บทที่ 210 ประธานกรรมการคนใหม่

มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง

มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง บทที่ 210 ประธานกรรมการคนใหม่

“คุณมู่ครับ ถ้ามาก่อนเวลาก็ไปที่ห้องประชุมได้เลย จะปล่อยให้คุณรอผมอยู่ด้านนอกได้ยังไง”

เฝิงจงเหลียงเดินตามหลังมู่เซิ่งมา ด้วยท่าทีรู้สึกผิด

เมื่อเขารู้ว่ามู่เซิงมาถึงก่อนเวลา เฟิงจงเหลียงก็เหงื่อแตกพลั่ก!เขาหยุดการประชุมทันทีและออกไปพบมู่เซิ่งทันที โชคดีที่ไม่ได้มีเรื่องใหญ่โตอะไร

“ไม่เป็นไร ถ้าไม่ใช่เพราะแมลงวันเอาแต่ร้อง ผมคงไม่ให้คุณออกมาก่อนหรอก”มู่เซิ่งพูดอย่างไม่ใส่ใจ

เฝิงจงเหลียงเข้าใจในทันที รีบโทรศัพท์ออกไป

หลังจากวางสายไป เขาก็พูดอย่างนอบน้อมว่า“คุณมู่ครับ ผมได้บอกให้เลขาแจ้งให้บริษัทในเมืองเจียงหนานทุกแห่ง หลังจากนี้ไป ใครกล้าให้หลินหลิ่วจือทำงานด้วย ก็จะถือว่าเป็นศัตรูกับมู่ซื่อกรุ๊ปครับ!”

ตอนนี้

ในบริษัทตระกูลเจียง

ตั้งแต่เช้าตรู่ ญาติสนิทมิตรสหายทุกคนในตระกูลเจียงมาก่อนเวลา เพราะวันนี้เป็นวันที่ประธานคนใหม่จะมา ดังนั้นเหล่าลูกหลานตระกูลเจียงที่ชอบมาสาย ล้วนมากันเช้ามาก

การพบหน้ากันครั้งแรก พวกเขาเตรียมจะให้ประธานคนใหม่มีความทรงจำดีๆกับพวกเขา!

คนที่มาที่นี่ มีแค่เจียงมู่หลงที่ยังคงหน้าด้านหน้าทนนั่งอยู่บนเก้าอี้ของประธานกรรมการในห้องทำงาน เขาพึ่งได้เป็นผู้นำของตระกูลเจียงไม่กี่วัน รู้สึกเสียดายตำแหน่งนี้มาก

คนอื่นๆที่เห็นเช่นนั้น ก็รู้สึกร้อนใจในทันที

“เจียงมู่หลง วันนี้นายไม่ใช่ประธานของบริษัทแล้วนะ รีบลุกขึ้นมาซะ!”

“จริงด้วย ถ้าประธานคนใหม่มาเห็นแบบนี้เข้า เขาโกรธขึ้นมาจะทำยังไง?ฉันจะบอกอะไรให้นะ นายไม่อยากอยู่ที่บริษัทต่อก็ให้รีบไสหัวไปซะ อย่าทำให้เราซวยไปด้วยเข้าใจไหม!”

“รีบๆสิวะ อย่าทำให้ฉันเดือดร้อนไปด้วย!”

“ถ้าแกยังไม่ลุกขึ้น อย่าหาว่าฉันไม่ไว้หน้าแกแล้วกัน!”

ในใจของพวกเขาเจียงมู่หลง ไม่มีตัวตนอะไรแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงใช้คำพูดที่ ไม่น่าฟังมากๆ แทบอยากจะลากเจียงมู่หลงออกจากตำแหน่งของประธานกรรมการบริษัท

“คนที่ไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง ตอนที่ใช้เงินของฉัน ไม่เห็นมีใครมืออ่อนเลย!”เจียงมู่หลงโกรธจนกัดฟันกรอด

“เหอะๆ เงินนั่นนายเป็นคนขอมาเองไม่ใช่รึไง?”

“จริงด้วย แกคิดว่าแกเป็นผู้นำของตระกูลเจียง มีปัญญาใช้หนี้ก้อนนั้น สุดท้ายใครจะไปรู้ว่าแกจะทำให้บริษัทตกอยู่ในสภาพแบบนี้!”

“ยังไม่รีบลุกขึ้นอีก เจียงมู่หลง ถ้าแกทำให้ฉันไม่มีงานทำ แกได้มีเรื่องกับฉันแน่!”

