บทที่ 211 คุกเข่าขอโทษ

มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง

มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง บทที่ 211 คุกเข่าขอโทษ

“ผู้จัดการเฝิงมาแล้ว……”

ได้ยินเสียงที่หน้าประตู ผู้คนไม่เข้าใจว่าเป็นมาอย่างไร

เฝิงจงเหลียงมาที่นี่ทำไม?

แต่ว่าเนื่องจากตำแหน่งของเฝิงจงเหลียงและมู่ซื่อ กรุ๊ปที่อยู่เบื้องหลัง ไม่มีใครกล้าขัดขวางสักคน ก็มองดูเฝิงจงเหลียงเดินเข้าสำนักงานไปแบบนี้

มู่เซิ่งยืนอยู่ข้างกายของเขา สีหน้านิ่งสงบ

หลังจากที่เห็นมู่เซิ่ง พวกลูกๆหลานๆตระกูลเจียงเหล่านั้นก็ยิ่งประหลาดใจ มู่เซิ่งเศษสวะคนนี้ มีสิทธิ์อะไรมาตามอยู่ข้างกายของเฝิงจงเหลียง?

หลังจากที่เจียงหว่านเห็นมู่เซิ่ง อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอย่างโล่งอก มู่เซิ่งให้เธอไปบริษัทคนเดียวล่วงหน้า เธอช่างรวบรวมความกล้าซะจริงๆ หลังจากที่เห็นมู่เซิ่ง จิตใจก็สงบลง

ในเวลานี้ เฝิงจงเหลียงที่ยืนอยู่ข้างๆเดินเข้ามา เต็มเปี่ยมไปด้วยความอบอุ่น พูดกับเจียงหว่านว่า “ยินดีด้วยประธานเจียง ดำรงตำแหน่งประธานคนใหม่ ที่ผมมาในครั้งนี้ มาเพื่อแสดงความยินดีกับคุณโดยเฉพาะ ”

นี่……นี่เป็นความจริง!

หลังจากที่ได้ยินเฝิงจงเหลียงเอ่ยปากพูด ในเวลานี้ ผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ ไม่มีใครสงสัยเจียงหว่านอีก

ผู้คนเปิดทางให้เจียงหว่านและเฝิงจงเหลียงโดยอัตโนมัติ ทั้งสองคนอยู่ประจำที่ พูดคุยอย่างมีความสุข ถึงขั้นเจรจาโปรเจคใหม่สำเร็จแล้ว

“ผู้จัดการเฝิง เรื่องในอดีต ทำให้คุณต้องลำบากแล้ว ทางฝั่งโปรเจคในเขตซีไห่ของท่านเจียงสาม แม้ว่าตอนนี้พวกเราไม่ได้รับช่วงต่อ แต่ก็ทำให้คุณเสียหาย พวกเรายินดีที่จะชดใช้” บทสรุปในตอนท้าย เจียงหว่านรวบรวมสัญญา พูดกล่าวกับเฝิงจงเหลียงอีกครั้ง

เฝิงจงเหลียงแอบตกใจ

หญิงสาวหัวธุรกิจคนนี้ ไม่ใช่คนที่เจียงมู่หลงเศษสวะแบบนี้จะเปรียบได้เลยด้วยซ้ำ

เขาเชื่อ แม้ว่าไม่มีการสนับสนุนของมู่เซิ่ง ขอเพียงแค่ให้เงินทุนแก่เธอ ถ้าหากให้เวลามากอีกหน่อย เจียงหว่านจะต้องสร้างอาณาจักรธุรกิจของตัวเองในเจียงหนานได้แน่นอน

สายตาของเฝิงจงเหลียงค่อยๆมองไปยังมู่เซิ่ง เห็นมู่เซิ่งพยักหน้า เขาถึงพูดว่า : “งั้นก็ขอขอบคุณในความหวังดีของผู้จัดการเฝิง สำหรับความเสียหายของโปรเจคเขตซีไห่ ฉันจะให้ทางบัญชีลิสต์รายการออกมาให้คุณ”

ชดใช้เงินก้อนหนึ่งอย่างไม่มีเหตุผล ลูกๆหลานๆของสกุลเจียงไม่พอใจแน่นอน เพราะว่าพวกเขามองบริษัทว่าเป็นส่วนหนึ่งในการหาเงินของตัวเอง แต่ว่าเจียงหว่านเอ่ยปากพูด พวกเขาไม่มีเหตุผลที่จะโต้กลับ

หลังจากที่ร่างสัญญาใหม่ขึ้นมา เฝิงจงเหลียงก็ขอตัวก่อน

“เจียงหว่าน คิดไม่ถึงว่าแกจะไม่เอาไหนขนาดนั้น พอมาก็ริเริ่มขอโทษขอโพย ตระกูลเจียงนี้ สักวันหนึ่งก็ต้องพ่ายแพ้ในเงื้อมมือของคุณ!” เจียงมู่หลงพูดอยู่ข้างๆอย่างยินดีปรีดาในความโชคร้ายของคนอื่น

