ตอนที่ 229 วันเทศกาล

เสน่ห์รักคุณหนูต่างสกุล

หวัง​ซีกิ​นข​้า​วรวม​ญาติ​คืน​ข้าม​ปี​ที่​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​แล้ว​หวัง​เฉิน​ถึง​มารับ​ตัวนาง​ไป​ที่​ร้าน

เนื่องจาก​หย่ง​เฉิง​โหวกับ​โหวฮู​หยิน​ต้อง​เข้า​วัง​ไปร​่ว​มงาน​เลี้ยง​ ​มื้อ​ค่ำคืน​ข้าม​ปี​ของ​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​จึง​จัด​ค่อนข้าง​เร็ว​ ​ส่วน​ร้าน​สกุล​หวัง​จัด​ดึก​กว่า​ ​หวัง​ซีจึง​ได้​กิน​มื้อ​ค่ำคืน​ข้าม​ปี​สองครั​้ง

มื้อ​ค่ำ​ใน​คืน​ข้าม​ปี​ของ​ร้าน​สกุล​หวัง​ไม่​เหมือนกับ​ของ​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว

หลังจาก​รับประทาน​อาหาร​เสร็จ​แล้ว​ ​หวัง​เฉิน​ก็​เริ่ม​แจกอั​่ง​เปา​ให้​เสมียน​และ​หลง​จู๊​ที่​ยังอยู่​ ​ทุกคน​หัวเราะ​ครื้นเครง​กัน​อย่างสนุกสนาน​ ​กล่าว​อวยพร​ปีใหม่​หวัง​เฉิน​และ​หวัง​ซีล​่​วงหน้า​จากนั้น​ก็​แยกย้าย​กัน​กลับบ้าน

หวัง​ซี​ ​หวัง​เฉิน​และ​หลง​จู๊​ใหญ่​อยู่​ข้าม​ปีด​้ว​ยกัน​ ​กระทั่ง​ตอน​ได้ยิน​เสียง​ระฆัง​ของวัด​ต้า​เจ​วี​๋​ยดัง​ขึ้น​ ​ทุกคน​ก็​กล่าว​อำนวยพร​กันและกัน​อีกครั้ง​ ​เสร็จ​แล้ว​หวัง​เฉิน​กับ​หลง​จู๊​ใหญ่​ถึง​มอบ​เงิน​แต​๊ะ​เอีย​ให้​หวัง​ซี​ ​จากนั้น​หลง​จู๊​ใหญ่​กลับ​ไป​ใช้เวลา​กับ​ครอบครัว​ ​ส่วน​หวัง​ซีกับ​หวัง​เฉิน​เอง​ก็​แยกย้าย​กลับ​ไป​นอน​พักผ่อน

นอกจากนี้​พอได้​นอน​หวัง​ซีก​็​หลับ​ไป​จน​พระอาทิตย์​ขึ้น​สูง​สาม​ปล้อง​ไม้​ไผ่​แล้ว​ถึง​ตื่น

นาง​กล่าว​ด้วย​เสียง​ร้อนรน​ว่า​ ​“​แย่​แล้ว​ๆ​ ​ผู้อื่น​ว่า​กัน​ว่า​หาก​แอบ​ขี้เกียจ​ใน​วันที่​หนึ่ง​ ​ปีนี​้​ก็​จะ​ขี้เกียจ​มาก​ไป​ตลอดทั้ง​ปี​ ​ปีนี​้​ข้า​คง​ไม่​ตื่น​สาย​ไป​ตลอดทั้ง​ปี​หรอก​กระมัง​!​”

หวังห​มัว​มัว​หัวเราะ​งอ​หงาย​ ​กำลังจะ​กล่าว​เย้า​นาง​ ​ก็ได้​ยิน​เสียง​ของ​หวัง​เฉิน​ดัง​เข้ามา​จาก​นอก​ห้อง​เสียก่อน​ ​“​ขี้เกียจ​หน่อย​ก็​ไม่เป็นไร​ ​คน​มี​วาสนา​ดี​ถึง​จะ​ขี้เกียจ​ได้​”

“​พี่ใหญ่​!​”​ ​หวัง​ซี​ตะโกนเรียก​เสียงดัง​ ​รีบ​สวม​เสื้อ​ล้างหน้าล้างตา​ ​ออกมา​จาก​ห้อง​ชั้นใน

ดอก​ดารารัตน์​ใน​ห้องโถง​กำลัง​บาน​เต็มที่​ ​ทั้ง​ห้อง​อวล​ไป​ด้วย​กลิ่นหอม​สดชื่น