เหล่าคนแซ่เจียงไม่ไว้หน้าแม้แต่น้อย ชี้หน้าก่นด่าเจียงมู่หลงสารพัด คำพูดหยาบคายไม่น่าฟังแค่ไหนขนออกมาพูดจนหมด สถานการณ์ปัจจุบัน เกิดจากเจียงมู่หลง ซึ่งใช้เงินเป็นพันล้านในเวลานั้น ตอนกู้ไม่ได้บอกว่าจะไม่มีปัญญาผ่อน

ในเวลานี้เอง เจียงหว่านมาถึงห้องทำงาน

เจียงมู่หลงที่ได้เห็นเจียงหว่าน ก็ลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ทันที แล้วพุ่งเข้าไปหาเจียงหว่าน

ตอนนั้นตระกูลเจียงเดือดร้อน เขาเคยไปหาเจียงหว่าน แต่สุดท้ายเจียงหว่านไม่เพียงไม่ช่วยเหลือ ในทางกลับกันยังให้รปภ.ไล่เขาออกมาอีก อีกทั้งเขายังได้ปล่อยข่าวลือออกไปว่าตระกูลเจียงจะล้มละลาย แต่เหมือนกับไม่มีผลกระทบกับเจียงหว่านแม้แต่น้อย ทำให้เจียงมู่หลงรู้สึกโกรธมาก

ด้วยการปล่อยข่าวลือแบบนี้ ที่จริงเจียงมู่หลงเคยถูกเจียงไห่เชาตำหนิมาแล้ว

แต่ตอนนี้ จิตใจของเจียงมู่หลงได้บิดเบี้ยวไปนานแล้ว เขาไม่สามารถรับความจริงตรงหน้าได้ ดังนั้นจึงยิ่งอยากให้เจียงหว่านล่มจม กระทั่งขายหน้าไปพร้อมกับเขา!

อย่างมากก็แค่ตายพร้อมกันเท่านั้นเอง เขามีอะไรให้ต้องกลัวอีก?

“เหอะๆ เจียงหว่าน คิดไม่ถึงว่าในที่สุดเธอจะบริษัท”เจียงมู่หลงหัวเราะเยาะเจียงหว่าน

ออร่าของเจียงหว่านบีบเค้นคนอื่นๆ เธอยิ้มอย่างไม่แยแส“เจียงมู่หลง ตอนนี้แกไม่ใช่ประธานตั้งนานแล้ว ฉันจะมาบริษัทหรือไม่ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับแก?”

“ถ้าไม่ใช่เพราะแก ฉันจะเสียโครงการซีไห่ไปได้ยังไง เสียตำแหน่งประธานบริษัทไป!”เจียงมู่หลงใบหน้าบิดเบี้ยว แทบอยากจะเข้าไปทุบตีเจียงหว่าน

“แกเป็นคนไปหาเฝิงจงเหลียงเอง แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉัน?”เจียงหว่านกล่าว

เจียงหว่านพูดถูก เจียงมู่หลงไปหาเฝิงจงเหลียงเอง แต่จุดประสงค์ของเขาก็เพื่อแย่งโปรเจ็กมาจากมือของเจียงหว่าน

แต่ผลสุดท้าย โปรเจ็กในมือของเขาถูกยึดไป และเขาก็กลายเป็นคนที่ไม่มีตำแหน่งสถานะในบริษัทที่สุด เจียงมู่หลงทำได้แค่โยนความผิดไปที่เจียงหว่าน

“เหอะๆ ถ้าไม่เป็นเพราะแกไม่ช่วยฉันขอร้อง ฉันจะเอาโปรเจ็กกลับมาไม่ได้ยังไง?แกมันจงใจชัดๆ!”เจียงมู่หลงชี้หน้าก่นด่าเจียงหว่าน กำหมัดขึ้นมาจะเข้าไปต่อยเจียงหว่านอย่างทนไม่ไหว

รปภ.ที่บริษัทได้รับคำสั่งจากมู่เซิ่งมานานแล้ว หลังจากที่เห็นฉากนี้ ก็รบเข้าไปขวางอยู่ข้างหน้าของเจียงหว่านทันที ทำให้เจียงมู่หลงไม่กล้าบุ่มบ่าม

“ฉันไม่ยอมช่วยแกงั้นหรอ?ฉันโทรไปตั้งนานแล้ว อีกทั้ง แกบอกว่าฉันไม่มีสิทธิ์อยู่ในบริษัท แล้วแกมีสิทธิ์อะไรมาพูดกับฉันแบบนี้ ตอนนี้บริษัทที่แกอยู่ แกอยู่ในตำแหน่งอะไรไม่ทราบ?”เจียงหว่านพูดอย่างยิ้มๆ

ประโยคนี้ทำให้เจียงมู่หลงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ

เขาชี้ไปที่เจียงหว่าน แล้วพูดอย่างเย้ยหยันว่า“ฉันไม่มีตำแหน่งอะไรในบริษัท แล้วแกคิดว่าแกเป็นใครห้ะ?”

“เจียงหว่าน แกไปซะเถอะ ตอนนี้บริษัทนี้ไม่มีหุ้นของแกอยู่แล้ว อยู่ที่นี่ต่อไป แล้วมันจะมีประโยชน์อะไร?”เจียงไห่เชาคอยพูดสำทับอยู่ข้างๆ

บรรดาคนแซ่เจียงต่างพากันพยักหน้า ถึงแม้ว่าบริษัทจะเปลี่ยนมือ แต่พวกเขายังคงไม่อยากให้เจียงหว่านได้ดี จึงพากันพูดว่า

“เจียงหว่าน เธออยากรอดูเรื่องตลกที่นี่หรอ?ยังไม่ไปอีก!”

