บทที่ 207 จะทำใจได้เหรอ

Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่

บทที่ 207 จะทำใจได้เหรอ

ฝั่งเจียงหนิงเอ๋อ ก็ได้ยินข่าวของบริษัทเซียวซื่อแล้ว

อย่างไรก็ตาม เรื่องการเงินของบริษัทเซียวซื่อก็ได้กลายเป็นข่าวหน้าหนึ่งไปแล้ว คนมากมายต่างถอนหายใจ บริษัทเซียวซื่อที่เคยผงาดมาก่อนไม่รู้ว่าไปล่วงเกินคนอะไรเข้า จู่ๆถึงได้กลายเป็นแบบนี้

แต่ว่าเจียงหนิงเอ๋อไม่มีเวลาไปสนใจเรื่องของคนอื่น อย่างไรก็ตามบริษัทของพวกเธอก็มีความเชื่อมโยงกับบริษัทเซียวซื่อ

ดังนั้น เมื่อบริษัทเซียวซื่อตอนนี้กลายเป็นแบบนี้ สำหรับเจียงหนิงเอ๋อแล้วไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย

ก่อนหน้านี้บริษัทของพวกเจียงหนิงเอ๋อได้ลงโฆษณาสินค้าของบริษัทตัวเองไปไม่น้อย และเงินทุนเหล่านั้นส่วนใหญ่เป็นของเซียวอี้เฟิง บริษัทของพวกเธอมีความสัมพันธ์แบบร่วมมือกับบริษัทเซียวซื่อมาโดยตลอด

หากตอนนี้บริษัทเซียวซื่อล่มสลายไปแล้วจริงๆ ฝ่ายเจียงหนิงเอ๋อก็ได้รับผลกระทบไปด้วย

เดิมมีลูกค้ารายใหญ่หลายรายจะร่วมงานกับพวกเธอในระยะยาว แต่เพราะว่าการเงินของบริษัทเซียวซื่อตอนนี้ขาดสภาพคล่องหนักมาก และมีคนไม่น้อยที่กังวลสถานการณ์ของบริษัทของพวกเจียงหนิงเอ๋อ ต่างทยอยการล้มเลิกที่จะร่วมงานด้วย

ในเวลาเดียวกัน เจียงหนิงเอ๋อได้รับเอกสารการของคืนสินค้าตั้งมากมาย เวลานี้ เจียงหนิงเอ๋อก็ได้รู้แล้วว่าตอนที่เจียงหยุนเอ๋อต้องเผชิญกับสภาวะวิกฤตของบริษัทในตอนนั้นมันมีความรู้สึกยังไง

ห้างสรรพสินค้ารายใหญ่หลายลาย เพราะการเล่นงานของบริษัทเซิ่งซื่อ ทำให้สินค้าส่วนใหญ่ของบริษัทเจียงหนิงเอ๋อได้ถูกถอดถอนออกหมด

“อะไรนะ? จะถอดถอนอีกแล้วเหรอ? แล้วชุดผลิตภัณฑ์ตัวล่าสุดของบริษัทละ!” เจียงหนิงเอ๋อกล่าวอย่างโกรธเคืองกับผู้รับผิดชอบห้างสรรพสินค้า

“คุณเจียง ต้องขออภัยจริงๆด้วย……..”

เจียงหนิงเอ๋อยังอยากที่จะพูดต่อ แต่ก็ได้ยินเสียงปลายสายที่ส่งมาคือเสียงว่างเปล่า

ฮาโหล ฮาโหล

เวลานี้ เจียงหนิงเอ๋อแทบไม่ต้องคำนวณ ก็รู้ว่าเงินที่ตัวเองลงทุนไปแล้วนั้นต้องสูญเปล่าแน่ สถานการณ์ในตอนนี้ ขาดทุนอย่างย่อยยับ

เมื่อเกิดเรื่องแบบนี้แล้ว เจียงหนิงเอ๋อก็ต้องไปหาส้งหวั่นหวั่นกับลี่จีถองเพื่อระบายอยู่แล้ว

“หวั่นหวั่น คุณป้า พวกคุณว่า สถานการณ์แบบนี้ ฉันควรจะทำยังไง? ฉันได้ลงทุนไปไม่ใช่น้อยๆเลย ทางเซียวอี้เฟิงก็ลงทุนไปไม่น้อยเหมือนกัน ตอนนี้บริษัทเซียวซื่อก็ไม่ไหวแล้วเหมือนกัน ตอนนี้ฉันไม่มีวิธีที่จะให้เขามาลงทุนต่อได้อีกแล้ว”

เจียงหนิงเอ๋อกล่าวยังเคร่งเครียด

จะให้เธอปล่อยมันไปแบบนี้เหรอ? เธอจะทำใจได้อย่างไร?