หวัง​เฉิน​สวม​ชุดจื​๋อ​ตัว​สีม่วง​แดง​ทอ​ลาย​ค้างคาว​สีทอง​ ​สีหน้า​สดชื่น​มีชีวิตชีวา​ ​ดูออก​ว่า​เขา​ตื่น​นาน​แล้ว

หวัง​ซีเรียก​ ​“​พี่ใหญ่​”​ ​อีก​เสียง​หนึ่ง​ ​กล่าวว่า​ ​“​ท่าน​กินข้าว​เช้า​หรือยัง​เจ้า​คะ​ ​จะ​กิน​กับ​ข้า​อีก​สักหน่อย​หรือไม่​”

หวัง​เฉิน​กล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​ข้า​กินข้าว​เช้า​แล้ว​ ​เจ้า​กิน​ของ​เจ้า​ไป​เถอะ​ ​ข้า​จะ​กิน​เพิ่ม​อีก​สักหน่อย​ ​กิน​โจ๊ก​ข้าวฟ่าง​ให้​รู้สึก​อุ่น​สัก​ครึ่ง​ถ้วย​ก็​พอ​”

หวัง​ซี​ถาม​ ​“​นี่​พี่ใหญ่​กลับ​จาก​ออก​ไป​ข้างนอก​มา​แล้ว​หรือ​เจ้า​คะ​”

หวัง​เฉิน​พยักหน้า​ยิ้ม​ๆ​ ​กล่าวว่า​ ​“​ไป​ไหว้​ปีใหม่​จวน​เจียง​ชวน​ป๋อมา​”

วันที่​หนึ่ง​ของ​มหา​ปีใหม่​ ​ทุก​บ้าน​ต่าง​ต้อง​แสดงน้ำใจ​กันตาม​ธรรมเนียม​ ​การ​ไป​ไหว้​ปีใหม่​ในเวลานี้​ ​ให้​คน​ส่ง​บัตรอวยพร​ไป​ก็ได้​แล้ว​ ​ส่วน​ที่​ไป​ด้วยตัวเอง​ ​นั่น​ถือเป็น​การ​ให้เกียรติ​อย่างที่​สุด

หวัง​เฉิน​กล่าว​ ​“​ผู้อื่น​มา​เป็น​เถ้าแก่​ให้​พวกเรา​เพราะ​เห็นแก่หน้า​ของ​จ่าง​กง​จู่​ ​เกียรติ​นี้​อย่างไร​ก็​ต้อง​ตอบแทน​”

หวัง​ซีพ​ยัก​หน้า​ ​ยิ้ม​กล่าวว่า​ ​“​ช่วง​บ่าย​ท่าน​ยัง​มีธุระ​อะไร​อีก​หรือไม่​ ​หาก​ไม่มี​ธุระ​อะไร​ ​ตอนบ่าย​พวกเรา​กิน​มื้อ​เย็น​กัน​เร็ว​สักหน่อย​ ​กิน​หม้อ​ไฟ​กัน​เจ้าค่ะ​”

ฉลอง​ปีใหม่​ที่​ร้าน​ก็ดี​อย่างนี้​ ​ไม่ต้อง​สนใจ​กฎระเบียบ​มากมาย​ ​อยาก​กิน​อะไร​ก็​กิน

หวัง​เฉิน​กล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​ในเมื่อ​รับ​เจ้า​ออกมา​ฉลอง​ปีใหม่​ด้วยกัน​ ​ย่อม​ต้อง​อยู่​เป็นเพื่อน​เจ้า​อยู่​แล้ว​ ​นอกจาก​จวน​เจียง​ชวน​ป๋อ​แล้ว​ ​คนอื่นๆ​ ​ให้​หลง​จู๊​ใหญ่​นำ​บัตรอวยพร​ไป​ให้​ก็​พอ​ ​รอ​เจ้า​กลับ​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​แล้ว​ข้า​ค่อย​ไป​ทำ​ธุระ​ข้างนอก​”

เช่นนี้​ก็ดี​เหมือนกัน​ ​พวกเขา​สอง​พี่น้อง​ไม่ได้​ฉลอง​ปีใหม่​ด้วยกัน​มาส​อง​ปี​แล้ว

ทั้งสอง​รับประทาน​มื้อ​เช้า​เสร็จ​แล้วก็​ขดตัว​อยู่​บน​ตั่ง​ตัว​ใหญ่​ข้างหน้า​ต่าง​คุย​สัพเพเหระ​กัน