“อย่าคิดว่ารู้จักเฝิงจงเหลียง แล้วคิดจะทำอะไรก็ได้นะ เธอไม่ใช่คนในบริษัทสักหน่อย รีบไสหัวไปซะ!”เจียงปู๋นิ่งกล่าวอย่างดูถูก

“ฉันไป?ฉันไปแล้ว ใครจะนั่งตำแหน่งประธานบริษัทล่ะ?”เจีงหว่านพูดอย่างเรียบเฉย

ตำแหน่งประธานบริษัท?

มันเกี่ยวอะไรกับเธอกัน?

เหล่าคนแซ่เจียงถึงกับผงะไปชั่วครู่ แต่ละคนมีสีหน้าเหลือเชื่อตกตะลึง หรือว่า เจียงหว่านจะเป็นคนซื้อบริษัทนี้?

“ประธานคนใหม่……คะ คือเธองั้นหรอ?”เจียงปู๋นิ่งถามอย่างไม่รู้ตัว

เจียงหว่านไม่ได้ตอบ ทำแค่พยักหน้า

เมื่อเห็นท่าทีแบบนี้ของเจียงหว่าน ไม่เพียงแต่เจียงปู๋นิ่ง บรรดาคนแซ่เจียงถึงกับตกตะลึงพูดอะไรไม่ออก

หลังจากที่เจียงหว่านถูกไล่ออกจากตระกูลเจียง เธอก็ซื้อทั้งบริษัท!

จะเป็นไปได้ยังไง?

นี่มันสามร้อยล้านเชียวนะ เจียงหว่านไปเอาเงินจากไหนมาซื้อบริษัท ตั้งเยอะแยะขนาดนี้?

“เจียงหว่าน กะ……แกไปเอาเงินมาจากไหน ซื้อบริษัท?”เจียงปู๋นิ่งรู้สึกกลัวมาก หลังจากซื้อบริษัทแล้ว เจียงหว่านก็คือหัวหน้าน่ะสิ?ถ้าไล่เธอออก เธอไม่มีที่ให้ร้องไห้ด้วยซ้ำ

“ฉันไปเอาเงินมาจากไหน แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอ?”เจียงหว่านกล่าว

เรื่องซื้อบริษัท ไม่ได้ผ่านการอนุญาตจากมู่เซิ่ง เธอจะไม่พูดออกไป

แต่เหล่าคนแซ่เจียงไม่สนใจอะไร พวกเขารู้แค่ว่าประธานคนใหม่คือเจียงหว่าน แค่นั้นก็พอแล้ว

“เจียงหว่าน ไม่สิ ประธานเจียง คิดไม่ถึงว่าอ้อมไปซะไกล สุดท้ายก็อยู่ในมือเธอ ถ้าท่านเจียงสามที่อยู่ในปรโลกรู้เรื่องนี้เข้า เขารู้สึกยินดีกับเธอแน่”

“จริงด้วยประธานเจียง ไม่ว่ายังไงฉันก็เป็นคุณลุงของเธอ ฉันเห็นเธอมาตั้งแต่เล็กจนโต เธอคงไม่ไล่ฉันออกหรอกใช่ไหม?”

“ฉันด้วยนะ ตอนที่เธอแต่งงาน ฉันก็ไปด้วยนะ!”

พวกเขาแต่ละคนใช้คำพูดตีสนิท เพื่อให้สามารถทำงานในบริษัทต่อไปได้

บางคนถึงกับแนะนำให้ เจียงมู่หลงมอบตำแหน่งหัวหน้าตระกูลเจียงให้กับเจียงหว่าน

เมื่อการแนะนำนี้พูดออกไป ก็ได้รับการยอมรับจากทุกคน

“เหอะๆ!แค่ไชนังเศษสวะอย่างเอคนเดียวเนี่ยนะ มีสิทธิ์ได้ตำแหน่งผู้นำตระกูลเจียงน่ะ?เจียงหว่าน แกฝันไปเถอะ ฉันไม่มีทางยอมตกลงหรอก!”เจียงมู่หลงพูดด้วยความโมโห เขาโกรธจนหน้าดำหน้าแดง“ยิ่งไปกว่านั้น พูดปากเปล่าไม่มีหลักฐาน พวกแกจะรู้ได้ยังไงว่าเธอเป็นประธานบริษัทแน่ๆน่ะ?”

“คือ……”

ไม่มีหลักฐาน เหล่าคนแซ่เจียงเริ่มลังเลขึ้นมา

ในเวลานี้เอง หน้าประตูก็มีเสียงลอดดังขึ้นมา

“ประธานครับ ประธานเฝิงมาแล้ว……”