“สูญเสียโปรเจคเขตซีไห่ไป เสียหายแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ถ้าหากไม่ระงับความเสียหายได้ทันเวลา อาจจะพลอยทำให้โปรเจคอีกทาฝั่งหนึ่งเพราะเหตุนี้จึงได้รับความเสียหายไปด้วย แม้ว่ามองดูแล้วจะเสียเปรียบ แต่กลับว่าสร้างความประทับใจที่ดีให้กับมู่ซื่อ กรุ๊ป ทำงานร่วมกันกับบริษัทระดับสูงแบบนี้ จะต้องวางแผนในระยะยาว ถึงจะเป็นทางเลือกที่ฉลาดที่สุด” เจียงหว่านพูดกล่าว

มู่เซิ่งยิ้มแยกเขี้ยวยิงฟัน “ที่รัก ไม่ต้องอธิบายให้คนแบบนี้ฟัง เขาฟังไม่รู้เรื่องหรอก”

“นี่เป็นเรื่องของตระกูลเจียงของเรา เศษสวะอย่างแกมาพูดแทรกอะไร?” เจียงมู่หลงร้อนใจแล้ว

“ฉันเป็นเศษสวะ งั้นคุณเป็นอะไร?” มู่เซิ่งยิ้มอย่างนิ่งๆ

“มู่เซิ่ง แม่งเอ้ย กล้าด่าฉันเหรอ?แกอยากตายใช่ไหม!” เจียงมู่หลงระเบิดความโมโหออกมาอดไม่ได้ที่จะสะบัดหมัดกำปั้นไปยังมู่เซิ่ง

ในสายตาของเขา แม้ว่าเขาจะตกอับ ถึงขั้นไม่มีบริษัท แต่ก็ไม่ใช่คนที่เศษสวะคนนี้จะทำให้อัปยศอดสูได้!

แต่ทว่า กำปั้นของเขายังไม่มาถึงตรงหน้าของมู่เซิ่ง ก็ถูกเตะที่หน้าท้องแล้ว มือทั้งสองข้างกุมหน้าท้อง คุกเข่าลงตรงหน้ามู่เซิ่ง

และตอนที่เจียงมู่หลงกำลังจะระเบิดความโกรธออกมา ลูกๆหลานๆแซ่เจียงเหล่านั้นต่างก็ล้อมรอบกันเข้ามา ทำหน้าที่เป็นผู้ไกล่เกลี่ยพูดชักชวนอยู่ข้างๆ:

“มู่เซิ่ง คุณอย่าได้ไปทะเลาะกับบุคคลที่ต่ำต้อยกว่าอย่างเจียงมู่หลงเลย”

“ใช่ ตอนนี้สมองของเขาไม่ค่อยใสเท่าไหร่ คุณไม่ต้องสนใจเขาก็พอ”

“ตอนนี้เป็นบริษัทของเจียงหว่าน ต่อไปยังไงซะเราก็เป็นเพื่อนร่วมงานกัน ทุกคนเจอหน้ากัน ให้อภัยกันให้มากๆหน่อย”

มู่เซิ่งรู้ว่าในสมองของพวกญาติเหล่านี้กำลังคิดอะไรอยู่ ส่ายหน้า พูดว่า : “ฉันไม่ได้พูดว่า เป็นเพื่อนร่วมงานกับพวกคุณ”

“มู่เซิ่ง งั้นคุณหมายความว่าไง?” ผู้คนพูดถาม

“ฉันเอง คุณก็ไม่ต้องอุบไว้แล้ว”

“ฉันรู้ว่า พวกคุณอยากจะอยู่ที่ตระกูลเจียง แต่ว่าอยู่ต่อ ก็ใช่ว่าจะไม่ได้ ขอแค่คุกเข่าขอโทษตรงหน้าเจียงหว่าน บอกว่าหลายปีมานี้ ตัวเองขอโทษในสิ่งที่กระทำต่อเธอทั้งหมด ก็อยู่ที่นี่ต่อได้” มู่เซิ่งพูดกล่าว

“อะไรนะ?”

“ทำไมต้องขอโทษเจียงหว่านด้วย!”

“พวกเราก็ไม่ได้ทำเรื่องที่เกินไปสักหน่อย!”

ได้ฟังข้อเรียกร้องของมู่เซิ่ง ลูกๆหลานๆแซ่เจียงเหล่านั้นไม่ตอบตกลงทันที

“ไม่ได้ทำเรื่องที่เกินไป?” มู่เซิ่งยิ้มแยกเขี้ยวยิงฟัน

คำพูดของคน ก็เหมือนกับมีดเล่มหนึ่ง ญาติเหล่านั้น รักที่จะปรับตัวไปตามสถานการณ์ที่สุด ไม่มีจุดยืน ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่ามู่เซิ่งอยู่ข้างกายของเจียงหว่าน ตอนที่เจียงหว่านถูกไล่ออกไปจากตระกูลเจียง คำพูดของญาติเหล่านั้น ก็เพียงพอที่จะกดทับให้เจียงหว่านหายใจไม่ออก

ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องของเจียงเทาฉิน ก็ยั่วโทสะมู่เซิ่งโดยสิ้นเขิงแล้ว

เขารับรอง จะทำให้ทั้งตระกูลเจียง คุกเข่าขอโทษตรงหน้าเจียงหว่าน

งั้นเขา ก็จะต้องทำได้แน่นอน

ไม่ได้ทำเพื่ออย่างอื่น ก็เป็นเพราะว่า เขาเป็นผู้ชายของเจียงหว่าน!