พูดถึง​เรื่อง​ที่​ปีก่อน​หวัง​เฉิน​ไม่ได้​กลับ​ไป​ฉลอง​ปีใหม่​ที่​สู่​จง​เพราะ​เรื่อง​การค้า​ ​แล้วก็​พูดถึง​เรื่อง​ควร​กำหนด​วัน​แต่ง​ของ​หวัง​ซี​ให้​อยู่​เดือน​ที่​เท่าไร​ดี​ ​ตอนที่​สอง​พี่น้อง​กำลัง​ถือ​ปฏิทิน​พลิก​เปิด​ดู​ไปมา​อยู่​นั้น​ ​หวังห​มัว​มัว​ก็​เดิน​เข้ามา​อย่างรวดเร็ว​ ​บอกว่า​เจียง​ชวน​ป๋อมา​ไหว้​ปีใหม่​หวัง​เฉิน

หวัง​เฉิน​กับ​หวัง​ซี​ตกใจ​จน​นั่ง​ตัวตรง​ขึ้น​มา​ ​หวัง​เฉิน​ยิ่ง​แล้ว​ใหญ่​กล่าว​อย่างประหลาดใจ​ว่า​ ​“​เจ้า​ได้ยิน​ชัด​แล้ว​หรือว่า​เป็น​เจียง​ชวน​ป๋อ​”

ตระกูล​ชั้นสูง​ใน​จิง​เฉิง​มีพิ​ธีรี​ตอง​ใน​การ​ไป​ไหว้​ปีใหม่​อยู่​ ​กล่าวคือ​โดยปกติ​แล้ว​ช่วง​เช้า​จะ​เป็น​ผู้น้อย​ไป​ไหว้​ผู้ใหญ่​ ​ช่วง​บ่าย​จะ​เป็นมิตร​สหาย​ที่​สนิทสนม​กัน​ไป​ไหว้​ปีใหม่​กันและกัน​ ​ผู้​ที่​ไม่อยู่​ใน​วงโคจร​นี้​ ​แค่​ส่ง​บัตรอวยพร​ไป​ให้ยาม​เฝ้า​ประตู​บ้าน​ก็​พอ​ ​รอ​เจ้าของบ้าน​กลับมา​แล้ว​ ​ยาม​เฝ้า​ประตู​จะ​นำ​ไป​ให้​เอง​ ​เจ้าของบ้าน​ก็​จะ​เลือก​ส่ง​บัตรอวยพร​กลับมา​ให้​ ​แต่​การ​มา​ไหว้​ปีใหม่​ด้วยตัวเอง​เช่นนี้​ ​ย่อม​ต้อง​เป็นมิตร​สหาย​ที่​สนิทสนม​กัน​เป็นอย่างมาก

เจียง​ชวน​ป๋อ​ให้เกียรติ​ตระกูล​หวัง​มากเกินไป​แล้ว

หวัง​เฉิน​รีบ​เปลี่ยน​อาภรณ์​ ​ไป​พบ​แขก​ที่​ห้องโถง​ชั้นนอก

หวัง​ซี​ตาม​ออก​ไป​เมียงมอง​บิดา​ของ​ลู่​หลิง​ด้วย​ความอยากรู้​ครั้งหนึ่ง

เจียง​ชวน​ป๋อ​น่าจะ​เกือบ​สี่​สิบ​ปี​แล้ว​ ​แต่​ดูท่าทาง​แล้ว​เหมือน​คน​อายุ​สามสิบ​ต้นๆ​ ​ตัว​สูง​ ​ร่าง​กำยำ​แข็งแรง​ ​หน้าตา​หล่อเหลา​ ​ผิว​ดู​มีสุข​ภาพ​ดี​ ​เป็น​บุรุษ​รูปงาม​ที่​หา​ได้​ยาก​ยิ่ง​ท่าน​หนึ่ง

กิริยาท่าทาง​การ​พูดจา​ก็​เป็นระเบียบเรียบร้อย​ยิ่ง​ ​อบอุ่น​สุภาพ​และสง่า​งาม​ ​แค่​ดูก​็​รู้​ว่า​เป็น​คน​มี​ความสามารถ​และ​การศึกษา​ดี​ผู้​หนึ่ง

ไม่​แปลกที่​จวน​เจียง​ชวน​ป๋อ​จะ​มีส​ถานะ​ค่อนข้าง​สูง​ใน​แวดวง​คนชั้นสูง​ของ​จิง​เฉิง

