บทที่ 174 เจ้ากําลังมีปัญหา!

ซีเว่ยรู้สึกว่าหัวใจของเขาหยุดเต้นไปชั่วขณะ

จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ 2 สิ่ง

1.เขาไม่มีหัวใจหลังจากกลายเป็นลูกบอล

2.อัสลานพูดว่า “มีบางอย่างที่น่ากลัวเกิดขึ้นไม่ใช่เจ้ากําลังมีปัญหา!”

“ดี” ซีเว่ยคิดในใจ ‘ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวกับฉัน

“เกิดอะไรขึ้น?” เขาถาม “ท่านต้องการโค้กไหม”

“ไม่ ข้าจะดื่มน้ําที่รสชาติเหมือนชาครั้งที่แล้ว”สิงโตตัวใหญ่กล่าวขณะนอนลงบนพื้นอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ของซีเว่ยและมองไปที่ซากสัตว์ประหลาดปลาหน้ามนุษย์และฝูงมนุษย์เงือกที่กําลังส่งกลิ่นเหม็นคาวไปทั่วด้วยสีหน้าแปลก ๆ “ช่วงนี้เจ้าชอบสะสมของแปลกมากขึ้นเรื่อย ๆ…”

“นี่เป็นเครื่องสังเวยจากผู้ศรัทธาของข้า”ซีเว่ยตอบขณะที่เขาชงชาหญ้าพันงูขาวให้อัสลานหนึ่งถ้วย “และอย่างที่ท่านทราบพวกเขามีความสนใจในสิ่งต่าง ๆ มากมาย”

เขาอยากจะโม้นิด ๆ และบอกว่า “ท่านล่ะมีเปล่า?แต่เพราะเขากลัวว่าอัสลานจะคํารามกลับมาว่า เจ้าบ้าไปแล้วรี”และเอาชนะเขา เขาไม่ควรทะเลาะกับอัสลานหากเขายังไม่อยากตาย

สิงโตตัวใหญ่ไม่รู้ความคิดของซีเว่ยเขาเลียชาก่อนจะพูดว่า“อย่ากลัวกับสิ่งที่ข้ากําลังจะบอกเจ้า…”

“ไม่ต้องห่วงข้าไม่กลัวข้าเป็นเทพเจ้าอยู่แล้ว”ซีเว่ยตอบแบบไม่กังวลใด ๆ ขณะที่เขาหยิบโค้กออกมาขวดหนึ่ง

“เทพเจ้าชั้นล่างตายแล้ว” อัสลานพูดซ้ํา ๆ“และไม่ได้เกิดจากสาเหตุตามธรรมชาติ แต่เกิดจากการลอบสังหาร”

“โอ้ มันเป็นไปได้ยังไง..มันแย่มาก..”

ซีเว่ยที่พิงหัวกะโหลกอยู่ตอบพร้อมกับโบกหนวดอย่างไม่สนใจ

เขาฆ่าเทพเจ้าไปแล้วองค์หนึ่ง กะโหลกของเทพเจ้ากระดูกเน่ายังอยู่ที่นี่และศพส่วนที่เหลือก็ยังอยู่ในเครื่องปั่น

ยิ่งไปกว่านั้น ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเขาที่นี่จริงๆเขาก็คงตายเพราะเทพกะโหลกหรือไม่ก็เทพสมุทร…

“แล้วถ้าข้าบอกเจ้าว่ามีเทพเจ้าชั้นล่าง 4 องค์ที่ตายหลังจากฤดูหนาวสิ้นสุดลงล่ะ?” สิงโตตัวใหญ่กล่าวเสริมเขารู้ว่าซีเว่ยเคยฆ่าเทพเจ้าชั่วร้ายมาแล้วและเข้าใจว่าเรื่องแบบนี้ไม่สามารถทําให้อีกฝ่ายหวาดกลัวได้

“อะไร?! น่ากลัวมาก!”

“เจ้าไม่ได้จริงจังเลย”

“ท่านกําลังพูดถึงอะไร! ท่านมีหลักฐานรึเปล่า!”

