​ว่า​จ่าง​กง​จู่​จะ​ว่าง​เมื่อไร​ ​พี่สะใภ้​ของ​ข้า​จะ​ได้​ไป​คารวะ​จ่าง​กง​จู่​สักครั้ง​”

​หมั้น​หมาย​เสร็จ​ก็​ถือเป็น​ญาติ​ดอง​กัน​อย่างเป็นทางการ​แล้ว​ ​พี่สะใภ้​ของ​หวัง​ซี​มา​จิง​เฉิง​ ​ย่อม​ต้อง​ไป​เยี่ยม​จ่าง​กง​จู่

​เฉินลั​่​วก​ล่าว​ ​“​เจ้า​วางใจ​ ​ไม่ว่า​พี่สะใภ้​ของ​เจ้า​จะ​ไป​เมื่อไร​ ​ท่าน​แม่​ของ​ข้า​ย่อม​มี​เวลาว่าง​”

​เพราะ​ให้ความสำคัญ​กับ​ญาติ​ภรรยา​ ​ฉะนั้น​แล้ว​ย่อม​มี​เวลาว่าง​ทุกเมื่อ

​หวัง​ซีพ​ยัก​หน้า

​……………………………………………………………

[1]​ เหลี่ยง ​หนึ่ง​เหลี่ยง​เท่ากับ​ ​50​ ​กรัม​โดยประมาณ