หวัง​ซี​แอบ​กลับ​ไป​ที่​ลาน​ด้านหลัง​อย่างเงียบเชียบ​อีกครั้ง

เจียง​ชวน​ป๋อ​นั่ง​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก็​กลับ​ออก​ไป

ตอนที่​หวัง​เฉิน​กลับ​เข้ามา​ดู​อารมณ์​เบิกบาน​ ​กล่าว​ขึ้น​ว่า​ ​“​คิดไม่ถึง​จริงๆ​ ​ว่างาน​แต่ง​ของ​เจ้า​ทำให้​ข้า​ได้​รู้จัก​คน​ยอดเยี่ยม​อย่าง​เจียง​ชวน​ป๋อ​”

ท่าทาง​ยกย่อง​ชื่นชม​เขา​เป็นอย่างมาก

หวัง​ซีจึง​ถาม​ว่า​เขา​กับ​เจียง​ชวน​ป๋อ​คุย​อะไร​กัน​บ้าง

หวัง​เฉิน​ถอนใจ​กล่าวว่า​ ​“​คุย​เรื่อง​ขนส่ง​พันธุ์พืช​ทางน้ำ​”

หวัง​ซี​รู้สึก​ทึ่ง​ใน​ตัว​เจียง​ชวน​ป๋อ

ที่ผ่านมา​พี่ชาย​ใหญ่​ของ​นาง​รู้สึก​ว่า​สำนัก​ตรวจตรา​ริมฝั่ง​แม่น้ำ​สาย​จิง​หัง​กระทำการ​ไร้​ระเบียบแบบแผน​มาโดยตลอด​ ​การขนส่ง​พันธุ์พืช​ทางน้ำ​มีโอกาส​ขาดทุน​ค่อนข้าง​มาก​ ​ไม่​ทำกำไร​เท่า​ขนส่ง​เสบียง​ให้​เก้า​เหล่าทัพ​ ​รู้สึก​ว่า​ควร​ให้​ราชสำนัก​ออกหน้า​ ​จัดตั้ง​ที่ทำการ​ของ​รัฐ​ที่​เหมือน​สำนัก​ขนส่ง​เกลือ​หลวง​เหลี่ยง​ไหว​แบบ​นั้น​มากำ​กับ​ดูแล​การขนส่ง​พันธุ์พืช​ทางน้ำ​ถึง​จะ​ถูก

เจียง​ชวน​ป๋อ​คุย​เรื่อง​ขนส่ง​พันธุ์พืช​ทางน้ำ​กับ​เขา​ ​เกา​ได้​ตรงจุด​คัน​ของ​พี่ชาย​ใหญ่​นาง​จริงๆ

แต่​เจียง​ชวน​ป๋อ​กับ​พี่ชาย​ใหญ่​ของ​นาง​เพิ่งจะ​เจอกัน​ได้​เพียง​สอง​สาม​ครั้ง​เท่านั้น

ไม่ว่า​เจียง​ชวน​ป๋อ​จะ​พูด​เช่นนี้​เพื่อ​กระชับ​ความ​ความสัมพันธ์​กับ​หวัง​เฉิน​ ​หรือว่า​จะ​เป็น​เพียง​วิธีการ​รับมือ​กับ​ผู้คน​ของ​เขา​ก็ตาม​ ​การ​ที่​เขา​ทำให้​หวัง​เฉิน​ยอมรับ​เขา​ได้​รวดเร็ว​ขนาด​นี้​ ​ก็​นับว่า​เป็นความ​สามารถ​ของ​เขา​แล้ว

หวัง​เฉิน​เอง​ก็​สัมผัส​ได้​เช่นกัน​ ​กระทั่ง​ตอนที่​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​มารับ​หวัง​ซีก​ลับ​ไป​ใน​วันที่​สอง​ ​หวัง​เฉิน​บอก​นาง​คร่าวๆ​ ​สอง​สาม​ประโยค​ว่า​เขา​ตัดสินใจ​จะ​ไป​เยี่ยม​เซียว​เหยา​จื่อ​ที่​วัด​เจิน​อู่​ ​ยัง​กระซิบ​บอก​นาง​ด้วยว่า​ ​“​ข้า​ต้อง​สืบ​เรื่อง​ของ​เจียง​ชวน​ป๋อ​ท่าน​นี้​อย่างละเอียด​สักหน่อย​ ​หลัง​เทศกาล​โคมไฟ​เป็นต้นไป​เจ้า​ก็​เริ่ม​เก็บ​ข้าวของ​ได้​เลย​ ​พวกเรา​เตรียม​ย้ายบ้าน​กัน​”