ในเรื่องนี้ เธอทุ่มเทแรงกายแรงใจไปไม่น้อย ทั้งแรงทั้งเงิน ถ้าให้ปล่อยไปง่ายๆแบบนี้ มันช่างไม่คุ้มค่าเอาเสียเลย สิ่งที่ทุ่มเทไปก่อนหน้านี้ไม่เท่ากับสูญเปล่าเหรอ?

ส้งหวั่นหวั่นกับลี่จีถองก็คิดไม่ถึงว่าลี่จุนถิงเพื่อเจียงหยุนเอ๋อแล้วสามารถทำถึงขึ้นนี้ได้ ในเวลานี้ก็เริ่มมีความกังวลขึ้นมาบ้างแล้ว ไม่ว่ายังไงบริษัทแห่งนี้ก็เป็นพวกเธอที่ร่วมลงทุนด้วยกัน

ชื่อที่ระบุในเอกสารบริษัทส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่เป็นชื่อของลี่จีถองกับเจียงหนิงเอ๋อ หนึ่งในนั้นยังมีเรื่องที่กู้เงินกับธนาคารหลายก้อน

เผชิญกับสถานการณ์แบบนี้ ลี่จีถองก็เย็นไม่ไหวแล้ว ถามส้งหวั่นหวั่นด้วยความร้อนใจ ราวกับว่าเธอเป็นผู้ที่สามารถจะช่วยชีวิต: “หวั่นหวั่น เธอว่าเรื่องนี้ควรจะทำยังไงดี?”

แม้ว่าบริษัทเครื่องสำอางจะได้รับผลกระทบไปด้วย แต่ส้งหวั่นหวั่นรู้ ลี่จุนถิงไม่มีทางที่จะมาเล่นงานตระกูลส้ง ดังนั้นจึงมีความคิดที่จะเอาตัวรอดคนเดียว

อีกอย่าง เวลากระชั้นชิดแบบนี้เธออะไรไม่ออกจริงๆ จึงได้กล่าวขึ้น: “ไอ้หยา เรื่องนี้…….ตอนนี้ฉันก็คิดอะไรไม่ออกเหมือนกัน เอาอย่างนี้ละกัน ฉันกลับไปแล้วจะไปช่วยพวกคุณดูอีกที ว่ามีคนยังอยากจะร่วมทุนกับเรามั้ย”

ลี่จีถองเป็นคนที่ไม่ได้เรื่องมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ได้ยินส้งหวั่นหวั่นพูดแบบนี้ ก็คิดว่าเธอนั้นอยากที่จะช่วยตัวเองจริงๆ ทันใดนั้นอารมณ์ก็ดีขึ้นมาทันที

แต่เจียงหนิงเอ๋อไม่ได้ไร้เดียงสาขนาดนั้น มองสำรวจส้งหวั่นหวั่นอย่างสงสัย ในใจนั้นไม่ค่อยจะเชื่ออยู่แล้ว

ตอนนี้ สำหรับส้งหวั่นหวั่นแล้ว วิธีที่ดีที่สุดก็คือทำเป็นมองไม่เห็น เขาไม่มีความจำเป็นที่ต้องมายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้

อีกอย่าง เธอรู้สึกได้ว่าส้งหวั่นหวั่นคบตัวเองกับลี่จีถองนั้นไม่ใช่แบบมิตรภาพ เพียงแค่หลอกใช้ซึ่งกันและกันก็เท่านั้น

เวลานี้ จู่ๆโทรศัพท์ของเจียงหนิงเอ๋อก็ดังขึ้น มองเห็นหมายเลขที่ไม่คุ้นเคย เจียงหนิงเอ๋ออดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว แต่ก็รับสายในไม่นาน

“สวัสดีค่ะ ใช่คุณเจียงหนิงเอ๋อหรือเปล่าคะ?”