“คําว่า “ไม่สนใจ เขียนไว้บนผิวลูกบอลอย่างเจ้าด้วยภาษาศักดิ์สิทธิ์”

สิงโตตัวใหญ่ชี้ไปที่ลูกบอลเรืองแสงซึ่งมีแถวข้อความเลื่อนอยู่เหนือผิวลูกบอล เหมือนข้อความที่เลื่อนจากขวาไปซ้าย

ความจริงซีเว่ยค่อยสนใจเรื่องนี้จริง ๆ

แม้ว่าเขาจะเป็นเทพเจ้าชั้นล่างด้วย แต่ก็ยังมีเทพเจ้าอื่น ๆ อีกมากมายในโลก ที่นี่มีเทพมากมายนับไม่ถ้วนแม้ว่าเทพชั่วร้ายหรือเทพปีศาจบางตัวจะลอบสังหารเทพเจ้าชั้นล่างไปที่ละองค์ แต่ก็มีโอกาสไม่มากนักที่เขาจะแจ็คพอต

ยิ่งไปกว่านั้น ที่ตั้งของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ก็เกือบจะถูกเก็บเป็นความลับหากต้องการติดตามพิกัดของเทพ เจ้าคุณจะต้องติดตามผ่านนักบุญของศาสนจักรหรือผู้ถูกเลือกที่มีความเป็นพระจ้าแฝงอยู่เท่านั้น

และแม้แต่อัสลานเองก็ใช้เวลานานในการเฝ้าสังเกตผู้ศรัทธาของซีเว่ยก่อนที่จะพบอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ของเขาในที่สุด

ยิ่งไปกว่านั้นการเข่นฆ่าเทพเจ้าชั้นล่างอย่างไม่ไยดีเช่นนี้จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อสมดุลในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทพบิดรทั้งเจ็ดไม่ยอมอยู่เฉย ๆ แน่ด้วยเหตุนี้ซีเว่ยจึงไม่มีความจําเป็นเลยที่จะเข้าไปเกี่ยวข้อง

พูดง่าย ๆ ก็คือ แม้ท้องฟ้าจะร่วงลงมาพวกระดับสูงก็จะจัดการจนเรียบร้อยเอง

และถึงแม้ซีเว่ยจะถูกเล็งเป็นรายต่อไปเขาก็ไม่มีทางต่อต้านศัตรูได้สิ่งเดียวที่เขาทําได้ก็คือเสริมความทนทานให้กับอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ของเขาและวางกับดักเอาไว้ เหมือนกับที่เขาทํากับเทพเจ้ากระดูกเน่า

“ช่างเถอะ ข้าแค่มาเตือนให้ระวัง

ความสนใจของสิงโตจางหายไปเมื่อเขาเห็นว่าซีเว่ยไม่สนใจจริง ๆ เขายอมรับว่าซีเว่ยเป็นสมาชิกของวิหารล่องหนอย่างจริงใจหลังจากที่เขาช่วยสังหารดาบปีศาจนั่นเป็นเหตุผลที่เขามาเตือนซีเว่ย

“แต่เจ้าควรเตือนผู้ศรัทธาของเจ้าให้ระวังในช่วงนี้”

“มีอะไรเหรอ?” ซีเว่ยถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น “มันเกี่ยวกับสิ่งที่ท่านเคยพูดถึงก่อนหน้านี้ ว่าเมื่อไม่ นานมานี้มีไข่ปีศาจปรากฏขึ้นเป็นจํานวนมาก”

“ไม่ นั่นก็สําคัญ แต่ข้ากําลังพูดถึงอย่างอื่น” สิงโตส่ายหัวทําให้แผงคอปลิวไสวราวกับใช้ CG มันดูสง่างาม และเรียบรื่นมากจนซีเว่ยอยากจะเข้าไปสัมผัสมันสักที่ “เหยื่อรายสุดท้ายคือมอสแลนด์สปิริต แต่เมื่อเขาถูกโจมดีดูเหมือนเขาจะพยายามลงมาสู่ดินแดนมรรตัยด้วยการทําลายความเป็นพระเจ้าของตัวเอง”

“หนีจากอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ไปยังแดนมรรตัยแทนที่จะขอความช่วยเหลือจากเทพเจ้าองค์อื่นเนี่ยนะ?” ซีเว่ยพบความผิดปกติทันที