หวัง​ซีพ​ยัก​หน้า​หงึกๆ​ ​ให้​เขา​ระมัดระวัง​ตัว​ด้วย​ ​“​น้ำ​ใน​จิง​เฉิง​ลึก​นัก​ ​หาก​มี​อะไร​ไม่​สะดวก​ให้ท่า​นร​อก​่อน​ ​ถึง​เวลา​ข้า​จะ​ให้​เฉินลั​่ว​ช่วย​ไป​ตรวจสอบ​ให้​”

แม้แต่​เรื่อง​หนิง​ผิน​เฉินลั​่ว​ยัง​สืบ​ออกมา​ได้​ ​ย่อม​ต้อง​สืบ​เรื่อง​อื่นๆ​ ​ได้​เช่นกัน

หวัง​เฉิน​ยิ้ม​พลาง​ไป​ส่ง​นาง​ที่​ปากซอย​ ​เสร็จ​แล้ว​ถึง​ได้​ย้อนกลับ​ไป

ที่​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​มารับ​หวัง​ซีก​ลับ​ไป​เป็น​เพราะ​ฉัง​ลู่​ ​คุณหนู​ใหญ่​สกุล​ฉั​งก​ลับ​มา​ไหว้​ปีใหม่​บิดา​มารดา​และฮู​หยิน​ผู้เฒ่า

ตั้งแต่​มา​จิง​เฉิง​หวัง​ซียัง​ไม่เคย​เจอ​คุณหนู​ใหญ่​สกุล​ฉัง​ท่าน​นี้​มาก​่อน

นาง​กลับมา​พร้อมกับ​สามี​ของ​นาง​ ​ยัง​พาลู​กก​ลับ​มาส​องคน​ด้วย​ ​คนโต​สี่​ขวบ​ ​คนเล​็​กห​นึ่ง​ขวบ​ ​ล้วน​เป็น​เด็กผู้ชาย​ทั้งคู่

นาง​จับมือ​หวัง​ซี​เอาไว้​กล่าว​ชม​นาง​ไม่​หยุด​ว่า​ ​“​ได้ยิน​ท่าน​แม่​พูด​มานาน​แล้ว​ว่า​เจ้า​ไม่​เพียง​หน้าตา​งดงาม​ ​นิสัย​ก็ดี​อ่อนหวาน​ ​ข้า​สมควร​มา​เยี่ยม​เจ้า​สักหน่อย​ถึง​จะ​ถูก​ ​แต่​เนื่องจาก​เด็ก​ๆ​ ​ใน​บ้าน​ยัง​เล็ก​นัก​ ​แม่​สามี​ข้า​ก็​ป่วย​ติด​เตียง​ ​เสร็จ​จาก​เรื่อง​นี้​ก็​มีเรื่อง​นั้น​ ​ทำให้​หา​เวลา​มา​ไม่ได้​จริงๆ​ ​ข้า​จึง​กลับบ้าน​เดิม​ล่วงหน้า​หนึ่ง​วัน​ ​ค้าง​ที่​บ้าน​หนึ่ง​คืน​ ​จะ​ได้​มี​เวลา​อยู่​กับ​พวก​เจ้า​นาน​หน่อย​”

คุณหนู​ใหญ่​สกุล​ฉัง​แต่ง​กับ​ตระกูล​ที่​ดำรงตำแหน่ง​ผู้ช่วย​ผู้บังคับบัญชา​กองพล​ยศ​ขั้น​สี่​บน​ตระกูล​หนึ่ง​ ​เดิม​บุตร​เขย​อยู่​กองพล​ขนนก​ซ้าย​ ​ภายหลัง​โยกย้าย​ไป​เป็น​หัวหน้า​กองร้อย​ที่​กองทัพ​เป่า​ติ้ง​ ​ก่อนหน้านี้​นาง​ติดตาม​ไป​อยู่​เป่า​ติ้ง​ด้วย​ ​ไม่รู้​ว่า​กลับมา​หรือยัง​ ​ปีนี​้​เพิ่งจะ​ยี่สิบ​เอ็ด​ยี่สิบ​สอง​ปี​เท่านั้น​ ​นาง​กับ​ฉัง​หนิง​เหมือนกัน​ราวกับ​ออกมา​จาก​พิมพ์​เดียวกัน​ ​ทว่า​ดู​เฉลียวฉลาด​กว่า​ฉัง​หนิง​ ​เพียงแต่ว่า​สีหน้า​ดู​เศร้า​ ​ท่าทาง​ดู​ไม่​ค่อย​มีความสุข​นัก