เห็นผู้คนท่าทางแค้นเคือง มู่เซิ่งพูดต่อว่า : “พวกคุณไม่คุกเข่าลงก็ได้ ออกไปจากบริษัท ถึงยังไงบริษัทแห่งนี้ เป็นของเจียงหว่าน ไม่ใช่ของตระกูลเจียง”

“ฉัน……”

ลูกหลานแซ่เจียงได้แต่มองดูกันไปมา

คุกเข่า หรือว่าไม่คุกเข่า?

ไม่คุกเข่า ถ้าหากยืนกรานต่อก็ไม่เสียหน้า แต่ต่อไปจะหางานทำยังไง?

พอคิดถึงว่าไม่มีรายรับ จะต้องพเนจรตามมุมถนน ลูกหลานแซ่เจียงเหล่านั้น เข่าทั้งสองข้างอ่อนลงทันที คุกเข่าลงตรงหน้าเจียงหว่านอย่างพร้อมเพียงกัน

“เจียงหว่าน ขอโทษนะ ก่อนหน้านี้ฉันไม่ควรว่าคุณแบบนี้”

“ขอโทษประธานเจียง……”

นัยน์ตาที่งดงามของเจียงหว่านสาดส่องความประหลาดใจออกมา คิดไม่ถึงว่าคำพูดที่มู่เซิ่งพูดออกมา ทำได้แล้วจริงๆ ตอนนั้นที่อยู่ในวิลล่า เธอยังคิดว่า มู่เซิ่งพูดเพียงเพราะปลอบใจเธอเท่านั้น

“สามีของเธอหลอกเธอตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?” เหมือนว่าจะเดาความคิดของเจียงหว่านได้แล้ว มู่เซิ่งพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ ที่ข้างหูเธอประโยคหนึ่ง

เจียงหว่านสายตาเคลื่อนไหวเหมือนคลื่นน้ำ ใบหน้าแดงระเรื่อ

เจียงมู่หลงยืนอยู่ข้างๆ มองภาพฉากนี้อย่างโมโห เขาก็เป็นคนเดียวในบรรดาลูกๆหลานๆแซ่เจียงเหล่านั้น ที่ไม่คุกเข่าลง

ในเวลานี้ มู่เซิ่งก็มองไปยังเจียงมู่หลง ยิ้มอย่างนิ่งๆ พูดว่า : “เจียงมู่หลง แกอยากจะมีงานทำ หาเงินปะทังชีวิตไหม?”

“แก……” เจียงมู่หลงขบเคี้ยวเขี้ยวฟันด้วยความเกลียดชัง คำพูดนี้ของมู่เซิ่ง กำลังบีบบังคับเขาเหรอ!

ความเกลียดในใจของเขา จะให้เขาคุกเข่าลงให้เจียงหว่านได้ยังไงกัน!

“แม้ว่าฉันหิวตาย ก็ไม่มีทางคุกเข่าให้เศษสวะอย่างพวกแกสองคน!” เจียงมู่หลงพูดด่าทอหยาบคาย

“ในเมื่อไม่คุกเข่า งั้นก็ไสหัวออกไปเถอะ” มู่เซิ่งพูดกล่าว

เจียงมู่หลงไม่ใช่แค่ยิ้มอย่างเยือกเย็น ยังพูดอีกว่า : “เหอะๆ แกก็อย่าเพิ่งรีบได้ใจไป บุคคลในแวววงเหล่านั้นที่แกรู้จัก ขอเพียงแค่ฉันลงมือ พวกแกไม่มีทางดำเนินธุรกิจไปต่อได้แน่ ฉันรอวันนั้นที่แกร้องไห้”

“พวกลูกท่านหลานเธอที่แกรู้จักเหล่านั้น?แกคิดว่าไม่มีตระกูลเจียงแล้ว พวกเขายังรู้จักแกเหรอ?” มู่เซิ่งพูดย้อนถาม

ไม่มีตระกูลเจียง?

คำพูดนี้ทิ่มแทงหัวใจของเจียงมู่หลง เขายังคิดอยากจะพูดอะไรบางอย่าง มียามมามัดตัวเขา ไล่เขาออกไปจากบริษัทแล้ว

“แม่งเอ้ย คิดไม่ถึงว่ากล้าขับไล่ฉัน เศษสวะ ฉันจะต้องทำให้แกตายอย่างน่าเกลียด!”

หน้าประตูบริษัท เจียงมู่หลงโมโหด่าทอไม่หยุด