เสียงปลายสายเป็นเสียงของผู้หญิงคนหนึ่ง

“อืม ฉันเอง” เจียงหนิงเอ๋อกำลังสงสัยว่าคนคนนี้เป็นใคร แต่ก็ได้ตอบกลับอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว

“คืออย่างนี้ค่ะ ก่อนหน้าที่ทางธนาคารได้ปล่อยเงินกู้ให้คุณไปก้อนหนึ่ง ตอนนี้เนื่องด้วยปัญหาหลายอย่าง ต้องการให้คุณใช้หนี้โดยด่วน” เจียงหนิงเอ๋อได้ยินก็อึ้งไปเลย พูดอย่างอึ้งๆ: ทำไมถึงกะทันหันแบบนี้ละ? “ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้…….ช้าวันสองวันก็ไม่มีปัญหานี่นา”

“ต้องขออภัยจริงๆด้วยค่ะ แต่ตอนนี้ต้องชำระหนี้ตามเวลาที่กำหนดไว้แล้วค่ะ”

เจียงหนิงเอ๋อพูดอย่างหงุดหงิด: “โอเค ฉันรู้แล้ว”

พูดจบ เจียงหนิงเอ๋อก็วางสายไปอย่างหงุดหงิดใจ

“หนิงเอ๋อ เป็นอะไรเหรอ?” ลี่จีถองที่อยู่ข้างๆมองดูท่าทางที่แข็งกร้าวของเจียงหนิงเอ๋อ ก็มีความรู้สึกไม่ดีบางอย่าง จึงได้ถามขึ้น

เจียงหนิงเอ๋อขมวดคิ้วแน่นๆ แล้วด่า: “ตอนนี้ทำไมคนพวกนี้เห็นคนอื่นมีปัญหาแล้วไม่เพียงไม่ช่วยยังมาซ้ำเติมกันด้วยนะ? เดิมทีสถานการณ์ก็ไม่ค่อยจะดีอยู่แล้ว จู่ๆทางธนาคารก็มาเร่งรัดหนี้อีก”

“ดูแล้ว…….เรื่องนี้ต้องเป็นฝีมือของลี่จุนถิงอย่างแน่นอน” ลี่จีถองกล่าวอย่างเศร้าใจ สีหน้าก็ดูไม่ค่อยจะดีเลย

ในใจเธอนั้นเข้าใจดีทำไมอยู่ดีๆลี่จุนถิงถึงทำแบบนี้ เดิมทีนึกว่าลี่จุนถิงจะเล่นงานแค่เจียงหนิงเอ๋อ คิดไม่ได้ว่ากลับทำให้ตัวเองเสียผลประโยชน์ไปด้วย

เฮ้ย! หากรู้แต่แรกก็ไม่ร่วมลงทุนกับเจียงหนิงเอ๋อแล้ว!

ลี่จีถองคิดอย่างหงุดหงิดในใจ

“ก่อนหน้านี้ก็ยังดีๆกันอยู่ไม่ใช่เหรอ? ช่วงนี้ฉันก็ไม่ได้ไปล่วงเกินอะไรพวกเขานี่นา!” เจียงหนิงเอ๋อพูดอย่างไม่พอใจ

ได้ยินเจียงหนิงเอ๋อพูดแบบนี้แล้ว ลี่จีถองรู้สึกละอายใจเล็กน้อย หลบสายตาอย่างอึดอัด โดยไม่ได้ตอบ

“คุณส้ง บริษัทของคุณได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้หรือเปล่า คุณช่วยยืมเงินให้ฉันก่อนได้ไหม ให้ฉันใช้หนี้ธนาคารก่อน? หากยืดเยื้อต่อไป ฉันรู้สึกว่ามันต้องยุ่งยากกว่านี้แน่นอน”

เจียงหนิงเอ๋อมองไปที่ส้งหวั่นหวั่น ถามด้วยความคาดหัวง

ส้งหวั่นหวั่นขมวดคิ้วขึ้น ลังเลเล็กน้อย แล้วกล่าว เอ๋อ…….ฉันต้องกลับไปถามคุณพ่อของฉันก่อน ไม่ว่ายังไงบริษัทนี้เซียวอี้เฟิงก็ลงทุนไปไม่น้อย หรือว่าเธอจะลองไปถามเขาดู?

“เอ๋อ………” คิดถึงนิสัยแย่ๆของเซียวอี้เฟิง เจียงหนิงเอ๋อนั้นไม่เต็มใจเป็นอย่างมาก แต่ตอนนี้มีปัญหาที่ยิ่งใหญ่อยู่ตรงหน้า เจียงหนิงเอ๋อรู้ว่าตัวเองจำเป็นต้องไปสักครั้ง

“ก็ได้ ฉันไปที่บริษัทเซียวซื่อก่อน หากมีเรื่องอะไรเราค่อยติดต่อกัน”

มองดู เจียงหนิงเอ๋อที่ไปบริษัทอย่างรีบร้อน