หวัง​ซีคิด​ว่า​ไม่ต้อง​พูดถึง​เป่า​ติ้ง​เลย​ ​แม้​อยู่​ไกล​ถึง​หนาน​ชัง​ ​คุณหนู​รอง​อู๋​ยัง​ส่ง​ของขวัญ​ปีใหม่​มา​ให้​นาง​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​คุณหนู​ใหญ่​สกุล​ฉัง​ท่าน​นี้​หาก​มิใช่​เพราะ​มี​ความไม่สะดวก​บางอย่าง​ทำให้​ไม่​อาจ​ไปมาหาสู่​กับ​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​อย่าง​สนิท​ชิดเชื้อ​เกินไป​ล่ะ​ก็​ ​ก็​ต้อง​เป็น​เพราะ​ไม่เห็น​ญาติ​อย่าง​นาง​อยู่​ใน​สายตา​ ​นาง​ไม่​อยาก​ต้อง​รำคาญใจ​แล้ว​ ​จึง​ทักทาย​นาง​ตามมารยาท​ไป​สอง​สาม​ประโยค​ ​จากนั้น​ไป​นั่ง​กับ​ฉัง​เคอ​ที่​ถูก​เรียกตัว​มา​อยู่​เป็นเพื่อน​ ​ทุกคน​พากัน​ทักทาย​กันและกัน​ว่า​ ​“​สวัสดี​ปีใหม่​”​ ​ขึ้น​มา

ฉัง​ลู่​ไม่เห็น​หวัง​ซี​อยู่​ใน​สายตา​จริงๆ

ดีร้าย​หย่ง​เฉิง​โหวก​็​เป็นหนึ่ง​ใน​ผู้บังคับบัญชา​กองบัญชาการ​ทหาร​ทั้ง​ห้า​ ​มี​ญาติ​มา​อาศัย​เป็น​กาฝาก​ไม่น้อย​ ​ต่อให้​โหวฮู​หยิน​เคย​อธิบาย​ความสัมพันธ์​ระหว่าง​หวัง​ซีกับ​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​ให้​นาง​ฟัง​แล้ว​ ​นาง​ก็​ไม่​ค่อย​เก็บ​มา​ใส่ใจ​นัก​ ​หลังจาก​รับ​มื้อ​เย็น​ที่​เรือนฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​เสร็จ​แล้ว​ ​นาง​กับ​โหวฮู​หยิน​ก็​รีบ​กลับ​ไป​ที่​เรือน​ ​สอง​แม่​ลูก​จะ​ได้​พูดคุย​เรื่องส่วนตัว​กัน

ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​เข้าใจ​เป็น​อย่างดี​ ​กล่าวว่า​ ​“​เนื่องจาก​เป็น​เลือดเนื้อ​ของ​ตัวเอง​ ​ปี​หนึ่ง​ถึง​จะ​ได้​เจอกัน​ครั้ง​สองครั​้ง​ ​จะ​ไม่​คิดถึง​ได้​อย่างไร​ ​ปล่อย​ให้​พวก​นาง​ไป​คุย​เรื่อง​ของ​พวก​นาง​เถอะ​ ​พวกเรา​มา​เล่นไพ่​นกกระจอก​กัน​”

ยัง​ชี้​ให้​หวัง​ซี​มาร​่ว​มด​้วย​ ​กล่าวว่า​ ​“​วัน​มหา​ปีใหม่​อย่าง​วันที่​สามสิบ​เจ้า​ไม่ได้​อยู่​ฉลอง​ปีใหม่​ที่​จวน​ ​วันนี้​ก็​มา​อยู่​เป็นเพื่อน​ป้า​สะใภ้​และ​พวก​พี่สาว​ของ​เจ้า​เถอะ​ ​ปีหน้า​ไม่รู้​ว่า​พวก​เจ้า​ยัง​จะ​ได้มา​รวมตัวกัน​อีก​หรือไม่​”

กล่าว​จบ​ก็​รู้สึก​เศร้าใจ​ขึ้น​มา

พรุ่งนี้​หัน​ซื่อ​กลับบ้าน​เดิม​ ​วันนี้​ตั้งใจ​อยู่​ต้อนรับ​ฉัง​ลู่​เป็นพิเศษ​ ​ได้ยิน​เช่นนั้น​แล้ว​รีบ​กล่าว​หยอกเย้า​ให้ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​มีความสุข

ไม่นานฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ก็​ยิ้ม​เบิกบาน​อีกครั้ง