“มอสแลนด์สปิริตเป็นส่วนหนึ่งของภราดรภาพเชิงลบที่ก่อตั้งโดยกลุ่มเทพเจ้าชั้นล่าง บางทีเขาอาจจะคิดว่าการตามหาพันธมิตรก็ไม่ได้ช่วยอะไรเพราะพวกเขาไม่สามารถเอาชนะศัตรูได้” สิงโตตอบ

ปรากฏว่าแทนที่จะลากเพื่อนไปตายด้วย มันดีกว่าที่จะหนีไปที่ไหนสักแห่งที่ศัตรูไม่คาดคิดเหมือนว่านี่คือเส้นทางหลบหนีที่แท้จริงของข้าไอ้โง่และมันก็เป็นทางเลือกที่ดีกว่าในแง่ของอัตราความสําเร็จด้วย

“แต่เขาก็ล้มเหลวใช่ไหม” ซีเว่ยพูดอย่างมั่นใจ

เพราะเขาเป็นเทพเจ้าองค์เดียวที่สามารถข้ามบาเรียโลกได้เขารู้ดีกว่าใคร ๆ ว่าผู้มีอํานาจเช่นนั้นเป็นอย่างไรและเขาก็ไม่รู้เลยว่าพลังอันน่ากลัวที่ขัดขวางเทพเจ้าไม่ให้ข้ามผ่านนั้นเป็นอย่างไรที่จริงนอกเหนือจากตัวเขาเองแล้วเทพเจ้าองค์อื่น ๆ ก็แทบไม่เคยได้สัมผัสกับความรู้สึกของการที่ตัวตนที่แท้จริงของพวกเขาได้ข้ามผ่านบาเรียโลกลงไปยังดินแดนอื่นเลย

“ใช่ แต่การกระทําของเขายังคงสร้างความประหลาดใจให้กับศัตรูนั่นเป็นเหตุให้มีบางอย่างที่ทําให้เทพเจ้าองค์อื่น ๆ ตกตะลึงเกิดขึ้น”คําพูดของสิงโตทําให้ซีเว่ยเริ่มสนใจ เขาชงชาให้อัสลานอีกถ้วย

จากนั้นหลังจากจิบชา อัสลานก็กล่าวต่อ “เมื่อมอสแลนด์สปิริตติดอยู่ตรงบาเรียโลก ศัตรูก็ใช้ศาสตร์ศักดิ์สิทธิ์อันทรงพลังโจมตีเขา…แต่แม้ว่าเขาจะตั้งใจฆ่ามอสแลนด์สปิริตโดยตรงแต่ก็มีบางอย่างที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นความเป็นพระเจ้าของมอสแลนด์สปิริตได้แตกออกเป็นเสี่ยง ๆ”

“…หม?” ลูกบอลเรืองแสงขมวดคิ้ว

ความเป็นพระเจ้าไม่ได้แตกสลายหลังจากที่เทพตายงั้นเหรอแล้วความเป็นพระเจ้าของเจ้าแห่งน้ําที่แตกเป็นเสี่ยง ๆ ล่ะ

“ไม่ นั่นไม่ใช่ประเด็น สิ่งที่ทําให้เทพเจ้าทั้งหมดประหลาดใจจริง ๆ ก็คือ ส่วนหนึ่งของความเป็นพระเจ้าที่แตกสลายได้ทะลุผ่านบาเรียโลกลงไปสู่แดนมรรตัย!” สิงโตตอบ “ตอนนี้เทพเจ้าหลายองค์เชื่อว่าหากพวกเขาพบชิ้นส่วนของความเป็นพระเจ้าในดินแดนมรรตัยพวกเขาก็สามารถรู้ตัวตนของศัตรู และรู้วิธีแก้ปัญหาการข้ามผ่านบาเรียโลกได้!”

ลูกบอลเรืองแสงซีเว่ยกระพริบแสงเขาเปิดดวงตาศักดิ์สิทธิ์มองลงไปยังดินแดนมรรตัยแล้วเห็นผู้เล่นกําลังระเบิดเดรคหนองน้ําจนปลิว