ฉัง​เคอ​กระซิบ​บอก​นาง​ว่า​หัน​ซื่อ​ได้รับ​ความ​โปรดปราน​จากฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​เป็นอย่างมาก​ ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ยก​กำไล​หยก​มัน​แพะ​ที่​ตัวเอง​สวมใส่​เป็นประจำ​ให้​หัน​ซื่อ​หนึ่ง​คู่

หวัง​ซีป​ระ​ทับ​ใจ​ใน​ตัว​หัน​ซื่อ​ไม่น้อย​ ​ใน​ตระกูล​ใหญ่​เช่นนี้​ ​ต้อง​เป็น​อย่าง​นาง​ถึง​จะ​มีชีวิต​ที่ราบ​รื่น

ฉัง​ลู่​มอบ​แต​๊ะ​เอีย​ให้​หวัง​ซี​ ​หวัง​ซีจึง​ให้​ลูก​ทั้งสอง​นาง​คนละ​หนึ่ง​ส่วน​แบบ​เดียวกัน​ ​ฉัง​ลู่​อด​ไม่ได้​มอง​หวัง​ซี​อย่างชื่นชม​ขึ้น​หลาย​ส่วน​ ​หวัง​ซี​แสร้งทำ​เป็น​มองไม่เห็น

นาง​พัก​อยู่​ที่​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​สอง​วัน​ก็​เดินทาง​กลับ​ ​บอกว่า​แม่​สามี​ไม่สบาย​อยู่​ที่​บ้าน​ ​นาง​กลับ​จิง​เฉิง​ครานี​้​ไม่​กลับ​ไป​ที่​เป่า​ติ้ง​อีกแล้ว​ ​ยัง​ซื้อ​สาวใช้​อุ่น​เตียง​มา​ให้​สามี​สอง​คน​อีกด้วย​ ​ถึง​เวลา​จะ​ให้​กลับ​เป่า​ติ้ง​ไป​พร้อมกับ​สามี​ของ​นาง

ตาม​คำบอกเล่า​ของ​โหวฮู​หยิน​ที่​บอกว่า​ ​“​มีบุ​ตร​ชาย​สอง​คน​แล้ว​ ​ก็​ไม่ต้อง​กลัว​เขา​จะ​มี​อนุ​หรือ​บุตร​อนุ​เพิ่ม​แล้ว​”

หวัง​ซีล​อบ​เบ้​ปาก

บุรุษ​นั้น​ไม่​อาจ​ตามใจ​ได้​ ​เจ้า​จัดการ​ให้​เขา​เสียดิ​บดี​ ​เขา​อาจ​คิด​ว่า​เป็น​สิ่ง​ที่​สมควร​แล้ว

ใน​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​ล้วน​พูด​กัน​ว่า​คุณหนู​ใหญ่​ท่าน​นี้​คือ​คนที​่​มี​ความสามารถ​ที่สุด​ใน​บรรดา​พี่น้อง​สกุล​ฉัง​ ​แต่​นาง​รู้สึก​ว่า​อาจ​ไม่ใช่​เสมอไป​ ​ยัง​แอบ​กระซิบ​วิจารณ์​กับ​ฉัง​เคอ​เป็นการ​ส่วนตัว​ว่า​ ​“​ยอมให้​เขา​เอ่ยปาก​ขอ​ ​แต่​ไม่​ควร​จัดการ​ให้​เขา​ก่อน​เสร็จสรรพ​ ​หาไม่​แล้ว​ผู้อื่น​อาจ​คิด​ว่า​เจ้า​อยาก​ผลัก​เขา​ออก​ไป​ได้​!​”

ฉัง​เคอ​เอง​ก็​รู้สึก​เช่นเดียวกัน​ ​กล่าวว่า​ ​“​ข้า​เอง​ก็​ไม่มีทาง​ทำ​เรื่อง​เช่นนี้​”

หวัง​ซียัง​เบ้​ปาก​กล่าว​อีกด้วย​ ​“​นอก​เสีย​จาก​ว่า​ข้า​ไม่ต้องการ​แล้ว​ ​ไม่อย่างนั้น​อย่า​หวัง​ว่า​ข้า​จะ​ปล่อย​ให้​ออก​ไป​”

ฉัง​เคอ​หัวเราะ​ฮ่า

น่าเสียดาย​ที่​เฉินลั​่​วงาน​ยุ่ง​มาก​อยู่​ตลอด​ ​หย่ง​เฉิง​โหว​เป็น​คนที​่​ที่ไหน​ครึกครื้น​ไม่​ให้​ไป​ที่นั่น​ ​มิใช่​แค่​วันที่​เก้า​ ​แม้แต่​เทศกาล​โคมไฟ​ก็​กักขัง​พวก​นาง​ไว้​ไม่​ให้​พวก​นาง​ออก​ไป​ข้างนอก

หวัง​ซีจึ​งอยู​่​แต่​ใน​บ้าน​อย่างสบายใจ​ ​จัดเก็บ​ข้าวของ​ที่​ต้องการ​ขนย้าย​ออก​ไป​จน​เสร็จ​อย่าง​ไม่​ให้​สุ​้ม​ให้​เสียง​ ​พร้อม​ย้ายออก​ได้​ทุกเมื่อ​ ​แต่ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​จวน​หย่ง​เฉิง​โหวก​็​ยัง​ไม่รู้​เรื่อง​ ​กระซิบ​กล่าว​กับ​ซือห​มัว​มัว​ว่า​ ​“​ข้า​ได้ยินฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​จวน​เซียง​หยาง​โหว​บอกว่า​ฮองเฮา​เหนียง​เหนียง​จะ​พระราชทาน​สมรส​พระราชทาน​ให้​หวัง​ซีกับ​เฉินลั​่ว​ ​ก็​เท่ากับ​พวกเรา​ได้รับ​พระราช​โองการ​สองครั​้ง​แล้ว​”

นี่​เป็นเรื่อง​มีเกียรติ​มีหน้ามีตา​ยิ่งนัก

ซือห​มัว​มัว​เอง​ก็​ลอบ​ดีใจ​ตาม​ไป​ด้วย

ผู้ใด​จะ​รู้​ว่า​เมื่อ​เก็บ​โคมไฟ​ใน​วันที่​สิบ​เจ็ด​เสร็จ​แล้ว​ ​หวัง​เฉิน​ก็​เข้ามา​รับ​ตัว​หวัง​ซี​ ​บอกว่า​ซื้อ​บ้าน​ข้างนอก​เอาไว้​หนึ่ง​หลัง​ ​จึง​มารับ​หวัง​ซี​ออก​ไป​ ​“​นาง​เอง​ก็​โต​แล้ว​ ​ไม่​อาจ​เอาแต่​อยู่​ใน​จวน​ของ​ท่าน​ ​อีก​อย่าง​ ​คุณหนู​ทั้ง​สาม​ท่าน​ของ​จวน​ท่าน​ต่าง​ก็​กำลังจะ​ออกเรือน​กัน​แล้ว​ ​ข้า​รับ​นาง​ออก​ไป​ ​ภาระ​ของ​พวก​ท่าน​ก็​จะ​ได้​น้อยลง​ไป​หลายอย่าง​”

ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​โกรธ​จน​เกือบจะ​เป็นลม​ล้ม​ลง​ไป​ตรงนั้น​เลย​ ​ด่า​ตระกูล​หวัง​ต่อหน้า​บ่าวไพร่​เต็ม​ห้อง​ว่า​ไร้​สำนึก​ ​“​หาก​มิใช่​ข้า​ ​ผู้ใด​จะ​รู้​ว่านาง​เป็น​ใคร​ ​บัดนี้​จะ​ได้​แต่ง​เข้า​จวน​จ่าง​กง​จู่​แล้ว​ ​ก็​เลย​รังเกียจ​ว่า​ใน​จวน​ไม่ดี​?​ ​นี่​คง​กลัว​พวก​ข้า​จะ​ได้​อานิสงส์​จาก​นาง​กระมัง​ ​ให้​นาง​วางใจ​ได้​เลย​ ​คนแก่​อย่าง​ข้า​ต่อให้​เดิน​หลงทาง​ก็​ไม่มีทาง​เดิน​หลง​ไปหา​นาง​อย่างแน่นอน​ ​ไม่มี​นาง​ ​ข้า​ก็​ยัง​มี​อาจู​อยู่​”

ได้ยิน​แล้ว​คน​ทั้ง​ห้อง​ต่าง​กลอกตา​มอง​บน

ท่าน​เอาแต่​นึกถึง​คุณหนู​ซือ​ ​แต่​คุณหนู​ซือ​นั้น​นับตั้งแต่​วันที่​มาหา​คุณหนู​หวัง​เมื่อคราว​ก่อน​เป็นต้นมา​ ​ก็​ไม่เคย​เหยียบ​เข้า​ประตู​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​อีก​ ​แม้แต่​วัน​ปีใหม่​ก็​ไม่​มา

……………………………………………………….